ต้องมนตร์รัก

83.0K · จบแล้ว
ข้าวสีทอง
32
บท
8.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

พี่สาวฝาแฝดหนีงานแต่ง ทำให้เธอต้องสวมรอยเป็นภรรยาของเขาแทน เรื่องมันยิ่งยุ่งไปกันใหญ่เพราะดันตกหลุมรักพี่เขยตัวเอง

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักดาราอัจฉริยะแต่งงานสายฟ้าแลบนัดบอดแต่งงานก่อนรักเศรษฐีดราม่าโรแมนติก

บทนำ

บทนำ

ร้านอาหารจีนที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัวถูกจองไว้ตั้งแต่เมื่อวาน อาหารทยอยเข้ามาเสิร์ฟโดยมีลูกค้าเพียงแค่สองคนทั้งที่ห้องกว้างและมีเก้าอี้ล้อมโต๊ะกลมเกือบสิบตัว ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเหตุใดจึงจองห้องใหญ่ขนาดนี้

สาวเสิร์ฟร่างน้อยอยู่ในชุดกี่เพ้าสีแดง ผมรวบตึงอย่างเป็นระเบียบ ค้อมศีรษะเมื่อนำอาหารตามรายการมาวางเรียงบนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว

บรรยากาศแสนกดดันทำให้หญิงสาวตรงหน้าไม่กล้าแม้แต่จะเงยขึ้นสบตาคม อึดอัดจนหายใจไม่ออก ถ้าไม่เป็นเพราะพี่สาวไหว้วานแกมบังคับให้มาที่นี่หล่อนคงไม่ต้องนั่งกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแบบนี้หรอก

ความเงียบที่แสนน่ากลัว มันสงัดยิ่งกว่าป่าช้าแถวบ้านซะอีก วังเวงจนนึกว่ากำลังเข้าบ้านผีสิง อาหารตรงหน้าไม่ได้ชวนกินสักนิด

“รีบกินแล้วแยกย้ายดีกว่า” เธอก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน จึงพยักหน้าพลางยัดอาหารเข้าปาก แต่ก็ต้องสำรวมกิริยาเพราะตอนนี้ไม่ได้อยู่ในชื่อชลธร เตชธรรม แต่หล่อนใช้ชื่อพี่สาวฝาแฝดอย่างชลชินี เตชธรรมต่างหาก

การดูตัวเกิดขึ้นหลังจากที่บิดาเห็นว่าพี่สาวฝาแฝดของเธอไม่ยอมเป็นฝั่งเป็นฝาสักที จึงได้จัดการจับคู่ลูกชายเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังให้ เพื่อทำความรู้จักและอาจข้ามขั้นพัฒนาไปสู่สถานะของคนรู้ใจ

ทว่าพี่สาวแสนดีของคุณพ่อนั้นกลับส่งน้องสาวไปแทน ด้วยความที่เป็นฝาแฝดเหมือนกันทุกกระเบียดนิ้วจนแม้แต่บิดายังหาจุดต่างไม่ได้ จึงง่ายต่อการปลอมตัวพอสมควร

หลายครั้งที่ชลชินีมักเอาชื่อของเธอไปอ้างยามสังสรรค์ช่วงค่ำคืน ทุกคนจึงคิดว่าผู้หญิงที่ชื่อชลธรนั้นชอบเที่ยวกลางคืน ต่างจากพี่สาวที่เป็นคุณหมอชื่อดังอยู่โรงพยาบาลใหญ่โต

“ค่ะ” ขนาดจะตอบรับยังเสียงสั่น

คนตรงหน้าคือคุณหมอเตชน์ วาดณรงค์ ชายหนุ่มผู้หล่อเหลาและเก่งกาจในด้านหน้าที่การงาน อายุเพียงแค่ 35 ปีแต่กลับมีชื่อเสียงโด่งดังด้านศัลยกรรม เปลี่ยนใบหน้าผู้หญิงให้สวยราวนางฟ้ามาแล้วหลายคน

เขาดังข้ามประเทศจนมีคนบินลัดฟ้าเพื่อมาหาคุณหมอโดยเฉพาะ ค่าตัวแพงยิ่งกว่าดาราเสียอีก และนอกจากความเก่งยังพ่วงหน้าตาหล่อเหลาปานเทพบุตร ที่สำคัญคือไม่ได้ผ่านมีดหมอเพราะชายหนุ่มหล่อมาตั้งแต่กำเนิด

หล่อนไม่ค่อยรู้เรื่องอีกฝ่ายมาก ส่วนใหญ่ก็อาศัยหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต ใครบ้างจะไม่รู้จักเขา แต่ที่น่าสงสัยทำไมคุณหมอไม่ออกมาเปิดคลินิกเอง กลับทำงานที่โรงพยาบาลซึ่งถึงจะได้เงินมากแต่ก็น้อยกว่าออกมาเปิดคลินิกอยู่ดี

อาหารไม่พร่อง...

ใครจะกินลงเล่า ปกติเธอไม่ใช่คนกินเก่งอยู่แล้วด้วย พอมาเจอสภาวะแบบนี้ไม่อ้วกออกมาก็ดีแค่ไหน

“บอกพ่อกับแม่ว่าเราเข้ากันไม่ได้ เรื่องจะได้จบ” ชายหนุ่มหยิบผ้ามาเช็ดปาก ทุกอากัปกิริยาล้วนบ่งบอกความเป็นผู้ดี

แล้วทำไมถึงเลือกมาดูตัวกับผู้หญิงที่เกิดจากลูกเมียน้อยกันล่ะ...

“คะ เอ่อ ค่ะ” แม้จะตกใจแต่ก็ตอบรับเพราะสายตาคมกริบที่มองมา พนันได้เลยว่าแบบนี้ไม่มีแฟนแน่

แต่หน้าตาชายหนุ่มก็คุ้นเสียเหลือเกิน เหมือนเคยเห็นที่ไหนแต่ก็จำไม่ได้ มันติดอยู่ที่ความทรงจำถึงพยายามเค้นก็ไม่ออกสักที

เจอที่ไหนนะ

“มื้อนี้ฉันจ่ายเอง ขอตัว” พูดจบก็เดินออกไป ปล่อยร่างบางไว้คนเดียว

พอประตูปิดลงหญิงสาวก็ถอนหายใจโล่งออก ไม่เคยรู้สึกหายใจติดขัดขนาดนี้มาก่อนเลย คนอะไรน่ากลัวชะมัด ถ้าได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยต้องอกแตกตายแน่

ส่ายศีรษะสงสารพี่สาวล่วงหน้า ชลชินีช่างน่าสงสารเสียจริง คนติดเที่ยวถ้าได้มาคบกับชายเคร่งขรึมคงหมดอิสรภาพในชีวิต

ดีแล้วที่ไม่ใช่เธอ ขอบคุณที่บิดาไม่ได้รักหล่อนเท่ากับพี่สาว ไม่อย่างนั้นซวยแน่

“คิดออกแล้ว!” เสียงตะโกนลั่นรถยนต์ที่กำลังเคลื่อนตัวออกจากร้านอาหาร คนขับตกใจจนสะดุ้งค่อยหันมามองใบหน้าหวานที่ฉีกยิ้มกว้าง นั่งนึกตั้งนานว่าเคยเจอเขาที่ไหน แท้จริงก็บังเอิญพบตอนที่ชายหนุ่มกำลังง้องอนกับแฟนนี่เอง

เรื่องน่าจะผ่านมานานจนเธอลืมเลือนไปแล้ว แต่พอดีตอนนั้นอยู่กับเพื่อนที่รู้จักหมอเตชน์เลยเล่าเรื่องของเขาให้เธอฟัง รู้หมดขนาดที่อีกฝ่ายคบกับใครบ้าง เลิกเมื่อไหร่ตอนไหน เรื่องราวของศัลยแพทย์ถูกขุดคุ้ยราวกับเขาอยู่ในวงการ

ไม่แปลกหรอก หน้าตาหล่อเหลาพร้อมความสามารถที่เก่งกาจ ใครบ้างจะไม่อยากรู้เรื่องราว แม้กระทั่งเธอเองยังอยากรู้เลย

“คิดอะไรออก”

“ก็คนที่คุณพ่อนัดให้มาดูตัวกับฉัน เอ่อ พี่หวานไง ที่แท้ก็เคยเจอตอนเขาทะเลาะกับแฟนนี่เอง” กอดอกพลางยกยิ้มอย่างภาคภูมิใจที่คิดออกสักที ชายหนุ่มข้างกายเห็นก็แอบอมยิ้ม อยากเลื่อนมือขึ้นบีบแก้มนุ่มแต่ก็ต้องกำพวงมาลัยแน่น

สถานะเพื่อนมันยากจริงๆ ที่จะข้ามผ่านได้ รู้จักกันมานานจนหัวใจของเขาเผลอไผล มอบให้หล่อนโดยที่อีกฝ่ายไม่รู้ตัวสักนิดเดียว แสดงออกอย่างไรก็เป็นได้เพียงแค่เพื่อนสนิทเท่านั้น

“แล้วเขาเป็นไงบ้าง” ระหว่างทางก็ชวนคุยไปเรื่อย

วสันต์ นิติวงศ์ เพื่อนชายเพียงคนเดียวที่ชลธรสนิทด้วย รู้จักกันตั้งแต่เรียนมัธยมต้นจนจบมหาวิทยาลัยและทำงานก็ติดต่อเรื่อยมา แถมเข้าวงการบันเทิงเหมือนกันอีก ต่างก็แค่เธอไม่ค่อยดัง ขณะที่เขาเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น

อย่างละครเรื่องล่าสุดที่เล่นกวาดรางวัลมากมาย ทำให้หนุ่มพระรองขึ้นแท่นพระเอกของละครฟอร์มยักษ์เรื่องต่อไป

“น่ากลัว สายตา ท่าทาง ทุกอย่างดูเย็นยะเยือกไปหมด อยู่ด้วยแล้วอึดอัด เฮ้อ สงสารพี่หวานจริงๆ ที่ต้องอยู่กับคนแบบนั้น” เผลอคิดไปแล้วว่าทั้งสองอาจได้แต่งงานกัน ก่อนจะรีบส่ายหน้า

“ไม่ๆ พี่หวานคงไม่แต่งงานกับเขาหรอก ฉันไม่อยากได้เขาเป็นพี่เขย สงสารตัวเอง” เห็นท่าทางถอนหายใจแล้วก็อดยิ้มอย่างเอ็นดูไม่ได้ นับวันเธอยิ่งน่ารักมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วแบบนี้เขาจะอดใจไหวได้อย่างไร

“จริงสิ นายจะไปถ่ายละครที่แคนาดาเมื่อไหร่นะ” คุยจ้ออยู่คนเดียวโดยวสันต์มีหน้าที่รับฟัง

“อีกสองเดือน” แค่คิดก็ไม่อยากไปแล้ว

“อยู่นานไหม” ชลธรหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาตอบข้อความระหว่างเดินทางกลับบ้าน

“สองเดือน” หันขวับไปมองอย่างรวดเร็ว ถือว่าถ่ายละครนานพอสมควร คงได้งบจากทางช่องเยอะแน่ ละครฟอร์มยักษ์หวังเป็นหน้าตาและขายต่างประเทศขนาดนี้

แอบอิจฉาเพื่อนแต่ก็ยินดีกับความสำเร็จของวสันต์ ส่วนเธอก็เล่นเป็นนางรองหรือเพื่อนนางเอก ไม่ค่อยดังหรือเป็นที่รู้จักเท่าไหร่ ทว่าชลธรก็มีความสุขดีเพราะไม่มีเรื่องปวดหัวให้กังวล แฟนคลับที่มีก็รักและสนับสนุนในทุกเรื่อง

อีกอย่างเธอก็มีกิจการร้านขนมเป็นของตัวเอง ถ้าไม่ใช่เพราะพี่สะใภ้ทาบทามให้เล่นละครคงไม่มาสายนี้ และทำให้บิดาไม่ชอบใจเป็นอย่างยิ่ง

แต่เธอชินแล้วล่ะ ตั้งแต่เล็กจนโตคนที่เป็นจุดศูนย์กลางของความรักทั้งพ่อและแม่คือพี่สาวอย่างชลชินี ไม่ใช่คนไม่เอาอ่าวอย่างชลธร