7 เชคประวัติ
สายหมอกได้เดินออกไปจากห้องแล้วท่านประธานอติรุจจึงได้กดโทรศัพท์ไปหาทนายความของตัวเอง บอกให้ทนายความของตัวเองเช็คว่าพ่อของสายหมอกต้องผ่าตัดด้วยโรคหัวใจที่โรงพยาบาลกรุงเทพเป็นความจริงหรือไม่
อติรุจ : ผมอยากให้คุณทนายช่วยเช็คว่าคนที่ชื่อสายหมอกมาสมัครเป็นแม่อุ้มบุญให้กับลูกของผม พ่อของเธอต้องผ่าตัดด้วยโรคหัวใจจริงอย่างที่เธอบอกหรือเปล่า ผมต้องการรู้ความจริง ???
ทนาย : ได้ครับท่านประธาน
อติรุจ : ผมต้องการเร็วที่สุดนะครับ
ทนาย : ได้ครับ
อติรุจ : ผมได้ส่งประวัติชื่อและนามสกุลของเธอไปที่ LINE ของคุณทนายแล้วนะครับ และผมต้องการให้เรื่องนี้รู้กันเพียงแค่เราสองคน....
อติรุจไม่ลืมกำชับทนาย
อติรุจ : อย่าให้เรื่องนี้รั่วไหลไปถึงคนอื่นโดยเด็ดขาด
ทนาย : ได้ครับท่านประธาน
อติรุจอยากรู้แล้วสิว่าที่สายหมอกพูดเป็นความจริงหรือว่าโกหกเพราะอยากได้งานนี้ แต่เขาก็ยังคงไม่ลืมคำขอร้องของหญิงสาวที่บอกว่าเก็บเรื่องที่เธอมาทำงานเป็นนางบำเรอและแม่อุ้มบุญให้กับอติรุจเป็นความลับ เพราะเธอไม่ต้องการให้ครอบครัวของผู้ได้รับรู้เค้าก็เลยสั่งกำชับทนายว่าให้รับรู้กันเพียงแค่สองคน
หลังจากที่สายหมอกออกไปจากบ้านหลังนี้แล้วอติรุจก็เริ่มสัมภาษณ์คนอื่นต่อทันที
" เชิญคุณสุวิมลเป็นคนต่อไปค่ะ" .....เมื่อสาวใช้บอกรายชื่อออกไป สุวิมลจึงลุกและเดินตามสาวใช้ไปที่ห้องทำงานของท่านประธานอติรุจทันที
"นั่งสิ"
"ขอบคุณค่ะ" .....สุวิมลกล่าวขอบคุณและนั่งลงตรงกันข้ามกับท่านประธาน
" คุณคงได้อ่านรายละเอียดในประกาศแล้วนะว่าต้องมีหน้าที่ทำอะไรบ้าง !!!
" ค่ะ ท่านประธาน ดิฉันรู้แล้วค่ะ"
" คุณชื่ออะไร ???
" ดิฉันชื่อสุวิมลค่ะ"
" เรียนจบสูงด้วยนะ แล้วทำไมถึงมาทำงานแบบนี้ ??? อติรุจได้แต่มองผู้หญิงตรงหน้า เพราะเธอดูท่าทางเรียบร้อยเหมือนกับสายหมอก แต่ไม่น่าจะมาทำงานแบบนี้ได้เลย
" ดิฉันเดือดร้อนเรื่องเงินค่ะ และที่นี่ก็มีเงินให้ดิฉันมากพอกับเงินที่ฉันต้องการ "
" ทุกคนมาที่นี่ก็พูดเหมือนกันกับคุณทั้งนั้นแหละเดือดร้อนเรื่องเงินตลอด ยอมสละความสาวความสวยของตัวเองก็เพราะเงิน ผมขอถามคุณหน่อยว่าคุณได้เงินคุณจะเอาไปทำอะไร ???
" ฉันต้องการเอาเงินของคุณมาเป็นค่าใช้จ่ายของที่บ้าน ฉันต้องการมีบ้านที่หลังใหญ่ขึ้นและฉันต้องการให้ครอบครัวของฉันอยู่สุขสบายขึ้นแบบไม่ต้องเดือดร้อนเพราะถ้าคุณรับเข้าทำงานกับคุณ ฉันจะได้เงินเดือนถึงเดือนละ 100,000 บาท ซึ่งเพียงพอต่อค่าใช้จ่ายของที่บ้านของดิฉัน และเมื่อฉันคลอดลูกให้กับคุณฉันก็ได้เงินก้อน ฉันก็จะเอาเงินไปซื้อบ้านอยู่กับครอบครัวซึ่งตอนนี้ที่บ้านของฉันติดหนี้ธนาคารอยู่ แต่ถ้าฉันได้เงินก้อนนี้มาฉันก็จะเอาไปโปะบ้านให้หมดหรือก็ว่าจะขายบ้านหลังเก่าและซื้อบ้านหลังใหม่ ฉันอยากให้ครอบครัวพ่อแม่ของดิฉันมีความสุขสบายและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นค่ะ " ..........สุวิมลได้บอกกับอติรุจ ...
ตอนนี้เค้าเพ่งพินิจมองใบหน้างามของสุวิมล ชายหนุ่มใช้มือของตัวเองลูบใล้ตามใบหน้า และตรงไรหนวดของตัวเองเพื่อใช้ความคิดว่าเค้าควรจะรับสุวิมลคนนี้ไว้ไหมนะ
" เอาเป็นว่าผมรับคุณก้อแล้วกัน คุณพร้อมจะให้ผมทดลองงานเมื่อไหร่ก็บอกมา"
" ขอบคุณมากๆเลยค่ะท่านประธาน "...... สุวิมลดีใจมากภายในใจของเธอตอนนี้ได้กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ ที่ได้นอนกับท่านประธานผู้หล่อเหลาคนนี้
" ฉันสามารถให้คุณทดลองงานดิฉันได้เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของดิฉันได้ภายในสัปดาห์หน้าค่ะ"
" ตอนนี้คุณติดอะไรอยู่ทำไมถึงไม่สามารถให้ผมทดลองงานได้ในวันนี้หรือว่าวันพรุ่งนี้ละ "
" เพราะว่าวันนี้ฉันยังคงต้องไปทำงานค่ะ วันนี้ฉันยังคงต้องไปทำงานในอีก 1 ชั่วโมงข้างหน้า และวันพรุ่งนี้ฉันต้องไปเป็นแคดดี้ถือร่มให้กับเจ้านายที่ไปตีกอล์ฟค่ะ " .......เมื่อเธอพูดแบบนี้อติรุจจึงหยิบเอกสารของเธอขึ้นมาดูใหม่
" คุณทำงานเป็นพริตตี้เหรอ ???
" ใช่ค่ะ ดิฉันรับเป็นอีเวนท์ค่ะ ดิฉันชอบงานสบายเป็นพริตตี้ประจำรถบ้าง ประจำสินค้าบ้างค่ะ แล้วแต่ลูกค้าจะจ้าง "
" แล้วคุณแน่ใจเหรอว่าคุณยังบริสุทธิ์อยู่ ???
สุวิมล : ดิฉันแน่ใจค่ะ ถึงแม้ดิฉันทำงานแบบนี้แต่ดิฉันก็ไม่ได้มั่วแล้วก็ไม่ได้นอนกับผู้ชายนะคะ ฉันไม่เคยนอนกับผู้ชายคนไหนมาก่อนเลยค่ะ ".... สุวิมลได้บอกเขา
" ถ้าอย่างนั้นอาทิตย์หน้าถ้าคุณจะมาคุณก็โทรมาที่เบอร์นี้แล้วกัน "....อติรุจยื่นเบอร์โทรศัพท์ของหัวหน้าแม่บ้านให้กับเธอ
" ขอบคุณค่ะ แล้วดิฉันจะโทรมาก่อนนะคะ" .....เธอได้บอกกับอติรุจพร้อมกับยกมือไหว้ก่อนที่จะเดินออกมาจากห้องทำงานของชายหนุ่ม
ตอนนี้สุวิมลดีใจมากที่ตัวเองได้งานนี้ หญิงสาวเดินยิ้มแฉ่งออกมาเลยทีเดียว "สบายแล้วเรางานนี้ " เธอเดินออกมาจากห้องทำงานอติรุจอย่างมีความสุข
อติรุจสั่งแม่บ้าน
" พอแล้วบอกให้ทุกคนกลับไป วันนี้ฉันรับแค่สองคนเหนื่อยแล้ว พรุ่งนี้ค่อยบอกให้พวกเขามาใหม่ก็แล้วกัน ".... อติรุจได้บอกกับแม่บ้าน
และแม่บ้านก็ได้แจ้งแก่สาวสาวพวกนี้สาวคนที่เหลือจึงยอมกลับไปแต่โดยดี แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเซ็งเมื่อเธอมารอเกือบทั้งวัน เพื่อที่จะสัมภาษณ์งานนี้แต่โดนไล่กลับซะอย่างนั้น
***ตอนเย็น***
ทนาย ได้โทรศัพท์มารายงานความคืบหน้าเรื่องที่ท่านประธานอติรุจให้ทนายไปสืบเกี่ยวกับการรักษาโรคหัวใจของพ่อสายหมอก
ทนาย : ท่านประธานครับ เรื่องที่พ่อของคุณสายหมอกที่มาสมัครงานเป็นแม่อุ้มบุญให้กับท่านประธานเป็นเรื่องจริงครับ และตอนนี้พ่อของเธอกำลังรอคิวผ่าตัดอยู่ครับ คาดว่าจะได้คิวภายในวันพรุ่งนี้ครับ
อติรุจ : ขอบคุณมาก......ตอนนี้เค้าได้รู้แล้วว่าสายหมอกไม่ได้โกหกจริงๆแต่พ่อของหญิงสาวป่วยจริงๆ
อติรุจ : คุณทนายช่วยแจ้งทางโรงพยาบาลไปเลยนะครับว่าผมจะเป็นเจ้าของคนไข้เอง และผมจะเป็นคนที่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดเกี่ยวกับการผ่าตัดของพ่อผู้หญิงที่ชื่อสายหมอกนะครับ
ทนาย : ได้ครับท่านประธานแล้วท่านประธานจะให้ผมแจ้งผู้หญิงคนนี้ไหมครับว่าท่านประธานได้เป็นคนอุปการะค่าใช้จ่ายทั้งหมดเกี่ยวกับการผ่าตัดของพ่อของเธอ
อติรุจ : ไม่เป็นไรครับผมทำไปไม่ได้หวังผลตอบแทนไม่น้องบอกเธอ
ทนาย : แล้วท่านประธานจะให้ผม บอกกับเธอว่าใครเป็นคนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในครั้งนี้ล่ะครับ
อติรุจ : คุณทนายช่วยบอกว่ามูลนิธิบริษัทของเราเป็นคนรับผิดชอบไว้เรื่องค่าใช้จ่ายก็แล้วกัน ผมไม่ต้องไปบอกใครนะว่าผมเป็นคนสั่ง แค่บอกว่าเป็นมูลนิธิของคุณพ่อของผมก็พอ
ทนาย : ได้ครับ ผมจะทำตามที่ท่านประธานสั่งนะครับ
เมื่อจบบทสนทนาอติรุจได้แต่ยิ้มสุขใจ เพราะเค้าว่าจะได้ลูกจากคนนี้และผู้หญิงคนนี้ ส่วนเธอก็จะได้พ่อของเธอกลับคืนมา ต่างคนก็ต่างได้ผลประโยชน์ร่วมกัน อติรุจได้แต่อมยิ้มและแฮปปี้มีความสุข
