CHAPTER 1 คนที่รักไม่ใช่เธอ
วัตถุสีดำเย็นเฉียบถูกจ่อแนบเข้าที่ขมับของพิมพ์แพรดาว ปลายนิ้วของเขาอยู่บนไกปืนพร้อมจะลั่นได้ทุกเมื่อ สายตาของเขาว่างเปล่ามองหญิงสาวเหมือนไม่ใช่คน
หญิงสาวยืนนิ่งร่างสั่นเทา น้ำตาเอ่อคลอจนไหลพรากไปตามแก้ม เธอหลับตาลงเพราะไม่อาจทนรับแรงกดดันได้อีกต่อไป แต่หัวใจกลับไม่ยอมสั่นคลอน กลัวแต่ไม่ยอมแพ้
“สมใจเธอแล้วใช่ไหมพิมพ์แพรดาว!” เสียงตะโกนของเขาดังก้องสะท้อนในความเงียบงัน ราวกับต้องการฉีกหัวใจของเธอออกเป็นเสี่ยงๆ
“แพรทำอะไรให้พี่ปริ้นท์” เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นน้ำตายังรินไหล แต่แววตานั้นกลับแน่วแน่กว่าเดิม
“ทำอะไร? ไอ้ที่ฉันต้องตกอยู่ในสภาพนี้คืออะไร!”
“แพรไม่ได้ทำอะไรเลยนะ” เธอปากสั่นเทาเพราะกลัวว่าเขาจะลั่นไกจริงๆ
“ฉันเกลียดเธอ!” เสียงตวาดดังลั่น ก่อนที่แหวนหมั้นวงนั้นจะถูกถอดออกจากนิ้วของปรินวัชร์ แล้วปาใส่หน้าเธออย่างแรง
พิมพ์แพรดาวเซไปเล็กน้อย ความเย็นของโลหะกระทบผิวพร้อมกับความปวดร้าวในใจที่ราวจะทะลุอก
“จำไว้นะ คนที่ฉันรักมีแค่ฟ้าวันใหม่คนเดียวเท่านั้น!” น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความชิงชัง จนหญิงสาวแทบลมหายใจติดขัด
เธอก้มตัวลงช้าๆ มองแหวนวงเล็กที่กลิ้งอยู่บนพื้น แหวนที่เคยเป็นสัญลักษณ์ของคำสัญญาและความรักที่เธอเชื่อมั่นสุดหัวใจ
มือบางสั่นเทาเมื่อเอื้อมไปเก็บมันขึ้นมาก่อนจะกำแหวนไว้แน่นในฝ่ามือ ราวกับกลัวว่ามันจะหล่นหายไปอีกเธอไม่พูด ไม่เถียง เพียงมองแหวนที่ถูกปาใส่ด้วยสายตาเศร้าและถนอมมันไว้อย่างดี ความอ่อนโยนของเธอยิ่งทำให้เขาหงุดหงิด
“เธอจำไว้นะว่าเราแค่หมั้นกันเธอไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวฉัน ฉันจะมีใครมันก็เรื่องของฉัน”
เสียงของปรินวัชร์สะท้อนก้องในหัว แต่พิมพ์แพรดาวกลับเงียบงัน ดวงตาเปียกชื้นยังจับจ้องอยู่ที่วงแหวนเล็กในมือสิ่งสุดท้ายที่หลงเหลือ
หลังจากพูดจบปรินวัชร์หมุนตัวเดินออกมาจากห้องทันที เสียงประตูปิดดังตามด้วยความเงียบที่อึดอัดจนแทบหายใจไม่ออก
เขาเดินออกไปทางระเบียง มือสั่นน้อยๆ ขณะจุดไฟแช็ก กลิ่นควันบุหรี่จางๆ ลอยคลุ้งไปทั่วอากาศกลางคืนเปลวไฟสว่างวาบก่อนมอดดับ เหลือเพียงปลายบุหรี่สีส้มแดงที่ส่องแสงอยู่ในเงามืด
เขาสูดควันเข้าปอดลึกๆ พยายามกลืนความโกรธลงไปพร้อมควันนั้น แต่ยิ่งพ่นออกความขมขื่นกลับยิ่งล้นทะลักขึ้นมาในใจ
เขานึกย้อนไปก่อนวันหมั้นเขาไม่น่าเสียรู้ผู้หญิงคนนี้เลย เขาชอบฟ้าวันใหม่ซึ่งเป็นพี่สาวของพิมพ์แพรดาว ตามจีบกันมาหลายเดือน เขาทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้หัวใจของอีกฝ่าย
รับบทเป็นพระเอกแสนดีทั้งๆ ที่จริงตัวตนของเขาไม่ได้เป็นแบบนั้น และสุดท้ายเขาก็แพ้ให้กับผู้ชายที่ไม่มีอะไรเลย ฟ้าวันใหม่เลือกลูกน้องคนสนิทของพ่อ แต่ไม่เลือกเขา
มันทำให้เขาเสียหน้าจากที่สวมบทพระเอกก็สวมบทตัวร้ายที่เขาถนัด โดยการลักพาตัวฟ้าวันใหม่เขาไม่ได้จะทำอะไร แต่แค่อยากถามว่าอีกฝ่ายคิดดีแล้วใช่ไหม แต่พิมพ์แพรดาวตามมาเห็นว่าเขาพยายามจะข่มเหงพี่สาวตัวเอง
เขาเห็นพิมพ์แพรดาวทีไรเขายิ่งเกลียดเธอเข้าไปทุกที จนวันที่เขาเมาหนัก และตื่นขึ้นมาพบว่าข้างกายเขามีหญิงสาวนอนอยู่ข้างกาย และความบรรลัยมาเยือนเมื่อผู้ใหญ่เข้ามาเห็นพอดี
ยิ่งกว่าฉากในละครเสียอีกเขาถูกบังคับให้หมั้นหมาย แม่ของเขาเอ็นดูพิมพ์แพรดาวมาก บอกลูกสะใภ้ต้องคนนี้เท่านั้น ไม่อย่างนั้นจะไม่ให้อะไรเขาเลย
“คุณแพรออกไปผับครับ” เสียงรายงานของชาตรีลูกน้องคนสนิทดังขึ้นเบาๆ
ปรินวัชร์ที่เอนหลังอยู่บนโซฟา เปิดเปลือกตาขึ้นช้าๆ แววตาแดงคล้ำจากทั้งความเหนื่อยและความขุ่นใจ เขาไม่ได้ตอบทันที เพียงพ่นควันบุหรี่ออกมาทีละน้อย ก่อนพูดเสียงต่ำเย็นชา
“จะไปตายที่ไหนก็ไปเถอะวะ...”
คำพูดนั้นเรียบ แต่เฉือนใจยิ่งกว่ามีดชาตรียืนนิ่ง ไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัวหรือเอ่ยถามต่อ เขารู้ดีว่าเจ้านายของตนกำลังเดือดทั้งโกรธ แต่ไม่อาจแสดงออกได้
ปรินวัชร์เอนศีรษะพิงพนักโซฟา สูดควันเข้าปอดอีกครั้งราวจะเผาใจตัวเองให้มอดไปพร้อมปลายบุหรี่
เสียงเพลงในผับดังคลอแผ่วๆ ท่ามกลางแสงไฟสลัวพิมพ์แพรดาวนั่งอยู่มุมหนึ่งของเคาน์เตอร์ มือบางถือแก้วเหล้าแน่น ดวงตาแดงช้ำราวผ่านการร้องไห้มานับครั้งไม่ถ้วน
“แพรรักพี่ปริ้นท์นะ ทำไมพี่ต้องทำแบบนี้กับแพร ฮึก” เสียงเธอสั่นพร่าก่อนจะหัวเราะเบาๆ ทั้งที่น้ำตายังไหลไม่หยุด
เธอยกแก้วขึ้นดื่มรวดเดียวหมด รสขมของแอลกอฮอล์ไม่อาจกลบความเจ็บในอกได้เลย ทุกคำพูดของเขายังวนอยู่ในหัว “ฉันเกลียดเธอคนที่ฉันรักมีแค่ฟ้าวันใหม่”
เธอหลับตาแน่นพยายามกลั้นเสียงสะอื้น ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างขมขื่น
“ถ้าพี่จะรักพี่ฟ้าจริงๆ แพรก็จะไม่ยอมให้เขาได้ไปง่ายๆ หรอก”
เธอก็รักของเธอมาตั้งนานทุกครั้งที่เขามาบ้าน เธอมักจะแอบมองเพราะพ่อสั่งไม่ให้ไปรบกวนแขก แต่ฟ้าวันใหม่กลับได้ไปนั่งอยู่ในนั้น
ตอนที่รู้ว่าเขาตามจีบพี่สาวตัวเอง เธอแทบเป็นบ้าเพราะไม่อยากเห็นเขารักใคร ฟ้าวันใหม่ไปไหนเธอจะไปด้วย และยอมเป็นแม่สื่อให้จิรกานต์เข้ามาจีบฟ้าวันใหม่ หวังจะแยกเขาออกห่าง และเธอก็ทำสำเร็จวันนี้เธอได้ครอบครองเขาแล้ว
ถึงจะเจ็บแค่ไหนแต่เธอไม่ยอมปล่อยเขาไปง่ายๆ ต่อให้ต้องตายด้วยน้ำมือของเขา เธอก็ยินยอมขอแค่ได้อยู่ข้างกายเขาก็พอ
พิมพ์แพรดาวเดินออกมาจากผับ เธอถอดรองเท้าส้นสูงทิ้งไว้ข้างทาง เท้าเปล่าแตะบนพื้นเย็นเหน็บ แสงไฟถนนสะท้อนบนผิวเปียกชื้นจากฝนตกเมื่อคืน เธอก้าวไปอย่างไร้จุดหมาย น้ำตายังคงไหลพรากร้องไห้ราวกับคนบ้า
ลมเย็นพัดมากระทบผิวกายจนเธอสั่นสะท้าน หัวใจเต้นแรงจนแทบจะทะลุอก เธอกำลังจะก้าวข้ามถนนไปอีกฝั่ง ใจเต้นรัวและสติแทบไม่อยู่กับตัว
ในพริบตารถคันหนึ่งวิ่งมาด้วยความเร็วสูง เสียงเครื่องดังสนั่น ไฟหน้าส่องสว่างพร่าไปหมด แผ่นปูนที่เท้าเธอแตะเย็นเฉียบ น้ำตายังไหลหยดลงพื้นขณะที่ร่างกายของเธอยังไม่ทันตั้งตัว
ร่างของพิมพ์แพรดาวทรุดลงข้างทาง ความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่วร่างจนแทบไม่มีแรงจะขยับ เธอพยายามฝืนลืมตามองแสงไฟบนท้องถนนที่เริ่มพร่ามัว ในหัวมีเพียงภาพของเขาคนที่เธอรักหมดหัวใจ
“พี่ปริ้นท์...” เสียงเธอสั่นเบา ริมฝีปากแทบขยับไม่ไหว ความทรงจำมากมายผุดขึ้นมาเธออยากเก็บภาพนั้นไว้ให้ได้นานที่สุด
สายลมเย็นพัดผ่าน กลีบดอกไม้แห้งปลิวลงมาแตะข้างแก้มหญิงสาวค่อยๆ หลับตาลงพร้อมกับรอยยิ้มบางๆ ที่ยังค้างอยู่บนใบหน้า
“ชาตินี้แพรไม่อยู่แล้วดูแลตัวเองด้วยนะคะ”
อีกด้านมิ้นท์นอนอยู่บนเตียงสีหน้าซีดขาว แสงแดดยามบ่ายส่องลอดผ้าม่านเข้ามาอ่อนๆ หยาดน้ำตาไหลรินจากหางตา เธอพยายามฝืนมองใบหน้าของแม่ที่ยืนนิ่งอยู่ข้างเตียง
ความเจ็บปวดจากโรคร้ายกัดกินร่างกายจนแทบไม่เหลือแรง เธอแค่คนธรรมดาที่เคยอยากมีครอบครัวที่อบอุ่น อยากทำงาน อยากใช้ชีวิตเหมือนคนอื่น แต่โชคชะตากลับโหดร้ายเกินไปสำหรับเธอ
“มึงรีบตายๆ ไปเลยตัวภาระ กูหมดเงินรักษามึงไปเยอะแค่ไหนแล้ว”
“แม่หนูรักแม่นะ” เสียงแผ่วเบาแทบไม่พ้นลำคอ
“มึงเกิดมาทำไมก็ไม่รู้”
“ชาติหน้าหนูขอไม่เกิดแล้ว”
หญิงสาวหลับตาลงอย่างช้าๆ ปล่อยให้ความปวดร้าวค่อยๆ จางหาย เหลือเพียงรอยยิ้มบางๆ บนใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงบ
