บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 ชีวิตของหวังเสี่ยวอิง

บทที่ 1 ชีวิตของหวังเสี่ยวอิง

สายลมฤดูหนาวเริ่มพัดผ่านร่างบางที่มุ่งมั่นทำงานอย่างไม่ปริปากจะเอ่ยบ่นคำว่าเหน็ดเหนื่อยเลยสักครา แม้ว่ายามนี้ตนเองจะอุ้มท้องย่างเข้าเดือนที่ห้า เพราะคำว่ารักของชายหนุ่มขึ้นชื่อว่าเป็นสามีของเธออีกทั้งแม่สามีที่พูดกรอกหูทุกวัน ที่เขาพาเธอเข้ามาที่ตระกูลเป็นความโชคดีของเธอกับน้อง ๆ ไม่มีใครในมณฑลนี้จะใจดีเหมือนครอบครัวของเธอแล้ว แต่ทว่าเมื่อเข้ามาอยู่ในตระกูลกลับพบว่าความใจดีของแม่สามีที่แสดงตอนที่เธอยังไม่ได้เข้ามาอยู่ที่นี่เป็นเพียงแค่การเสแสร้งแกล้งทำเท่านั้น เพราะครอบครัวตระกูลโจวนั้นมีหนี้สินมากมายที่รับเธอเข้ามาเพราะเห็นว่าเธอเป็นคนขยันทำมาหากิน จึงให้ลูกชายคนโตของตนเองเข้าหาและมอบความรักหลอกล่อให้หวังเสี่ยวอิงตกหลุมรักและแล้วก็เป็นอย่างที่ตระกูลโจวคิดเอาไว้

เมื่อได้เธอเข้ามาอยู่ในบ้านชายหนุ่มที่แสนดีเอาอกเอาใจอย่างโจวหยางเจี้ยนเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือทั้งดุด่าเย็นชามิหนำซ้ำยังทำเหมือนว่าเขาเบื่อหน่ายเธอเต็มทน แต่กระนั้นหวังเสี่ยวอิงก็ไม่อาจจะพูดออกมาได้เพราะเธอตั้งท้องลูกของเขาอยู่ เธอต้องฝืนทนอยู่ในบ้านหลังนี้อย่างกล้ำกลืนฝืนทนแถมยังมีน้องหญิงและชายที่เธอต้องดูแลอีกด้วย ครอบครัวของเธอเป็นชาวนาไม่ได้ร่ำรวยแต่พ่อกับแม่ก็ไม่เคยให้ลำบากแต่แล้วก็เกิดเรื่องร้ายขึ้นกับครอบครัวตระกูลหวังเมื่อพ่อกับแม่ของเธอจู่ ๆ เกิดอุบัติเหตุระหว่างทางกลับจากการขายข้าว พ่อกับแม่ถูกปล้นเอาเงินและฆ่าทิ้งกลางทางตอนนั้นราวกับว่าชีวิตของหวังเสี่ยวอิงหมดสิ้นหนทางมองไปทางใดก็มืดไปหมดแต่เมื่อได้ยินเสียงน้องสาวกับน้องชายเรียกเธอพร้อมสะอึกสะอื้นไห้ พี่สาวคนโตอย่างเธอต้องเข้มแข็งเพื่อน้องทั้งสอง เธอทำงานทุกอย่างเท่าที่จะทำได้พื้นที่ที่อยู่เป็นเพียงชนบทการเรียนของน้อง ๆ ก็คงเข้าไม่ถึงเพียงแค่เลี้ยงปากท้องไปวัน ๆ แค่นี้เธอก็พอใจแล้ว

"พี่เสี่ยวอิงตะวันส่องลงกลางหัวแล้วกินข้าวกลางวันก่อนเถอะค่ะ" เสียงเรียกของน้องสาวที่นั่งอยู่ในร่มกวักมือเรียกพี่สาวที่กำลังใช้เคียวเกี่ยวข้าวตามฤดูกาล เธอเงยหน้าขึ้นมาปาดเหงื่อส่งยิ้มกลับไปยังหวังจิ่งเหยาและเดินมาหาเพื่อกินข้าวกลางวันค่อยกลับมาทำงานต่อ ตอนนี้น้อง ๆ ของเธอมีอายุ 6-7 ขวบกันแล้วโตพอที่จะช่วยเหลือเธอไม่มากก็น้อย

"จิ่งเหยาของพี่ช่างเป็นเด็กดีจริง ๆ แล้วนี่จ้าวเหวินไปอยู่ไหนล่ะ" เธอวางเคียวถอดหมวกออกจากหัวหันซ้ายขวามองหาหวังจ้าวเหวินน้องชายอีกคน

"เห็นว่าจะไปเอาแตงโมที่สวนของป้าเฟยค่ะ เมื่อเช้าตอนออกมาจากบ้านป้าเฟยบอกเอาไว้ให้ไปเอาที่ไร่ได้เลย พี่เสี่ยวอิงทำไมพี่ต้องยอมทำงานทุกอย่างด้วยล่ะ แล้วพี่หยางเจี้ยนไม่เห็นจะมาช่วยพี่ทำงานเลย พี่กำลังอุ้มท้องอยู่ด้วย"

"เป็นเพราะพี่เป็นคนเอ่ยปากเอง จิ่งเหยาอย่าพูดถึงพี่หยางเจี้ยนอีกเลยเขาเองก็มีงานของเขาที่ต้องทำ"

