บทที่ 5
แต่ดูเหมือนว่าความตั้งใจนั้นของริสาจะได้ผล เพราะไม่เพียงแต่สายตาเอาเรื่องจากพี่ชายเท่านั้นที่กำลังมองมา ยังมีสายตานับสิบๆ คู่ของคนงานที่ต่างก็พากันจ้องมองทำราวกับเธอคือฆาตกรไม่มีผิด ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วเธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนเฉยๆ
“ทำแบบนี้ทำไม! ขอโทษริสาเดี๋ยวนี้!!” ภูมินทร์ตวาดน้องสาวเสียงแข็งในขณะที่สองมือก็กอดคนรักสาวที่บัดนี้เปียกปอนตั้งแต่หัวจรดเท้าเอาไว้อย่างมั่นคง ภาพนั้นสร้างความเจ็บร้าวแก่ราชาวดีไม่น้อย หากแต่มันยังไม่ถึงครึ่งเลยกับคำพูดต่อมาของพี่ชาย
“พี่สั่งให้เราขอโทษพี่ริสาเขาเดี๋ยวนี้พรีม!”
“ขอโทษเหรอคะ! ทำไมพรีมต้องทำแบบนั้นด้วยในเมื่อพรีมไม่ได้ทำอะไรผิด! ผู้หญิงคนนี้เขาบ้าไปแล้ว เขาทำตัวเองทั้งนั้น!” ราชาวดีตอบกลับไปตามความจริง หากไม่ได้ทำต่อให้จะเป็นคำสั่งของใครเธอก็ไม่ขอรับฟังทั้งนั้น แม้ว่าสถานการณ์ตรงหน้ามันจะทำให้คำตอบของเธอมีค่าได้มากที่สุดแค่คำแก้ตัวที่ฟังไม่ขึ้นเลยก็ตามที
“พรีม!!”
“อย่าทะเลาะกันเลยค่ะภูมิ ริสาไม่ได้เป็นอะไรมาก พี่ขอโทษนะคะน้องพรีมถ้าเกิดว่าพี่ทำอะไรให้น้องพรีมไม่พอใจ พี่ขอโทษจริงๆ” ภาพการแสดงที่แนบเนียนหาตัวจับได้ยากทำให้ราชาวดีแทบจะหมดสิ้นความอดทน เธอเดินตรงเข้าไปประชิดก่อนจะทำบางสิ่งที่เรียกเอาเสียงฮือฮาจากทุกๆ คนรอบข้างได้ทันทีเมื่อเธอวาดฝ่ามือตบลงไปบนใบหน้าของแม่คนลวงโลก จนอีกฝ่ายหน้าหันไปตามแรงตบ
“นี่ต่างหากที่เรียกว่าตบ! เห็นชัดรึยังคะพี่ภูมิว่าพรีมตบแม่นี่!” คำถามนั้นถูกตอบกลับมาเพียงสายตาที่ว่างเปล่า ภูมินทร์จ้องมองน้องสาวที่เคยน่ารักว่าง่ายของตัวเองด้วยสายตาผิดหวังหนัก ไม่นานเสียงเข้มจึงเอ่ยขึ้นพร้อมอ้อมกอดที่กอดกระชับแฟนสาวไว้แน่น
“พี่จะให้เวลาพรีมตัดสินใจ…ถ้าภายในสามวันนี้พรีมยังไม่มาขอโทษริสา! พี่จะถือว่าพรีมไม่ใช่น้องสาวของพี่อีกต่อไป!!” คำขาดที่เขาอยากจะให้มันเป็นเพียงแค่คำขู่เพื่อหวังจะให้น้องสาวยอมทำตามคำสั่งเท่านั้นถูกเปล่งออกไปก่อนที่มือหนาจะประคองแฟนสาวให้ถอยห่างออกไปไกล ทิ้งไว้แต่ราชาวดีที่ได้แต่ยืนนิ่งอยู่ที่เดิมพร้อมกับประโยคที่เสียดแทงใจเธออย่างหนักจนแทบก้าวขาไม่ออก!
เขายอมที่จะตัดเธอออกจากความเป็นน้องเพราะเชื่อว่าเธอทำร้ายผู้หญิงคนนั้นตามที่ได้เห็น ภูมินทร์ไม่เคยทำกับเธอแบบนี้ ต่อให้เธอจะเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ เขาก็ไม่เคยเดินหนีกันไปกับคนอื่น นี่เป็นครั้งแรกที่เขาทำให้เธอเห็นว่าต่อจากนี้ไปเธอจะไม่ใช่ที่หนึ่งสำหรับเขาอีกเพราะตอนนี้เขามีคนอื่นที่จะมาแทนที่ของเธอรอไว้แล้ว
คนอื่นที่มีค่ามากกว่า มีความสำคัญที่เขาจะยื่นมือมาปกป้อง น่าเสียดายเหลือเกินที่ต่อไปนี้คนๆ นั้นจะไม่มีวันใช่เธออีก!!
ภาพความบาดหมางที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกระหว่างสองพี่สองสร้างความตกใจแก่คนงานไม่น้อย ภูมินทร์แทบไม่ยอมพูดกับน้องสาวอีกเลยตลอดสามวันที่ผ่านมา ขณะที่ราชาวดีเองก็ดื้อดึงเกินกว่าที่จะยอมเปิดปากพูดคุยกันก่อน หญิงสาวเอาแต่หมกตัวอยู่ในบ้าน ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการนั่งคิดทบทวนถึงสิ่งที่กำลังคิดจะทำ
“เข้าไปขอโทษคุณพี่เถอะนะคะคุณพรีม” นางชื่นเอ่ยบอกอย่างท้อใจ นางเห็นคุณหนูๆ ทั้งสองมาตั้งแต่เล็กๆ ไม่เคยมีเลยสักครั้งที่ทั้งคู่จะโกรธหรือไม่ยอมพูดคุยกันนานเกินหนึ่งวันแบบนี้ แต่นี่มันปากเข้าไปถึงสามวันแล้วที่ทั้งสองต่างไม่ยอมพูดหรือแม้แต่เผชิญหน้ากัน นางเองก็ไม่ได้ปักเชื่อว่าราชาวดีจะทำเรื่องแบบนั้นด้วยรู้ดีว่าคุณหนูคนเล็กนั้นถึงแม้จะดูร้ายๆ แต่ก็ไม่เคยมีเลยสักครั้งที่จะลงมือทำร้ายร่างกายใครเรื่องที่เกิดขึ้นมันน่าจะมีอะไรบางอย่าง
อะไรบางอย่างที่หลบซ่อนอยู่ภายใต้ความใสซื่อของผู้หญิงที่ชื่อริสาคนนั้น คนที่มองดูเผินๆ น่ารักดูไม่มีพิษมีภัย แต่ภายในเล่าใครเลยจะรู้ว่าเธอจะซ่อนความร้ายกาจอะไรเอาไว้บ้างซึ่งยากจะเดา
“ป้าชื่นเองก็เชื่อว่าพรีมเป็นคนลงมือทำร้ายผู้หญิงคนนั้นเหมือนกันเหรอคะ” ราชาวดีย้อนถามแม่นมที่เลี้ยงเธอมาตั้งแต่เด็กๆ
“ป้าไม่เชื่อค่ะว่าคุณหนูของป้าจะทำร้ายใครก่อน แต่ป้าไม่อยากให้ท่านทั้งสองไม่สบายใจ ไปพูดกับคุณพี่หน่อยเถอะนะคะ แค่สักคำสองคำก็ยังดี ป้าขอร้อง” หญิงสาวยิ้มรับก่อนจะโผเข้ากอดหญิงชราทั้งน้ำตา เพราะคงมีแต่ป้าชื่นคนนี้ที่เชื่อว่าเธอไม่ได้ทำอะไร
