ตัณหาราคะ

83.0K · จบแล้ว
หยกขาว ปิ่นหยก
39
บท
23.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

นิยายเรื่องนี้อาจ มี เนื้อหาความรุนแรง เพศภาษา นิยายจีนอิโรติด รวมเล่ม คุณหนูสี่สกุลโม่ คุณชายใหญ่ ข้าหาใช่สตรีนำโชค คืนเหมันต์ที่ไร้เเสงดาว ความรักของคณิกา

นิยายจีนโบราณฮ่องเต้องค์หญิงฮองเฮาดราม่านางกำนัลข้ามมิติครอบครัวใช้ความรุนแรงจีนโบราณ

บทที่ 1 สกุลเกาถูกจับ คุณหนูสี่สกุลโม่

“คุณหนูลอดออกมาเร็วเจ้าค่ะ” อีกกำแพงด้านหนึ่งพลันเอ่ยขึ้น ในตอนนี้จวนสกุลเกาโกลาหลยิ่งนัก ผู้คนในจวนต่างถูกจับ โม่ซินมองซ้ายขวาแล้วลอดช่องหมาลอด โชคดีที่ตัวนางเล็กจึงลอดออกมาได้ สองนายบ่าวมองหน้ากัน

“ข้าออกมาได้แล้ว” โม่ซินเอ่ยกับอาจู สาวใช้ของนาง สี่ปีแล้วที่นางมาเป็นสะใภ้สกุลเกา ตอนนั้นบิดามารดาเห็นดีเห็นงามด้วยที่ให้นางออกเรือนไปกับบุตรชายสกุลเกา เพราะนายท่านเกาเป็นสหายกับนายท่านโม่ ทั้งสองจึงให้บุตรชายบุตรสาวแต่งงานกัน แต่ทว่าพอโม่ซินแต่งเข้าสกุลเกาชีวิตกับไม่เรียบง่ายอย่างที่คิด ถึงนางจะเป็นฮูหยินน้อยของจวนเกา แต่ทว่า สามีอย่างเกาหยางนั้นมิเคยรักนาง เพราะเขารักอนุในเรือนมากกว่าเมียหลวงด้วยซ้ำ จากนั้นนางก็เขียนจดหมายเล่าความให้บิดามารดาฟัง ในตอนนั้นบิดามารดาเดินทางมาส่งข้าวที่เมืองเหนือหมายจะมาเยี่ยมนาง ทำให้บิดามารดาโดนโจรภูเขาสังหารจนตาย

กระนั้นจึงทำให้นางหมดที่พึ่งพิง สี่ปีที่ผ่านมานางต้องอดทนมาตลอดเวลา ให้คนสกุลเกาก่นด่า ฐานะฮูหยินแล้วอย่างไร แม้แต่อนุยังก่นด่านางอย่างไม่ไว้หน้า กระนั้นทำให้โม่ซินเกลียดสกุลเกายิ่งนัก วันนี้นางจึงเลือกที่จะหนีเอาตัวรอดคนเดียว

“เกาหยาง ข้ากับเจ้าหมดเวร หมดกรรมกันเสียที” โม่ซินยิ้มทั้งน้ำตา สี่ปีที่ผ่านมามันไม่มีค่าสำหรับนางเลยแม้แต่น้อย

“คุณหนูรีบไปเถอะเจ้าค่ะ” อาจูเรียกเจ้านาย ขืนยืนอยู่นานมีหวังถูกจับได้ขึ้นมาเป็นแน่แท้ เมื่อหนีแล้วต้องให้อยู่รอดปลอดภัย

ยามเช้าที่หน้าประตูเมืองเหนือ แสงแดดส่องอย่างเจิดจรัส ฝูงชนเดินควักไขว่ราวกับมดปลวก อีกทั้งสองข้างทางยังมีคนลือหนาหูเกี่ยวกับสกุลเกาโดนจับ ข้อหาค้าเกลือเถื่อน ชาวบ้านยังเอ่ยอีกว่า ฮูหยินน้อยในจวนสามารถหนีรอดไปได้ ทำให้เหล่าทหารจึงต้องตรวจตราที่หน้าประตูเมืองอย่างเข้มงวด สองนายบ่าวผู้ถูกกล่าวขาน ต่างยืนตัวสั่นกลัวทหารจับได้

“พวกเจ้าสองคนรีบเดินไปสิ ข้ายิ่งรีบอยู่ด้วย” ยายแก่ที่ยืนข้างหลังพวกนางทั้งสองคนต่อแถวจะออกนอกเมือง ทำให้สองนายบ่าวค่อยๆ ก้าวเดินต่อไปอย่างหวาดเสียวกลัวจะถูกจับได้ โม่ซินสาวเท้ามาที่หน้าประตู

นายทหารทอดสายตามองสตรีตรงหน้าดวงหน้าอัปลักษณ์ยิ่งนัก “เจ้าไปได้” คำพูดนี้ทำให้โม่ซินถึงกับดีใจอย่างบอกไม่ถูก

“เจ้าไปได้”

อาจูรีบสาวเท้าเดินตามหลังเจ้านายทันที ทั้งสองคนหันไปมองหน้าประตูเมืองฝูงชนต่างเดินพุพล่าน

“เรารอดแล้วอาจู ถ้ามิใช้เพราะผงหน้าดำของเจ้า ข้าก็คงมิรอด” โม่ซินเอ่ยขึ้น ในที่สุดนางก็รอดแล้ว นางจะต้องมุ่งหน้าไปที่เมืองหลวงขอความช่วยเหลือจากพี่ใหญ่โม่หวัง

“เจ้าค่ะ บ่าวดีใจยิ่งนัก”

“เร่งหารถม้าหรือรถเกวียนที่จะมุ่งหน้าไปเมืองหลวงดีกว่า” โม่ซินมองเห็นรถม้าผ่านมาทางพวกนางยืนพอดี หญิงสาวจึงถามสารถีว่ามุ่งหน้าไปเมืองหลวงหรือไม่ สารถีบอกว่ากำลังจะไปเมืองหลวง กระนั้นสองนายบ่าวตกขึ้นรถม้าพร้อมให้เบี้ยหวัดในการเดินทาง

ภายในรถม้า สองนายบ่าวต่างอย่างเหนื่อย นางคิดว่าใช้เวลาเดินทางไปเมืองหลวงคงไม่เกินวันเดียวถึงเป็นแน่แท้

“ข้าจะได้กลับไปที่จวนโม่แล้ว ข้าคิดถึงพี่ใหญ่เหลือเกิน” โม่ซินเคารพโม่หวังมาก อีกทั้งโม่หวังรักโม่ซินไม่ต่างจากโม่หวายเลยแม้แต่น้อย ต่อไปนี้นางก็ต้องกลับไปพึ่งสกุลเก่า

จู่ๆ รถม้าก็หยุดกะทันหันอย่างแรง

“เกิดอันใดขึ้น” โม่ซินศีรษะโขกที่ผนังรถม้าอย่างแรง นางร้องออกมาอย่างเจ็บปวด

“หรือว่าจะมีโจรปล้นเจ้าคะ” อาจูเอ่ยขึ้น ยิ่งเดินทางผ่านภูเขาป่าดงย่อมมีโจร

ผ้าม่านถูกเปิดออกพบบุรุษผู้นี้ดวงหน้าที่เต็มไปด้วยหนวดเครา อย่างน่ากลัว สายตามองโม่ซินกับอาจูอย่างรังเกียจ

“หัวหน้า ในรถม้ามีหญิงอัปลักษณ์สองคนขอรับ” ลูกน้องโจรเอ่ยขึ้น ในใจโม่ซินไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่เลวร้ายถึงเพียงนี้ขึ้น

“นำตัวพวกนางออกมา”

สองนายบ่าวเกิดอาการขัดขืนขึ้นมา แต่ทว่าควันสีขาวลอยเข้าไปในรถม้า ทำให้พวกนางสองคนต่างสลบไปอย่างมิรู้ตัว

“อัปลักษณ์แล้วยังจะเล่นตัวอีก”

ค่ายโจรหลุมดำ

โม่ซินลืมตาขึ้นมาพบนางกับสาวใช้อย่างอาจู ถูกมัดมือมัดเท้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อีกทั้งยังมีเหล่าสาวงามที่นั่งเรียงรายกันนับสิบคน พวกนางเหล่านั้นก็คงถูกจับตัวมาเหมือนกันสินะ โม่ซินปลุกอาจูโดยการใช้เท้าเขี่ยนาง กระนั้นทำให้สาวใช้ลืมตาขึ้น

“คุณหนูพวกเราถูกจับตัวจะทำอย่างไรดี” อาจูเอ่ยขึ้นอย่างหวาดกลัว

จู่ๆ แม่นางน้อยคนหนึ่งเอ่ยแทรกขึ้นมา “จะทำอย่างไรได้ ก็ต้องยอมรับชะตากรรม พวกข้าถูกจับมาหลายวันแล้ว ยังไม่มีทางหนีออกไปได้เลย พวกข้าเคยหนีออกไปแล้ว แต่ก็ถูกจับมาได้เหมือนเดิม เพราะที่แห่งนี้เป็นค่ายหลุมดำขนาดใหญ่”

สองนายบ่าวได้ฟังแม่นางน้อยเล่าจนจบก็พลันคิดหนักขึ้นมา

“ข้าขอถามหน่อย พวกมันจับพวกเจ้ามานี่ เพื่อทำอันใดรึ” โม่ซินเอ่ยขึ้น

“หน้าตาอัปลักษณ์ อย่างพวกเจ้าสองคนคงไม่พ้น เป็นคนใช้ในค่ายเป็นแน่แท้” แม่นางชุดเขียวเอ่ยขึ้น เพราะสองคนนี้อัปลักษณ์เหลือเกิน ดำเมี่ยม ภายในใจสองนายบ่าวแอบดีใจเล็กน้อย

“ส่วนสตรีที่หน้าตางดงาม พวกมันนำตัวออกไป ข้าพอจะเดาได้” แม่นางชุดแดงเอ่ยอย่างเศร้าใจ ทุกคนรู้ว่าโฉมงาม ต้องโดนอันใดบ้าง ในใจพวกนางที่นั่งในห้องขังแห่งนี้ต่างอิจฉาสตรีอัปลักษณ์ทั้งสองคนยิ่งนัก ที่มิได้จะต้องถูกกระทำย่ำยี

ไม่นานนักประตูถูกเปิดออก บุรุษร่างใหญ่สาวเท้าเข้ามา เขาได้รับคำสั่งจากหัวหน้าโจร ให้นำตัวสตรีนางใดก็ได้ไปปรนนิบัติคืนนี้ ต้าหยวนกวาดสายตามองโดยรอบ

“สองคนนี้อัปลักษณ์ยิ่งนัก แต่ว่าก็ดีเหมือนกันให้หัวหน้าได้ลิ้มลอง ของใหม่ดูเสียบ้าง” กล่าวจบต้าหยวนกระชากโม่ซินขึ้นมาท่ามกลางสายตาของเหล่าสาวงามที่ไม่คิดว่าหัวหน้าจะโจรจะเลือกคนอัปลักษณ์นี้

“คุณหนูของข้า” อาจูได้แต่มองคุณหนูของนางถูกลากตัวออกไป ขนาดปลอมตัวแล้วพวกมันยังอยากได้อีกรึ

เสียงหัวเราะของต้าหยางดังขึ้นอย่างกังวาน เมื่อรู้ว่าหัวหน้าโจร จะได้ของเล่นที่อัปลักษณ์สุด โม่ซินถูกแบกออกไปทั้งน้ำตา นางจะเอาตัวรอดได้อย่างไร

โม่ซินถูกพาเข้ามาในเรือนนอนของหัวหน้าโจร นางได้ยินเสียงเหมือนคนร้องครวญครางผ่านฉากกั้น ตอนนี้นางนั่งอยู่ที่ตั่งยาว มองเจ้าต้าหยวนจะทำอย่างไรกับนางต่อ

“หัวหน้า ข้าพาสตรีนางหนึ่งมาให้ท่านขอรับ” ต้าหยวนเอ่ยขึ้นบอกเจ้านาย หลังฉากกั้นนั้นดูเหมือนว่าจะมีหนึ่งบุรุษกับหนึ่งสตรีที่เริงรักกันอยู่นั้น

“เจ้าออกไปได้แล้ว”

“ขอรับ”

ก่อนออกไปต้าหลางไม่ลืม สกัดจุดโม่ซินไว้ พร้อมกับแก้มัดให้นาง ทว่านางนั้นได้แต่กรอกตาไปมาไม่สามารถทำอันใดได้ ต้าหยวนก็ล่าถอยออกไปจากห้องนั้นโดยมิลืมปิดประตูให้เจ้านาย จู่ๆ ฉากกั้นก็ล้มลงอย่างแรง โม่ซินตกใจไม่น้อย หลังจากที่ฉากกั้นล้มลง นางก็ต้องตกใจไม่น้อย ภาพนั้นหนึ่งบุรุษ หนึ่งสตรีเริงรักกัน…