ความเจ็บปวด
“รันเวย์ รันเวย์ ไอ้รันเวย์”
“หะ ห๊ะ เป้ ว่าไง เรียกกูซะเสียงดังเลย”
“สัส!! กูเรียกมึงคั้งนานแล้ว มึงเป็นเหี้ยไร มึงไหวเปล่า”
“ไหว ไหว กูโอเค”
“แต่กูว่ามึงไม่โอเคว่ะ เพราะมึงเป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อวานที่มึงเจอภัทรแล้ว”
“ใช่กูเห็นกับไอ้พีนะ มึงไม่ไหวก็ลาไปตั้งหลักก่อนมั๊ยมึง หรือ จะลาออกเลยก็ได้นะ พวกกูพร้อมไปกับมึงทุกที่”
“มึงจะบ้าเหรอไอ้เป้ กูแยกแยะเป็นเรื่องส่วนตัวก็เรื่องส่วนตัว เรื่องงานก็เรื่องงาน”
“มึงอะ แนกเป็น แต่สำหรับอีกคนกูไม่รู้ มึงอย่าลืม มึงทิ้งมันนะ มึงหนีมันไปโดยไม่มีการพูดคุยหรือบอกกล่าวอะไรกับมันเลย ถึงพวกกูจะรู้จักพูดคุยกับมันแค่สองสามครั้ง แต่กูก็ดูออกว่ามันรักมึงมากแค่ใหน แล้วสิ่งที่มึงทำกับมันกูว่าโหดร้ายมาก ถ้ากูเจอแบบมันกูก็คงเอาคืนถ้ากลับมาเจอกันอีก กูว่ามึงเตรียมรับมือได้เลย ยิ่งได้มาเป็นเจ้านายกับลูกน้องด้วยแล้ว มึงต้องทำใจและรับมันให้ได้ แต่ถ้าไม่ไหว พวกกูก็พร้อมจะไปกับมึง”
“ใช่ รันเวย์ ไอ้เป้ พูดถูก ยังไงเราก็เพื่อนกันกูสองคนไม่ทิ้งมึงแน่”
“ขอบใจมึงสองคนมากนะ ไปเถอะ แยกย้ายกันไปทำงานเถอะ ก่อนที่จะโดนไล่ออก”
“อ้าว!!! เด็กๆม่อยู่ที่นี้กันเอง แล้วนี่คุยอะไรกัรอยู่เหรอจ๊ะ หน้าเครียดๆ”
“อ๋อ ไม่มีอะไรหรอกครับพี่เก๋พอดีเราคุยกันเรื่องจะไปหาอะไรกินกันตอนหลังเลิกงานไม่ลงตัวแค่นั้นครับ ว่าแต่พี่เก๋ มีอะไรกับพวกเราหรือเปล่าครับ”
“อ๋อ พี่จะมาตามน้องรันเวย์สุดหล่อขึ้นไปพบคุณภัทรหน่อยจ้า คุณภัทรเธอให้พี่มาตาม”
“ห๊ะ!!! ตามผม มีอะไรหรือเปล่าครับ หรือผมทำหน้าที่บกพร่องแล้วโดนร้องเรียนหรือเปล่าครับ”
“เปล่า เปล่าจ๊ะ แต่เรียกไปทำไมพี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เมื่อวานให้พี่ไปขอ resume ของน้องรันเวย์จากฝ่ายบุคคลมาให้หนะจ๊ะ”
“resume/resume/resume”
“แล้วคุณภัทรเค้าได้บอกพี่เก๋มั๊ยครับว่าเค้าจะเอาไปทำไม”
“ไม่ได้บอกหรอกจ๊ะ ว่าแต่น้องรันเวย์รีบขึ้นไปเถอะจ๊ะ ขักช้าเดี๋ยวจะโดนดุเอา”
“ครับพี่เก๋ เดี๋ยวผมตามขึ้นไปครับ”
แล้วพี่เก๋ก็เดินขึ้นไปก่อนผม
“ไอ้รันเวย์ เอาไงว่ะมึง”
“กูว่าเค้าคงสงสัยวุฒิที่กูเอามาสมัครแค่นั้นหละมั้ง เพราะคอนนั้นกูเรียนบริหารมาด้วยกัน”
“แล้วมึงจะบอกภัทรมันว่ายังไงหละ”
“กูก็จะบอกว่ากูหัวไม่ไปเลย ซิ้ว มาเรียนกับพวกมึง แค่นี้ก็จบ”
“กูสองึนก็ขอให้จบอย่างที่มึงพูดละกันรันเวย์”
“เออ น่ามึงสองคนอย่าเพิ่งคาดเดากันเองเลย เค้าคงไม่มาสนใจคนอย่างกูแล้วหละมั้ง”
“สาธุ!! กูก็ขอให้เป็นอย่างที่มึงคิดนะรันเวย์ โชคดีนะเพื่อนรัก”
“สัส!!! พวกมึงสองตัวนี่แมร่ง”
และผมก็เดินแยกกับไอ้พวกสองตัวนั้นแล้วตรงไปที่ลิฟต์เพื่อที่จะขึ้นไปที่ชั้นผู้บริหาร
“อะ น้องรันเวย์มา มา ตามพี่มา”
“ครับพี่เก๋”
ก๊อก!!! ก๊อก!!!!
แล้วเสียงคนในห้องก็ดังออกมา
“เชิญ”
แล้วพี่เก๋ก็เปิดประตูเข้าไป
“คุณถัทรคะ น้องรันเวย์มาแล้วค่ะ”
“ครับ ขอบคุณครับ”
แล้วพี่เก๋ก็เดินออกจากห้องไป ภัทรเงยหน้ามองจ้องหน้าผมอยู่สักพัก ก็เอ่ย พูดกับบอดี้การ์ดของตัวเอง
“ออกไปกันก่อน แล้วบอกเลขาด้วยว่าถ้าไม่เรียกห้ามใครเข้ามาหากูเด็ดขาด เข้าใจมั๊ย”
“เข้าใจครับ นาย”
แล้วบอดี้การ์ดก็ออกไป พอประตูปิดลง
ภัทรก็เอ่ยคำแรกกับผมทันที
“ทิ้งกูไปทำไม”
เงียบ
“กูถามมึงว่าทิ้งกูไปทำไม”
เงียบ
“ตอบกูมาทำไมมึงถึงต้องทิ้งกู รัน มึงตอบกูมา กูบอกให้ตอบมาไง ปั้ง!!!!!”
เสียงตบโต๊ะทำให้ผมถึงกับสะดุ้ง แต่ผมก็ยังไม่มีคำตอบ ผมได้แต่เงียบแล้วยืนก้มหน้าอยู่อย่างนั้นจนถัทรเดินมาแล้วจับที่แขนผมทั้งข้างแล้วเขย่าอย่างแรงจนผมเจ็บ
“คุณภัทรครับผมเจ็บครับ”
“แค่นี้มึงร้องเจ็บแล้วที่มึงทำกับกูกูไม่เจ็บรึไงแค่นี้มันยังเจ็บไม่เท่ากับที่กูเจ็บด้วยซ้ำ”
แล้วภัทรก็ผลักผมจนเซถอยหลังไปชนเข้ากับขอบประตู ภัทรผลักผมเสร็จก็หันหลังทันทีเลยไม่เห็นว่าผมไปโดนขอบประตูจนได้ยินเสียงผมร้องออกมา
“โอ๊ะ!!!!!”
ภัทรหันมาทันทีและเหมือนภัทรจะรีบเดินมาจับแต่ดูเหมือนจะนึกขึ้นได้จะได้แต่หันมามองผมเฉย
ผมตั้งหลักทรงตัวยืนได้ ผมจึงได้เอ่ยกับภัทร
“ถ้าคุณภัทรจะเรียกผมมาถามแค่นี้ผมขอตัวก่อนนะครับ”
“มึงยังไปใหนไม่ได้จนกว่ากูจะสั่ง”
แล้วภัทรก็เดินกลับไปที่โต๊ะตัวเอง
“ต่อไปนี้มึงขึ้นมาทำงานข้างบนเป็นผู้ช่วยเลขากู แล้วมึงต้องไปใหนกับกูด้วยทุกที่”
“แต่!! ผมไม่ได้จบมาทางนี้นะครับผมทำไมได้”
“มึงต้องทำให้ได้ เดี๋ยวกูจะให้คุณเก๋สอนมึง รัน”
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวก่อนนะครับ”
แล้วผมก็เปิดประตูออกแล้วเดินออกไปด้วยใจที่บอบช้ำ
“เป็นไงบ้างคะ น้องรันเวย์์ พี่ได้ยินเสียงดัง แต่ไม่กล้าเข้าไป”
“ไม่มีอะไรมากครับ คุณภัทรแค่ถามเรื่องทั่วๆไปเท่านั้นเองครับ ผมขอตัวก่อนนะครับ”
“อ๋อ จ๊ะ”
แล้วผมก็เดินไปที่หน้าลิฟต์แล้วกดลงไปยังล็อบบี้เพื่อทำหน้าที่ตามเดิม
“เป็ไงบ้างว่ะรันเวย์”
“มึงโอเคมั๊ยว่ะ”
“อือ กูโอเค”
“มึงแน่ใจนะรันเวย์ว่ามึงโอเค ดูจากสภาพแล้วกูว่าไม่ว่ะ”
“กูบอกโอเค ก็โอเคสิ พวกมึงไปทำงานกันเถอะ ไปเร็ว”
“เออ เออ”
แล้วพวกเราทั้งส่มก็แยกย้ายกันไปทำงานจนถึงเที่ยง
“มึง มึง ไปแดกข้าวกันกูหิวแล้ว”
“มึงไปกับไอ้พีก่อนเลยกูยังไม่หิวเลย”
“เฮ้ย!! ไม่เอาไปแดกด้วยกันสามคนเลยเนี่ยแหละ”
“ไปเถอะรันเวย์”
“เออ เออ พี่แอมครับ เดี๋ยวพวกผมสามคนของไปทานข้าวก่อนนะครับ”
“ได้จ้า”
“แล้วพี่แอมเอาอะไรมั๊ยครับ”
“อือ ไม่ดีกว่าพี่คิดไม่ออก”
“นั้นถ้าพี่แอมอยากได้อะไรก็โทรบอกพวกเรานะครับ”
“ได้จ้า”
แล้วระหว่างที่พวกผมกำลังเดินไปกินข้าว ก็บังเอิญเจอเข้ากับภัทรที่กำลังตะออกไปกินข้าวเหมือนกัน ผมจึงหยุดเพื่อให้ภัทรเดินออกไปก่อน แต่ภัทรกับยืนมองมาที่ทางผมสามคนแล้วไม่นอมเดินออกไป
“ภัทรมันยืนรอใครว่ะ ไม่เเินออกไปสักที กูจะรีบไปแดกข้าวกูหิว”
“กูจะรู้มั๊ย สัส!!”
แล้วสักพักลูกน้องของภัทรก็เดินมาที่ทางพวกผมยืนอยู่
“ขอโทษครับ คุณภัทรให้ผมมาเชิญคุณทั้งส่มคนไปทานข้าวด้วยกันครับ”
“เออ มันจะดีเหรอครับ”
“นั่นสิครับ”
“รบกวนคุณช่วยไปบอกคุณภัทรด้วยนะครับว่าพวกเราสามคนต้องขอขอบคุณ แต่พวกเราสามคนขอไปทานข้าวกันเองดีกว่าครับ”
แล้วลูกน้องของภัทรก็เดินไป บอกกับภัทร ภัทรจึงมองมาที่ผม แล้วเดินออกไป ส่วนพวกผมสามคนก็พากันเดินไปทานข้าวเหมือนกัน
