ทวงรักแฟน(เก่า)คนโปรด

108.0K · จบแล้ว
JAOTUNTEE ( ธัญญ์ธีร์ / ไป๋ลั่วเซียน )
47
บท
3.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

“ทำไมคิดว่าฉันจะหึงหรือโกรธหรอคะ.. เคยเอ-ากันแค่ครั้งสองครั้ง ฉันไม่ถือหรอกนะ” “งั้นเรามาลองเอ-ากันอีกสักครั้งไหม.. เผื่อเธอจะถือ”

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักประธานเลขาดราม่ารักวัยรุ่นโรแมนติกพาลูกกหนี18+มีลูก

ตอนที่ 1 งั้นลองเอากันอีกครั้งไหม.. เผื่อเธอจะถือ (1)

ตอนที่ 1

งั้นลองเอากันอีกครั้งไหม.. เผื่อเธอจะถือ

ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

“เชิญ”

เสียงนุ่มทุ้มน่าเกรงขามของคนด้านในเอ่ยออกมาเรียบนิ่งเป็นการอนุญาตให้กับคนด้านนอก

“สิบโมงมีประชุมกับ บริษัท ABS ค่ะ”

สาวสวยร่างบางส่วนสูงตามฉบับนางแบบ เจ้าของเส้นผมสีคาราเมลยาวสลวยอย่างสุขภาพดีก้าวเท้าเดินเข้าไปด้านในอย่างคล่องแคล่ว พร้อมกับยื่นเอกสารการประชุมให้เขาก่อนจะเอ่ยต่อด้วยเสียงนิ่มเช่นเดิม

“ท่านประธานตรวจสอบเอกสารก่อนนะคะ”

“อืม”

เขาตอบรับก่อนจะปรายตาไปมองใบหน้าของเธอเล็กน้อยแล้วหันจดจ่อกับกองเอกสารตรงหน้าต่อ

“ขอตัวค่ะ”

เธอก้าวเท้าเดินออกจากโต๊ะของเขาด้วยใบหน้าเรียบเฉยอย่างไม่รู้สึกอะไร ก่อนจะเดินไปเปิดประตูออก แต่เมื่อเธอนึกถึงเรื่องที่คุณหญิงอมรสั่งมาทำให้เธอหันหลังและเดินกลับไปยืนข้างโต๊ะทำงานของปิติภัทรอีกครั้ง

“คุณหญิงอมรฝากเตือนคุณปิติภัทรว่าสองทุ่มวันนี้มีนัดทานข้าวกับลูกสาวท่านเจ้าสัวนะคะ”

ปิติภัทรเงยหน้าหล่อ ๆ ของเขาออกมาจากกองเอกสารแทบจะทันที ใช้มือหนาข้างหนึ่งเอื้อมมาคว้าเอวคอดของเธอเอาไว้อย่างรวดเร็ว เพราะความรวดเร็วของเขาทำให้ม่านฟ้าไม่ทันได้ตั้งตัวจนเธอนั้นเสียหลักล้มลงไปนั่งบนตักแกร่งของเขา ที่จงใจหมุนเก้าอี้มารับไว้อย่างช่ำชอง

สองแขนของเขากอดรอบเอวเธอแน่นราวกับมือปลาหมึก ใบหน้าฟ้าประทานของเขาคลอเคลียไปตามซอกคอขาว กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของแชมพู กลิ่นกายหอม ๆ ที่เป็นกลิ่นเฉพาะของเธอทำให้ปิติภัทรแทบจะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่

“เธออยากให้ฉันไปจริงหรอ”

เขาบ่นพึมพำของข้างหูของเธอ จมูกโด่งรั้นเป็นสันไล่คลอเคลียจนเธอรู้สึกขนลุกขนชันเป็นระยะ

“เป็นแขกของคุณหญิง ต้องไปค่ะ”

เธอตอบเขาออกไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ พร้อมทั้งพยายามแกะมือปลาหมึกของเขาเป็นพัลวัน แต่มีหรือที่คนอย่างปิติภัทรนั้นจะยอมปล่อยให้เธอหลุดไปง่าย ๆ

‘ม่านฟ้า’ หญิงสาววัย 28ปี ที่ทำหน้าที่เป็นเลขาให้ประธานบริษัทอสังหาริมทรัพย์อย่างคุณ ‘ปิติภัทร’ มาเกือบ 2ปี เรียกได้ว่ารู้จักเจ้านายแบบเห็นไส้เห็นพุงเลยก็ว่าได้ เธอจัดอยู่ในผู้หญิงที่สวยติด1ใน3ของบริษัท นอกจากความสวยที่สะกดสายตาทุกคนแล้ว ความนิ่ง ความสุขุมเยือกเย็นและความดุราวกับสุนัขแม่ลูกอ่อนของเธอก็เป็นที่กล่าวขานตามกันมาติด ๆ เช่นกัน

นั่นจึงทำให้หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ที่แวะมาขายขนมจีบต่างพากันทยอยออกห่างเธอไปโดยปริยาย เดิมทีเธอเองก็ทำงานเป็นพนักงานทั่วไปในบริษัท แต่เพราะความฉลาดเป็นกรดของเธอที่เข้าตาคุณหญิงอมรหรือก็คือแม่ของปิติภัทรนั้น ทำให้เธอได้มารับหน้าที่เป็นเลขาส่วนตัวในการดูแลเจ้าลูกชายสุดที่รักของคุณหญิง โดยมีข้อตกลงร่วมกันกับคุณหญิงว่าเธอจะต้องช่วยกันท่าผู้หญิงทุกคนที่เข้ามาใกล้ปิติภัทร.. รวมถึงตัวของเธอด้วย

“ปล่อยเถอะค่ะ เดี๋ยวมีใครมาเห็นเข้า”

แต่สิ่งที่ยากกว่าการทำงานของเธอก็คือ การแกะมือของเขาให้ออกจากเอวของเธอนี่แหละซึ่งดูแล้วดูเป็นอะไรที่ยากยิ่งกว่ายาก

“ใครจะกล้าเข้ามา”

แต่ปิติภัทรก็คือปิติภัทร ความตีมึนของเขามีหรือใครจะเทียบเท่า นอกจากที่เขาจะไม่ปล่อยมือออกจากเอวเธอแล้ว ยังรัดให้แน่นกว่าเดิมราวกับว่าจะแกล้งให้เธอหายใจไม่ออกอย่างไรอย่างนั้น

“ฉันมีงานอีกเยอะนะคะ ปล่อยเถอะค่ะ”

เธอลดความแข็งกร้าวของเสียงลงหนึ่งระดับเพื่อให้ผู้ชายด้านหลังปล่อยมือออก ตามนิสัยของเขาแล้วเธอรู้ว่าคนอย่างเขาการใช้ไม้แข็งมากไม่ใช่ว่าจะได้ผล

เขาคลายความแน่นของวงแขนของเขาลงเล็กน้อย ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นยกให้เธอขึ้นไปนั่งประจันหน้ากับเขาบนโต๊ะทำงาน ได้ยินเสียงถอนหายใจเบา ๆ ของเธอราวกับกำลังเอือมระอาการกระทำของเขาเต็มทน

“เติมพลังหน่อย” เขาพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน

“เติมยังไงคะ”

ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้จักปิติภัทรแต่ก็เลือกที่จะลองถามหยั่งเชิงไปก่อนก็ไม่ได้เสียหาย

“หิวนม”

น้ำเสียงทะเล้นของเขาเอ่ยออกมาพร้อมกับรอยยิ้มที่ชอบใจเสียเต็มประดา

นอกจากม่านฟ้าที่ไม่ได้ตกใจกับคำพูดของเขาเลยสักนิดแล้ว เธอกลับโน้มตัวลงไปใช้แขนตวัดรอบคอพร้อมกระซิบที่ข้างหูเขาด้วยน้ำเสียงเย็น ๆ

“นม.. ฉันมีไว้ให้ลูกกินค่ะ”

“งั้นทำลูกกัน!”

ก๊อก! ก๊อก!

เธอสะดุ้งตัวโยนแทบกระโดดลงจากโต๊ะทำงาน ทันทีที่เธอลงมายืนพร้อมดึงเสื้อผ้าให้เรียบร้อยประตูห้องก็ถูกเปิดออก หญิงสาวในชุดเดรสเกาะอกสีแดงสด รองเท้าสูงประมาณห้านิ้วเห็นจะได้ ดูก็รู้ว่าน่าจะเป็นคู่ขาคนใดคนหนึ่งของท่านประธานเป็นแน่

“งานของเธอมาอีกแล้วม่านฟ้า ทำงานให้คุณหญิงอมร..ก็เหนื่อยหน่อยนะ”

ปิติภัทรเอียงคอมาพูดกับเธอเบา ๆ ก่อนจะหันมายิ้มให้จนตาหยี แล้วผละใบหน้าออกไปจดจ่อกับกองเอกสารราวกับว่าไม่ได้สนใจกับการมาของคนตรงหน้า

“นัดไว้หรือยังคะ” ม่านฟ้าหันไปเอ่ยถามผู้ที่มาใหม่ด้วยเสียงเข้ม

“ทำไมฉันต้องนัด” หญิงสาวเบะปากตอบด้วยใบหน้าของคนที่เหนือกว่า

เธอเดินเข้ามาใกล้ยกมือขึ้นกรีดเล็บสีแดงสดไปเชยคางม่านฟ้าเบา ๆ แต่เพราะความคมของเล็บปลอมหรือองศาอะไรไม่แน่ใจ ทันทีที่เล็บของเธอเชยคางม่านฟ้าก็เป็นจังหวะที่ม่านฟ้าเองต้องสะดุ้ง

“ทำอะไร!”

เธอตวาดออกไปด้วยความตกใจ และด้วยความแสบเล็กน้อยทำให้เธอยกหลังมือขึ้นมาเช็ดบริเวณนั้น เลือดสีแดงซึมติดหลังมือของเธอเล็กน้อย สายตาคมเฉี่ยวของม่านฟ้าจ้องมองเขม็งไปที่หญิงชุดแดงอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ แต่เพราะการเป็นเลขาของท่านประธานเธอทำได้แค่ยืนขบฟันอยู่เท่านั้น

“อุ๊บ! ไม่ได้ตั้งใจ ซอรี่น้า”

“ไม่มีธุระ ไม่ได้นัดไว้ เชิญออกไปด้านนอกด้วยค่ะ”

“ฉันมาหาคุณเธียรไม่ได้มาหาเธอ เป็นแค่เลขาก็ทำแค่หน้าที่ตัวเอง”

“กำลังทำหน้าที่ไงคะ”

“หน้าที่อะไร”

“ไล่! หมา! ค่ะ!.. เดี๋ยวหมาจะมากัดคุณปิติภัทร!” เธอตอบไปช้า ๆ พร้อมรอยยิ้มที่แสนหวาน