นายหัวผู้ใจดี
"นายหัวจ๋า มะลิมาแล้วจ้า มะลิเอาข้าวมาส่งแล้ว"
ราชสีห์หลังจากส่งสายตาดุ ๆ ไปให้เหล่าบรรดา ลูกน้องผู้ชาย ที่จ้องคนของเขาตาเป็นมัน ราวกับจะกลืนกินเข้าไปทั้งตัว
"พวกมึงมองนางมะลิทำไมหนักหนา เดี๋ยวกูก็ควักลูกตาทิ้งแม่งเลย"
พวกมันทุกคน รีบหลบสายตาของราชสีห์ ที่ส่งมาให้กับเหล่าบรรดาคนงาน เขาหันกลับไปตอบร่างบางทันที
"เออ..ขอบใจ มึงเอาปิ่นโตไปรอกูตรงรถก่อน เดี๋ยวกูสั่งงานเสร็จแล้วกูตามไป"
"ได้จ้ะ นายหัว" มะลิก็เดินจูงจักรยานสีชมไปรอตรงรถกระบะราคาหลักล้านอย่างว่าง่าย
หลังจากราชสีห์หันไปตอบร่างบางของเขาเสร็จเรียบร้อย เขาจึงหันกลับไปสั่งงานลูกน้องต่อ ก่อนที่จะปล่อยพวกมันไปกินข้าวกลางวันกัน
วันนี้งานในสวนทุเรียนค่อนข้างยุ่งเยอะ เพราะเขาต้องเร่งให้ลูกน้องฉีดฮอร์โมน เพื่อเร่งให้ทุเรียนติดดอกก่อนที่จะเริ่มฤดูกาลทุเรียน
ตอนนี้เขารีบเดินตรงไปหาร่างบาง ที่รอเขาอยู่ท้ายรถกระบะ มะลิได้ปูเสื่อรอราชสีห์หลังท้ายรถกระบะเรียบร้อย ราวกับว่าเธอรู้ทุกอย่าง ที่เธอจะต้องทำให้กับเขา
"นายหัวจ๊ะ มะลิเตรียมข้าวไว้ให้นายหัวราชสีห์ แล้วนะ อยู่หลังท้ายรถกระบะ แล้วก็เอาน้ำใบเตยเย็นๆใส่กระบอกน้ำมาให้นายหัวราชสีห์ด้วยจ้ะ"
"ขอบใจมาก"
"นายหัวราชสีห์จะให้ มะลิรอเก็บปิ่นโตกลับไปด้วยไหมจ๊ะ"
"งั้นมึงก็นั่งเป็นเพื่อนกูซะเลย"
"เดี๋ยวมะลิไปรอนายหัว ตรงใต้ต้นทุเรียนตรงนู้นดีกว่าจ้ะ"
"นั่งกับกูตรงนี้แหละ มันจะเป็นอะไรไป"
"ได้จ้ะนายหัวราชสีห์"
"แล้วมึงเป็นยังไงบ้าง อาการปวดท้อง"
"ค่อยยังชั่วแล้วจ้ะนายหัว ขอบคุณนะจ๊ะที่เป็นห่วง"
ขณะที่ราชสีห์หันไปถามนางมะลิ เกี่ยวกับอาการป่วยของเธอ แค่มะลิบอกว่าไม่เป็นอะไร เขาก็รู้สึกสบายใจ
ราชสีห์ที่กินข้าวด้วย หันไปมองหน้าของนางมะลิด้วยในหัวของเขา กำลังคิดเรื่องราวมากมาย เกี่ยวกับเด็กผู้หญิงคนนี้
ที่นับวันมันยิ่งโตเป็นสาว มันยิ่งสวยต่อให้มันจะมีผิวสีน้ำผึ้งที่แตกต่างจากคนอื่นไปสักนิดแต่ผิวสีของมันสวยละเอียด บวกกับแววตาสีเทาที่เป็นประกายสวยงามราวกับผู้หญิงแขก
ใคร ๆ ก็ชอบมองสีดวงตาของมัน แล้วเอ่ยชมว่ามันสวยเสมอ แม้กระทั่งเขาเองเพียงแต่ เขาไม่เคยเอ่ยชมมันออกมา
"มะลิมาเก็บปิ่นโตไปกูอิ่มแล้ว"
"ได้จ้ะนายหัว"
"เย็นนี้กูจะเข้าเมืองมึงจะไปกับกูไหม"
"ได้จ้ะ มะลิอยากได้ของใช้ส่วนตัวพอดี"
"แล้วมึงเรื่องเรียนเป็นยังไงบ้าง"
"ตอนนี้มะลิเรียนจบม. 6 แล้วจ้ะ นายหัว แต่ว่ากำลังคิดเรื่องเรียนมหาวิทยาลัยจ๊ะ กำลังจะคุยกับนายหัวเรื่องนี้พอดี"
"มึงมีอะไรจะคุยกับกู ไหนลองพูดมาซิ"
"มะลิว่าจะขอนายหัวออกไปหางานทำจ้ะ"
"มึงจะทำงานอะไร แล้วทำไมมึงต้องออกไปหางานทำ ทุกวันนี้กูก็ส่งเสียเลี้ยงดูมึงอยู่แล้ว"
"ตอนนี้มะลิว่า มะลิโตพอจะทำงานได้แล้ว จะได้ไม่ต้องเป็นภาระของนายหัว แค่นายหัวทำงานในสวนทุเรียนกับรีสอร์ทที่ภูเก็ตก็ยุ่งมากพอแล้วจ้ะ"
"มึงไม่ต้องมาคิดแทนกู!! ถ้ามึงอยากจะเรียนจริง ๆ กูจะส่งมึงเรียนเอง แต่กูจะเป็นคนขับรถไปรับไปส่งมึงด้วยตัวเองทุกวัน มึงห้ามดื้อกับกูเด็ดขาด เข้าใจไหม"
"นายหัวพูดจริงเหรอจ๊ะ..!!"มะลิดีใจกระโดดกอดแขนของราชสีห์แน่น
"แล้วกูเคยพูดเล่นกับมึงหรือเปล่าล่ะ"
"ไม่เคยจ้ะ.."
มะลิที่ตาเป็นประกาย เมื่อรู้ว่านายหัวราชสีห์ จะส่งเธอเรียนต่อมหาวิทยาลัย เพียงข้อแม้เดียวที่เธอต้องทำคือ เขาจะเป็นคนไปรับไปส่งเธอในทุก ๆ วัน ของการเรียนในรั้วมหาวิทยาลัย
แถมยังจะดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมด ให้เหมือนแต่ก่อนที่เคยเป็นมา แต่มะลิก็เกรงใจนายหัวราชสีห์เหลือเกิน
มะลิตั้งใจว่า ถ้าเธอเรียนจบมหาวิทยาลัย เธอจะช่วยนายหัวราชสีห์ของเธอ และอยากช่วยจัดการงานในสวนทุเรียน แบ่งเบาภาระของนายหัวราชสีห์ที่ชุบเลี้ยง เมตตาเอ็นดูเธอ
"มะลิ..มึงกอดแขนกูแน่นจนจะหักแล้วนะ"ราชสีห์ส่งเสียงร้องทัก
"อุ้ย...แฮร่..ๆๆ มะลิขอโทษจ้ะ"
มะลิดีใจจนลืมตัว เธอจึงวิ่งไปกอดแขนของนายหัว ราวกับเด็กที่ได้ของเล่น
"นายหัวราชสีห์ มะลิขอบคุณนะจ๊ะ นายหัวใจดีกับมะลิที่สุดเลย"พร้อมกับส่งยิ้มหวาน
"ถ้ารู้ว่ากูใจดี มึงก็ทำตัวดี ๆ ให้สมกับความใจดีของกูหน่อย"
"รับทราบจ๊ะ มะลิจะเป็นเด็กดี"
ราชสีห์ที่ปรายตามองนางมะลิ ที่ตอนนี้ยืนดีใจเกาะแขนของเขา เขย่าราวกับเด็ก ที่ได้ของเล่นที่ถูกใจ แต่มันจะรู้หรือเปล่าว่า ตอนนี้มันโตเป็นสาวแล้วไม่ใช่เด็ก สิบขวบเหมือนเมื่อก่อน หน้าอกหน้าใจถูไถไปมาไม่รู้จักระวังเลย แม่ตัวดี
"มึงปล่อยแขนกูได้แล้วมะลิ มึงนี่ไม่สำรวมซะเลยโตเป็นสาวซะเปล่า"
"โถ่นายหัวราชสีห์ก็พูดไป"
ราชสีห์ที่ลอบมองหน้าอกของมันใหญ่เกินตัว ตอนนี้ได้เสียดสีกับต้นแขนแกร่ง แต่ราชสีห์ไม่เคยคิดจะเอาเด็กในบ้านทำเมียอยู่แล้ว เขาคิดในใจเพียงแค่ว่า เมตตาเอ็นดูมันเท่านั้น
"งั้นเดี๋ยวมึงเก็บปิ่นโต กลับไปรอกูที่บ้านนะ"
"จ้ะ นายหัว"
นางมะลิรีบเก็บปิ่นโต เสื่อ กระบอกน้ำ ที่มันเตรียมมาใส่ตะกร้าหน้ารถสีชมพูทันที มันหันมายิ้มแป้นแล้นดีใจให้กับนายหัวราชสีห์
ราชสีห์ที่เห็นก็เขาอารมณ์ดี สองเท้าเล็ก ๆ รีบปั่นจักรยานกลับไปที่บ้าน เพื่อเตรียมตัวไปตลาด เข้าเมืองตอนเย็นกับนายหัวราชสีห์ของเธอ
"โอ๊ย เหนื่อยมาก ปั่นไปแค่นี้"มะลิที่บ่นอุบ
ราชสีห์ที่ตอนนี้ ต้องกลับไปเตรียมงานลูกน้องพร้อมกับเดินดูน้ำในสวนทุเรียน เขาให้ลูกน้องจัดการพ่นยาเร่งดอกต่าง ๆ เพื่อให้ทันติดดอกในอีกสองเดือนข้างหน้า จนเวลาล่วงเลยมา 17.00 น เขาตอนนี้ที่เหนื่อยล้าเต็มกลืน
แต่ว่าจะต้องเขาจะต้องไปซื้อของในเมือง จึงรีบกลับไปที่บ้านเพื่ออาบน้ำ ล้างเนื้อล้างตัว ป่านนี้นางมะลิมันคงคอยแย่แล้ว
"เดี๋ยวพวกมึงทำโอทีกันไปก่อนนะ เดี๋ยวกูกลับก่อน ฝากงานด้วย"ราชสีห์ที่คิดถึงนางมะลิในใจจึงรีบกลับบ้านเพราะกลัวนางมะลิคอยเขา
"ครับนายหัว"
เสียงรถกระบะคันงาม ได้มาจอดที่หน้าบ้าน ทำให้มะลิที่ตอนนี้ เตรียมกับข้าวให้กับนายหัวเสร็จแล้วจึงรีบวิ่งออกมาต้อนรับนายหัวราชสีห์ของเธอ ราวกับเป็นกิจวัตรประจำวัน
"ดูซินางมะลิ วิ่งไปเอาหน้านายหัว"นางชมพูที่อิจฉานางมะลิพูดให้ป้าใจแม่บ้านอาวุโสฟัง
"มันก็ทำงานปกติของมัน เอ็งก็เบาบ้างนางชมพู"
ภาพเหล่านี้ ทำให้คนในบ้านเห็นจนชินตา แล้วไม่มีใครกล้ามาทำเลียนแบบนางมะลิ แต่ทุกคนก็เข้าใจดี เพราะที่นางมะลิต้องทำมัน
คือคำสั่งของนายหัวราชสีห์ว่าทุกเย็นมันจะต้องออกมายืนรอรับเขาไม่ว่าจะดึก แค่ไหนมันก็ต้องรอ
"นายหัว สวัสดีจ้ะ กลับมาแล้วหรอจ๊ะ"
"ฮืม เดี๋ยวกูอาบน้ำแล้วจะลงมานะ"
"ได้จ้ะนายหัว มะลิเตรียมน้ำอาบให้นายหัวแล้ว เสื้อผ้าอยู่บนเตียงนะจ๊ะ"
"ขอบใจมาก"
ราชสีห์ยื่นข้าวของในมือ ส่งให้มะลิเอาไปเก็บ มะลิมันจะรู้ทุกอย่าง ว่าของต้องวางตรงไหนภายในบ้าน
ในบ้านหลังโตหลังนี้ มีเพียงมะลิเท่านั้นที่จะเข้ามาทำกับข้าว หรือเตรียมข้าวของให้กับเขา ส่วนแม่บ้านคนอื่น ๆ หลังจากเขาออกไปจากบ้านแล้วถึงจะสามารถเข้ามาทำความสะอาดบ้านทั้งหลังได้
"นางมะลินี่รู้ใจกูจริง ๆ"เมื่อราชสีห์มองข้าวของในห้องที่ถูกเก็บไว้เป็นระเบียบ
แต่มะลิมีเพียงสองสามหน้าที่ คือคอยรับใช้เขาตอนที่เขาเรียกหา และเตรียมทุกอย่างในชีวิตประจำวันของเขา งานอื่น ๆ มันไม่ต้องทำนอกจากรอคำสั่งจากเขา
