บท
ตั้งค่า

อารัมภบท สมรสที่ไม่ต้องการ

แสงไฟจากโคมสีแดงสดที่แสดงถึงความเป็นสิริมงคลสาดส่องไปทั่วบริเวณ

บรรยากาศรอบจวนแม่ทัพเหอจึงเต็มไปด้วยความชื่นมื่นด้วยแขกเหรื่อมากมายที่มาร่วมแสดงความยินดีแก่คู่บ่าวสาวนั้น ทุกคนล้วนแสดงออกถึงความปิติเป็นอย่างมาก และชื่นชมไม่ขาดปากว่าบ่าวสาวในวันนี้ช่างเหมาะสมกันยิ่งนัก ไม่แคล้วเป็นกิ่งทองใบหยก

อาจจะเป็นเพราะว่าการแต่งงานครั้งนี้มิใช่การแต่งงานธรรมดา หากแต่เป็นงานแต่งที่เกิดขึ้นจากสมรสพระราชทานอันได้รับพระราชโองการจากองค์จักรพรรดิ ซึ่งผ่านการเห็นชอบจากไทเฮาผู้เป็นพระมารดาที่รักยิ่งของเจ้าแห่งแผ่นดิน

หรืออาจจะเรียกได้ว่า การแต่งงานครั้งนี้ เกิดจากความเห็นชอบจากเจ้าเหนือหัวถึงสองพระองค์แห่งแคว้นต้าเจี้ยนเลยก็ว่าได้ นับได้ว่าไม่เคยมีปรากฏการเช่นนี้มาก่อนเลยในหลายรัชศก

โดยฝ่ายเจ้าบ่าวนั้นเป็นถึงแม่ทัพหนุ่มรูปงามทั้งยังสนิทสนมกับฮองเต้ตั้งแต่ยังเยาว์ เขามีนามว่า เหอหย่งหมิง ส่วนฝ่ายเจ้าสาว นางเป็นถึงหลานรักขององค์ไทเฮา มีนามว่า ลี่เหยาถิง

ท่ามกลางแขกเหรื่อที่ร่วมยินดีกันอย่างคับคั่ง หากแต่ เหอหย่งหมิง ผู้เป็นเจ้าบ่าว กลับไร้ซึ่งอารมณ์ปิติแม้แต่น้อย

ชายหนุ่มขมวดคิ้วเข้มเข้าหากันมุ่น ใบหน้าหล่อเหลาเรียบเฉย เบื้องลึกในแววตากำลังข่มกลั้นความขุ่นเคืองเอาไว้ในอกรัดแน่นจนแทบจะหายใจไม่ออก

เวลาตามพิธีการแห่งมงคลสมรสล่วงเลยผันผ่าน จนในที่สุดก็ถึงเวลาเข้าหอ

ตามทางเดินจากห้องจัดเลี้ยงจนถึงห้องหอที่มีเจ้าสาวนั่งรออยู่ เหอหย่งหมิงเดินหน้านิ่ง ร่างสูงสง่าตั้งตรง ท่าทางเย่อหยิ่งถือตัวมาจนสุดทาง

กระทั่งถึงหน้าประตูห้องหอ เขาก็กระแทกประตูเปิดออกอย่างไม่ใยดี ยังผลให้คนที่อยู่ด้านในถึงกับสะดุ้งตกใจจนอาภรณ์วาบไหว แต่กระนั้นนางก็ยังคงรักษาอาการสงบได้ดีเยี่ยม

นางลุกขึ้นยืน เชิดหน้า แล้วหันมาทางเขา

เหอหย่งหมิงแค่นเสียงในลำคอคราหนึ่ง ไม่ต้องเปิดผ้าคลุมหน้าออกก็รู้ได้ว่าเจ้าสาวของเขามีหน้าตาเป็นเช่นไร งดงามปานใด หากแต่ความสะคราญโฉมของนางนั้น ช่างสวนทางกับนิสัยยโสเอาแต่ใจได้อย่างร้ายกาจ

มีอย่างที่ใด ทั้งๆ ที่นางก็รู้ว่าเขามีคนรักอยู่แล้ว แต่กลับใช้อำนาจที่มีทูลขอต่อองค์ไทเฮาว่ารักเขามาเนิ่นนาน ต้องการแต่งงานกับเขาเท่านั้น

มีสตรีที่ใดไร้ยางอายเช่นนางบ้าง!

กล้าบอกรักบุรุษต่อหน้าพระพักตร์เต็มปากเต็มคำ ทั้งยังกล้าขู่บังคับให้แต่งงานด้วย และที่สำคัญยังแย่งชายคนรักของหญิงอื่นอย่างหน้าไม่อาย

เหอหย่งหมิงให้นึกโกรธแค้นและชิงชัง เพลิงโทสะโหมกระหน่ำอยู่ในโพรงอก เส้นเลือดตรงหน้าผากนูนขึ้นให้เห็นเด่นชัด สองมือกำหมัดแน่น

เพราะการแต่งงานนี้ ทำให้เพ่ยจี หญิงคนรักของเขาต้องคิดสั้น หากเมื่อสองวันก่อนเขาไปหานางไม่ทันการณ์ เห็นทีนางคงก้าวเท้าไปเยือนปรโลกแล้ว

ภาพใบหน้าอ่อนหวานที่ซีดเซียว ข้อมือเล็กเต็มไปด้วยเลือดสีแดงฉาน น้ำเสียงอ่อนระโหยโรยแรงที่ตัดพ้อต่อว่าอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ น้ำตาเอ่อคลอนองสองข้างแก้ม บาดลึกเข้าไปในใจเขาจนเกิดบาดแผลเหวอะหวะ

เขาพาเพ่ยจีเข้าจวนมารักษาอาการบาดเจ็บ ปลอบประโลมให้นางคลายใจอย่าได้ฟุ้งซ่านคิดสั้นอีก หากแต่สตรีตรงหน้าเขา กลับตามเข้ามาถึงในจวนของเขาอย่าถือวิสาสะ ด้วยถือตนว่าเป็นว่าที่เจ้าสาว แล้วเอ่ยวาจาร้ายกาจกับคนรักของเขา ใช้อำนาจที่มีพร้อมกับพระเสาวนีย์ขององค์ไทเฮา ลากเพ่ยจีออกไปจากอ้อมอกเขา

งานแต่งวันนี้ก็ยิ่งใหญ่ไม่เบา มีผู้แทนพระองค์มาคอยคุมเชิงเขาอย่างเหนียวแน่น

“คงสมใจเจ้าแล้วล่ะสิ!” เหอหย่งหมิงเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเฉยชา เขาก้าวเท้าเดินเข้ามาใกล้เจ้าสาวของเขา แล้วจับกระชากผ้าคลุมหน้าออกอย่างแรง จนร่างระหงสะดุ้ง

ทว่าวงหน้างดงามโดดเด่นปานเทพธิดาของคนตรงหน้าหาได้สะทกสะท้านให้ได้เห็น เหอหย่งหมิงยืนนิ่งมองนางอย่างเย็นชา ประกายในแววตาคมหาได้ซ่อนเร้นความนึกคิดชิงชังภายในจิตใจ

นี่มิใช่ครั้งแรกที่เขากับนางยืนประจันหน้ากัน และทุกครั้งที่เจอกัน ล้วนแล้วแต่เป็นนางที่เข้ามาขัดจังหวะเขากับเพ่ยจี

“แน่นอนข้าสมใจมาก!” นางเอ่ยตอบด้วยเสียงแหลมเล็ก มุมปากยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ดวงตาทอประกายชั่วร้ายวาบผ่าน นางกล่าวเน้นย้ำใส่ใบหน้าเขาอีกว่า

“คนอย่างลี่เหยาถิง อยากได้อะไรก็ย่อมได้ ข้ารักท่าน ข้าย่อมต้องได้ท่านมาครอง แปลกที่ใด?”

นางยืนกอดอกเชิดหน้ากล่าวเน้นคำอย่างไม่อาย

“ข้า-รัก-ท่าน”

เหอหย่งหมิงได้ฟังให้รู้สึกจุกอยู่กลางอก รู้สึกขมฝาดอยู่ในลำคอไปหมด ทั่วร่างแผ่กลิ่นอายเย็นยะเยือกไปทั่ว สายตาคมจับจ้องนางอย่างมิอาจทำสิ่งใดได้มากไปกว่านี้ นางคือสตรีที่ขวางทางรักของเขาอย่างร้ายกาจ อาวุธร้ายแรงของนางก็คือคำบอกรักคำนี้ แน่นอนว่าเขาไม่เคยรู้สึกยินดี เพราะว่ามันทำลายเกียรติยศของเขาจนสิ้น บุรุษเช่นเขาต้องถูกตราหน้าว่าตระบัดสัตย์ต่อหญิงคนรัก วาจาที่เคยพร่ำสัญญาว่าจะแต่งงานเพ่ยจี อย่างสมเกียรติและมีนางเป็นภรรยาคนเดียวพลันมลายหายไป กลายเป็นเพียงลมปากที่ทำร้ายกันได้อย่างสาหัส

“อ้อ...” เจ้าสาวตรงหน้าลากเสียงยาวอย่างจงใจยั่วเย้า ไม่สนใจสายตาคล้ายก้อนไฟของเจ้าบ่าวเช่นเขาเลยสักนิด

“ข้าแต่งงานกับท่านแล้ว และต้องได้เป็นภรรยาของท่านแต่เพียงผู้เดียวด้วยนะ อย่าลืม!”

กล่าวจบก็คลี่ยิ้มเฉิดฉัน เลิกคิ้วยียวน

เหอหย่งหมิงถึงกับขบกรามแน่น เขาแค่นเสียงหนักอย่างไม่สบอารมณ์ “ฝันไปเถอะ!”

จบคำก็สะบัดชุดสีแดงเสียงดังพึ่บ แล้วเดินออกนอกประตูห้องหอมา ได้ยินเพียงเสียงตวาดแหลมตามหลังว่า

“ท่านจะไปไหน กลับมาดื่มเหล้ามงคลเดี๋ยวนี้นะ!”

ชายหนุ่มถึงกับต้องหลับตาข่มอารมณ์ที่กำลังเดือดพล่าน รู้สึกอึดอัดจนแทบจะหายใจไม่ออก มิรู้ได้ว่าเป็นเวรกรรมอันใดที่ทำให้เขาต้องมาเจอกับสตรีนางนี้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel