เปิดร้านวันแรก
เช้ามืดวันใหม่ เสี่ยวหนานปั่นจักรยานคันเก่าออกจากบ้านโจวตั้งแต่ตีสามครึ่ง เบาะหน้ามีหน่วนหน่วนนั่งอยู่ ส่วนเบาะหลังมีแม่โจวนั่งซ้อนท้าย ไฟฉากคาดหน้าผากถูกใช้ส่องนำทางพวกเขามุ่งหน้าไปยังท่าเรือ
เมื่อไปถึงร้านเสี่ยวหนานก็รีบเปิดประตูให้ทุกคนเข้าไปข้างใน ประตูร้านมีสองชั้นเธอจึงปิดแค่กรงเหล็กเอาไว้ชั้นเดียว คนข้างนอกสามารถมองเห็นได้ว่าคนในร้านกำลังทำอะไร แต่ไม่สามารถเข้ามาได้
เมื่อวานก่อนกลับบ้านเธอจัดเตรียมข้าวสาร ผักสด เครื่องปรุง และเนื้อหมูแช่ถังน้ำแข็งไว้แล้ว เช้านี้จึงมีเพียงต้องเตรียมล้าง หั่น และปรุงให้ทุกอย่างขึ้นใหม่ให้พร้อมขาย
"เสี่ยวหนาน วันนี้เราจะทำอะไรขายบ้างลูก?" แม่โจวถามลูกสะใภ้เสียงนุ่มขณะที่หันมองรอบ ๆ ร้าน
"เช้านี้หนูว่าจะทำข้าวต้มทรงเครื่อง ซุปหัวปลาเต้าหู้ ผัดผักรวมใส่กุ้ง แล้วก็ปลาหมึกผัดไข่เค็มค่ะ ส่วนข้าวสวยหุงไว้สักหม้อน่าจะพอ วันแรกคนน่าจะยังไม่รู้เท่าไหร่ แต่ถ้าหมดเราก็ทำเพิ่มได้ตลอด"
แม่สามีพยักหน้ารับ นางมองลูกสะใภ้อย่างภูมิใจ เสี่ยวหนานที่นางได้สัมผัสช่างแตกต่างจากเสี่ยวหนานที่นางได้ยินคนอื่นพูดถึงอย่างสิ้นเชิง
"ฟังดูน่ากินทั้งนั้นเลย เดี๋ยวแม่ช่วยหุงข้าวให้นะลูก"
"ขอบคุณค่ะแม่ ใช้หม้อใบใหญ่นะคะ เดี๋ยวหนูจะก่อไฟให้ทั้งสามเตาเลย"
"จ้ะ"
"หน่วนหน่วน หนูเข้าไปนอนต่อในห้องเล็กเถอะลูก ไว้สว่างแล้วค่อยออกมาช่วยแม่ขายของนะ"
"จ้ะแม่จ๋า" เด็กหญิงตอบเบา ๆ แล้วเดินสะลึมสะลือเข้าไปด้านใน
ในห้องนั้นเสี่ยวหนานจัดเตรียมที่นอนและเสื้อผ้าของใช้ไว้บางส่วน ก็เพื่อให้คนที่เหนื่อยล้าจากการทำงานได้เข้าไปงีบหลับได้อย่างสบายใจ
แม่โจวเดินไปล้างข้าว ซาวน้ำอย่างดี ขณะเสี่ยวหนานเริ่มก่อไฟที่หัวเตาที่เธอเตรียมไว้ เตาแรกใช้หุงข้าว เตาที่สองทำข้าวต้มทรงเครื่อง เตาที่สามทำน้ำแกงให้ลูกค้าตักกินเองได้โดยไม่จำกัดครั้ง
"ว่าแต่...ซื้อของเยอะขนาดนี้ เงินลูกยังพอใช้อยู่ไหมลูก? เอากับแม่ไปสำรองดีไหม?"
แม่โจวเอ่ยถาม ขณะเหลียวตามองของในร้าน ซึ่งเต็มไปด้วยอุปกรณ์ เครื่องครัว และของสด นางคิดว่าลูกสะใภ้คงใช้เงินหมดไปไม่น้อย
"ยังพอมีอยู่ค่ะ เงินที่พี่สือซานให้มายังไม่หมดหรอกค่ะ แม่ไม่ต้องห่วง"
เตาทั้งสามค่อย ๆ มีเปลวไฟลุกขึ้นเรืองรอง แม่โจวตั้งหม้อข้าวได้สักพัก กลิ่นข้าวหอมมะลิก็หอมกรุ่นไปทั่วร้าน เสี่ยวหนานเริ่มตั้งหม้อข้าวต้ม หั่นผัก ต้มน้ำสต๊อกหัวปลาและกระดูกหมูด้วยท่าทางคล่องแคล่ว เสียงมีดกระทบเขียงดังเป็นจังหวะ
ระหว่างนั้นเองสือซานกับจื่ออันและจื่อเหิงก็เอาของสดขึ้นจากเรือใหม่ ๆ มาส่ง
"เสี่ยวหนาน เปิดประตูให้พี่หน่อย พี่เอาของทะเลสด ๆ มาให้"
พอได้ยินเสียงสามี เธอรีบวางมีดแล้ววิ่งไปเปิดประตูเหล็ก
"มาแล้วค่ะ อ้าว..พี่ใหญ่กับจื่ออันก็มาด้วยเหรอ?"
ซูจื่อเหิงยิ้ม พลางหอบลังปลาขึ้นตามหลังสือซาน
"พวกเราอยากมาดูร้านใหม่ของน้อง เลยถือโอกาสตอนที่น้องเขยจะเอาของมาส่งขอตามมาด้วย"
"ดีเลย...งั้นเดี๋ยวพอพี่จัดการเรื่องที่สมาคมเสร็จ มากินข้าวที่ร้านก่อนกลับนะ ฉันจะเตรียมไว้เผื่อ มาทำให้ร้านคึกคักเรียกลูกค้ากันหน่อย"
"ได้เลย เดี๋ยวพี่จะชวนพวกบนเรือมาด้วย" ซูจื่อเหิงรีบตอบน้องสาวอย่างกระตือรือร้น
"วันนี้ของสดเพียบ พี่กับพ่อคงต้องใช้เวลาจัดการนานหน่อยนะ" สือซานหันมากระซิบภรรยา
"รับทราบค่ะสามี"
หลังจากสามหนุ่มออกไป เสี่ยวหนานก็รีบปิดประตูร้านอีกครั้ง แม่โจวอาสาจัดการกับอาหารทะเลสด ๆ ที่เพิ่งได้มา ปลา กุ้ง ปลาหมึกวางเรียงบนเขียง นางแล่ปลา หั่นหมึก แกะกุ้งอย่างเชี่ยวชาญ
ส่วนเสี่ยวหนานก็เริ่มเปิดแก๊สปรุงอาหารตามเมนูที่คิดเอาไว้ ไม่นานหม้อซุปหัวปลาและข้าวต้มก็เริ่มเดือดปุด กลิ่นสมุนไพร ผัก และเนื้อสัตว์ตลบอบอวลจนป้ากู้เจ้าของร้านของชำที่เพิ่งมาถึงร้านต้องท้องร้องคำรามอยู่หลายครั้ง
เมื่อกับข้าวปรุงได้รสชาติที่ลงตัวแล้ว เสี่ยวหนานก็ตักเรียงใส่ถาด เตรียมพร้อมวางขาย วันนี้สือซานได้ปลาสดมาเยอะ เสี่ยวหนานจึงทำเมนูปลาผัดเต้าซี่เพิ่มมาอีกหนึ่งอย่าง
"แม่เจ้า! ของสดทำกับข้าวออกมาแต่ละอย่างรสชาติดีไม่น้อยเลนแฮะ"
เสี่ยวหนานพึมพำอยู่คนเดียวในระหว่างที่กำลังยืนชิมปลาผัดเต้าซี่กับปลาหมึกผัดไข่เค็ม รสชาติของอาหารหลังปรุงเสร็จทำให้เธอพอใจมากจนแม่สามียังอดเอ็นดูกับท่าทางของลูกสะใภ้ไม่ได้
"อะไรมันจะขนาดนั้น ไหนแม่ขอชิมบ้างซิ"
เสี่ยวหนานจึงรีบหลีกทางพร้อมกับหยิบตะเกียบยื่นให้แม่สามีช่วยชิม
"ตะเกียบค่ะแม่"
"อื้อ...อร่อย รสชาติแบบนี้ต้องขายดีแน่ ๆ"
"ก็หนูบอกแล้วว่ามันอร่อย ฮะ ฮะ ฮะ" แม่โจวยิ้มขำขันระคนเอ็นดูเมื่อเห็นลูกสะใภ้ได้ทียอตัวเองจนน่าขัน
ท้องฟ้าเริ่มสว่าง เสียงรถบรรทุกค่อย ๆ เคลื่อนตัวเข้าท่าเรือ ป้ากู้กับลุงกู้ เจ้าของร้านขายของชำข้าง ๆ เดินมาที่ร้านของเสี่ยวหนานด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
"โอ้ กลิ่นหอมจริง ๆ นะเสี่ยวหนาน อาเหมย สะใภ้ของเธอนี่เก่งจริง ๆ" ป้ากู้เอ่ยชมแม่โจวพลางพัดมือไล่กลิ่นเข้าจมูก
"ป้ากู้มาแล้วเหรอคะ เชิญค่ะป้า เข้ามาชิมหน่อยว่ารสชาติผ่านไหม?"
เสี่ยวหนานกล่าวพร้อมตักอาหารใส่ถ้วยเล็กยื่นให้ หญิงชราลองชิมคำหนึ่งแล้วตบเข่าเบา ๆ
"อร่อย อร่อยมาก! ข้าวต้มนี่ก็สุดยอด มีทั้งหมู เห็ดหอม แล้วก็กุ้งแห้งเนื้อดีอีก แบบนี้ต้องขายดีแน่ ๆ ป้าขออุดหนุนเป็นคนแรกเลยนะ ตักข้าวต้มให้ป้าสองถ้วย!"
"ได้เลยค่ะป้า"
เสี่ยวหนานยกถ้วยข้าวต้มสองถ้วยออกจากครัวเล็กด้านหลัง ใบหน้าของเธอมีเหงื่อบาง ๆ พาดผ่านหน้าผาก แต่แววตากลับสว่างสดใส เธอยื่นถ้วยข้าวต้มร้อน ๆ ให้ป้ากู้ตามที่นางสั่ง
"ป้ากู้คะ นี่ข้าวต้มสองถ้วยค่ะ" เสี่ยวหนานยื่นถ้วยข้าวต้มให้ป้ากู้ด้วยรอยยิ้ม
"อื้อ..กลิ่นหอมจริง ๆ เลยเสี่ยวหนาน นี่เงินค่าข้าวนะ"
เสี่ยวหนานรับเงินจากป้ากู้มา 6 เหมา แต่เธอคืนให้ 2 เหมา
"ป้าคะ ฉันขอรับแค่ 4 เหมาก็พอค่ะ"
ป้ากู้มองเสี่ยวหนานด้วยความแปลกใจ
"อ้าว ทำไมล่ะลูก ข้าวต้มถ้วยใหญ่ขนาดนี้ แถมเครื่องก็เยอะอีก"
"ฉันตั้งใจจะขายในปริมาณนี้ค่ะ ถ้าใครไม่อิ่มอยากสั่งเพิ่มอีก 1 ถ้วย ฉันจะคิดราคาเพียง 1 เหมาเท่านั้นค่ะป้า"
ป้ากู้พยักหน้าอย่างเข้าใจ
"หนูใจดีจริงๆ เลยเสี่ยวหนาน แบบนี้ลูกค้าต้องหลั่งไหลเข้ามาแน่ ๆ"
ไม่นานนัก กลิ่นหอมของอาหารก็เริ่มดึงดูดบรรดาคนขับรถที่มาส่งของในบริเวณนั้น พวกเขาเดินตามกลิ่นอาหารมาที่ร้านของเสี่ยวหนานทีละคนสองคน
"ขอโทษนะครับ น้องสาว ร้านนี้ขายอะไรบ้าง" ชายคนหนึ่งถามด้วยความสนใจ
"วันนี้มีข้าวต้มทรงเครื่อง ซุปหัวปลาเต้าหู้ ผัดผักรวมใส่กุ้ง ปลาหมึกผัดไข่เค็ม แล้วก็ปลาผัดเต้าซี่ค่ะ ถ้าพี่ชายอยากได้ข้าวมากหรือน้อย สั่งได้นะคะ จานแรกคิด 3 เหมา แต่ถ้าไม่อิ่มแล้วมาเติมอีก 1 จานคิดเพิ่มแค่ 1 เหมาเท่านั้นค่ะ"
เสี่ยวหนานยิ้มและตอบด้วยน้ำเสียงสดใส ชายคนนั้นยิ้มอย่างตื่นเต้นเพราะไม่เคยกินข้าวที่ไหนที่มีการจ่ายเงินน่าดึงดูดแบบนี้มาก่อน
"เพิ่มแค่ 1 เหมาจริงเหรอ! ราคานี้คุ้มมากเลยนะ งั้นขอข้าวต้มหนึ่งถ้วยกับผัดผักรวมใส่กุ้งหนึ่งจานครับ"
เสี่ยวหนานรีบตักอาหารให้ลูกค้าอย่างคล่องแคล่ว
"ได้เลยค่ะ รอสักครู่นะพี่ชาย ซุปหัวปลาร้อน ๆ ในหม้อตักเองได้เลยนะคะ ไม่คิดเงินค่ะ ไม่อิ่มก็ตักเพิ่มได้"
พอลูกค้าคนอื่น ๆ ได้ยินแบบนั้นก็เริ่มทยอยเข้ามาไม่ขาด เสียงชมเชยถึงรสชาติอาหารของเสี่ยวหนานดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง พอ ๆ กับเสียงเลื่องลือถึงราคาอาหารที่แสนถูก แถมยังมีน้ำแกงให้ซดแบบไม่อั้น นี่มันข้าวแกงขวัญใจคนงานชัด ๆ
"อร่อยมากเลยครับ ข้าวต้มรสชาติเข้มข้น เครื่องเยอะด้วย"
"ผัดผักรวมใส่กุ้งก็อร่อยไม่แพ้กันเลย"
"ขอบคุณนะพี่ชาย ครั้งหน้าแวะมาใหม่นะคะ กับข้าวร้านเราสับเปลี่ยนไม่ซ้ำกันแน่นอนค่ะ"
เสี่ยวหนานยิ้มอย่างมีความสุขที่ลูกค้าชื่นชอบอาหารของเธอ แม้คนจะยังไม่ค่อยรู้จักแต่ก็เป็นผลลัพธ์ที่ดีเกินคาด
เมื่อสือซานมาถึงร้าน เขาพบว่าภรรยาและแม่ของเขากำลังยุ่งอยู่กับการตักอาหารให้ลูกค้า เขาเลยรีบเข้าไปช่วยเก็บโต๊ะและจัดการกับลูกค้าที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง
"เสี่ยวหนาน ผัดผักใส่กุ้งกับปลาหมึกผัดไข่เค็มเริ่มร่อยหรอแล้วนะ" สือซานกล่าว
"ค่ะพี่สือซาน เดี๋ยวฉันจะรีบทำอาหารขึ้นมาอีก 2 อย่าง พี่ช่วยแม่รับลูกค้าด้วยนะ บอกจื่ออันกับพี่ใหญ่เข้ามาช่วยฉันในครัวหน่อย"
"ได้เลย"
สือซานพยักหน้ารับแล้วหันไปช่วยมารดาที่กำลังตักอาหารให้ลูกค้า
"เสี่ยวหนาน น้องจะให้พี่กับจื่ออันทำอะไรบ้าง ว่ามาได้เลย?"
ซูจื่อเหิงกับซูจื่ออันรีบเข้าไปช่วยเสี่ยวหนานอย่างกระตือรือร้น
"ฉันจะทำหมูผัดพริกหวาน พี่มายืนคนกระทะนี้ให้ฉันนะ ส่วนจื่ออันมายืนเคี่ยวซอสกระทะนี้ พี่จะทำปลาทอดราดซอสเปรี้ยวหวาน"
"ได้เลยพี่เสี่ยวหนาน/ได้"
เสี่ยวหนานเห็นว่าเนื้อปลาชุบแป้งทอดที่เธอเตรียมไว้ยังเหลืออยู่หนึ่งถาด เธอจึงตั้งกระทะเคี่ยวซอส โชคดีที่มีพี่ชายกับน้องชายมาช่วย เธอจึงให้ทั้งสองยืนอยู่หน้าเตาคอยผัดอาหาร ส่วนเธอก็เดินปรุงกระทะนั้นทีกระทะนี้ทีจนเสร็จ
เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับเมนูอาหารของร้าน
ในขณะที่เสี่ยวหนานกำลังเตรียมอาหารใหม่ ลูกค้าก็ยังคงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง พ่อค้าแม่ค้าใหม่อย่างบ้านโจวก็ลนลานจนทำอะไรไม่ถูกแต่บรรยากาศในร้านเต็มไปด้วยความคึกคักและเสียงหัวเราะ เพราะคนงานส่วนใหญ่ก็เป็นคนในหมู่บ้านและเป็นที่รู้จักกันทั้งหมด
"ร้านนี้อาหารอร่อยจริงๆ แถมราคาก็ไม่แพงด้วย"
"ใช่ ให้ข้าวเยอะด้วยนะ ผมคงต้องฝากท้องไว้ที่นี่ทุกวันเลย"
เสี่ยวหนานได้ยินเสียงชมเชยจากลูกค้า เธอรู้สึกภูมิใจและมีความสุขที่ความพยายามของเธอได้รับการตอบรับอย่างดี
เมื่ออาหารใหม่เสร็จเรียบร้อย เสี่ยวหนานก็นำออกมาเสิร์ฟให้ลูกค้า
"หมูผัดพริกหวานกับปลาทอดราดซอสเปรี้ยวหวานมาแล้วค่ะ พี่สือซานตักข้าวให้พ่อกับพี่ ๆ เขาด้วยนะ กินข้าวเสร็จก่อนค่อยกลับไปพักผ่อน"
สือซานพยักหน้าแล้วเรียกเพื่อน ๆ คนงานในเรือมายกอาหารไปที่โต๊ะ แล้วนั่งล้อมวงกินพร้อมกัน
"อื้อ ซอสฉ่ำ ๆ แต่เนื้อปลากรอบนอกนุ่มใน พี่สาวผมทำกับข้าวอร่อยมากเลย ผมไม่ยักจะรู้มาก่อนว่าพี่เสี่ยวหนานทำกับข้าวอร่อยขนาดนี้"
จื่ออันพูดขึ้นระหว่างที่นั่งกินอาหารร่วมกับทุกคน
"อร่อยก็กินเยอะ ๆ สิจื่ออัน ก่อนกลับบ้านพวกเรามากินข้าวที่นี่ทุกวันก็ได้นะ" สือซานบอกทุกคน
"ไม่ดีหรอกมั้งสือซาน มากินเปล่า ๆ แบบนี้เดี๋ยวนายก็ขาดทุนพอดี" เจียงเฉิงเพื่อนสนิทของสือซานกล่าวด้วยสีหน้าเป็นกังวล
"เอาน่า...ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของค่าแรง"
สือซานตอบสหาย แต่ลึก ๆ แล้วเขาก็อยากให้ร้านที่เปิดใหม่แห่งนี้มีผู้คนเข้าออกไม่ขาดสาย จะได้เป็นจุดเด่นให้ผู้คนสนใจ
"กินเถอะไม่ต้องกังวล เดี๋ยวพ่อจ่ายให้เอง" คำพูดของพ่อโจวถึงจะเป็นสิ่งที่ลูกเรือฟังแล้วสบายใจที่สุด
"ขอบคุณครับไต้ก๋ง/ขอบคุณครับลุงโจว"
สีหน้าของผู้อาวุโสเต็มไปด้วยความอิ่มเอมใจที่เห็นจุดเริ่มต้นของลูก ๆ เป็นไปด้วยดี แม้จะไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะเป็นยังไง แต่ก็คุ้มที่ได้ลงมือทำ
ช่วงสายของวัน เสี่ยวหนานยกมือปาดเหงื่อจากหน้าผาก เธอหันไปหาสามีที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ไม่ยอมห่างไปไหน
"พี่สือซาน พี่กลับไปนอนพักเถอะ ไม่ต้องห่วงงานที่ร้าน ฉันจะทำเท่าที่ทำไหว" น้ำเสียงเจือความห่วงใยอย่างเห็นได้ชัด
"ไม่เอา ฉันนอนที่ร้านนี่แหละ ตอนเที่ยงจะได้ลุกมาช่วยได้ทัน" เสี่ยวหนานถอนหายใจอย่างรู้แพ้
"งั้นหน่วนหน่วนพาพ่อไปดูที่นอนในห้องนะ เสร็จแล้วหนูค่อยออกมานั่งขายของกับแม่"
เธอพูดขณะก้มลงหยิบกะละมังผักอีกใบมาเตรียมล้าง
"จ้ะแม่จ๋า พ่อตามหน่วนหน่วนมา เฮ้อ...ดื้อจริง ๆ"
"ครับลูกสาว"
สือซานตอบเสียงเบา ก่อนจะเดินตามลูกสาวตัวน้อยเข้าไปด้านในและทรุดตัวลงนอน ม้วนแขนเสื้อหนุนศีรษะแล้วหลับไปอย่างรวดเร็ว