"งานเหรอ ? ฉันไม่เห็นว่าพี่หยางเจี้ยนจะทำงานอะไรเลยวัน ๆ เอาแต่แต่งตัวออกไปข้างนอก ป้าเหม่ยฉีแม่สามีของพี่ก็เอาแต่จิกหัวใช้งานพี่อย่างกับทาส แถมยังให้ซักผ้าให้พี่เซี่ยเหมยหลงอีกด้วย ฉันไม่ชอบใจคนบ้านนี้เลย" เสี่ยวอิงจ้องมองหน้าน้องสาวก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ หากเลือกได้อีกครั้งเธอจะไม่ขอรู้จักและหลวมตัวกับคำพูดหวาน ๆ ของผู้ชายคนนี้แน่นอน

"อดทนเอานะอีกไม่นานทุกอย่างคงดีขึ้นที่ตอนนี้พี่ต้องทำงานเพราะต้องใช้หนี้ เมื่อไหร่ที่หนี้หมดวันนั้นพี่คงจะสบายเอง กินข้าวกันเถอะ" เสี่ยวอิงไม่รู้ด้วยซ้ำว่านั้นจะเป็นคำพูดสุดท้ายของเธอ เพราะหลังจากนี้ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป

หลังจากที่กินข้าวเสร็จไม่นานจ้าวเหวินได้เดินกลับมาพร้อมกับแตงโมลูกโต ๆ ทั้งสามกินกันอย่างเอร็ดอร่อยพอคลายความเหนื่อยลงบ้าง เมื่อมองท้องฟ้าเสี่ยวอิงตัดสินใจที่จะเกี่ยวข้าวอีกสักหน่อยจะได้กลับบ้านไปทำอาหารเย็นให้แก่ทุกคน พอถึงเวลาทั้งสามพี่น้องได้พากันกลับบ้าน แต่ที่น่าแปลกใจคือบ้านเงียบเชียบเสี่ยวอิงคิดว่าเวลานี้แม่สามีกับน้องสาวคงออกไปข้างนอกยังไม่กลับ

“จิ่งเหยา จ้าวเหวินทั้งสองไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ ไปช่วยพี่มาทั้งวันไม่รีบอาบน้ำจะคันคายเอาได้ ”

“ได้ค่ะเดี๋ยวฉันจะรีบมาช่วยพี่เตรียมอาหารเย็นนะคะ ” จิ่งเหยาบอกพี่สาวตัวเองพลางเดินไปอาบน้ำ

“ผมรอจิ่งเหยาอาบน้ำเสร็จก่อนแล้วกันค่อยตามไป พี่เสี่ยวอิงอาบก่อนผมก็ได้นะ เดี๋ยวผมจะไปขอบคุณป้าเฟยก่อน”

“นั่นสิ อย่าลืมขอบคุณป้าเฟยแทนพี่ด้วยนะ”

“ได้ครับ ” เสี่ยวอิงวางของที่ถือกลับมาจากทำงานลงที่โต๊ะก่อนจะเดินเข้าครัวเพื่อมองหาอาหารที่ต้องทำเย็นนี้ แต่ทว่าวันนี้แม้จะมีลมพัดของฤดูหนาวกลางวันยังคงแสงแดดจ้าทำให้ร่างกายของเธอเหนียวเหนอะนะเพราะความร้อน จึงตัดสินใจขึ้นไปที่ห้องเพื่อเอาผ้าอาบน้ำล้างตัวแล้วค่อยกลับมาทำอาหารเย็น

สองเท้าของเธอเดินขึ้นไปอย่างช้า ๆ เพราะต้องระวังเรื่องท้องแต่เมื่อเดินใกล้เข้ามาถึงห้องนอนของเธอกลับเห็นว่าประตูเปิดแง้มอยู่ ภายในห้องมีเสียงพูดคุยหัวเราะคิกคัก หนึ่งเสียงนั้นคือเสียงของสามีเธอแต่ทว่ามีเสียงผู้หญิงอยู่ในนั้นด้วย ใจของเสี่ยวอิงเริ่มสั่นระรัวสองเท้าเริ่มก้าวไม่ออก ไม่อยากจะเดินเข้าไปดูเลยแม้แต่น้อย

“พี่หยางเจี้ยนเบา ๆ สิคะ ฉันระบมไปหมดแล้วน่ะทำเหมือนว่าพี่ไม่ได้นอนกับภรรยาพี่อย่างนั้นแหละ”

“มีมี่เธอก็รู้ว่าพี่ไม่ได้รักเสี่ยวอิงเลยนะ เรื่องที่เสี่ยวอิงมาอยู่ในบ้านหลังนี้เธอเองก็รู้ทุกอย่าง ตอนนี้เราอย่าพูดเรื่องคนอื่นเลย ที่รักของพี่ช่างเย้ายวนจนพี่ทนไม่ไหวแล้ว”

ตึก ตึก ใจของเสี่ยวอิงคล้ายว่ามีระเบิดที่ดังอยู่ด้านใน ร่างกายของเธอสั่นเทาด้วยความเสียใจไม่คิดเลยว่าสามีที่บอกว่ารักเธอนักหนาจะเล่นชู้แถมผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นเพื่อนของเซี่ยเหมยหลงน้องสาวของหยางเจี้ยน เธอเสมือนคนโง่ที่ได้ถูกเขาหลอกด้วยคำว่ารัก ใจของเธอแตกสลายเจ็บช้ำ ดวงตาเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาที่กำลังไหลรินออกมาอย่างช้า ๆ เธอตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปด้านในเพื่อจะได้เห็นเต็มสองตาว่าชายที่เธอรักและยอมเสมอมาหักหลังเธอได้อย่างเจ็บแสบ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel