บท
ตั้งค่า

บทนำ

บทนำ

มีใครเคยคิดไหมว่า เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เราทุกคนอาจทำอยู่บ่อยๆ จนเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำ อาจนำมาซึ่งเรื่องราวใหญ่โตถึงกับชีวิต กะอีแค่การ ‘ผายลม’ เท่านั้น ใครย่อมผายได้ ใช่เรื่องผิดกฎหมายใดๆ การผายลมเพียงแค่แป๊ด สองแป๊ด กลับนำมาซึ่งความตายแก่บอดี้การ์ดสาว ผู้ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นมือวางอันดับหนึ่งของทีม “Nine Lady”

วันหนึ่งกมลฉัตร ปิยะฉาย ถูกเรียกตัวเข้าพบเพื่อรับหน้าที่อารักษ์ขาบุตรีท่านประธานาธิบดี ในระหว่างเดินทางมาประชุมในประเทศไทย พร้อมกับภารกิจส่งถึงประเทศอย่างปลอดภัย ในระหว่างท่านประธานาธิบดีอยู่ในวาระการประชุมภาคี ไม่ว่าคุณหนูสี เจียลี่ ต้องการเดินทางไปที่ไหน ไม่ว่าทำกิจกรรมอะไร สองบอดี้การ์ด อย่างกมลฉัตรกับคู่หูอีกคนอัญ วีณา ต้องทำหน้าที่ดูแลอารักษ์ขาความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด ห้ามมิให้คุณหนูคลาดสายตา หรือแม้แต่ได้รับอันตรายใดๆ ท่านประธานาธิบดีถูกหมายหัวจากชนกลุ่มไม่ทราบฝ่ายจ้องเอาชีวิต การสังหารประธานาธิบดีไม่สำเร็จในคราวก่อน ชนกลุ่มไม่ทราบฝ่ายเหล่านั้น จึงหันมาเล่นงานคนใกล้ชิดประธานาธิบดีแทน

คุณหนูเจียลี่หาใช่สตรีอยู่เรียบร้อยไม่ พอมีโอกาสเป็นอิสระจากสายตาบิดา หล่อนจึงฉวยโอกาสโบกโบยบินไม่ต่างจากนก อยากไปเที่ยวที่นั่นที่นี่ ยิ่งมีบอดี้การ์ดคนไทยด้วยแล้ว ย่อมรู้จักสถานที่เที่ยวมาก ไม่ต้องจ้างไกด์ให้เสียเวลา หล่อนดื้อดึงไปฟิตเนสไม่ฟังเหตุผล สองบอดี้การ์ดสาว จำต้องตามใจ คอยเฝ้าตามหล่อนออกกำลังกาย โดนคุณหนูห้ามตาม ห้ามเข้า ขอเป็นช่วงเวลาสุขสันต์ เชื่อสถานที่หรูเลิศในโรงแรมชื่อดังแบบนี้ ไม่มีใครปองร้ายใครหรอก

ไม่ว่ากมลฉัตรออกปากห้ามปรามแค่ไหน แม่คุณหนูเอาแต่ใจหาเชื่อฟังไม่ เอาแต่สั่งๆสองสาวการ์ดดูแลความอยู่ห่างๆ ห้ามเข้าไปจุ้นจ้าน ไม่อย่างนั้นเจ้าหล่อนฟ้องพ่อ สร้างข่าวสร้างเรื่องเท็จ หาว่าพวกเธอไม่ดูแล สั่งห้ามเสนอหน้ารบกวนการแอ๊วผู้ชายกล้ามล่ำๆ เหงื่อโซกๆ สองสาวเลยเซ็งต้องหาอะไรทำ คนชอบกินอย่างอัญต้องหาของกินกระแทกปาก กลัวปากอยู่นิ่ง ถ้าไม่กินมีหวังเซ็งตาย ของโปรดอัญถั่วต้มแทะเพลินๆ

สองสาวจกถั่วด้วยความเมามัน กินเสร็จดื่มน้ำ ความมันไม่เคยปรานีใคร ถั่วเม็ดเต่งตึงกวักมือเรียกร้อง เคี้ยวดีมันเพลิน เผลอแป็บเดียวถั่วต้มหมดถุง กรอกน้ำลงคออึกๆ คราวนี้ของกินหมด น้ำหมด ยายคุณหนูเอาแต่ใจก็ยังแอ๊วผู้ชายไม่เลิก ออกกำลังใจคือเรื่องรอง แอ๊วผู้ชายเรื่องหลัก คนทยอยเข้ามาใช้บริการเรื่อยๆ

เดี๋ยวนะ...ผู้ชายสองคนเดินเข้ามาในชุดออกกำลังกาย แต่ไหง...สวมรองเท้าผ้าใบสีขาวเบรกเกอร์เก่าๆ รองเท้าโสโครกแบบนี้ทางฟิตเนส ปล่อยผ่านได้อย่างไร

“อัญๆ แกว่าผู้ชายสองคนนั้นแปลกๆ มั้ยวะ” กมลฉัตรสะกิดให้เพื่อนดูชายสองคนที่เพิ่งเดินผ่านไป ในชุดกีฬาอดิดาสสีกรมรูปสูงใหญ่ บนศีรษะสวมหมวกยี่ห้อเดียวกับชุด กดลงมาปิดหน้า มาฟิตเนสทำไมสวมหมวก ไม่เห็นร้อนซักหน่อย

“แปลกยังไง เขาก็ใส่เสื้อผ้าชุดกีฬาถูกต้องแล้วนี่” อัญไม่ทันได้สังเกตตามจุดที่ทำให้กมลฉัตรสงสัย

“เอ๊ะ...หรือว่า” หญิงสาวฉุกคิด พุ่งไปทางปากประตูทางเข้าห้องออกกำลังกายเร็วอย่างกับลูกปืนยิงออกจากรังเพลิง เหมาะเจาะจังหวะสองคนนั้นดึงวัตถุสีดำออกมาพอดี

กมลฉัตรตวัดตัวคุณหนูเจียลี่หนีจากวิถีกระสุนฉิวเฉียด พอมือปืนพลาดการไล่ล่าเริ่มต้น สองบอดี้การ์ดสาวไม่รอช้าฉุดคุณหนูเจียลี่หนีทันใด หลบเลี่ยงระแวดระวังกระทั่งมาถึงตึกร้าง ไม่รู้พากันหลบมาถึงตรงไหน ไม่ทันสังเกต รู้แต่ว่าขอให้รอดเป็นพอ

หากแต่สิ่งที่กมลฉัตรคิดสวนทาง พวกมันจมูกดีไล่ตามมาถูกทาง บอดี้การ์ดสาวพาคุณหนูเจียลี่หลบอยู่หลังกำแพง บรรยากาศเต็มไปด้วยความเงียบงัน สองบอดี้การ์ดมองหน้ากันหายใจกันระรวย เสียงฝีเท้ากระทบพื้นเดินย่ำน้ำเจิ่งขังพื้นซีเมนต์ ทำให้ทั้งสองไม่อาจวางใจอะไรได้ทั้งสิ้น

บรรยากาศเงียบซะจนได้ยินเสียงหายใจ พวกมันใกล้เข้ามาทุกทีและทุกที ตอนนี้แม้แต่ลมหายใจยังต้องถนอม ฉับพลันนั่นเอง !!!

ปู๊ด แป๊ด เสียงหนึ่งสะท้านความเงียบต่อเนื่องกันแค่สองที มือปืนหน้าเหี้ยมหันขวับ ไหวตัวยิ้มกระหยิ่มเล็งปลายกระบอกปืนดำเมื่อม ราวกับยมทูตกวักมือเรียกวิญญาณ

อ่า...ฉิบหาย ใครตด สามสาวมองหน้ากัน อยากปฏิเสธ แต่ไม่อาจปฏิเสธ คุณหนูลี่อยู่ในสภาพหวาดกลัว ยังสละสายตามองมายังกมลฉัตร พร้อมกับอัญ วีณา ก็ยังมองเพื่อนคู่หูของหล่อนอย่างคาดโทษว่า “ฉัตรจำเป็นต้องตดตอนนี้ไหม” เวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน อีกนิดเดียวก็รอดแล้วเนี่ย

มือสังหารหน้าเหี้ยมในชุดออกกำลังกายอดิดาส สีกรมกับสีแดงเลือดหมู ยิ้มเหี้ยมเล็งปลายกระบอกปืน อยู่เหนือศีรษะคนทั้งสาม หมายมุ่งอยู่ที่คุณหนูเจียลี่ เสี้ยววินาทีเท่านั้น กมลฉัตรตะโกนสั่งเสียงเด็ดขาด ให้อัญพาคุณหนูไปจากที่นี้ แม้อัญรู้สึกห่วงใยในตัวคู่หู แต่เชื่อว่าคนเก่งอย่างกมลฉัตรเอาอยู่ อมลฉัตรคือมือดีที่สุดในทีม “nine lady” เธอจะต้องพาตัวเองออกมาจากสถานการเลวร้ายนั้นได้ด้วยฝีมือยอดเยี่ยม

ใครเลยจะรู้ว่านั่นคือวินาทีสุดท้ายที่ อัญ วีณา ได้สัมผัสแววตาเอาจริงเอาของกมลฉัตร หล่อนไม่เคยอยากทิ้งเพื่อน ถ้าไม่คำนึงถึงความปลอดภัยลูกค้า ถ้าหล่อนเป็นคนต้องอยู่ที่นั่น เชื่อว่าต้องสั่งให้กมลฉัตรพาคุณหนูหนีไปไม่ต่างกัน หลังจากวินาทีนั้นอัญ ไม่อาจรับรู้ชะตากรรมของเพื่อน จนกระทั่ง...

ฟากหนึ่งของห้วงเวลาทับซ้อน

เขากำลังก้าวเข้ามาใกล้นาง ใกล้จนลมหายใจอุ่นเป่ารดใบหน้าเรียวเล็กของนาง ผิวขาวดั่งหิมะได้รับอิทธิพลความร้อนผะผ่าว

“เจ้า...จะตามข้าไปถึงไหนเยี่ยไฉ่เฟิ่ง” บุรุษผู้สง่างาม ในอาภรณ์สีคราม พร้อมอาวุธคู่กายพัดจีบถือไว้ในมือจนเป็นภาพชินตา สตรีผู้นี้ตอแยเขาไม่คิดเลิกรา นางหน้าชาต่อว่าเท่าไรกลับไม่ยอมไป

“ท่าน” เยี่ยไฉ่เฟิ่งผิวขึ้นสีชาด แววตาไม่อาจไหวสะท้านต่อคำพูดไล่ทอ “ท่านไล่ข้าทุกคราที่เห็นหน้าข้า ท่านไม่เบื่อหน่ายบ้างหรือไร รู้อยู่ไล่เท่าไรข้าไม่ยอมไป” ไม่เมื่อยปากก็ไล่ไป นางไม่ยอมไปมีใครกล้าทำอะไรนาง “ท่านรับข้าเป็นภรรยาเรื่องก็จบ” นางยังหน้าตายไม่แยแสสายตาเกลียดชัง ถ้าเขาด่าว่านางเป็นนางมาร ก็ได้นางจะเป็นนางมารให้สมที่เขาตราหน้า

“ข้าไม่คิดรับภรรยา” ยามนี้เท่านี้เมื่อพร้อมเขาจะรับเอง ไม่จำเป็นต้องให้สตรีผู้นี้ เที่ยวมาเสนอหน้าเป็นภรรยา

“หรือว่าท่านไม่ชอบสตรี” เห็นกุนซือครองโสดเที่ยวโปรยเสน่ห์ต่อสตรีมากหน้าหลายตา สตรีพวกนั้นล้วนปรารถนาในตัวบุรุษผู้โฉมงามผู้นี้ไม่ต่างกับนาง “หรือว่าแม่นางเฉาดัดจริต ไม่ก็แม่นางหลิงผู้อ่อนแอ”

“บังอาจ เรื่องของข้า หาใช่กงการอะไรของเจ้า ไปซะก่อนที่ข้าต้องเรียกคนของข้ามาจับเจ้าโอยออกไป” นางพูดจาไร้สาระ ตนเป็นชายเช่นไรจักชอบชายด้วยกัน เหลวไหลสิ้นดี มีปากย่อมพูดไปไม่ให้เกียรติคน

“รีบรับข้าเป็นภรรยาเสีย ข้าสัญญาจะทำหน้าที่ภรรยาที่ดี เป็นฮูหยินทีท่านภูมิใจ” นางไม่เคยสำนึก อาศัยหน้ามึนไม่ใส่ใจเสียงไล่จากคนโฉมงาม

“ข้าไม่เคยปรารถนานางมารเช่นเจ้าเป็นภรรยา ถ้ารับเจ้าเป็นภรรยาข้ารับแม่นางเฉากับแม่นางหลิงดีกว่าเจ้าเป็นร้อยเท่า”

“ท่าน” กล้าหลู่เกียรติคนเช่นนาง ย่อมได้เห็นดีกัน ชายผู้นี้กล้าดีเกินไป ทั้งที่ตัวไร้อาวุธ ไม่เป็นวรยุทธ์ยังกล้าอ้าปากไล่ยาง เปรียบเทียบสติด้อยค่ากว่านาง ฐานะนางเป็นถึงพระขนิษฐาชินอ่อง จะคิดลองดีหรืออย่างไร ได้...นางไม่มีวันถอดใจหากนางต้องการสิ่งใด ตำแหน่งฮูหยินลั่วปิงฉู่ต้องเป็นนางผู้เดียว

ลั่วปิงฉู่สะบัดชายเสื้อหมุนตัวก้าวออกจากจวน ตรงไปยังหอสุราใบหน้าฉาบทาด้วยความสบายใจ สามารถไล่นางมารเยี่ยไฉ่เฟิ่งสำเร็จ สตรีเช่นนี้ไร้ความอ่อนหวาน ขาดความอ่อนโยน สตรีเช่นนี้ไม่มีวันที่เขาจะรับเป็นภรรยา บุรุษผู้มีสติปัญญาหน้าไหนย่อมไม่รับสตรีเช่นนี้

กุนซือลั่วคือบุรุษมากปัญญาผู้มีใบหน้างดงาม ดุจสตรีโฉมสะคราญ รอยยิ้มเจ้าเสน่ห์ ระบายบนดวงหน้า ยามใดท่องบทกวีน้ำเสียงไพเราะเสนาะหู ไม่ว่าว่าผู้ใดได้รับฟัง ทำให้วิญญาณล่องลอยดั่งขึ้นสวรรค์ ไม่ว่าในมือเขาถือจอกสุรา หรือแม้ตำราความมีเสน่ห์ล้ำเลิศอยู่กับตัวเสมอ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel