2
แต่ยังไม่ทันพ้นขอบฟูก แขนแข็งแรงของคิรันท์ก็คว้าร่างเธอกลับมาพร้อมกับน้ำเสียงเด็ดขาด
“จะหนีไปไหน”
ตึง! เธอสะดุ้งเฮือกเมื่อแผ่นหลังกระแทกกับเตียงอีกครั้ง ร่างสูงกว่าทาบทับลงมาชิด พละกำลังต่างกันลิบลับ
และที่สำคัญ... ผ้าขนหนูของเขาหลุด...!
เธอกับเขาเปลือยทั้งคู่ ลมหายใจของเขาร้อนระอุใกล้ใบหู สายตาคมกริบจ้องมองเธอราวกับจะกลืนกินอีกครั้ง
“อย่าหนีนะ เล่ามาซะดีๆ ว่าเป็นใครมาจากไหน ทำไมถึงโดนวางยา แล้วก็มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง” เสียงทุ้มพร่าแต่จริงจัง ทำเอาหัวใจเธอสั่นสะท้าน
หญิงสาวเม้มปากแน่น ก่อนจะเล่าเรื่องทั้งหมดด้วยเสียงสั่นๆ
“พ่อของหนูเสียชีวิตแล้วค่ะ แม่เลี้ยงพาหนูมาที่นี่ หลอกว่าจะพาไปเที่ยวเปลี่ยนบรรยากาศ แต่จริงๆ คือจะขายฉันให้เสี่ยตัณหากลับน่ะค่ะ” เสียงเธอสั่นสะท้าน
“หลังจากดื่มน้ำ หนูก็เริ่มร้อน เหมือนไม่เป็นตัวเอง แล้วก็เอาขวดฟาดหัวไอ้แก่นั่น แล้วก็หนีมาจำได้แค่หนี แล้วก็มาโผล่ในห้องคุณ”
คิรันท์ฟังทุกคำ ใบหน้าคลายจากความดุดันกลายเป็นเย็นเยียบ แววตาเขาเปลี่ยนเป็นเข้มจัด ริมฝีปากเม้มแน่นด้วยความโกรธแทนคนในอ้อมแขน
"แม่เลี้ยงเธอมันเลวจริง ๆ" เสียงเขาคำรามต่ำ ก่อนจะเอื้อมมือสัมผัสแก้มนุ่มของหญิงสาวอย่างเบามือ
“แล้วตอนนี้ล่ะ...จะไปไหนต่อ จะทำอะไรต่อไป” เธอส่ายหน้าเบา ๆ เพราะไม่มีที่ไป
“ไม่มีที่ไปแล้วค่ะ...ไม่มีบ้าน ไม่มีเงิน ไม่มีใครเลย...” คิรันท์นิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์ มือข้างหนึ่งยันเตียงไว้ข้างศีรษะเธอ ส่วนอีกข้างลูบไล้ผิวแก้มเนียนจนเธอสะท้าน
“งั้น...ไปกับพี่ไหม” ดวงตากลมโตกระพริบเร็ว ๆ ก่อนเอ่ยถามอย่างไร้เดียงสา
“ไปไปไหนคะ”
“พี่ลาพักร้อน กำลังท่องเที่ยวอยู่เลย มีเพื่อนไปด้วยกันระหว่างทางก็คงดี”
เขายกยิ้มมุมปากไม่ทันให้เธอได้เห็น การมีเธอไปด้วยเขาไม่เหงาจริงๆ นั่นแหละ อย่างน้อยก็มีหมอนข้างดิ้นได้ให้กอดตลอดทริปการท่องเที่ยว
“ไปได้เหรอคะ” ญาดาเอ่ยถามอย่างไม่แน่ใจ
“ไปได้สิ ในเมื่อเธอไม่มีใคร พี่จะรับผิดชอบเธอเอง” เขาไล้แก้มสาวอย่างลุ่มหลง
ญาดาหน้าแดงจัด ใจเต้นแรง เมื่อสบประกายตาคู่คมนั้น เธอรู้ว่าเขาไม่ได้พูดเล่น เพราะท่าทีเอาจริงเอาจัง แต่เธอนี่สิจะไว้ใจเขาได้เหรอ สาวน้อยกัดปากครุ่นคิดอย่างลังเล
“หากไม่อยากไปกับพี่ก็ไม่เป็นไร เรื่องเมื่อคืนพี่จะชดเชยให้ ต้องการเงินเท่าไหร่ก็บอกมา พี่ก็พอมีให้นะ” แม้เขาจะรวยมาก เป็นทายาทลำดับที่สามของตระกูล เขามีพี่ชายสองคน แต่เขาก็ไม่เคยอวดรวยกับใคร ใช้ชีวิตค่อนข้างติดดินกว่าพี่น้องคนอื่น เขามาเปิดบริษัทเป็นของตัวเอง จึงมีเวลาท่องเที่ยวได้อย่างเต็มที่
“หนูไม่ได้ต้องการเงิน แต่หนูไม่มีที่ไป” ญาดาสับสน หากได้เงินมาแล้วเธอจะเอายังไงต่อดีนะ เธอยังคิดไม่ออก บ้านก็ไม่มี เรียนก็เพิ่งจบม.หก ญาติพี่น้องที่ไหนก็ไม่มี บิดาพาเธอมาอาศัยอยู่ที่นี่ตั้งแต่จำความได้ และที่นี่ก็ไม่ใช่บ้านเกิดของบิดา บิดาไม่เคยติดต่อญาติพี่น้องที่ไหน เธอจึงมีแค่บิดา และเพื่อนบ้านขี้นินทาหาดีไม่ได้เลย กับมารดาเลี้ยงและน้องสาวสุดแสนจะใจร้ายใจดำ
และเขา...คือผู้ชายคนเดียวที่สัมผัสเธอ
ผู้ชายคนแรก
คนเดียว...
เธอกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ก่อนจะพยักหน้าแผ่วเบา
“ถ้าหนูไปกับพี่ พี่จะรำคาญหนูไหม พี่จะหลอกหนูไปขายหรือเปล่า”
“ไม่บังคับนะ ถ้าไม่ไว้ใจกัน ก็ไม่ต้องไปด้วยกันหรอก จะให้เงินค่าเสียหาย แต่จริงๆ เธอมานอนในห้องพี่เองนะ พี่ไม่ได้ไปฉุดกระชากเธอมานอนด้วยเสียหน่อย” เธอกัดปากเขาก็พูดเรื่องจริง
“หนูไว้ใจพี่ได้ใช่ไหม”
“ก็ให้เวลาตัดสินใจ แต่พี่ไม่ใช่มิจฉาชีพ หรือคนเลวแน่นอน จริง ๆ เธอก็น่ารักดี มาเป็นเมียพี่ไหม พี่ยังไม่มีเมีย” เขาเชยคางสาว ทำเอาเธอหน้าแดงก่ำลามไปถึงใบหู
“ผู้ชายเขาขอเมียกันง่ายๆ แบบนี้เลยเหรอ”
“แต่จริงๆ ไม่ต้องขอก็เป็นไปแล้ว” เขาพูดคล้ายเย้า แต่เธอหน้าแดง
“หนูเอ่อ... เป็นเมียพี่ต้องทำอะไรบ้างคะ” ประโยคของเธอทำให้เขาเอ็นดูไม่น้อย
“ไม่ต้องทำอะไร แค่ทำตามที่บอกก็บอก ไม่ให้ทำอะไรเลวร้ายหรอก พี่ก็พอมีงานทำ เลี้ยงเธอได้สบาย แล้วเรียนจบอะไรล่ะนี่ ยังเด็กอยู่เลย”
“เรียนจบม.หกค่ะ เพิ่งเรียนจบปีนี้ อายุสิบแปดแล้วค่ะ แต่ไม่ได้เรียนต่อ พ่อมาเสียซะก่อน”
“เรียนต่อไหม เดี๋ยวพี่ส่งเสียเธอเรียนเอง” เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงได้เอ็นดูเธอขนาดนี้
“พี่ใจดีจัง จะส่งหนูเรียนจริงๆ เหรอ”
“อืม... พี่พูดคำไหนคำนั้น พี่ชื่อคิรันท์นะ เรียกรันท์เฉยๆ ก็ได้ เราล่ะชื่ออะไร”
“ชื่อญาดาค่ะ”
“พี่จะอยู่พักผ่อนที่นี่อีกหลายวัน เอาเป็นว่าพี่จะให้เธอตัดสินใจก่อนว่าจะไปกับพี่ไหม อันนี้ไม่บังคับนะ” คนแบบเขาไม่เคยบังคับใครอยู่แล้ว
“ค่ะ” เธอรับคำ คิรันท์ยิ้มพอใจ
เขาก้มลงจูบริมฝีปากนุ่มเบา ๆ ราวกับต้องการตีตราจองเธอเอาไว้
“ดีมากครับ พี่ไม่ชอบเด็กดี พี่จะพาเธอไปทุกที่ที่พี่ไป จะเลี้ยงดูเธอ จะปกป้องเธอ และจะไม่ยกเธอให้ใครหน้าไหนทั้งนั้น แต่จะดูแลให้ดี” เขากระซิบเสียงพร่าข้างหู
ขณะที่ปลายนิ้วลากลงต่ำใต้ผ้าห่ม ญาดาหลับตาปี๋เมื่อมือร้อนรุ่มเริ่มต้นสัมผัสอีกรอบ
และในเช้าแรกหลังค่ำคืนเร่าร้อน
ร่างเปลือยสองร่างก็เริ่มบทเรียนบทที่สองของ ‘เมียเด็ก’ อย่างไม่รอช้า เขาเร่าร้อนทำเอาเธอต้องถอยหนีครั้งแล้วครั้งเล่า จนสุดท้ายก็ต้องนอนให้เขากระแทกจนเสร็จสมอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง
ระยะเวลาหลายวันที่อยู่ด้วยกัน ไม่มีมารดาเลี้ยงหรือเสี่ยที่ไหนมาตามหาเธอ อาจเพราะคิรันท์ไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหน เขาแค่มาพักผ่อนที่รีสอร์ทแห่งนี้เท่านั้น กิจวัตรของเขาส่วนใหญ่คือการกิน นอนเล่น อ่านหนังสือ และร่วมรักกับเธออย่างเร่าร้อน เขามีวิธีเล้าโลมให้เธอยินยอมพร้อมใจไปกับเขา โดยที่เธอเต็มใจไม่ได้โดนบังคับเลยสักนิด
“ไม่ต้องกลัวนะ พี่จะไม่ให้แม่เลี้ยงหรือใครมาทำร้ายเธออีก” คำมั่นสัญญาของเขาทำให้เธอสบายใจไปเปราะหนึ่ง เพราะมารดาเลี้ยงเป็นคนใจร้ายมาก ให้เลือกระหว่างมารดาเลี้ยงกับคิรันท์ เธอเลือกคิรันท์มากกว่า ต่อไปจะไปขึ้นเขาลงห่วยยังไงก็สุดแต่เวรแต่กรรมก็แล้วกัน
การเดินทางที่ยาวไกล...
เสียงประกาศบนเครื่องบินดังผ่านลำโพงเป็นระยะ
ญาดานั่งเกร็งอยู่บนที่นั่งข้างหน้าต่าง สองมือตบต้นขาเบา ๆ เหมือนระบายความประหม่าที่ไม่อาจซ่อนได้เลย
“เป็นอะไร ตื่นเต้นเหรอครับ” คิรันท์ถามพลางยิ้มขำ ร่างสูงเอนตัวพิงพนักอย่างสบายในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนธรรมดา แต่กลับดูดีจนน่ามอง
“ตื่นเต้นมากค่ะ...” เสียงของเธอสั่นเล็กน้อย
“หนูไม่เคยนั่งเครื่องบินมาก่อน”
“งั้นถือว่านี่เป็นครั้งแรก แล้วพี่เป็นคนพาเธอขึ้นเครื่องคนแรกด้วย” เขากระซิบใกล้หู ริมฝีปากแตะผิวนวลเบา ๆ จนเธอสะดุ้ง
“พี่พาหนูไปทุกที่ ไปทำสิ่งที่ไม่เคยได้ทำ ดีไหม”
“ค่ะ” เธอตอบรับเสียงแผ่ว แก้มแดงระเรื่อจนหูร้อน
เครื่องร่อนแตะลงยังเกาะเล็ก ๆ กลางทะเล รถส่วนตัวรับจากสนามบินมาส่งถึงรีสอร์ทหรูติดชายหาด
