บท
ตั้งค่า

หนังสือตัดขาด

เมื่อเห็นว่าผู้นำหมู่บ้านเอาจริงและเริ่มจะเดินกลับไปที่เรือน ต้าหลางก็ดึงแขนเสื้อของไห่ซื่อ และส่งสายตาให้นางยอมคืนไป

“ช้าก่อน ข้าจะลองไปหาดูว่ามีหรือไม่” นางไห่ซื่อรีบร้อนกลับเข้าไปในเรือนของนาง ก่อนไปยังส่งสายตาอาฆาตมามองจิ่วเม่ยอีกด้วย

แต่มีหรือที่นางจะยอมคืนทั้งหมดที่ยึดมาได้ นางไห่ซื่อนำเงินเพียงสามสิบตำลึงเงินและโฉนดเรือน โฉนดที่ดินมาโยนให้จิ่วเม่ยเท่านั้น

ป้าหวงภรรยาผู้นำหมู่บ้านเดินเข้ามาตรวจดูสินเดิมของจิ่วเม่ยก็ร้องโวยวายออกมา

“รังแกเกินไปแล้ว เจ้าคืนมาเพียงแค่สามสิบตำลึงได้อย่างไร”

“ได้ เช่นนั้นก็นำเรื่องไปแจ้งทางการเสีย” เสียงชาวบ้านเริ่มด่าทอสองสามีภรรยาออกมา

ต้าหลางที่ทนอับอายไม่ไหว วิ่งเข้าไปในเรือนแล้วนำเงินออกมาให้จิ่วเม่ยจนครบ

“หมดเงินแล้วอย่าได้มาร้องขอความช่วยเหลือจากข้าอีก” ไห่ซื่อกรีดร้องออกมา

ที่ต้าหลางกับไห่ซื่อยอมตัดขาดกับสองแม่ลูกง่ายเพียงนี้ เพราะข่าวของชุยเต๋อขาดหายไปได้เกือบสองเดือนแล้ว ทั้งสองจึงคิดว่าชุยเต๋อตายตกในสนามรบไปเรียบร้อยแล้ว

จึงไม่คิดอยากจะเก็บสองแม่ลูกไว้ในเรือนให้เปลืองข้าวเปลืองน้ำ ระหว่างที่กำลังคิดหาวิธีเพื่อขับไล่ ทั้งยังยึดสินเดิมไว้ด้วย จิ่วเม่ยที่สงบปากสงบคำก็โวยวายเรื่องบุตรสาวของนางออกมาเสียก่อน

ชาวบ้านที่ได้ยินเรื่องที่นางสาธยายความเลวร้ายตลอดสองปีที่ได้รับออกมาก็รีบไปเรียกผู้นำหมู่บ้าน ด้วยเห็นนางไห่ซื่อคว้าไม้ทุบตีจิ่วเม่ยอยู่ด้วย

ผู้นำหมู่บ้านรีบเขียนหนังสือตัดขาดทันที พร้อมทั้งเขียนของชุยเต๋อออกมาด้วยอีกฉบับ เขาจึงเชื่อว่าคนดีเช่นชุยเต๋อจะไม่ตายตกไปอย่างง่ายดายแน่นอน

จิ่วเม่ยกับชุยเต๋อจึงได้มาใช้แซ่ของมารดาชุยเต๋อคือ แซ่ซู เรื่องนี้นับว่าสร้างแปลกใจให้ซูเจินที่นอนนิ่งฟังเรื่องราวต่างๆ อยู่ไม่น้อย

เพราะตัวนางก็แซ่ซู นามเจิน มาภพใหม่ยังได้ใช้ชื่อแซ่เดิมอีก ซูเจินนางผนวกเรื่องราวทั้งหมดได้แล้ว นางข้ามมิติมาอยู่ในยุคโบราณในร่างของเด็กทารกที่มีความทรงจำเดิมอยู่ครบถ้วน

หมู่บ้านที่นางอยู่ คือ หมู่บ้านตงหยาน เมืองเหอหนาน แคว้นต้าเยี่ยน เหมือนว่านางอยู่ที่ป่าของเหอหนาน เพียงย้อนกลับมาในพันปีที่แล้ว

จิ่วเม่ยมีชาวบ้านช่วยเก็บของของนางพากลับไปที่เรือนเดิมที่อยู่ท้ายหมู่บ้าน ข้าวของของนางมีไม่มาก เก็บไม่ถึงเค่อ (1เค่อ = 15 นาที) ก็เสร็จเรียบร้อย

เรือนของท่านปู่ท่านย่าของนางที่ท้ายหมู่บ้านมิได้ทรุดโทรมทั้งยังมีห้องมากถึงห้าห้อง นางไห่ซื่อจึงอยากได้มาครอบครองมากนัก นางอยากยกให้ชุยฟงบุตรชายของนาง ที่ปีหน้าก็จะต้องลูกสะใภ้เข้าเรือนแล้ว แต่ก็ต้องคืนให้จิ่วเม่ยไปเสียก่อน

“ขอบคุณทุกท่านมากเจ้าค่ะ บุญคุณที่ช่วยข้าในครั้งนี้ ข้าจะไม่ลืมเจ้าค่ะ” จิ่วเม่ยคุกเข่าลงต่อหน้าชาวบ้าน เมื่อพวกเขามาส่งนางที่เรือน

“นับว่าสวรรค์เมตตาเจ้าแล้วอาเม่ยที่หลุดพ้นแม่สามีเช่นนั้นมาได้ เมื่ออาเต๋อกลับมาพวกเจ้าก็จะอยู่เป็นครอบครัวเสียที” ป้าหวงเอ่ยออกมาอย่างเห็นใจ

“ข้าก็หวังเช่นนั้นเจ้าค่ะ” นางปาดน้ำตา ร้องไห้ออกมาเงียบๆ

ซูเจินอดจะสงสารมารดาคนใหม่ของนางไม่ได้ ที่มีชีวิตรันทดเช่นนี้ นางทำได้แต่ยกมือน้อยกำไปที่อกเสื้อของนาง

“โอ้ เจินเออร์หิวแล้วหรือ” เป็นป้าหวงที่เอ่ยออกมา

มือเล็กๆ ที่กำสาบเสื้อของมารดาอยู่แทบจะคลายออกทันที นางอุตส่าห์เป็นห่วง แต่คิดไปว่านางหิวได้อย่างไร

จิ่วเม่ยส่งเงินให้ผู้นำหมู่บ้านแปดสิบตำลึงเงิน เพื่อให้เขาจัดการเรื่องซื้อที่ดินเพิ่มให้นาง เพราะนางคิดว่าหากเงินอยู่ที่ตัวนางมากเกินไปนางไห่ซื่อคงได้ตามมาหาเรื่องอีกแน่นอน

“อาเม่ย เจ้าอย่าได้กังวล ข้าเขียนในหนังสือตัดขาดอย่างชัดเจน หากเรือนตระกูลชุยยังมาสร้างความวุ่นวายกับพวกเจ้าสองแม่ลูกอีก พวกเขาจะต้องจ่ายเงินให้พวกเจ้าร้อยตำลึงเงิน ไม่เช่นนั้นก็ให้ทางการจัดการ”

“แต่ข้าก็ยังไม่วางใจเจ้าค่ะ” นางผลักเงินกลับไปให้ผู้นำหมู่บ้าน

เพราะตลอดสองปีที่ผ่านมานางรู้ถึงความร้ายกาจของนางไห่ซื่อไม่น้อย ยิ่งบ้านเดิมของนางที่อยู่อีกหมู่บ้าน ยิ่งน่ากลัวกว่านางมากนัก

สายตาของน้องชายนางที่มาขอเงินพี่สาวที่มองจิ่วเม่ยทุกครั้ง ทำให้นางอกจะขนหัวลุกไม่ได้

“เช่นนั้นก็ตามใจเจ้า ข้าจะจัดการเรื่องที่ดินให้พรุ่งนี้เลย ที่นาที่ติดกับผืนของเจ้าก็ยังว่างอยู่ นางยังเหลือก็ซื้อที่ติดเรือนไว้ เมื่ออาเต๋อกลับมาจะได้ปลูกผักไว้ขายได้” ผู้นำหมู่บ้านเอ่ยฝากให้เรือนที่อยู่ด้านข้างของจิ่วเม่ยช่วยเป็นหูเป็นตาดูแลสองแม่ลูกก่อนที่จะกลับเรือนไป

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel