ซีรีส์เจ้าสาวเถื่อน

47.0K · จบแล้ว
B.J.
27
บท
2.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เพราะเธอต้องเข้าพิธีแต่งงานกับชายอื่นเพื่อช่วยเหลือบิดามารดา ทั้ง ๆ ที่เธอรักคมฉกรรจ์เหลือเกิน เธอจึงจุดไฟความแค้นขึ้นมาในตัวเขา เขาลักพาตัวเธอในคืนวันแต่งงานทำให้เธอเป็นเมียเถื่อนของเขา ตัวอย่างบางช่วงบางตอน... คีตาตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดเมื่อยไปหมดทั้งตัว เธอเพิ่งเสียตัวเป็นครั้งแรก โดนจัดหนักจากอดีตแฟนหนุ่มที่ลักพาตัวเธอมาจากงานแต่งงาน "ตื่นแล้วเหรอ" น้ำเสียงเย็นชาของคมฉกรรจ์ทำให้เธอต้องเม้มปากเข้าหากัน คีตาไม่ตอบ แต่เธอกอดตัวเองเอาไว้ด้วยความหนาว ดึงผ้าห่มมาปิดบังเรือนร่างและเลื่อนมือไปหยิบเสื้อผ้าที่โดนกระชากออกไปจากตัว พบว่ามันขาดวิ่นจนหมดแล้ว เธอกัดปากตัวเองก่อนจะเหลือบมองคนตัวโตด้วยดวงตาแดงก่ำ "ไม่ต้องใส่หรอก เดี๋ยวจะเอาอีกหลายๆ รอบ" เขาเดินเข้ามาหาก่อนจะกระชากเสื้อผ้าออกไปจากมือน้อยของเธอ "พี่คม" เธอเรียกเขาด้วยน้ำเสียงสั่นเทา "ทำสีหน้าแบบนี้อยากกลับไปหาเจ้าบ่าวของเธออย่างนั้นเหรอ แต่เสียใจด้วยนะ ป่านนี้มันคงรู้แล้วล่ะว่า มันไม่มีทางได้ตัวเธอ" "พี่คมทำถึงขนาดนี้ เพลงจะมีหน้ากลับไปได้อีกเหรอคะ" เธอมองเขาแล้วน้ำตาซึม "เสียใจขนาดนี้เลยเหรอที่ตกเป็นของพี่" "พี่คมย่ำยีกันขนาดนี้ จะให้เพลงนั่งยิ้มนั่งหัวเราะเหรอคะ" "ก็แล้วเธอผิดสัญญาไปแต่งงานกับไอ้ชเยศก่อนทำไมกันล่ะ" "พ่อกับแม่กำลังลำบาก เพลงต้องตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ พี่ก็รู้ว่าเพลงรอไม่ได้" "เพราะไอ้หมอนั่นมันมีเงินมากกว่าต่างหากล่ะ" "ไม่ใช่นะจ้ะ แต่เพราะหนี้สินของพ่อแม่รอไม่ได้จริงๆ เพลงเองก็ไม่ได้อยากแต่งงานกับคุณเชน" "เรียกมันเสียสนิทสนม ไม่เรียกมันว่าพี่เชนไปเลยล่ะ" เขาประชด หมอนั่นกวนบาทาเขาจริง ๆ เคยมีเรื่องชกต่อยกันมาแล้ว "ทำไมต้องประชดเพลงด้วย" คีตามองเขาด้วยดวงตาแดงก่ำ "ก็ดีที่ไม่อยากแต่งงานกับมัน พี่สืบรู้มาว่าพ่อแม่ของเธอไม่ได้เป็นหนี้จริงๆ แต่ที่ทำไปทั้งหมดเป็นการเล่นละครบีบบังคับให้เธอแต่งงานกับหมอนั่น" "จริงเหรอจ๊ะ" "จริงสิ" "พี่รู้อย่างนี้ก็ยังจะทำแบบนี้อีกเหรอจ๊ะ" "ไม่ทำแบบนี้เธอก็เป็นเมียหมอนั่นน่ะสิ ไม่ต้องกังวลไป พ่อแม่เธอไม่โดนทวงหนี้หรอก" "พี่รักเพลงจริงหรือเปล่าจ๊ะ" "ทำไม" "พี่ทำแบบนี้เพลงจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ไหนจะพ่อกับแม่อีก" "ถ้าไม่ทำแบบนี้ เพลงก็ต้องเป็นของมัน พี่ไม่ยอม" เขาลุกจากที่นั่งผิงไฟอยู่มาหาเธอ คีตาถอยหนี คมฉกรรจ์ก็ดึงรั้งเธอมาหา "พี่คมจะทำอะไรคะ" เธอเอ่ยถามปากคอสั่น เล่ม 2 เจ้าสาวของชเยศ เพราะเธอช่วยพี่สาวให้หนีไป คีติกาจึงต้องแต่งงานกับว่าที่พี่เขยของตัวเอง ทำให้เขาโกรธมาก จากที่เธอคิดว่าเขาจะยกเลิกการแต่งงาน เขากลับแต่งงานและรับเธอเป็นเมียแทน ตัวอย่างบางช่วงบางตอน "ฉันไม่อยากเป็นเมียคุณ" "อยากไม่อยากก็เป็นไปแล้ว" เขาไม่ยอมปล่อยเธอไปแน่ ชเยศมองหญิงสาวอย่างเอาเรื่อง ทำเอาคีติกาต้องเม้มปากเข้าหากันเมื่อเห็นท่าทีของเขา "ฉันไม่ได้ขู่ แต่ฉันเอาจริง อยากเข้าไปในนอนในคุกก็เอาสิ คนแบบฉันสามารถทำให้เธอเข้าไปนอนในคุกได้สบาย ๆ หรือเธออยากจะลองดู" "อย่ามาขู่นะ ฉันไม่กลัวคุณหรอก" "ก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้ขู่ หรือจะลอง" "ก็ได้ อยากได้อะไรก็บอก ฉันจะดูแลคุณก็ได้ แต่ไม่ใช่ในฐานะเมียคุณนะ แต่ฐานะที่ฉันทำให้คุณเจ็บตัวก็แล้วกัน" เสียงเธออ่อนลง เธอไม่ควรลองดีกับเขา นี่สิถึงจะถูก รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี เคยมีคนสอนเธอเอาไว้ "ฉันปวดฉี่" "คะ" เธอมองหน้าเขาแล้วกัดปากตัวเอง ก่อนหน้านี้เพิ่งเช็ดตัวเสร็จ และเมื่อกี้เพิ่งกินข้าว นี่จะเข้าห้องน้ำอีกแล้ว ป้อนข้าวไม่เท่าไหร่ แต่เช็ดตัวนี่สิ คนบ้าเรียกให้เธอไปถอดเสื้อผ้าให้ พอเธอไม่ทำ เขาก็จัดการแก้ผ้าตัวเองเสียเลย น่าอายที่สุด ไอ้คนบ้าลามก! เธอด่าเขาอยู่ในใจ "ค่ะ" เธอรับคำ พลางกัดฟันกรอด จัดการพาเขาเข้าห้องน้ำ "ฉันรอคุณอยู่ข้างนอกนะ" "ห้ามไปไหนไกลล่ะ เดี๋ยวเรียกแล้วไม่ได้ยิน" "คุณก็รีบทำธุระให้เสร็จสิ" เธอหันหลังให้เขา พลางทำหน้าเมื่อย "เสร็จแล้ว เธอมาช่วยฉันหน่อย" "ช่วยอะไร" "ก็มาก่อนสิ" "ว้าย! อะไรของคุณนี่" เธอร้องขึ้นเมื่อเดินเข้าไปหาเขาก็ยังอยู่ในสภาพไม่เรียบร้อย "ช่วยล้างอนาคอนด้าให้ฉันหน่อย" "ก็ล้างเองสิ ไอ้บ้า คุณนี่มั่นหน้ามากนะ เรียกของตัวเองว่าอนาคอนด้า โหย... ไอ้หนอนชาเขียว" "หน็อย... เธอว่าฉันเป็นหนอนชาเขียวอย่างนั้นเหรอ คอยดูหนอนชาเขียวอย่างฉันจะทำให้เธอครางได้ไหม" "ไอ้บ้า ไอ้ลามก ฉันไม่ยอมเป็นเมียคุณหรอก" "ก็ลองดูกันไป" เขากระชากเธอมาหา ก่อนจะพูดชิดใบหน้านวลเนียนของเธอ คีติกาดิ้นหนีเขาก็กดเธอไปกับผนังห้องน้ำก่อนจะบดจูบเธออย่างดุเดือด เพียะ! เสียงตบดังขึ้น ใบหน้าของเขาหันไปตามแรงตบ เขาก็ดึงเธอมากอดจูบอย่างดุเดือดอีกรอบ เธอก็ตบเขาอีกรอบ "ชอบตบจูบก็ไม่บอก" เขาจับเธออุ้มขึ้นพาดบ่า ความจริงอาการของเขาดีขึ้นมากแล้ว สามารถออกจากโรงพยาบาลได้ตั้งนานแล้ว แต่ที่เขายังอยู่โรงพยาบาลเพราะอยากแกล้งคีติกา "ไอ้บ้า! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ" เธอกรีดร้องดีดดิ้นเมื่อเขากดเธอลงไปบนเตียงนอนของโรงพยาบาล "ไม่ปล่อย มีปัญญาดิ้นก็ดิ้นไปสิ" "ไหนคุณบอกว่ายังปวดหัวอยู่ไง" เขาบอกว่ายังป่วยอยู่ ต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลอีกหลายวัน แล้วนี่อะไรกัน "ฉันป่วยน่ะใช่ แต่ฉันก็อยากปราบพยศเธอ" "โอ๊ย!" ชเยศร้องเสียงหลงเมื่อโดนกัดเข้าที่บ่า "นึกว่าจะหนีรอดอย่างนั้นเหรอ โอ๊ย!" ชเยศร้องอีกรอบ รอบนี้เขาโดนเข่ากระแทกเข้าที่กล่องดวงใจ "สมน้ำหน้า"

นิยายรักโรแมนติกตลกรักหวานๆดราม่าโรแมนติกแต่งงานก่อนรักเจ้าเล่ห์

1

ซีรีส์เจ้าสาวเถื่อนเล่ม 1เมียเถื่อนของคมฉกรรจ์

เสียงครวญครางของคีตาดังขึ้นตลอดค่ำคืนอันหนาวเหน็บของป่าลึก ก่อนจะเงียบเสียงลงในตอนย่ำรุ่ง

คีตาตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดเมื่อยไปหมดทั้งตัว เธอเพิ่งเสียตัวเป็นครั้งแรก โดนจัดหนักจากอดีตแฟนหนุ่มที่ลักพาตัวเธอมาจากงานแต่งงาน

“ตื่นแล้วเหรอ” น้ำเสียงเย็นชาของคมฉกรรจ์ทำให้เธอต้องเม้มปากเข้าหากัน

คีตาไม่ตอบ แต่เธอกอดตัวเองเอาไว้ด้วยความหนาว ดึงผ้าห่มมาปิดบังเรือนร่างและเลื่อนมือไปหยิบเสื้อผ้าที่โดนกระชากออกไปจากตัว พบว่ามันขาดวิ่นจนหมดแล้ว เธอกัดปากตัวเองก่อนจะเหลือบมองคนตัวโตด้วยดวงตาแดงก่ำ

“ไม่ต้องใส่หรอก เดี๋ยวจะเอาอีกหลายๆ รอบ” เขาเดินเข้ามาหาก่อนจะกระชากเสื้อผ้าออกไปจากมือน้อยของเธอ

“พี่คม” เธอเรียกเขาด้วยน้ำเสียงสั่นเทา

“ทำสีหน้าแบบนี้อยากกลับไปหาเจ้าบ่าวของเธออย่างนั้นเหรอ แต่เสียใจด้วยนะ ป่านนี้มันคงรู้แล้วล่ะว่า มันไม่มีทางได้ตัวเธอ”

“พี่คมทำถึงขนาดนี้ เพลงจะมีหน้ากลับไปได้อีกเหรอคะ” เธอมองเขาแล้วน้ำตาซึม

“เสียใจขนาดนี้เลยเหรอที่ตกเป็นของพี่”

“พี่คมย่ำยีกันขนาดนี้ จะให้เพลงนั่งยิ้มนั่งหัวเราะเหรอคะ”

“ก็แล้วเธอผิดสัญญาไปแต่งงานกับไอ้ชเยศก่อนทำไมกันล่ะ”

“พ่อกับแม่กำลังลำบาก เพลงต้องตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ พี่ก็รู้ว่าเพลงรอไม่ได้”

“เพราะไอ้หมอนั่นมันมีเงินมากกว่าต่างหากล่ะ”

“ไม่ใช่นะจ้ะ แต่เพราะหนี้สินของพ่อแม่รอไม่ได้จริงๆ เพลงเองก็ไม่ได้อยากแต่งงานกับคุณเชน”

“เรียกมันเสียสนิทสนม ไม่เรียกมันว่าพี่เชนไปเลยล่ะ” เขาประชด หมอนั่นกวนบาทาเขาจริง ๆ เคยมีเรื่องชกต่อยกันมาแล้ว

“ทำไมต้องประชดเพลงด้วย” คีตามองเขาด้วยดวงตาแดงก่ำ

ชเยศเป็นหนุ่มเมืองกรุงฯ ที่มาตามหาพี่ชายที่หายสาบสูญ แล้วเผอิญอีกฝ่ายมาถูกตาต้องใจเธอเข้า แต่เธอกำลังคบหาอยู่กับคมฉกรรจ์ชายหนุ่มในหมู่บ้านเดียวกัน แต่เพราะคมฉกรรจ์เป็นชายหนุ่มกำพร้าที่ถูกยายสะอาด

เลี้ยงดูมาจนโต ไม่ได้มีฐานะร่ำรวยเหมือนหนุ่มเมืองกรุงอย่างชเยศ ทำให้บิดามารดาของเธอรังเกียจเดียดฉันเขา

ถึงกระนั้นเธอก็ยังรักมั่นคงกับคมฉกรรจ์ไม่แปรผัน ถ้าไม่ใช่เพราะบิดามารดาของเธอเป็นหนี้และโดนทวงหนี้โหด เธอคงไม่เข้าพิธีแต่งงานกับชเยศ

ที่เธอเข้าพิธีแต่งงานกับเขาเพราะเงิน แต่ถ้าไม่มีเงินบิดามารดาก็จะโดนฆ่าตาย เสี่ยเจ้าของบ่อนโหดมาก เธอเป็นลูกก็ต้องกตัญญูต่อบุพการี เพราะพวกท่านเลี้ยงดูมาอย่างดี ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจเช่นนี้

เธอก็อยากให้คมฉกรรจ์เข้าใจเธอด้วย

“ก็ดีที่ไม่อยากแต่งงานกับมัน พี่สืบรู้มาว่าพ่อแม่ของเธอไม่ได้เป็นหนี้จริงๆ แต่ที่ทำไปทั้งหมดเป็นการเล่นละครบีบบังคับให้เธอแต่งงานกับหมอนั่น”

“จริงเหรอจ๊ะ”

“จริงสิ”

“พี่รู้อย่างนี้ก็ยังจะทำแบบนี้อีกเหรอจ๊ะ”

“ไม่ทำแบบนี้เธอก็เป็นเมียหมอนั่นน่ะสิ ไม่ต้องกังวลไป พ่อแม่เธอไม่โดนทวงหนี้หรอก”

“พี่รักเพลงจริงหรือเปล่าจ๊ะ”

“ทำไม”

“พี่ทำแบบนี้เพลงจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ไหนจะพ่อกับแม่อีก”

“ถ้าไม่ทำแบบนี้ เพลงก็ต้องเป็นของมัน พี่ไม่ยอม” เขาลุกจากที่นั่งผิงไฟอยู่มาหาเธอ คีตาถอยหนี คมฉกรรจ์ก็ดึงรั้งเธอมาหา

“พี่คมจะทำอะไรคะ” เธอเอ่ยถามปากคอสั่น

“พี่ไม่ทำอะไรเพลงหรอก แค่จะหาเสื้อผ้าให้สวม” เขาเห็นท่าทีหวาดกลัวของเธอ ก็ได้สติว่าเขาอาจจะทำรุนแรงกับเธอไป

“พี่เตรียมเสื้อผ้ามาให้เธอแล้ว เปลี่ยนซะ” เขายื่นเสื้อผ้าให้เธอ

“กี่โมงแล้วคะพี่คม” เธอรับเสื้อผ้ามาสวมใส่อย่างไม่เกี่ยงงอน ตอนนี้เธอมึนงงไปหมด ไม่รู้จะทำยังไงต่อไป แต่โดนเขาฉุดเข้าป่ามาจากงานแต่งแบบนี้ เธอคงไม่มีหน้ากลับไปพบใครอีก

“ตีสี่” เขาตอบเสียงขรึม

เธอเงียบไป ไม่รู้จะพูดอะไรดี ได้แต่มองเขาตาปริบๆ

“หิวไหม”

“ไม่ค่ะ” เธอส่ายหน้าไปมา

“นอนต่อเถอะ” เขาเดินเข้าหา เพราะนอนกันอยู่ตรงแคร่สูงหน้ากระท่อม เธอมาถึงนี่ก็ทะเลาะกับเขา จะกลับบ้านท่าเดียว เลยโดนเขาปลุกปล้ำและลากยาวมาจนถึงตอนนี้ ถามว่าตอนนี้รู้สึกยังไง บอกได้คำเดียวว่าอ่อนเพลียไปหมด

“พี่จะทำอะไร”

“นอนกอดเธอไง พี่ก่อไฟแล้ว รับรองว่าไม่หนาว และถ้าได้อ้อมกอดของพี่อีกก็จะอุ่นสบาย”

คีตายังไม่ทันที่จะได้หนีเขาก็ตรงเข้ามากอดรัดเธอเอาไว้แนบอก

“พี่คม”

“ทำไม”

“ปล่อยนะคะ”

“ถ้าไม่ให้กอดทำอย่างอื่นแทนแล้วกัน” เสียงเขาเข้มดุตามนิสัย

“ไม่ทำแล้วค่ะ” เธอพูดเสียงอ่อย

“หลับเถอะ พี่ง่วง” เขาบอกอย่างอ่อนแรงไม่ต่างกัน ลักพาตัวเธอมาได้ ก็พาเข้าป่ามาอีก สมบุกสมบันพอสมควร ดีที่ตอนพาเข้าป่าเธอสลบ ไม่อย่างนั้นคงทุลักทุเลกว่านี้

พอเขาพูดแบบนั้นก็กอดรัดเธอแนบอกและหลับไปในทันที เธอไม่ได้พูดอะไร แต่หลับตามเขาไปเพราะอ่อนเพลียและง่วงนอนสุดใจ

คีตาตื่นมาอีกครั้งก็เพราะวกลิ่นอาหารลอยมาปะทะจมูก เธอไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าขึ้นมานอนบนเตียงในกระท่อมตอนไหน อาจเพราะหลับลึกโดนอุ้มมานอนบนเตียงอุ่น ๆ แล้วไม่รู้เนื้อรู้ตัว

เธอเดินออกมาก็เห็นว่าคมฉกรรจ์กำลังทำอาหารอยู่ในครัวแบบเปิดโล่ง

“ตื่นแล้วเหรอ” เขาเอ่ยถาม เธอเห็นว่าเขากำลังนึ่งข้าวเหนียวอยู่บนเตาไฟที่ใช้ไม้ฟืนและย่างเนื้ออีกเตาหนึ่ง

“ค่ะ” เธอรับคำเสียงเบา พลางกัดปากตัวเอง

“เลิกทำหน้าแบบนี้สักที”

“พี่คมจะพาเพลงกลับบ้านตอนไหนคะ”

“อยากกลับบ้านมากเหรอ” เขาเอ่ยถามเสียงขรึม ในขณะที่ยังง่วนกับการทำอาหารอยู่หน้าเตา

“ค่ะ” เธอรับคำ

“ท้องเมื่อไหร่จะพากลับบ้าน หรือมีลูกสักสองสามคน”

“พี่คม!”

“ทำไม อยากกลับไปหาไอ้หมอนั่นหรือไง”

“เราจะพูดกันดีๆ ไม่ได้เหรอคะ เพลงไม่ได้อยากกลับไปหาใครทั้งนั้น แต่พ่อกับแม่ของเพลงกำลังทุกข์หนักที่เพลงหายมาแบบนี้”

“เดี๋ยวได้เห็นหน้าหลานก็หายทุกข์ไปเอง” ประโยคคล้ายจะยียวนของเขาทำให้เธอต้องเม้มปากเข้าหากัน

“พี่จะเป็นศัตรูกับพ่อแม่ของเพลงเหรอคะ” ยังไงนั่นก็คือบิดามารดาผู้ให้กำเนิด เธอไม่อยากให้เขาตั้งป้อมรังเกียจพ่อแม่ของเธอเหมือนอย่างที่พ่อแม่ของเธอทำ

“พ่อแม่ของเพลงตั้งป้อมรังเกียจพี่ กลั่นแกล้งพี่สารพัด พี่ยังทนเพราะเพลงยังรักมั่นคงอยู่กับพี่ พี่ถึงมีกำลังใจทำทุกอย่างเพื่อเอาชนะใจพวกท่าน ไม่ว่าจะโดนพวกท่านเหยียดหยามสักเท่าไหร่ แต่พอเพลงจะทิ้งพี่ไปแต่งงานกับผู้ชายคนอื่น ก็ถือว่าพวกท่านผิดสัญญาที่ให้เอาไว้กับพี่ ว่าจะให้พี่พิสูจน์ตัวเอง”