บทที่ 6 ของฝากจากครอบครัว
บทที่ 6 ของฝากจากครอบครัว
“ก็แค่ทานข้าวด้วยกันสี่ห้าสิบมื้อเอง”
“แล้วเธอเห็นพี่เขยเธอว่างงานมากหรือจ๊ะไอ้ตัวแสบ”
“ก็พี่เยลไม่ค่อยว่างนี่คะ แยมเลยต้องสอดส่องแทนให้” เพราะก่อนที่พี่สาวตนจะแต่งงานนั้น เธอมีอาชีพเป็นแอร์โฮสเตสต้องเดินทางอยู่ตลอดเวลา ถึงแม้เที่ยวบินหลักจะเป็นทางโซนเอเชียก็ตาม
“รู้ไหมสามีพี่เขาว่ายังไง เขาบอกว่าหนึ่งเดือนเขาจะเจอกับพี่ประมาณสองครั้ง พอๆ กับที่เขาต้องไปเจอกับแยมมี่เลย น้องเขายังเคยแซวเลยว่าตกลงแฟนพี่ชายเขาคนไหนกันแน่”
ดาวลดาหัวเราะด้วยความถูกใจ แล้วนึกสงสัยคำพูดของพี่สาว “พี่เฮียวริใช่ไหม แยมจำพี่เขาไม่ค่อยได้แล้วค่ะ เห็นกันแค่ตอนงานแต่งงานครั้งเดียว”
“ใช่จ้ะ แต่คนที่แซวเขาไม่ใช่เฮียวรินะ เป็นเจสันน่ะ”
“เจสันวูเหรอพี่เยล” ดาวลดาเบิกตาด้วยความตื่นเต้นเมื่อพูดถึงผู้ชายคนนั้น นักร้องนักแสดงขวัญใจสาวเอเชียแล้วยังเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทตัวจริงที่พี่เขยออกหน้าบริหารอยู่ และเขาก็เป็นญาติสนิทกับพี่เขยของเธอ
“ซองอาเขาบอกว่าถ้าไม่ได้ถือหุ้นอยู่ในบริษัทด้วย สงสัยโดนน้องชายไล่ออกไปแล้ว”
“เขาเป็นญาติทางไหนกันเหรอพี่เยล พ่อของพวกเขาเป็นพี่น้องกันใช่ไหม”
“ใช่ ไหนบอกว่าจำไม่ได้”
“จำไม่ค่อยได้ แต่ถ้าผ่านสมองมาบ้างแล้วก็พอมีเค้าหลงเหลืออยู่”
“เป็นญาติกัน ปู่กับปู่เป็นพี่น้องกัน ปู่ของเจสันเขาไปได้เมียฝรั่งและใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกา แต่แม่ของเจสันเป็นคนเกาหลี”
“เออใช่ แยมจำได้แล้วที่พี่เคยเล่าให้ฟังว่าเขาเป็นลูกเสี้ยว” ดาวลดาเริ่มจำได้มากขึ้น ตอนนั้นพี่สาวตนเพิ่งแต่งงานกับพี่เขย เธอเห็นเขาในงานแต่งและจำได้ว่าเป็นนักแสดงจึงถาม จำได้ดีว่าตัวจริงเขาดูดีราวกับเทพบุตรกรีก อาจจะเป็นเพราะมีเชื้อของฝรั่งปนอยู่
“นั่นแหละ”
ติ๊งหน่อง ๆ
“ใครมานะ” เดือนนภาถามขึ้นลอย ๆ และจะลุกไปกดดูที่อินเตอร์คอม
“ไม่ต้อง แยมเอง” ดาวลดารีบลุกขึ้นและเดินไปที่หน้าจอ “สวัสดีค่ะ ใครคะ” เธอเพ่งมองที่หน้าจอเมื่อเจอชายหนุ่มวัยใสหน้าตาดีมากคนหนึ่งส่งยิ้มมาให้ รู้สึกคุ้นหน้ามากแต่นึกไม่ออก
“สวัสดีครับ มินวูเองครับ”
“สักครู่นะคะ พี่เยล มินวู” บอกกับชายหนุ่มแล้วจึงหันมาพูดกับพี่สาว
“อ๋อ เปิดประตูให้เขาเลย”
ดาวลดาทำตามที่พี่สาวบอก “เชิญค่ะ หน้าคุ้นมากเลยพี่เยล”
“วงพลีสไง วงนี้เจสันคัดเลือกเองกับมือเลยนะ แถมยังเขียนเพลงและมีร้องแจมด้วยอีกต่างหาก ดังจะตาย”
“อ๋อๆ ๆ มิน่าทำไมถึงคุ้น นักร้องน้องใหม่มาแรงแห่งปีนี่เอง”
“สวัสดีครับคุณนายวู” หนุ่มน้อยวัยใสที่เปิดประตูบ้านเข้ามากล่าวทักทายพร้อมรอยยิ้มสดใสน่ารักสมวัย “สวัสดีครับ..”
“น้องสาวพี่เองจ้ะเรียกพี่แยมมี่ก็ได้ แยมนี่มินวู ปาร์คมินวู” เดือนนภาแนะนำให้ทั้งสองรู้จักกัน
“พี่แยมมี่ ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมมินวูนะครับ” มินวูแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ
“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นเดียวกันค่ะ พี่อายุยี่สิบเจ็ด สูงหนึ่งร้อยหกสิบเก้า แล้วคุณล่ะคะ” เพื่อไม่ให้น่าเกลียดเธอจึงทำการแนะนำสิ่งที่ตนอยากรู้จากฝ่ายตรงข้ามก่อน ความจริงเธออยากรู้ว่าเขาสูงเท่าไหร่มากกว่า แต่มันคงจะน่าเกลียดไปถ้าถามออกไปแบบนั้นอย่างเดียว
“อายุย่างยี่สิบเอ็ด สูงร้อยแปดสิบหกครับพี่สาว”
“โอ้ว! สูงมาก ๆ เลยค่ะ ดีนะที่อายุเกินยี่สิบแล้ว ไม่งั้นอาจจะสูงถึงสองร้อยเซ็นก็ได้เนอะ” เธอฉีกยิ้มขณะพูดคุย ถูกชะตากับเด็กหนุ่มคนนี้นัก อาจจะเป็นเพราะว่าเธออยากมีน้องชายเหมือนคนอื่นเขาบ้าง เมื่อมาเจอเขาจึงรู้สึกแบบนี้ โดยเฉพาะตอนที่เขาเรียกเธอว่าพี่สาว มันฟังดูดีจริง ๆ
“ฮาๆ ๆ อาจจะนะครับพี่สาว”
“คิกๆ ๆ รู้ไหมว่าพี่อยากมีน้องชายมากแค่ไหน พอมาเจอเธอพี่รู้สึกถูกชะตามาก ๆ เลย”
“ถ้าอย่างนั้นผมขอสมัครเป็นน้องชายพี่ได้ไหมครับ” มินวูก็รู้สึกถูกชะตากับหญิงสาวเหมือนกัน เมื่อได้ยินเธอพูดดังนั้นจึงรีบเสนอตัว เขาจะดีใจมากถ้าเธอยอมรับเพราะเขาเองก็มีแต่น้องชาย
“จริงหรือเปล่า พี่เอาจริงนะ”
“พี่สาวๆ ๆ ด้วยความยินดีครับ”
“มินวู แยมมี่ พวกเธอลืมใครอีกคนหรือเปล่าเนี่ย” เดือนนภาขัดขึ้นพร้อมเสียงหัวเราะ เธอรู้ว่าดาวลดาอยากมีน้องชายมากแค่ไหน และก็รู้ว่าดีใจขนาดไหนที่รู้ว่าลูกในท้องของตนเป็นเด็กผู้ชาย
“ขอโทษครับคุณนายวู ผมไม่ได้ตั้งใจจะลืมคุณนะครับ แต่ผมแค่ดีใจมากไปหน่อยเท่านั้น” มินวูแสร้งทำหน้าเศร้า แต่ปากยังประดับด้วยรอยยิ้ม
“โอ้ มินวู! นายมาได้ไงเนี่ย” ซองอาเดินออกมาจากครัว บนตัวเขายังมีผ้ากันเปื้อนสวมอยู่
“สวัสดีครับประธานวู คุณเจสันให้ผมแวะมาเอาของให้เขาครับ”
“อ๋อ เขาโทรมาบอกฉันแล้ว รอสักครู่นะ”
“ครับ” มินวูตอบรับ แล้วหันมาส่งยิ้มให้ดาวลดา “บ้านผมอยู่ห่างจากที่นี่ไม่มากครับพี่สาว พอดีคุณเจสันเขารู้ว่าผมกลับบ้านเขาก็เลยไหว้วานให้ผมแวะเอาของให้”
“จ้ะ นั่งรอก่อนนะ เดี๋ยวพี่ไปเอาน้ำมาให้” เธอเพิ่งรู้ตัวว่าไม่ได้เตรียมอะไรให้แขกหนุ่ม
“ไม่ต้องหรอกครับ ผมทานจากบ้านมาเรียบร้อยแล้วทั้งข้าวทั้งน้ำ ตอนนี้ยังแน่นท้องอยู่เลยครับ”
“โอเค” ดาวลดานั่งลงตามเดิม “เธอน่ารักมาก ๆ เลยมินวู พี่ดีใจมากเลยที่มีน้องชายน่ารักแบบเธอ”
“พี่ก็สวยมากเลยครับ ทั้งสวยทั้งน่ารัก ดูดีกว่าดาราอีก ผมก็ดีใจมากเลยครับ”
“แยมพี่ว่าเธอต้องหลงรักมินวูหัวปักหัวปำแน่ ดูคารมเขาสิ” เดือนนภาพูดกลั้วหัวเราะเป็นภาษาไทย
“มีน้องชายน่ารักๆ ทั้งคนก็ต้องหลงรักเป็นธรรมดาค่ะ”
“ก็ขอให้รักแบบน้องชายเถอะนะ ไม่ใช่ลืมตัวล่ะ”
“พี่เยลไม่รู้จักนิสัยแยมเหรอคะ แยมไม่นิยมเด็กค่ะ แต่ถึงจะใช่ก็คงไม่ใช่แบบนี้หรอกค่ะ ถ้าเป็นหนุ่มเกาหลีแยมชอบแบบฮยอนบินหรือโซจีซบ ถ้าเป็นหนุ่มไทยแยมชอบแบบซันนี่ แต่ถ้าเป็นฝรั่งแยมชอบแบบเจสัน โมโมอา แบบมินวูนี่รักได้แบบน้องชายหมดใจเลยค่ะ รับรองไม่มีแบบอื่นแอบแฝง จริงไหมมินวู” ท้ายประโยคเธอถามชายหนุ่มเป็นภาษาเกาหลี
“ใช่ครับพี่สาว” มินวูไม่รู้หรอกว่าเธอพูดอะไรกับพี่สาวของเธอ แต่ดูจากสายตาและคำพูดคงไม่ใช่เรื่องไม่ดีแน่...
