บท
ตั้งค่า

EPISODE 06

EPISODE 06

"หนูชื่อญานินค่ะ"

"อื้อหือ ได้ยินคำว่าหนูแล้วกูใจสั่นเลย" พี่คิวพูดแล้วยกมือขึ้นมาทาบอกตัวเองทำท่าเหมือนจะทนไม่ไหว "มีน้องน่ารักขนาดนี้กูถึงว่าไม่ยอมพามารู้จักซักที"

"กูกลัวน้องตัวเองไม่ปลอดภัย" พี่นธีพูดแล้วมองเพื่อนสองคนอย่างเอือมๆ จากนั้นก็พากันแซวฉันต่อซึ่งฉันก็ได้แต่ยิ้มตามแห้งๆ เพราะยังคงอึดอัดอยู่

"..." ขณะที่พี่ๆ คนอื่นคุยเล่นกันคนตรงหน้าก็เอาแต่เงียบ เขาจับหลอดแล้วเล่นกับน้ำแข็งวนไปมาอยู่อย่างนั้นอีกมือก็เล่นมือถือไปเหมือนไม่สนใจคนรอบข้างเท่าไหร่นัก

นี่คงเป็นครั้งแรกหลังจากที่เราเลิกกันไปแล้วได้มาเห็นเขาใกล้ๆ แบบนี้

พี่ทศกัณฐ์ดูดีขึ้นจากเมื่อก่อนมาก จากที่ตอนนั้นฉันก็แทบคลั่งแล้วตอนนี้ยิ่งมากเข้าไปใหญ่ แต่...ฉันคงเป็นคนที่เขาเลือกจะมองข้ามไปแล้วล่ะ

"เป็นอะไรของมึง นั่งเงียบอยู่ได้"

"..." พี่ทศกัณฐ์เงยหน้าขึ้นมามองพี่ฮ่องเต้เหมือนรำคาญก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองมือถือต่อ

อึดอัดจัง

ครืด~

Ninoey : ฉันถึงหอแล้ว แกเปิดดูกระดาษแผ่นนั้นยัง

ข้อความของยัยนิเนยทักมาพอดีฉันจึงแกล้งสนใจเรื่องอื่นไปเพราะไม่อยากอึดอัดไปให้มากกว่านี้

Yanin : ยังเลย กำลังกินข้าวหลังมอกับพี่

Ninoey : เปิดดูเลย มองรอบๆ ด้วยว่าไม่มีพี่คณะเรา

ฉันอ่านข้อความของเพื่อนก่อนจะหยิบกระดาษแผ่นนั้นขึ้นมา หันไปมองรอบๆ ไม่มีเสื้อสีชมพูของรุ่นพี่อ่อนก็รีบเปิดดูทันที

'ถ้าอยากได้ป้ายคืน ให้ไปขอเบอร์และไลน์ของ ทศกัณฐ์ วิศวะไฟฟ้า ปี3 ถ้าได้มาแล้วมารับป้ายคืนได้ที่ตึกRE7 ชั้น2 ห้อง 2218 เวลาห้าโมง'

"..." ฉันอ่านข้อความในกระดาษนั้นด้วยหัวใจเต้นรัวก่อนจะรีบพับมันเก็บไว้ในกระเป๋าสตางค์เหมือนเดิม

"มีอะไร" พี่นธีหันมาถามฉันด้วยความสงสัย

"ปะ...เปล่า" ฉันตอบเม้มปากแน่นมองพี่ชายตัวเอง

แล้วกับข้าวที่สั่งไว้ก็มีคนมาเสริฟพอดีทำให้พี่ๆ คนอื่นๆ ที่มองฉันอยู่เลิกสงสัยแล้วหันไปสนใจกับข้าวของตัวเองแทน

ฉันรีบพิมพ์ขอความนั้นบอกยัยนิเนยทันทีและยัยนั่นก็ส่งข้อความกลับมารัวๆ เหมือนกำลังตกใจสุดขีด

Ninoey : มันจะไม่บังเอิญไปหน่อยเหรอ แสดงว่าเป็นรุ่นพี่ผู้หญิงที่เก็บได้แล้วต้องสนใจพี่ทศกัณฐ์อยู่

