บท
ตั้งค่า

ถูกเสี่ยวมี่จัดการ

เสียงร้องของไห่กวงที่วิ่งจากท้ายหมู่บ้านไปจนเรือนของตระกูลชุยที่กลางหมู่บ้าน ปลุกให้ชาวบ้านที่ต่างเข้านอนไปแล้วลุกขึ้นออกมาดูอย่างสงสัย

“นั่นมันน้องชายนางไห่ซื่อมิใช่หรือ” หนึ่งในชาวบ้านที่ออกมาดูมองไปที่ไห่กวงที่วิ่งผ่านหน้าไป

“มาทำอันใดยามนี้” พวกเขาต่างเดินตามไปอย่างสงสัย

“ท่านพี่ ท่านพี่ เปิดประตูเร็วเข้า” ไห่กวงตะโกนร้องเรียกพี่สาวอยู่ที่หน้าเรือน

นางไห่ซื่อลุกขึ้นมาจากเตียงอย่างแปลกใจ นางคุยกับน้องชายไว้แล้วว่า พรุ่งนี้นางจะพาชาวบ้านไปที่เรือนของจิ่วเม่ย เพื่อให้พวกเขาเห็นกับตา ว่าทั้งคู่ลอบนัดพบกัน

“นั่นเสียงอากวงมิใช่รึ” ต้าหลางลุกตามเมียขึ้นมานั่ง ก่อนที่จะเดินออกจากเรือนเพื่อไปดู

พอเปิดประตูเรือนเท่านั้น นางไห่ซื่อก็กรีดร้องออกมา เมื่อเห็นผึ้งบินอยู่รอบตัวน้องชาย ใบหน้าของเขาเริ่มจะบวมเป็นหัวหมูแล้ว

เสี่ยวมี่เห็นนางไห่ซื่อ ก็สั่งให้ผึ้งที่บินล้อมไห่หวง บินไปต่อยที่ปากของนางทันที

“โอ๊ยยย” นางไห่ซื่อกรีดร้องออกมาอย่างเสียขวัญ ทั้งปัดป้องและวิ่งหนีเข้าไปหลบอยู่ในเรือน

“เกิดเรื่องอันใดขึ้น” ชาวบ้านไปตามลุงหวงที่เป็นผู้นำหมู่บ้านมา เพราะไห่กวงไม่ใช่คนในหมู่บ้าน หากเกิดเรื่องร้ายกับเขาย่อมไม่ดี อีกอย่างเขาอยากจะรู้ว่าไห่กวงมาทำอะไรที่หมู่บ้านในตอนมืดค่ำเช่นนี้

ชาวบ้านมองตามฝูงผึ้งไปอย่างประหลาดใจ เพียงแค่ลุงหวงมาถึง ก็หนีหายไปเสียแล้ว ต่างมองเขาอย่างชื่นชม คนที่เพิ่งมายังไม่รู้เรื่องแต่ได้รับสายตาเช่นนี้ถึงกับกระอักกระอ่วนใจเลยทีเดียว

แต่ก่อนที่จะมีผู้ใดเอ่ยเล่าสิ่งที่เห็นให้หัวหน้าหมู่บ้านได้รู้เรื่องราว ต่างก็ต้องไปตามตัวหมอมาดูอาการของสองพี่น้องเสียก่อน เพราะไห่กวงหมดสติไปเสียแล้ว

“ไปทำอันใดมา ถึงได้โดนผึ้งต่อยมากมายเช่นนี้” ท่านหมอซง ได้แต่ส่ายหน้า เขาเป็นเพียงหมอเท้าเปล่าที่มีความรู้เล็กน้อยเท่านั้น ได้แต่ส่ายหน้าและให้ส่งไห่กวงเข้าไปหาหมอในเมืองแทน

ซิ่วอิงแอบมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ที่ห้องของนางอย่างหวัดกลัว ยิ่งเห็นปากของมารดา นางก็อดที่จะสั่นสะท้านไม่ได้ พอผึ้งบินเข้ามาใกล้ นางก็กรีดร้องแล้วกลับเข้าไปอยู่ในห้องแทน

ต้าหลางจำต้องเช่าเกวียนวัวของชาวบ้าน แล้วรีบพาสองพี่น้องเข้าไปในเมืองทันที

ชาวบ้านที่เห็นไห่กวงวิ่งมาจากท้ายหมู่บ้านก็บอกเรื่องที่ตนรู้ให้ลุงหวงฟัง ลุงหวงรีบเดินไปที่ท้ายหมู่บ้านเพื่อดูว่าเกิดเรื่องกับจิ่วเม่ยและบุตรสาวหรือไม่ เพราะไห่กวงเป็นน้องชายของไห่ซื่อ ชื่อเสียงของเขาก็ไม่ค่อยจะดีนัก

จิ่วเม่ยสะดุ้งตื่นอีกครั้ง เมื่อได้ยินเสียงร้องเรียกอยู่ที่หน้าเรือน นางตบหลังของซูเจินที่สะดุ้งตื่นเช่นกันให้นางนอนต่อ ก่อนจะลุกออกไปดูผู้ที่มาเยือน

“มีเรื่องอันใดเจ้าคะ” เมื่อเปิดประตูเรือนออกไปจิ่วเม่ยก็ต้องประหลาดใจ เพราะมีชาวบ้านจำนวนไม่น้อยที่อยู่หน้าเรือนของนาง

“เจ้าเป็นอันใดหรือไม่” ลุงหวงเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง

“ไม่เจ้าค่ะ” จิ่วเม่ยทำหน้ามึนงง นางไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ลุงหวงถึงได้ถามนางเช่นนี้

“ชาวบ้านเห็นไห่กวงวิ่งมาจากท้ายหมู่บ้าน หากเจ้าไม่เป็นอันใดก็ดีแล้ว”

จิ่วเม่ยเบิกตากว้าง ตัวของนางสั่นสะท้านออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ เมื่อได้ยินว่าไห่กวงวิ่งจากท้ายหมู่บ้านไปที่เรือนของพี่สาวเขา

“จริงหรือเจ้าคะ เมื่อครึ่งชั่วยามได้ ข้าได้ยินเสียงร้องที่หน้าเรือน แต่พอออกมาดูกลับไม่พบสิ่งใด ข้าจึงได้กลับไปนอนต่อ”

ลุงหวงใบหน้าเคร่งเครียดขึ้น เมื่อได้ยินสิ่งที่จิ่วเม่ยบอก แสดงว่าไห่กวงมาที่เรือนของนางจริง หากไม่ถูกฝูงผึ้งต่อยเข้าเสียก่อน ไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับสองแม่ลูก

“ไม่มีเรื่องอันมดแล้ว เจ้ากลับเข้าเรือนเถิด ไป ไปแยกย้ายไปพักผ่อน พรุ่งนี้ยังต้องทำนาอีก” ลุงหวงโบกมือไล่ทุกคน เขาไม่อยากให้จิ่วเม่ยกังวลมากกว่าเดิม

ต้องรอให้ไห่กวงกับนางไห่ซื่อหายดีเสียก่อน ค่อยสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้นอีกครั้ง แต่เขาก็พอจะรู้คำตอบอยู่แล้ว ว่าสองพี่น้องไม่มีทางพูดความจริงอย่างแน่นอน

กว่าต้าหลางจะนำเกวียนกลับมาคืนก็เกือบสายแล้ว นางไห่ซื่อปากบวมเป่งจนพูดไม่เป็นภาษา นางหลบอยู่แต่ในห้องไม่กล้าออกมาเพราะอับอายชาวบ้านคนอื่น

ส่วนไห่กวงตอนนี้ยังต้องอยู่ที่โรงหมอ ไม่อาจพากลับมาด้วยได้ แม้ไม่มีอาการร้ายแรง แต่ใบหน้าของเขาก็บวมจนดูไม่ออกว่าเป็นผู้ใด

ตอนเช้าซูเจินนางยังตามมารดาไปนอนที่ใต้ต้นไม้ข้างนาเช่นเดิม เสี่ยวมี่เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้นางฟังอย่างสนุกสนาน

เสียงหัวเราะของเด็กน้อยดังไปทั่วจนชาวบ้านที่กำลังทำนาต่างพากันยิ้มตาม จิ่วเม่ยและคนอื่นเริ่มจะชินเสียแล้ว ที่เห็นราวแมลง นก บินวนอยู่ใกล้ๆ กับซูเจิน

ในตอนแรกก็หวาดกลัวว่าจะเกิดอันตรายแต่หลายวันเข้าเห็นว่าไม่เป็นอันใด จึงได้วางใจลง ทำงานของพวกนางต่อ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel