ดั่งสวรรค์สาป

62.0K · จบแล้ว
ล้านปีแสง
40
บท
36.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

สองเดือนต่อมา ข่าวการตั้งครรภ์ของฮูหยินใหญ่ตระกูลเหวินก็ดังไปทั่วจวน หลังจากนั้นอีกแปดเดือนนางก็ให้กำเนิดทารกหญิงหน้าตาน่ารักน่าชัง ผิวพรรณขาวใส และที่สำคัญทารกน้อยเกิดมาพร้อมกับกลิ่นหอมฟุ้งกระจายไปทั่วห้อง จนแทบจะกลบกลิ่นคาวเลือด นามที่มารดาผู้ให้กำเนิดตั้งให้เมื่อยามได้เห็นใบหน้าเล็กจ้อยเป็นครั้งแรกคือ ฟางเซียน เทพธิดาผู้มีกลิ่นหอม ตระกูลเหวิน เป็นตระกูลพ่อค้าที่มีฐานะปานกลาง หลังจากผู้เฒ่าเหวินจากไป เหวินซ่งเหยาบุตรชายเพียงคนเดียวก็รับหน้าที่ดูแลกิจการของตระกูล ด้วยความที่มีรูปร่างหน้าตาหล่อเหลา ทำให้ซ่งเหยาในวัยสิบแปดได้หัวใจบุตรีเพียงคนเดียวของนายอำเภอมาครอบครอง หลังจากแต่งงานได้ไม่ถึงปี ก็ได้บารมีพ่อตาส่งให้การค้ารุ่งเรือง ผูกขาดตำแหน่งการค้าส่ง ค้าขายกับวังหลวง แต่พอครบปี นายอำเภอกลับเสียชีวิตลงอย่างกะทันหัน ยังดีที่ความเฉลียวฉลาดของซ่งเหยาทำให้การค้าขายกับวังหลวงมั่นคงจนอยู่ตัวแล้ว จึงไม่ได้รับผลกระทบ ส่วนผู้ที่ได้รับผลกระทบกลับเป็นฮูหยินที่พึ่งแต่งเข้ามาอย่างฮุ่ยเจิน เมื่อไร้ซึ่งอำนาจของบิดาคอยสนับสนุน นางก็กลายเป็นหญิงไร้ค่าในบ้านสามี หลังจากคลอดบุตรสาวเมื่อสิบสี่ปีที่แล้ว ฮุ่ยเจินก็ไม่อยากคิดอะไรอีก เก็บตัวอยู่แต่ในเรือน เฝ้าอบรมเลี้ยงดูฟางเซียนอย่างดี สองแม่ลูกไม่เคยที่จะออกไปพบปะกับผู้คนในเรือนใหญ่ พวกนางใช้ชีวิตในเรือนหลังเล็กท้ายจวนสกุลเหวินอย่างสงบ ยังดีที่เหวินซ่งเหยาไม่ได้ใจไม้ไส้ระกำปลดตำแหน่งฮูหยินเอกของนาง แล้วแต่งตั้งอนุสี่ขึ้นมาแทนที่ หรือไม่บางที อาจเพราะยังหวั่นเกรงอิทธิพลของบิดาที่เสียไปของนางก็เป็นได้ แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ก็ถือว่าสถานะของฟางเซียนในตอนนี้ ก็คือบุตรีในภรรยาเอกเพียงคนเดียวของตระกูล เหวิน ที่ลูกสาวอนุไม่มีทางจะเทียบได้ ยิ่งนับวันความงดงามของฟางเซียนก็ยิ่งสร้างความกลัดกลุ้มให้เหวินฮูหยิน โดยเฉพาะกลิ่นกายหอมยั่วยวนที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด ความใจร้ายใจดำและคำหลอกลวงของซ่งเหยา ทำให้ฮุ่ยเจินสั่งสอนบุตรีให้เป็นคนไร้ใจ รักตัวเองให้มาก และอย่าได้มอบใจให้ชายใดครอบครอง เหวินฟางเซียน เด็กสาวผู้มีใบหน้างดงามราวกับเทพธิดา คิ้วโก่งดั่งคันศร ดวงตากลมโตสุกสว่างราวกับแสงของดวงดาวในยามราตรี รูปร่างอรชรอ่อนแอ่น เอวคอดกิ่วรับกับสะโพกกลมกลึงและช่วงขาเรียวยาว ความงามของนางไม่เคยมีผู้ใดได้พบเห็นนอกจากมารดาและสาวใช้เก่าแก่ ด้วยความที่มีมารดามากความสามารถ ถึงแม้ฟางเซียนจะไม่ได้ออกไปไหน แต่ก็หาใช่หญิงสาวโง่งม เด็กสาวไม่เพียงงดงามเฉลียวฉลาด แต่ยังมีความชำนาญหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นดนตรี หมากล้อม เขียนพู่กัน หรือกระทั่งงานเย็บปัก และที่สำคัญที่สุด ฟางเซียนยังเชื่อฟังทุกคำสั่งสอนของมารดา นางสลัดทิ้งเรื่องสี่คุณธรรมสามเชื่อฟังที่สตรีพึงมีไปสิ้น ชั่วชีวิตนี้ไม่หวังพึ่งพาบุรุษ แต่โชคชะตาคงไม่มีทางยอมปล่อยนางไปง่ายๆ ในเมื่อเกิดมางดงามเป็นหนึ่งในใต้หล้าก็ต้องจ่ายค่าตอบแทน

นิยายรักโรแมนติกนิยายจีนโบราณนิยายรักแม่ทัพจีนโบราณพระเอกเก่ง18+

ตอนที่ 1 ฟางเซียน [1]

สิบสี่ปีก่อน

"ฮูหยินเจ้าคะ อนุสี่ตั้งครรภ์อีกแล้วเจ้าค่ะ"

เสียงของสาวใช้คนสนิท มิได้ทำให้ฮูหยินใหญ่ตระกูล เหวิน ในวัยยี่สิบให้ความสนใจ นางยังนั่งปักผ้าราวกับไม่ได้ยินวาจาเมื่อครู่ 

"เฮ้อ! ฮูหยินเจ้าคะ ท่านปล่อยไว้เช่นนี้ไม่ได้นะเจ้าคะ ท่านอาจจะถูกหย่าได้"

"ฉิงฉิงแล้วเจ้าจะให้ข้าทำเช่นไร ข้าแต่งเข้าตระกูล เหวินมาห้าปียังไร้วี่แวว เจ้าก็เห็นว่าข้าพยายามแค่ไหน"

"บ่าวว่าพวกเราลองไปที่ศาลเจ้าแม่ติงฟางที่นอกเมืองดูไหมเจ้าคะ ว่ากันว่าศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก ฮูหยินลองไปขอพรดู"

ฮุ่ยเจินเงยหน้าขึ้นจากผ้าในมือ ทอดสายตามองออกไปนอกหน้าต่างอย่างไร้จุดหมาย นางแต่งมาเป็นภรรยาของเหวินซ่งเหยาตั้งแต่ครบวัยปักปิ่น ผ่านไปปีเดียว แม่สามีก็จัดหาอนุให้สามีนางถึงสองคน

พวกนางเข้ามาได้ไม่ทันไรก็พากันตั้งครรภ์แข่งกันเสียแล้ว ทำให้ฮูหยินใหญ่อย่างนางต้องถูกค่อนแคะจากแม่สามีไม่เว้นวัน

พอถึงปีถัดมา สามีก็รับอนุคนใหม่เข้ามาอีก อยู่ไม่ทันถึงปีอนุผู้นั้นก็ให้กำเนิดบุตรชายสมใจสองแม่ลูก แม่สามีทั้งรักทั้งหลงหลานชายจนอยากจะยกอนุสามขึ้นมาเป็นฮูหยินแทน

อีกหนึ่งปีต่อมา เหวินซ่งเหยาก็รับอนุสี่เข้ามา อนุสี่ผู้นี้เรียกได้ว่าทั้งงดงามและเอาใจเก่ง ทั้งยังอ่อนหวาน เคารพนบนอบ เจียมเนื้อเจียมตน ถือเป็นสตรีที่สามีนางทั้งรักทั้งหลง

มิหนำซ้ำยังให้กำเนิดบุตรชายที่น่ารักน่าชัง บุตรชายอายุได้ยังไม่ทันครบหกเดือน ข่าวการตั้งครรภ์ของนางก็มาถึงอีกแล้ว

ฮุ่ยเจินต้องอยู่อย่างเจ็บช้ำมาตลอดห้าปี ก่อนแต่งงาน เหวินซ่งเหยาในวัยสิบแปด เคยสาบานเอาไว้ว่าจะรักและมีนางเพียงคนเดียวตลอดไป 

แต่ดูเอาเถิด ว่ายามนี้ฮูหยินเอกอย่างนางกลายเป็นตัวอันใดในตระกูลเหวินไปแล้ว 

"ไปสิ แต่ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วนะฉิงฉิง ถ้าข้ายังมิอาจตั้งครรภ์อีก ข้าก็ขอยอมแพ้ และหากท่านพี่จะหย่า ตัวข้าก็พร้อมที่จะจากไป ข้าเองก็เหนื่อยเหลือเกินแล้ว"

การต้องทนเห็นคนรักพะเน้าพะนอหญิงอื่น มันเจ็บช้ำยิ่งกว่าสิ่งใดทั้งหมด บางทีการหย่าร้างอาจจะดีกว่า เพราะนางจะได้ไม่ต้องทนเห็นภาพบาดตาบาดใจอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

ศาลเจ้าแม่ติ่งฟาง

ภายในศาลเจ้าเก่าแก่ที่ไร้ผู้คนดูแล ตั้งอยู่ตีนเขาห่างจากตัวเมืองไปไม่ไกลนัก ฮุ่ยเจินนั่งหลับตาคุกเข่าน้ำตาอาบสองข้างแก้ม นางหาได้อยากมีบุตรเพื่อแก่งแย่งความโปรดปรานของบุรุษอันเป็นที่รัก ห้าปีที่ผ่านมานางเหนื่อยเกินไปแล้ว แต่ที่ยอมมาเพราะแค่อยากระบายความอัดอั้น

หญิงสาวรูปร่างบอบบางนั่งคุกเข่าแผ่นหลังตั้งตรง สองมือประสานไว้เสมอหน้าอก ใบหน้างดงามฉ่ำไปด้วยน้ำที่ไหลผ่านข้างแก้มออกมาเป็นสายช่างเป็นภาพที่น่ามอง และยังแลดูยั่วยวน

"อ๊ะ! อื้อออออ อื้มมม"

ร่างเล็กถูกจู่โจมจากทางด้านหลังโดยไม่ทันตั้งตัว ให้นอนคว่ำหน้าลงบนพื้น ริมฝีปากถูกปิดด้วยฝ่ามือหยาบกร้านของใครบางคน

เสียงลมหายใจถี่กระชั้นทำให้นางรู้ทันทีว่าคนผู้นี้ต้องการสิ่งใด ไม่เหลือเวลาให้ฮูหยินใหญ่ตระกูลเหวินได้คิดมาก กระโปรงถูกถลกขึ้น ผ้าสามเหลี่ยมที่ใช้ปกปิดส่วนสงวนถูกกระชากออก

"อื้อออออออ" ไร้หนทางดิ้นรน ไม่ทันได้เตรียมตัวเตรียมใจ ความเป็นชายใหญ่โตก็ทะลวงเข้ามาในช่องทางรักที่ทั้งคับแน่นและฝืดเคือง

"อึก! อื้ออออ" ฮุ่ยเจินทำได้เพียงสะบัดแขนสะบัดขาไปมาด้วยความเจ็บปวด พยายามดิ้นรนหนีจากความอัปยศ เข่าทั้งสองข้างเสียดสีกับพื้นจนเจ็บ เพราะร่างกายขยับเคลื่อนไหวตามแรงกระแทกกระทั้นของคนด้านหลัง

ไม่นานหญิงสาวก็ไร้สิ้นเรี่ยวแรงจะขัดขืน รู้สึกหมดกำลังที่จะมีชีวิตอยู่ นอนนิ่งปล่อยให้บุรุษที่นางไม่แม้แต่จะเห็นหน้าย่ำยีจนพอใจ

ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ แต่สำหรับเหวินฮุ่ยเจินมันยาวนานราวกับตลอดชีวิตของนาง 

ในที่สุดเสียงคำรามต่ำก็ดังขึ้นที่ด้านหลัง ท่อนลำแข็งชันถูกดันเข้ามาจนสุด น้ำกามทั้งข้นทั้งเหนียวพุ่งกระฉูดเข้ามาในส่วนลึกของร่างกาย ซ้ำยังปลดปล่อยออกมามากมายจนล้นทะลักออกมา