บท
ตั้งค่า

คนในใจ

มินตราฝืนกลืนน้ำลายลงคอ พยายามข่มก้อนสะอื้นที่พุ่งขึ้นมาจุกแน่นในอก ก่อนจะก้าวเดินตามบอดี้การ์ดเข้าไปในตัวบ้าน

พื้นหินอ่อนเย็นเฉียบสะท้อนเงาของเธอรางๆ แสงไฟระยิบระยับบนเพดานที่เคยงดงาม บัดนี้กลับเหมือนแสงจ้าจากห้องสอบสวนที่พร้อมจะแฉทุกบาดแผลของเธอให้โลกเห็น

เมื่อก้าวเข้าสู่ห้องโถงใหญ่ เสียงฝีเท้าหนักๆ ดังขึ้นจากชั้นบน

ธีรัช...

ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำก้าวลงบันไดอย่างสง่างาม ราวกับเจ้าชายในเทพนิยาย

แต่แววตาของเขา... กลับเย็นเยียบแข็งกร้าวจนทำลายภาพฝันทุกอย่างจนไม่เหลือซาก

มือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋ากางเกง ท่าทางสงบนิ่งแต่แฝงด้วยอำนาจที่กดทับให้ทุกสิ่งรอบตัวสั่นสะท้าน

"เธอมาถึงเร็วกว่าที่คิด" เขาพูดเสียงเรียบ มุมปากกระตุกขึ้นเป็นรอยยิ้มเหยียดเยาะ

มินตราเม้มริมฝีปากแน่น เธอไม่ตอบโต้ ไม่แม้แต่จะสบตาเขา

ทำได้เพียงยืนนิ่ง ปล่อยให้สายตาคมกริบคู่นั้นกวาดประเมินเธอราวกับมองเศษขยะ

"คิดว่าการยอมมาที่นี่แล้ว... ทุกอย่างจะจบเหรอ?" น้ำเสียงของเขาเย็นชาเจือรังเกียจ "พี่ยังไม่ลืมหรอกนะ ว่าพี่ชายเธอมันทำอะไรไว้"

มินตราหลุบตาต่ำลง หัวใจบอบช้ำแทบขาดเป็นเสี่ยงๆ

ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรออกไป... มันก็ไม่มีวันเปลี่ยนความเกลียดชังในใจเขาได้อีกแล้ว

"คุณธีรัชคะ คุณจะให้เธออยู่ที่ห้องไหน?"

หญิงวัยกลางคนที่น่าจะเป็นแม่บ้านเอ่ยถามขึ้นด้วยสีหน้าขุ่นเคืองชัดเจน ราวกับแค่เอ่ยถึงชื่อเธอก็สกปรกเกินไปแล้ว

ธีรัชเหลือบตามองมินตราแวบหนึ่งด้วยสายตาที่เย็นชา

"ห้องคนใช้" เขาตอบเสียงเรียบ

มินตราสะดุ้งเฮือก เงยหน้าขึ้นอย่างไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน

"อะ... อะไรนะคะ?"

"เธอได้ยินไม่ผิดหรอก" ธีรัชกระตุกยิ้มเย็นชาที่ไร้ความเมตตาแม้แต่น้อย "เธอไม่มีค่าพอจะอยู่ห้องแขก หรือห้องไหนทั้งนั้น"

เขาเดินเข้ามาใกล้ กระซิบเสียงเย็นเยียบลงข้างหูเธอ

"เพราะสำหรับพี่... เธอไม่มีค่าอะไรเลย นอกจากเป็นทาสที่ต้องใช้แรงงานเพื่อไถ่บาปแทนพี่ชายสารเลวนั่นของเธอ"

เสียงซุบซิบเริ่มดังขึ้นในหมู่คนรับใช้

"เหมาะแล้วล่ะค่ะ คนอย่างนั้นไม่ควรได้เหยียบเข้ามาในบ้านนี้ตั้งแต่แรก"

"จริงค่ะ คุณธีรัชยังใจดีเกินไปด้วยซ้ำ"

เสียงนินทาดังเข้าหูเหมือนเข็มนับพันเล่มที่จิ้มแทงหัวใจของเธออย่างต่อเนื่อง

แต่มินตราได้แต่ยืนตัวแข็งทื่อ ปล่อยให้น้ำตาที่กักเก็บไว้อย่างสุดความสามารถไหลลงมาช้าๆ โดยไม่อาจห้ามได้

ใช่...เขาไม่ได้พาเธอมาที่นี่เพราะอยากได้หรือนึกพิศวาสเธอแต่อย่างใด

เขาพาเธอมา... เพื่อเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเธอให้จมดินต่างหาก นี่คือจุดประสงค์ของการบากเธอมาที่นี่

หลังจากจัดเก็บข้าวของเสร็จ มินตราทรุดตัวลงนั่งบนเตียงไม้เก่าในห้องพักคนใช้  ห้องเล็กแคบที่มีกลิ่นอับชื้นอบอวลไปทั่ว

ผนังสีขาวเก่าๆ แตกลอกเผยให้เห็นรอยดำใต้พื้นปูน

โคมไฟเก่าๆ ดวงหนึ่งส่องแสงสลัวให้เห็นเงาของเธอทอดตัวเบาบางอยู่บนกำแพง

มินตราสูดหายใจเข้าลึก พยายามกลั้นก้อนสะอื้นที่ไหลขึ้นมาจุกอยู่กลางอก

เธอไม่ควรร้องไห้... ไม่ควรแสดงความอ่อนแอให้ใครเห็น แม้กระทั่งตัวเอง

มือเรียวสั่นเทาเอื้อมไปหยิบกระเป๋าสะพายใบเล็กที่วางอยู่บนเตียงขึ้นมา ก่อนจะค่อยๆ ล้วงมือเข้าไปในนั้น และหยิบบางสิ่งที่ถูกเก็บรักษาไว้ด้วยความทะนุถนอมตลอดมา

สร้อยข้อมือเส้นเล็กๆ...

มันถูกถักด้วยเส้นเชือกอย่างเรียบง่าย ไม่มีมูลค่าอะไรแต่สำหรับเธอ... มันคือสมบัติที่มีค่าที่สุด

ตรงกลางเชือกห้อยด้วยจี้ไม้รูปดาว แกะสลักอย่างหยาบๆ ด้วยมือคนธรรมดา แต่กลับงดงามในสายตาเธอเสมอมา

มินตราใช้นิ้วแตะสัมผัสมันเบาๆ 

ราวกับกำลังปลุกความทรงจำที่ถูกฝังลึกให้ฟื้นคืน

ในตอนนั้น... เธออายุเพียงสิบสามปี

เป็นเพียงเด็กสาวธรรมดาคนหนึ่งที่โลกทั้งใบยังเต็มไปด้วยความหวังและแสงสว่าง

และไม่มีวันคาดคิดเลย... ว่าอนาคตจะพาเธอมาพัวพันกับคนอย่าง ธีรัช

ความทรงจำพร่าเลือนลอยย้อนกลับไปยังฤดูร้อนปีนั้น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel