ดอกเบี้ยสวาท

42.0K · จบแล้ว
เนื้อนวล/baiboau
28
บท
12.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ดอกอะไรจะหอมหวานเท่าดอกเบี้ยสวาท ไม่มีอีกแล้ว... “อุ๊ย...” ร่างของหล่อนถูกรวบเข้ามากอดอีกครั้ง พร้อมกับเขาที่ทาบทับเอาไว้ทั้งตัว ผ้าห่มที่พันอยู่รอบกายหลุดลุ่ยไปกองอยู่ที่ต้นขา กายสาวเปลือยเปล่าแดงช้ำจนแนบชิดกับเรือนกายทรงพลังอย่างไม่มีทางเลือก “อย่า... อย่าค่ะ...” “ไม่ต้องมาอย่าเลย จะหนีไปไหน” เขาก้มหน้ามากระซิบถามเสียงแหบพร่า ดวงตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความหื่นกระหาย แถมเจ้าดุ้นชายก็คึกคักแข็งชันดันหน้าท้องของหล่อนไม่หยุด

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักประธานนักศึกษาผู้ชายอบอุ่นพาลูกกหนีรักแรกพบสัญญาทางรักเศรษฐี

ตอนที่ 1

เสียงทะเลาะกันดังสนั่นบ้านหลังกะทัดรัด ทำให้พุดซ้อนที่เพิ่งกลับมาจากโรงเรียนต้องวิ่งถลาเข้าไปห้ามทัพของพ่อกับแม่

“มีอะไรกันจ๊ะ พ่อแม่”

สีหน้าของหล่อนเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก มือยังคงกำสมุดพกผลการเรียนเทอมสุดท้ายระดับมัธยมศึกษาปีที่หกเอาไว้แน่น

นางบุญมาซึ่งเป็นแม่ของหล่อนน้ำตาไหลพรากเมื่อมองมาที่หล่อน ในขณะที่สมคิดผู้เป็นบิดายืนหน้าตาดำคล้ำ

“ก็พ่อของแกน่ะสิ เอาโฉนดบ้านไปจำนองกับนายทุน เพื่อเอาเงินไปใช้หนี้ในบ่อน” แม่ของหล่อนเล่าทั้งน้ำตา

“พ่อ...”

หล่อนมองพ่อด้วยความผิดหวัง สมองอื้ออึ้งคิดอะไรไม่ออก ไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่า พ่อจะทำแบบนี้กับหล่อนและแม่ได้

“เออ ข้าผิด ข้ามันเลว พอใจกันหรือยังล่ะ” สมคิดตวาดลั่น

“พุดไม่ได้ว่าพ่อเลวนะจ๊ะ แต่พ่อ... ทำแบบนี้ได้ยังไง พ่อเอาสมบัติชิ้นสุดท้ายของพวกเราไปให้คนอื่นได้ยังไงกันจ๊ะ แล้วแบบนี้พุดกับแม่จะไปอยู่ที่ไหน”

หล่อนคร่ำครวญออกมาอย่างสุดกลั้น เสียใจจนไม่อาจจะหาคำใดมาบรรยายความรู้สึกได้ สมุดพกผลการเรียนดีที่สุดในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่หกร่วงหลุดจากอุ้งมือ

“ถ้าข้าไม่ทำ ไอ้เสี่ยเจ้าของบ่อนก็จะฆ่าข้า หรือว่าเอ็งอยากเห็นข้าตายหึ นังพุด!”

“ไม่ใช่นะจ๊ะพ่อ”

“ตายไปเลยยิ่งดี อยู่ก็สร้างแต่ความเดือดร้อนให้กับลูกเมียไม่หยุดหย่อน”

แม่ของหล่อนตะโกนด่าเสียงดังลั่น น้ำตาไหลไม่หยุด

“งานการไม่เคยคิดจะทำ วันๆ เอาแต่เข้าบ่อน ไปตายเลยไป ไอ้สมคิด!”

“แม่จ๋า อย่าไล่พ่อเลยจ้ะ”

หล่อนวิงวอนแม่ แต่แม่ไม่ยอมฟัง คงจะเสียใจจนสุดจะทนแล้วนั่นแหละ

“จะให้มันอยู่สร้างความเดือดร้อนให้อีกทำไม ให้มันไปตายๆ เสียเถอะ”

“เออ! กูไปก็ได้ แล้วพวกมึงไม่ต้องมาทำศพกูนะ”

“พ่อ... พ่อจ๊ะ พ่อ...”

หล่อนวิ่งตามพ่อออกไปนอกบ้าน แต่สมคิดผู้เป็นบิดากระโดดขึ้นคร่อมรถมอเตอร์ไซค์ และขับออกไปด้วยความเร็วเสียก่อน

“พ่อจ๋า... พ่อ...”

แม่ของหล่อนเดินตามมาหา และดึงร่างสั่นเทาของหล่อนเข้าไปกอด

“ปล่อยไปตามเวรตามกรรมเถอะพุด”

หล่อนเงยหน้าขึ้นมองแม่ น้ำตาไหลอาบแก้ม กลีบปากอิ่มสีชมพูระเรื่อสั่นระริก

“แม่จ๋า... แล้วเราจะไปอยู่ที่ไหนกันจ๊ะ”

แม่ของหล่อนส่ายหน้าไปมา บอกให้รู้ว่าท่านก็จนปัญญาที่จะคิดหาทางออกเช่นกัน

แล้วหล่อนจะทำยังไงดี จะแก้ไขปัญหานี้ยังไง หรือว่าหล่อนกลับแม่จะต้องออกไปเร่ร่อนนอนข้างทางเหมือนคนจรจัด

หล่อนน่ะยังแข็งแรง ยังทนไหว แต่แม่แก่มากแล้ว แถมยังทำงานหนักมาตลอดชีวิต หล่อนคงทนเห็นท่านลำบากมากไปกว่านี้ไม่ได้อีก

“แม่พอจะรู้ไหมจ๊ะว่าพ่อเอาโฉนดบ้านไปให้นายทุนคนไหน”

หล่อนมองมารดาผ่านม่านน้ำตา พยายามที่จะหยุดร้องไห้ให้เร็วที่สุด

“พุดจะทำอะไรลูก”

“พุดจะไปขอความเมตตาจากเขาน่ะจ้ะแม่ พุดหวังว่าเขาจะเห็นใจพวกเรา”

แม่ของหล่อนส่ายหน้าและไม่เห็นด้วย

“คนรวย ไม่มีน้ำใจกับคนยากจนแบบเราหรอกพุด อย่าบากหน้าไปให้เขาดูถูกเลยลูก”

“แต่เราไม่มีทางเลือกน่ะแม่”

“มีสิ เราก็แค่ขนข้าวขนของออกไปจากที่นี่ ออกไปจากบ้านที่เราอยู่กันมาตั้งแต่หลายสิบปี”

“ถ้าเราขนของออกไปแล้ว เราจะไปอยู่ไหนล่ะแม่ พุดยอมไม่ได้หรอก แม่แก่แล้ว พุดไม่อยากให้แม่ต้องลำบากอีก”

“แม่ทนได้พุด อย่าห่วงแม่เลย”

ถึงแม่จะพูดแบบนั้น แต่คนเป็นลูกที่เห็นแม่ลำบากมาตั้งแต่เกิดไม่มีทางทนได้ หล่อนรักแม่ รักมากที่สุด และจะไม่มีวันยอมให้ท่านต้องไปเร่ร่อนเหมือนคนจรจัดข้างถนนเด็ดขาด

“แม่จ๋า... บอกพุดมาเถอะว่านายทุนคนนั้นเป็นใคร นะแม่นะ”

“พุด... แม่ไม่อยากให้พุดไปยุ่งกับคนพวกนั้น”

แม่ของหล่อนหมุนตัวจะเดินเข้าไปในบ้าน หล่อนรีบเดินไปขวางหน้าเอาไว้ และยกมือขึ้นไหว้ท่าน เพื่อขอร้องให้ท่านตอบในสิ่งที่หล่อนอยากรู้

“แม่จ๋า... บอกพุดนะจ๊ะ”

“พุด อย่าทำแบบนี้เลยลูก แค่มีลูกอยู่กับแม่ ที่ไหนเราก็อยู่กันได้”

หล่อนส่ายหน้าน้อยๆ “ไม่จ้ะแม่ พุดรักบ้านของเรา พุดจะไม่มีวันยอมเสียบ้านของเราไปหรอก”

“แต่เราไม่มีทางเลือกแล้ว เราไม่มีเงินไปไถ่โฉนดนั่นออกมาหรอก”

“เท่าไหร่จ๊ะแม่”

“สามแสน”

“สาม... แสน...?” พุดซ้อนหน้าตาตื่นตกใจ “พ่อเอาเงินมากมายขนาดนั้นไปทำอะไรจ๊ะแม่”

“ก็อย่าที่มันบอกนั่นแหละ เอาไปใช้หนี้พนันในบ่อนยังไงล่ะ”

น้ำตาที่ถูกเช็ดจนแห้งไปแล้วไหลซึมออกมาอีกครั้ง หัวใจเต็มไปด้วยความปวดร้าวทรมาน

“แล้ว... นายทุนคนนั้นล่ะแม่”

หล่อนตัดสินใจถามซ้ำอีก และหวังว่าแม่จะบอกออกมา ซึ่งท่านก็พลั้งปากบอกออกมาจริงๆ

“ก็เจ้าของบ้านหลังใหญ่ต้นซอยนั่นแหละ”

“เจ้าของบ้านหลังใหญ่ต้นซอย?” หล่อนเผยอปากค้างเติ่งอีกครั้งอย่างไม่อยากเชื่อ เขารวยขนาดนั้นยังปล่อยเงินกู้อีกเหรอ

“ใช่ แต่อย่าไปสนใจพวกคนรวยเหล่านั้นเลย อะไรที่มันเสียไปแล้วก็ให้มันเสียไปเถอะ ลืมมันซะ แล้วเราไปเริ่มต้นกันใหม่ เงินน่ะไม่ตายก็หาใหม่ได้ เชื่อแม่เถอะพุด”

แม่พูดถูกที่ว่าเงินน่ะไม่ตายก็หาใหม่ได้เสมอ แต่เมื่อไหร่ล่ะ เมื่อไหร่ถึงจะมีเงินพอมาไถ่บ้านที่เต็มไปด้วยความทรงจำกลับคืนมา

ไม่มีทางมีวันนั้นหรอก...

“เข้าบ้านกันเถอะพุด วันนี้แม่จะทำไข่เจียวกับน้ำพริกกะปิให้กิน”

แม้ว่าแม่ของหล่อนจะระบายยิ้มออกมา แต่หล่อนมองออกว่าท่านกำลังเจ็บปวดทรมานมากแค่ไหน

“จ้ะแม่”