บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 มาขอเงินที่บ้าน

ในความทรงจำ จุดไฟเติมฟืน ซักผ้า ล้างจาน ทำความสะอาดลานบ้าน นี้ล้วนเป็นงานของสองพี่น้องที่อายุเพียงหกขวบเท่านั้น

แต่ซูหงซานจะมาให้พวกเขาทำสิ่งเหล่านี้อีก

เพิ่งหกขวบเอง เด็กที่เล็กขนาดนี้ควรจะโปรดปรานต่างหาก จะให้พวกเขาทำงานได้ที่ไหนล่ะ

หากไม่ใช่ว่าวันนี้ลมแรง ไฟดับง่าย นางก็คงไม่ให้เด็กสองคนมาเฝ้าเตาไฟให้หรอก

ซูหงซานนวดแป้งอย่างรวดเร็ว ตอนที่นวดแป้งก็นึกถึงเรื่องก่อนที่จะทะลุมิติ นางเป็นคนโง่ แม่สามีบอกว่าการที่จะมัดหัวใจชาย ต้องมัดด้วยเสน่ห์ปลายจวักก่อน นางก็เลยฝึกฝนฝีมือการทำอาหารอย่างเดียว ไม่ไปถามเรื่องบนธุรกิจใดๆอีก

พอคิดจากตอนนี้แล้ว แม่สามีน่าจะไม่อยากให้นางไปขัดขวางลูกชายของนางแย่งชิงทรัพย์สมบัติของบ้านนาง

"เชอะ......"

ซูหงซานอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะออกมา

สองพี่น้องที่กำลังเฝ้าเตาไฟอยู่นั้นก็มองหน้าเข้าหากัน รู้สึกว่าวันนี้หญิงร้ายคนนี้ผิดปกติมาก โดยเฉพาะเมื่อกี้นี้นางหัวเราะอยู่ แถมยังหัวเราะอย่างแปลกเช่นนี้

แต่ก็ช่างเถอะ ขอให้นางไม่ตีพวกเขา เดี๋ยวสามารถให้พวกเขากินขนมปังข้าวโพดคนละอันก็พอ

ส่วนบะหมี่?

พวกเขาไม่กล้าฝันถึง

ซูหงซานไม่รู้ความคิดของพี่น้องสองคนนี้ นางส่ายหน้าไม่ไปคิดสิ่งเหล่านี้อีก

ยังไงก็ทะลุมิติแล้ว ก่อนจะตายนางก็ได้เผาไอ้ครอบครัวน่าขยะแขยงบ้านนั้น ก็ถือว่าแก้แค้นให้ตัวเอง

ชีวิตนี้ได้มาแบบฟรีๆ งั้นนางก็จะใช้ชีวิตให้ดี

ไม่นานบะหมี่ก็ลงหม้อ ซูหงซานใช้โอกาสที่ต้มบะหมี่อยู่ ไปเด็ดต้มหอมสองสามดอกและล้างด้วยน้ำฝนในอ่าง จากนั้นเอาไปหั่น

สักครู่หนึ่งเอง บะหมี่หม้อหนึ่งก็เสร็จแล้ว กลิ่นหอมทำให้สองพี่น้องที่เดิมก็หิวมากนั้นท้องร้องยิ่งกว่าเดิม และหลั่งน้ำลายออกอย่างต่อเนื่อง

ซูหงซานก็หิวแล้ว ได้ดมกลิ่นหอมของบะหมี่ก็ปรากฏรอยยิ้ม

ตักบะหมี่ออกมา โปรยด้วยต้มหอมและเกลือป่น หยดน้ำมันหยดหนึ่ง เห็นว่าเด็กสองคนยังยืนโง่ๆอยู่หน้าเตาไฟ ก็พูดด้วยรอยยิ้ม

"ยังอึ้งทำอะไรอยู่?รีบๆมากินสิ"

เด็กสองคนเงยหน้าขึ้นอย่างงง มองซูหงซานด้วยความเหลือเชื่อ รู้สึกว่าพวกเขาได้ยินผิดแน่นอน นางให้พวกเขากินบะหมี่เลยหรือ?

เด็กสองคนไม่มีใครกล้าขยับตัว

ซูหงซานกำลังจะโบกมือเรียกอีก ก็เห็นว่าพวกเขาสกปรกมาก มือคู่นั้นยิ่งดำสนิทเข้าไปอีก จึงขมวดคิ้วและวางชามลงพร้อมพูดว่า

"ไปล้างมือก่อนค่อยมากินเถอะ"

เด็กสองคนยังคงไม่ขยับ

ซูหงซานเลยไปดึงมือเด็กสองคน และตากฝนไปถึงหน้าประตู ล้างมือในอ่างน้ำหน้าประตู และล้างหน้าให้ แถมยังใช้ผ้าเช็ดหน้าที่สะอาดเพียงอันเดียวเช็ดให้สะอาด

ถึงแม้เด็กสองคนดูผอมและตัวเล็ก แต่หน้าตาดูดีมาก นางจึงยิ้มด้วยความพอใจ

"คิ้วหนา ดวงตาโต จมูกโด่ง น่ารักมากเลย แต่ผอวไปหน่อย ทีหลังต้องกินเยอะๆนะ เด็กต้องดูมีเนื้อหน่อยถึงจะน่ารัก......พอแล้ว เรารีบไปกินบะหมี่กันเถอะ"

คำพูดนี้ทำให้เด็กสองคนตกใจจนทำอะไรไม่ถูก มองนางอย่างอึ้ง

ไม่รอให้พวกเขามีปฏิกิริยาอะไร ซูหงซานก็ดึงพวกเขาเข้าไปในห้องครัวอีก วางบะหมี่สองชามต่อหน้าพวกเขาตามลำดับ

"รีบๆกินเถอะ ไม่งั้นเดี๋ยวเป็นก้อนแล้วจะไม่อร่อยนะ"

ระหว่างที่พูดก็กินเองก่อน

นางหิวจริง กินไผหลายคำอย่างต่อเนื่อง ถึงรู้สึกว่าในกระเพาะมีของบางอย่าง สบายขึ้นมาหน่อย

เด็กสองคนนี้เห็นบะหมี่ขาวข้างหน้านี้ ในที่สุดก็ทนไม่ได้ ยัดเข้าปากอย่างรวดเร็ว

ซูหงซานกินหมดชามหนึ่ง ก็ไแตักอีกชาม เห็นว่าเด็กสองคนก็กินหมด ก็รีบตักให้พวกเขาคนละชามอีก

ครั้งนี้ เด็กสองคนได้ชิมความอร่อย ก็ไม่กลัวอีก ล้วนเห็นกับตาว่าซูหงซานตักบะหมี่ พอตัดเสร็จแล้วก็ยัดเข้าปากอย่างรวดเร็ว

ซูหงซานเห็นว่าพวกเขากินอย่างดีใจ ตัวเองก็ดีใจเช่นกัน

แต่ในเวลานี้ กลับมีเสียงดังขึ้นมาจากหน้าประตู

"ซูต้าญา เจ้าออกมาสิ เอาเงินของเดือนนี้มาให้สิ ล่าช้าไปสองวันแล้ว ถ้าไม่ให้เงินอีก พวกเราก็จะไล่น้องชายของเจ้าออกจากบ้าน"

ซูหงซานที่กำลังกินบะหมี่อยู่นั้นขมวดคิ้ว นึกได้แล้วว่าผู้หญิงคนนี้คือใคร

ก็คืออาสะใภ้รองของเจ้าของร่างเดิม ทุกเดือนล้วนจะมาขอเงินรอบหนึ่ง

ว่าแต่ พูดว่าเจ้าของร่างเดิมขายให้กับหานต้าจ้วงยังดีกว่าที่พูดว่าแต่งงานให้กับหานต้าจ้วงเลย

นางถูกหานต้าจ้วงใช้หมูตัวหนึ่งแลกมา

เจ้าของร่างเดิมชื่อว่าซูต้าญา เป็นในตระกูลซูที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน เป็นลูกสาวคนโตของตระกูลซู

แต่สองปีก่อน ท่านพ่อของซูต้าญาไปล่าสัตว์บนภูเขาแล้วตกลงมาจนตาย จากนั้นไม่กี่เดือนเอง ท่านแม่ก็เสียชีวิตเพราะคนในตระกูลซู

เหลือแต่ซูต้าญาและน้องชายของนางซูสือโถวอยู่กันสองคนในตระกูลซู อยู่กันในชีวิตแบบไหนยิ่งไม่ต้องไปพูดถึง

ไม่นาน ซูต้าญาก็ถูกคนในตระกูลซูขายให้กับนักล่าในหมู่บ้านเดียวกันหานต้าจ้วงเป็นเมียในราคาหมู่หนึ่งตัว

ไม่มีสินสอด ไม่มีสินเดิม ไม่มีคำอวยพรจากญาติพี่น้อง นางถูกส่งมายังตระกูลหานด้วยเสื้อผ้าที่ขาดรุ่งริ่งเท่านั้น

ตามหลักแล้วซูต้าญาแต่งงานออกไป ควรจะมีชีวิตเป็นของตัวเองแล้วเนอะ

แต่คนในตระกูลซูกลับใช้ซูสือโถวมาขู่นาง บังคับให้ซูต้าญาต้องให้ตระกูลซูเดือนละห้าร้อยเหรียญทองแดง ไม่งั้นก็ไม่ให้ซูสือโถวกินข้าว แถมยังจะทิ้งซูสือโถวไปบนภูเขาเป็นอาหารหมาป่า

ซูต้าญาเป็นคนที่รังแกคนที่อ่อนแอกว่าแต่กลัวคนที่แข็งแรงกว่า รังแกลูกเลี้ยงในตระกูลหาน แต่กลับกลัวคนในตระกูลซูจากใจ และเป็นห่วงลูกชายเดียวที่พ่อแม่เหลือไว้ด้วย เลยต้องให้เงินแก่คนในตระกูลซูทุกเดือน

ดีที่หานต้าจ้วงเป็นคนเก่ง ล่าสัตว์เป็น เงินก็ไม่เคยที่จะขาดตระกูลซูเลย

แต่เดือนนี้ ถึงวันที่ควรให้เงินแล้ว แต่กลับฝนตกหนักติดต่อกันสองวัน

พอไม่ค่อยจะมีฝนแล้ว อาสะใภ้รองโจวซื่อของที่บ้านก็มาขอเงินแล้ว

"ซูต้าญา ซูต้าญา......"

ได้ยินโจวซื่อตะโกนเดินเข้ามาในลานบ้าน ซูหงซานขมวดคิ้วอย่างแน่น มีความรังเกียจพาดผ่านในสายตา นางไม่ใช่เจ้าของร่างเดิม ปล่อยให้คนในตระกูลซูทำอะไรก็ได้

"พวกเจ้าซ่อนอยู่ในข้างล่างของเขียง อย่าออกมานะ"

ซูหงซานสั่งเสร็จก็รีบออกไป

นึกถึงลักษณะที่เจ้าของร่างเดิมเผชิญกับโจวซื่อ ออกจากบ้านเห็นถึงคนที่มา ซูหงซานยิ้มปลอมๆแล้วพูดว่า"เหตุใดอาสะใภ้ถึงมสในวันนี้ล่ะ?มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?"

"ซูต้าญา เจ้าอย่ามาทำเป็นเนียนที่นี่ เงินของเดือนนี้ล่ะ?"

ซูหงซานรู้สึกรังเกียจ แต่กลับยิ้มออกมา"อาสะใภ้ เจ้าสามารถให้เวลาอีกหน่อยไหม สามีของข้าขึ้นเขาไปแล้ว ฝนตกหนักก็ไม่ได้กลับมา ไม่มีเงินให้จริงๆเลย"

เจ้าของร่างเดิมมีเงินอยู่ในมือ หานต้าจ้วงล่าสัตว์ก็ได้เงินหน่อยนึง ให้ตระกูลซูส่วนหนึ่ง ส่วนเจ้าของร่างเดิมก็เหลืออยู่ส่วนหนึ่ง

แต่ซูหงซานไม่อยากให้คนของตระกูลซู

นางมองได้อย่างชัดเจน ตระกูลซูเป็นฝีดูดเลือดกันทั้งนั้น ใช้น้องชายของนางเป็นการขู่ อยากจะให้นางเอาเงินให้พวกเขาใช้จ่ายตลอด

แต่หานต้าจ้วงไม่อยู่ คนในตระกูลซูเพียงผู้ชายเท่านั้นก็มีเจ็ดแปดคน ตอนนี้นางจะเถียงกับโจวซื่อไมาเป็นไร แต่ถ้าโจวซื่อกลับไปให้ผู้ชายเจ็ดแปดคนของตระกูลซูล้วนมาที่บ้าน นางจัดการไม่ได้หรอก

"อย่ามาทำเป็นน่าสงสารที่นี่ ตระกูลซูของเราไม่เลี้ยงคนที่กินฟรีอยู่ฟรี ไม่งั้นก็เอาเงินมาให้ ไม่งั้นพวกเราก็จะไล่น้องชายของเจ้าออกไปจากบ้าน!"

ระหว่างที่พูดโจวซื่อก็เข้าไปในห้อง เตรียมจะไปหาเงินเองในห้อง

แต่เพิ่งเดินสองก้าว อยู่ๆก็ได้ดมกลิ่นหอมของบะหมี่ที่อยู่ในอากาศ"ไม่มีเงินยังทำของอร่อยๆอีกหรือ?"นางไม่พูดอะไรเดินตรงไปที่ห้องครัว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel