
ทวงรักแฟน(เก่า)คนโปรด
บทย่อ
“ทำไมคิดว่าฉันจะหึงหรือโกรธหรอคะ.. เคยเอ-ากันแค่ครั้งสองครั้ง ฉันไม่ถือหรอกนะ” “งั้นเรามาลองเอ-ากันอีกสักครั้งไหม.. เผื่อเธอจะถือ”
ตอนที่ 1 งั้นลองเอากันอีกครั้งไหม.. เผื่อเธอจะถือ (1)
ตอนที่ 1
งั้นลองเอากันอีกครั้งไหม.. เผื่อเธอจะถือ
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
“เชิญ”
เสียงนุ่มทุ้มน่าเกรงขามของคนด้านในเอ่ยออกมาเรียบนิ่งเป็นการอนุญาตให้กับคนด้านนอก
“สิบโมงมีประชุมกับ บริษัท ABS ค่ะ”
สาวสวยร่างบางส่วนสูงตามฉบับนางแบบ เจ้าของเส้นผมสีคาราเมลยาวสลวยอย่างสุขภาพดีก้าวเท้าเดินเข้าไปด้านในอย่างคล่องแคล่ว พร้อมกับยื่นเอกสารการประชุมให้เขาก่อนจะเอ่ยต่อด้วยเสียงนิ่มเช่นเดิม
“ท่านประธานตรวจสอบเอกสารก่อนนะคะ”
“อืม”
เขาตอบรับก่อนจะปรายตาไปมองใบหน้าของเธอเล็กน้อยแล้วหันจดจ่อกับกองเอกสารตรงหน้าต่อ
“ขอตัวค่ะ”
เธอก้าวเท้าเดินออกจากโต๊ะของเขาด้วยใบหน้าเรียบเฉยอย่างไม่รู้สึกอะไร ก่อนจะเดินไปเปิดประตูออก แต่เมื่อเธอนึกถึงเรื่องที่คุณหญิงอมรสั่งมาทำให้เธอหันหลังและเดินกลับไปยืนข้างโต๊ะทำงานของปิติภัทรอีกครั้ง
“คุณหญิงอมรฝากเตือนคุณปิติภัทรว่าสองทุ่มวันนี้มีนัดทานข้าวกับลูกสาวท่านเจ้าสัวนะคะ”
ปิติภัทรเงยหน้าหล่อ ๆ ของเขาออกมาจากกองเอกสารแทบจะทันที ใช้มือหนาข้างหนึ่งเอื้อมมาคว้าเอวคอดของเธอเอาไว้อย่างรวดเร็ว เพราะความรวดเร็วของเขาทำให้ม่านฟ้าไม่ทันได้ตั้งตัวจนเธอนั้นเสียหลักล้มลงไปนั่งบนตักแกร่งของเขา ที่จงใจหมุนเก้าอี้มารับไว้อย่างช่ำชอง
สองแขนของเขากอดรอบเอวเธอแน่นราวกับมือปลาหมึก ใบหน้าฟ้าประทานของเขาคลอเคลียไปตามซอกคอขาว กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของแชมพู กลิ่นกายหอม ๆ ที่เป็นกลิ่นเฉพาะของเธอทำให้ปิติภัทรแทบจะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่
“เธออยากให้ฉันไปจริงหรอ”
เขาบ่นพึมพำของข้างหูของเธอ จมูกโด่งรั้นเป็นสันไล่คลอเคลียจนเธอรู้สึกขนลุกขนชันเป็นระยะ
“เป็นแขกของคุณหญิง ต้องไปค่ะ”
เธอตอบเขาออกไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ พร้อมทั้งพยายามแกะมือปลาหมึกของเขาเป็นพัลวัน แต่มีหรือที่คนอย่างปิติภัทรนั้นจะยอมปล่อยให้เธอหลุดไปง่าย ๆ
‘ม่านฟ้า’ หญิงสาววัย 28ปี ที่ทำหน้าที่เป็นเลขาให้ประธานบริษัทอสังหาริมทรัพย์อย่างคุณ ‘ปิติภัทร’ มาเกือบ 2ปี เรียกได้ว่ารู้จักเจ้านายแบบเห็นไส้เห็นพุงเลยก็ว่าได้ เธอจัดอยู่ในผู้หญิงที่สวยติด1ใน3ของบริษัท นอกจากความสวยที่สะกดสายตาทุกคนแล้ว ความนิ่ง ความสุขุมเยือกเย็นและความดุราวกับสุนัขแม่ลูกอ่อนของเธอก็เป็นที่กล่าวขานตามกันมาติด ๆ เช่นกัน
นั่นจึงทำให้หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ที่แวะมาขายขนมจีบต่างพากันทยอยออกห่างเธอไปโดยปริยาย เดิมทีเธอเองก็ทำงานเป็นพนักงานทั่วไปในบริษัท แต่เพราะความฉลาดเป็นกรดของเธอที่เข้าตาคุณหญิงอมรหรือก็คือแม่ของปิติภัทรนั้น ทำให้เธอได้มารับหน้าที่เป็นเลขาส่วนตัวในการดูแลเจ้าลูกชายสุดที่รักของคุณหญิง โดยมีข้อตกลงร่วมกันกับคุณหญิงว่าเธอจะต้องช่วยกันท่าผู้หญิงทุกคนที่เข้ามาใกล้ปิติภัทร.. รวมถึงตัวของเธอด้วย
“ปล่อยเถอะค่ะ เดี๋ยวมีใครมาเห็นเข้า”
แต่สิ่งที่ยากกว่าการทำงานของเธอก็คือ การแกะมือของเขาให้ออกจากเอวของเธอนี่แหละซึ่งดูแล้วดูเป็นอะไรที่ยากยิ่งกว่ายาก
“ใครจะกล้าเข้ามา”
แต่ปิติภัทรก็คือปิติภัทร ความตีมึนของเขามีหรือใครจะเทียบเท่า นอกจากที่เขาจะไม่ปล่อยมือออกจากเอวเธอแล้ว ยังรัดให้แน่นกว่าเดิมราวกับว่าจะแกล้งให้เธอหายใจไม่ออกอย่างไรอย่างนั้น
“ฉันมีงานอีกเยอะนะคะ ปล่อยเถอะค่ะ”
เธอลดความแข็งกร้าวของเสียงลงหนึ่งระดับเพื่อให้ผู้ชายด้านหลังปล่อยมือออก ตามนิสัยของเขาแล้วเธอรู้ว่าคนอย่างเขาการใช้ไม้แข็งมากไม่ใช่ว่าจะได้ผล
เขาคลายความแน่นของวงแขนของเขาลงเล็กน้อย ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นยกให้เธอขึ้นไปนั่งประจันหน้ากับเขาบนโต๊ะทำงาน ได้ยินเสียงถอนหายใจเบา ๆ ของเธอราวกับกำลังเอือมระอาการกระทำของเขาเต็มทน
“เติมพลังหน่อย” เขาพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน
“เติมยังไงคะ”
ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้จักปิติภัทรแต่ก็เลือกที่จะลองถามหยั่งเชิงไปก่อนก็ไม่ได้เสียหาย
“หิวนม”
น้ำเสียงทะเล้นของเขาเอ่ยออกมาพร้อมกับรอยยิ้มที่ชอบใจเสียเต็มประดา
นอกจากม่านฟ้าที่ไม่ได้ตกใจกับคำพูดของเขาเลยสักนิดแล้ว เธอกลับโน้มตัวลงไปใช้แขนตวัดรอบคอพร้อมกระซิบที่ข้างหูเขาด้วยน้ำเสียงเย็น ๆ
“นม.. ฉันมีไว้ให้ลูกกินค่ะ”
“งั้นทำลูกกัน!”
ก๊อก! ก๊อก!
เธอสะดุ้งตัวโยนแทบกระโดดลงจากโต๊ะทำงาน ทันทีที่เธอลงมายืนพร้อมดึงเสื้อผ้าให้เรียบร้อยประตูห้องก็ถูกเปิดออก หญิงสาวในชุดเดรสเกาะอกสีแดงสด รองเท้าสูงประมาณห้านิ้วเห็นจะได้ ดูก็รู้ว่าน่าจะเป็นคู่ขาคนใดคนหนึ่งของท่านประธานเป็นแน่
“งานของเธอมาอีกแล้วม่านฟ้า ทำงานให้คุณหญิงอมร..ก็เหนื่อยหน่อยนะ”
ปิติภัทรเอียงคอมาพูดกับเธอเบา ๆ ก่อนจะหันมายิ้มให้จนตาหยี แล้วผละใบหน้าออกไปจดจ่อกับกองเอกสารราวกับว่าไม่ได้สนใจกับการมาของคนตรงหน้า
“นัดไว้หรือยังคะ” ม่านฟ้าหันไปเอ่ยถามผู้ที่มาใหม่ด้วยเสียงเข้ม
“ทำไมฉันต้องนัด” หญิงสาวเบะปากตอบด้วยใบหน้าของคนที่เหนือกว่า
เธอเดินเข้ามาใกล้ยกมือขึ้นกรีดเล็บสีแดงสดไปเชยคางม่านฟ้าเบา ๆ แต่เพราะความคมของเล็บปลอมหรือองศาอะไรไม่แน่ใจ ทันทีที่เล็บของเธอเชยคางม่านฟ้าก็เป็นจังหวะที่ม่านฟ้าเองต้องสะดุ้ง
“ทำอะไร!”
เธอตวาดออกไปด้วยความตกใจ และด้วยความแสบเล็กน้อยทำให้เธอยกหลังมือขึ้นมาเช็ดบริเวณนั้น เลือดสีแดงซึมติดหลังมือของเธอเล็กน้อย สายตาคมเฉี่ยวของม่านฟ้าจ้องมองเขม็งไปที่หญิงชุดแดงอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ แต่เพราะการเป็นเลขาของท่านประธานเธอทำได้แค่ยืนขบฟันอยู่เท่านั้น
“อุ๊บ! ไม่ได้ตั้งใจ ซอรี่น้า”
“ไม่มีธุระ ไม่ได้นัดไว้ เชิญออกไปด้านนอกด้วยค่ะ”
“ฉันมาหาคุณเธียรไม่ได้มาหาเธอ เป็นแค่เลขาก็ทำแค่หน้าที่ตัวเอง”
“กำลังทำหน้าที่ไงคะ”
“หน้าที่อะไร”
“ไล่! หมา! ค่ะ!.. เดี๋ยวหมาจะมากัดคุณปิติภัทร!” เธอตอบไปช้า ๆ พร้อมรอยยิ้มที่แสนหวาน