Ninoey: แล้วแกจะเอาไงวะ แกก็ไม่ได้ติดกับเขาแล้วด้วย

Ninoey: ให้พี่ชายแกขอมั้ย

Yanin: ก็คิดอยู่

ฉันคิดไตร่ตรองอยู่นานก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่าควรทำยังไงดีจนกระทั่งกลับมาที่รถฉันก็ยังเงียบเพราะเอาแต่คิดหาวิธี

ถ้าฉันไม่มีของไปแลกป้ายคืนเพื่อนก็จะเดือดร้อนเพราะฉันแน่ๆ ทั้งๆที่ฉันมีโอกาสแล้วแต่จะไม่ทำมันอย่างนั้นเหรอ

แล้วทำไมต้องเป็นเขาด้วยนะ คนที่ทำแบบนี้ชอบเขาจริงๆเหรอทำไมรู้สึกเจ็บจัง

"เป็นอะไรเห็นทำหน้ายุ่งตั้งแต่เมื่อกี้ละ" พี่นธีถามตอนที่ขึ้นมาบนรถ

"พี่ นินมีเรื่องนึงจะปรึกษา"

"ว่ามาดิ" 

"อันนี้" ฉันหยิบกระดาษแผ่นนั้นมาให้พี่ชายตัวเองดูแล้วเขาก็ขำออกมาเหมือนมันเป็นเรื่องตลก "นินทำป้ายหายเลยโดนแบบนี้"

"แล้วจะทำไง" พี่นธีถามออกมาเหมือนมันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย รู้ว่าเป็นพี่ว้ากเหมือนกันแต่ช่วยเครียดกับน้องหน่อยเถอะ

"พี่ทศกัณฐ์ยังใช้ไลน์เดิมมั้ย เบอร์ด้วย" ถ้ายังใช้อันเดิมฉันก็แค่เอามันไปให้ง่ายๆ เพราะทุกอย่างของเขาฉันยังจดจำมันได้ดี

"จะไม่ขอมันหน่อยเหรอ"

"..." ฉันเงียบไปเมื่อได้ยินคำถามนั้น 

ถ้าเขารู้ว่าฉันทำแบบนั้นโดยไม่ได้ขอคงจะโกรธฉันมากแน่ๆ 

"ลงไปขอมันดิ" 

แล้วพี่ชายฉันก็หยุดรถเทียบขอบรั้วหน้าร้านคาเฟ่ร้านหนึ่งที่ตอนนี้มันปิดไปแล้ว เห็นพี่ทศกัณฐ์กำลังจะเดินไปที่รถสปอร์ตคันหรูของเขาพอดี

"...ค่ะ"

ฉันลงจากรถด้วยหัวใจที่เต้นระส่ำ ทำไมต้องเป็นเขาด้วยนะ ผู้หญิงมากมายชอบเขาขนาดนั้นแต่ฉันกลับเป็นตัวร้ายที่เคยทำไม่ดีกับเขา

"พี่ทศกัณฐ์" ฉันเรียกเขาเอาไว้ก่อนที่เขาจะเปิดประตู 

"..." เขาหันมามองฉันด้วยสีหน้าเย็นชาและเงียบเหมือนรอให้ฉันพูดต่อ 

"มีเรื่องจะรบกวนค่ะ"

"อะไร" เขาถามแล้วเริ่มขมวดคิ้วเข้าหากัน

"นินขอเบอร์กับไลน์พี่ได้มั้ย" ฉันพูดออกไปพร้อมกับกำมือไว้แน่นจนเหงื่อซึมออกมาเพราะความตื่นเต้น

"..."

"นินโดนทำโทษรับน้อง" ฉันพูดแล้วทำหน้าสลดขณะที่อีกคนก็มองมาอย่างไม่พอใจนัก

"..." เขาไม่ตอบอะไรเลยแม้แต่คำเดียวก่อนจะเปิดประตูรถเข้าไปนั่ง 

ขับออกไปและปล่อยให้ฉันยืนมองเหมือนหมาข้างถนนไปเลย

ใจร้ายชะมัด!

"ไง ไม่ได้เหรอ" พี่นธียิ้มเหมือนดูหนังตลก แต่ฉันไม่ตลกนะฉันเครียดอยู่

"ถ้าได้จะทำหน้าแบบนี้มั้ยล่ะ" ฉันตอบออกไปห้วนๆ 

"พรุ่งนี้ไปถามมันดูอีกรอบ วันนี้ไปรับน้องมามันน่าจะเหนื่อย" 

"ต้องไปอีกเหรอ แค่นี้ก็รู้แล้วว่าเขาเกลียดเราขนาดไหน" ฉันพูดแล้วยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาตัวเองเงียบๆ

"ร้องไห้อีกละ ไม่อยากเห็นแล้วนะยัยนิน"

"ก็นินเจ็บ"

"..." พี่นธีถอนหายใจออกมาเหมือนเซ็งๆก่อนจะขับรถไปส่งฉันที่คอนโด ซึ่งอยู่ห่างจากคอนโดของเขาไม่ไกลนัก

ตอนแรกแม่จะให้เราสองคนอยู่ที่เดียวกันแต่ฉันกับพี่นธีคิดว่ามันไม่ดีเลย เพราะเราต่างอยากเว้นระยะห่างจะได้ไม่หาเรื่องอีกฝ่ายไปฟ้องแม่

พอกลับมาถึงห้องฉันก็ทิ้งตัวลงบนโซฟาอย่างเหนื่อยอ่อนก่อนจะหันไปมองกีตาร์ที่พิงอยู่ข้างโต๊ะทำงานและเดินไปหยิบมันมา

ถึงจะเอามันมาด้วยแต่แทบจะไม่ได้เล่นมันเลย

ตัวนี้เขาซื้อให้ฉันตอนที่ฉันเริ่มเล่นมันได้เพราะเขาเป็นคนสอนไว้ตั้งแต่ตอนนั้นเราคบกันแรกๆ

ก๊อกๆ

ฉันวางกีตาร์พิงกับโซฟาก่อนจะเดินไปที่ประตู เมื่อเห็นว่าเป็นยัยนิเนยจึงเปิดให้เข้ามา หอพักของนิเนยอยู่ไม่ไกลจากฉันนักเราจึงแวะเวียนมาหากันบ่อยๆแบบนี้

"สรุปว่ายังไงกับเรื่องป้ายดี" นิเนยถามขึ้นทันทีแล้วขยับมานั่งลงข้างฉัน มองกีตาร์ที่ฉันกำลังเล่นคอร์ดอยู่

"ขอแล้ว เจอเขาเมื่อกี้"

"หา! แกเจอพี่เขาเหรอ" นิเนยทำสีหน้าตกใจไม่น้อย

"อืม"

"แล้วเขาว่าไง ให้มั้ย"

"..." ฉันส่ายหน้าเป็นคำตอบแล้วแกล้งสนใจกีตาร์ต่อ เพราะไม่อยากพูดให้มาก ทุกคนรอบตัวต่างรู้ดีว่าฉันอ่อนแอแค่ไหนกับเรื่องนี้

"ช่างเถอะ ค่อยหาวิธีอื่น ทำอะไรสนุกๆดีกว่า" ว่าแล้วยัยนิเนยก็หยิบมือถือฉันขึ้นมาปลดล็อก "เฟสนี้ยังทักแกมาอีกเหรอ"

"อืม ทักมาตลอด สองปีกว่าแล้วมั้ง" 

เฟสที่ว่าเป็นใครสักคนที่ไม่เปิดเผยตัวตน รูปโปรไฟล์เป็นรอยสักตัว 'N' เหมือนชื่อของเขาที่มีแต่อักษรตัว N เขาสักมันไว้ที่ไหนซักแห่งบนร่างกาย หรือไม่ก็คงรูปจากในเน็ตแต่ฉันลองค้นหาดูแล้วกลับไม่เจอเลย

ช่วงนั้นที่เขาทักมาฉันไม่ได้สนใจหรอก ตอบบ้างไม่ตอบบ้าง ตอนนี้เขาก็ยังคงทักมาแต่เราเริ่มคุยกันมากขึ้น ปรึกษากันบางเรื่อง แต่ส่วนมากจะเป็นเรื่องของฉันมากกว่าเพราะเขาแทบไม่ให้ฉันรู้อะไรเกี่ยวกับตัวเขาเลย

แต่ก็สบายใจเหมือนกันเป็นที่ระบายให้รู้สึกดีขึ้น

"ใครมันจะแอบชอบได้นานขนาดนั้นวะ แถมยังเก็บความรู้สึกเก่งด้วยไม่เปิดเผยแบบนี้" นิเนยว่าก่อนจะกดกล้องหน้าเปิดไลฟ์สด

"ทำอะไร" ฉันหันไปมองเพื่อน

"โปรโมทตัวเอง"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel