บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 1 การหมั้นหมายที่ไม่เต็มใจ

“ดิน แม่ว่าลูกควรจะไปหาเวลาเจอหนูน้ำมนต์สักทีนะ ตอนนี้น้องก็เรียนจบกลับมาอยู่ที่เชียงดาวแล้ว อยู่ใกล้กันแค่นี้เองกลับไม่ได้เจอกันเลย ดินอย่าเอาแต่หนีงานดูตัวแบบนี้ แล้วเมื่อไหร่จะได้แต่งงานกันล่ะลูก” คุณนายนวลพรรณมารดาของบดินทร์เตือนลูกชายอย่างใจเย็น ขณะที่บดินทร์นั่งทำหน้าเบื่อหน่ายอยู่บนโซฟาข้างคุณเด่นชัยผู้เป็นพ่อ

“แม่ครับ ผมบอกแล้วไงครับว่าผมไม่พร้อมที่แต่งงานกับใครทั้งนั้น โดยเฉพาะกับน้ำมนต์ ผมไม่ได้ชอบน้องแบบคนรักครับ ผมแค่เอ็นดูเหมือนน้องเหมือนนุ่งมากกว่า” (ขี้เหร่อย่างนั้นผมไม่เอาหรอก) บดินทร์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่แฝงความรำคาญ ส่วนประโยคหลังแอบต่อในใจ

บดินทร์ ศุภมงคลพิพัฒน์ ชายหนุ่มวัย 29 ปี เจ้าของปางไม้ศุภมงคล ปางไม้ที่ใหญ่ที่สุดในเชียงใหม่ เป็นที่รู้จักในเรื่องความหล่อเหลาผสมกับความเจ้าชู้และความมั่นใจในตัวเองระดับสูง เขามักจะคิดว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามใจเขาเสมอ แต่ในเรื่องของการแต่งงานกลับไม่เป็นเช่นนั้น ครอบครัวกลับเป็นฝ่ายจัดการทั้งหมดโดยไม่ปรึกษาเขาเลย เมื่อหลายปีก่อน ตอนที่เขายังเด็ก บิดามารดาของบดินทร์ได้ตกลงหมั้นหมายเขากับเด็กชายอ้วนเตี้ยคนหนึ่งที่ชื่อ “น้ำมนต์” ซึ่งในตอนนั้นเขามีอายุเพียงแค่ 12 ขวบ ภาพจำที่บดินทร์จำได้ดีว่า น้ำมนต์เป็นเด็กที่หาความน่ารักไม่ได้เลย หน้าตาก็ไม่ได้ใกล้เคียงกับคำว่าดูดี แถมยังมีขี้มูกกรังเพราะเป็นหวัดบ่อย และยังทำตัวน่ารำคาญมาเกาะติดมาขอเล่นกับเขาอยู่นั่นแหละ แค่พอนึกถึงสภาพตอนนั้นทำให้เขาไม่อยากมีส่วนร่วมกับการหมั้นหมายนี้เลยแม้แต่น้อย อยากจะถอนหมั้นให้รู้แล้วรู้รอด

บรรยากาศยามบ่ายในอำเภอเชียงดาวนั้นสงบ แต่ความคิดในหัวของบดินทร์กลับวุ่นวายไปหมด หลังจากที่เขาปฏิเสธการดูตัวมาหลายครั้ง อ้างติดธุระบ้างล่ะ ติดงานบ้างล่ะ แม้กระทั่งมีนัดกับเพื่อนคนโน้นคนนี้เพื่อเลี่ยงที่จะไปเจอกับคู่หมั้นอย่างน้ำมนต์ ตั้งแต่ที่น้ำมนต์เรียนจบกลับมาอยู่ที่เชียงใหม่แม่เขาก็ขยันนัดให้เขาไปหาน้องเหลือเกิน จนในที่สุดเขาก็ปฏิเสธไม่ได้แล้วต้องยอมตามใจพ่อแม่เพื่อมาพบกับน้ำมนต์ ลูกชายของเพื่อนพ่อแม่ที่เขาจำได้แม่นว่าเคยเป็นเด็กอ้วน ขี้มูกกรัง น่ารำคาญที่สุดในชีวิตเขา คู่หมั้นคู่หมายที่เขาไม่เต็มใจ

ตอนนี้บดินทร์นั่งอยู่ที่โต๊ะริมหน้าต่างของร้านกาแฟหรูในตัวเมืองเชียงใหม่ ที่เขามีนัดกับคู่หมั้นในวันนี้ตอนสิบโมง ดวงตาคมเข้มจับจ้องไปที่ผู้คนภายนอก ขณะรอการมาถึงของน้ำมนต์ แต่ละครั้งที่ประตูร้านเปิดออก เขาก็ไม่เห็นว่าจะปรากฏร่างของชายที่อยู่ในชุดสีเขียวเลยสักคน เพราะอีกฝ่ายบอกผ่านทางแม่เขาว่าจะใส่ชุดสีเขียวมาเพราะตอนบดินทร์หาจะได้หาง่ายๆ คนบ้าอะไรแต่วตัวสีเขียวรสนิยมไม่ได้เลย รอคนแล้วคนเล่าจนล่วงเลยผ่านไปเกือบสองชั่วโมงจนตอนนี้จะเที่ยงแล้วก็ยังไม่เห็นมีใครจะมาทักเขาสักคน ถ้าไม่ติดว่าต้องมาตกลงกับน้ำมนต์จ้างให้เขาก็ไม่ถ่อสังขารมาไกลขนาดนี้หรอก ใครจะมาอยากเห็นคนหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่กันล่ะ เพียงแค่วันนี้เขาอยากจะมาเจรจาว่าจ้างน้ำมนต์ให้เป็นคนไปขอถอนหมั้นเขาต่อหน้าพ่อกับแม่เขาเท่านั้นเอง เพราะถ้าน้ำมนต์เป็นคนพูดพ่อกับแม่ของเขาก็น่าจะเห็นใจน้ำมนต์และยอมทำตาม เพราะทั้งคู่รักและเอ็นดูหนูน้ำมนต์มากกว่าเขาที่เป็นลูกแท้ๆ มาแต่ไหนแต่ไร

“เอ่อ คุณบดินทร์ใช่ไหมครับ” เสียงเอ่ยถามเบา ๆ ของผู้ชายตัวเล็กที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาในชุดพนักงานของร้านกาแฟถามเขาขึ้น อย่าบอกนะว่านี่คือ น้ำมนต์ คู่หมั้นของเขา บดินทร์มองหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่อยากเชื่อสายตา นี่คือเด็กอ้วนที่เขาจำได้จริง ๆ หรือ ถ้าใช่ก็แสดงว่าเดี๋ยวนี้น้ำมนต์เปลี่ยนไปมาก ผิวขาวเรียบเนียน หน้าตาก็พอดูได้ ถึงแม้จะไม่ตรงสเปคเขาก็เถอะ ว่าแต่เป็นน้ำมนต์จริงเหรอเนี่ยเขาคิดในใจอย่างไม่อยากจะเชื่อ

“ครับ ผมบดินทร์ มีอะไรหรือเปล่าครับ” บดินทร์แกล้งถามออกไปดูว่าอีกคนจะว่ายังไง ไหนบอกจะใส่ชุดสีเขียวแต่นี่ดันใส่ชุดพนักงานร้านมา

คนที่เข้ามาถามถึงกับยิ้มออกมา "เอ่อ ถ้าเป็นคุณบดินทร์ ก็มีคนโทรมาฝากข้อความไว้ให้ครับ เขาบอกว่าให้จดและฝากให้คุณบดินทร์เมื่อสองชั่วโมงที่แล้วครับ” คนตัวเล็กส่งกระดาษที่ลูกค้าฝากจดยื่นให้กับชายหนุ่มรูปงามตรงหน้าพร้อมส่งยิ้มมุมปากมาให้

บดินทร์รับเอากระดาษที่พนักงานยื่นให้มาคลี่ออกดู ถึงว่า ถ้าเป็นน้ำมนต์ก็ไม่น่าจะดูดีขึ้นมาขนาดนี้ ก่อนที่จะก้มลงมองยังแผ่นกระดาษที่ได้รับมา

“พี่ดิน น้ำมนต์เองนะครับ ขอโทษทีที่ผิดนัดไม่ได้มาตามนัด พอดีว่าน้ำมนต์ขี้เกียจขับรถรู้สึกว่ามันไกลเกินน่ะครับ และบังเอิญมีนัดกับเพื่อนอยู่ก่อนแล้ว เลยไม่ได้ไปเจอหน้าหล่อๆ ของพี่ดินเลย เอาเป็นว่าค่าเครื่องดื่มมื้อนี้น้ำมนต์จ่ายให้แล้วกันนะครับ ถือเป็นการขอโทษที่ผิดนัด ขับรถกลับบ้านดีๆ นะครับ เชียงใหม่-เชียงดาวไม่ใช่ใกล้ๆ”

น้ำมนต์

พออ่านโน้ตที่อีกคนฝากถึง บดินทร์ถึงกับโมโหที่โดนหลอกให้ขับรถมาเสียไกล ทั้งๆ ที่บ้านของเขากับน้ำมนต์อยู่ที่เชียงดาวทั้งคู่แท้ๆ แต่เขาก็ไม่ได้เอะใจที่อีกคนนัดเขามาถึงตัวเมืองเชียงใหม่ ที่เขามาเพราะอยากเจรจาด้วยแค่นั้นเลยไม่ได้ถามอะไร พอคนเป็นแม่บอกว่าน้ำมนต์นัดร้านนี้เขาก็ตกลงทันที มันน่าโมโหนักที่โดนเด็กหลอก สงสัยหน้าตาขี้เหร่จนอายที่จะเจอเขา อย่าให้เจอตัวนะพ่อจะด่าให้สำนึกไม่ทันและขอถอนหมั้นเลย บังอาจมาหลอกคนหล่ออย่างเขา

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel