ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ2 (คืนข้ามปีของซานตี้เยนา)
“โหแก! เงินตั้งสิบล้าน ถ้าเป็นฉันนะจะดื่มทีเดียวเอาแบบซื้อรถหรูราคายี่สิบสามสิบล้านได้เลยแหละ” เพื่อนอีกคนในกลุ่มของนางพูดออกมาด้วยท่าทางอิจฉาเยนาไม้น้อยไปกว่าทุกคนในกลุ่ม
“สงสัยเล่นตัวไว้โก่งราคา ทีหลังพวกแกก็หัดไว้เชิงบ้างสิ ไม่ใช่วิ่งไล่จับผู้ชาย จนพวกเขาเห็นเราเป็นของตายแถมยังได้ไปนอนกกฟรีๆ” ดูเหมือนว่าเพื่ออีกคนในกลุ่มเริ่มพูดแซะเพื่อนๆ จนทำให้ทุกคนโฟกัสไปที่หล่อนอย่างไม่ชอบใจ
“แก้วที่แปดแล้วนะครับ ซานตี้เยนาไหวหรือปล่า” พิธีกรหนุ่มเอ่ยถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง เพราะเยนาเริ่มหน้าแดงเฝื่อน เมื่อแอลกอฮอล์สูบฉีดในกระแสเลือดวนเวียนไปทั่วเรือนร่างของเธอ
“ไหวสิค่ะ แค่นี้จิ๊บๆ” ดวงตาหวานหยาดเยิ้ม พร้อมกับรอยยิ้มที่ผุดขึ้นมาบนใบหน้างาม ยิ่งทำให้ครรชิตอยากจะจับเธอกดลงไปบนเตียง ให้สมกับความพยศของเยนา แต่เขาก็พยายามเก็บกลั้นความรู้สึกเอาไว้ เพื่อรอเวลาที่เหมาะสม ซึ่งค่ำคืนนี้ซานตี้สาวแสนสวยคงได้รับของขวัญชิ้นใหญ่จากซานต้าอย่างท่านประธานหนุ่มอย่างแน่นอน
“อีกแค่สองแก้ว หรือคุณจะขอเพิ่มก็ได้นะผมพร้อมเปย์” ดูเหมือนว่าครรชิตอยากจะมอมเหล้าเยนาจนลืมทางกลับบ้าน เขาคงไม่รู้ว่าแท้ที่จริงแล้ว เธอทำงานอยู่ในสถานที่แบบนี้ หญิงสาวก็ต้องมีดีพอตัว โดยเฉพาะเรื่องเครื่องดื่มที่ท่านประธานหนุ่มกำลังส่งให้เธอ
“แค่นี้ฉันก็ทำให้กระเป๋าของคุณฉีกพอสมควร แม้ว่าท่านประธานบริษัทเคเคซีกรุ๊ปจะรวยล้นฟ้าแต่นักธุรกิจอย่างคุณต้องสูญเงินสิบล้านให้กับฉันฟรีๆ ก็ต้องมีความรู้สึกแบบว่าเสียดายบ้างแหละ จริงไหมคะ” หญิงสาวกระดกเครื่องดื่มสีอัมพันซึ่งรสชาติของมันไม่ค่อยคล่องคอเท่าไหร่ แต่เยนาก็ทำเป็นเฉยชาไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาให้ผู้ชายอย่างครรชิตได้รับรู้
“สำหรับคุณผมยอมทุ่มหมดตัว อย่าลืมดูแลหัวใจผมด้วย ถ้าหากผมไม่เหลืออะไรอย่างน้อยก็ยังมีคุณ” เสียงกระซิบที่ดังอยู่ข้างหู ทำให้เยนาหัวใจเต้นแรงขึ้นมาอย่างฉับพลับ เธอไม่รู้ว่าเขาหยอดคำหวานแบบนี้กับผู้หญิงทุกคนหรือเปล่า ซึ่งผู้ชายอย่างท่านประธานหนุ่ม ที่มีใบหน้าหล่อบาดใจ และหุ่นบึกบึนสมชายชาตรี ไม่เคยมีสาวคนไหนเข้าใกล้แล้วหัวใจจะไม่เต้นแรง
“เหลือแก้วสุดท้าย ฉันขอดื่มไว้ฉลองเงินสิบล้านที่ได้มาจากคุณ ส่วนหนึ่งจะนำไปทำบุญ ส่วนที่เหลือขอชอปปิงให้หนำใจนะคะท่านประธานขา...” เยนาลากเสียงหวานดังขึ้น ท่ามกลางเสียงปรบมือเกรียวกราย ก่อนที่เธอจะกระดกน้ำเมาเข้าปากอย่างผู้ชนะ ซึ่งครรชิตสั่งให้เพื่อนของเขาหยิบเช็คมาให้ ก่อนจะใส่ตัวเขลงไปด้วยแววตาที่เจ้าเล่ห์
“ขอบคุณนะคะ จุ๊บ!” เยนาหยิบเช็ดจากมือของท่านประธานหนุ่มพร้อมกับจุ๊บเช็คโชว์ทุกคนที่อยู่ในผับ ก่อนจะเดินเลี่ยงปางด้านหลัง เพราะในเวลานี้มันดึกมากแล้ว เธอเองก็รู้สึกมึนหัวอยากกลับไปพักผ่อนเต็มที ก่อนจะคิดหาวิธีวางแผนที่จะแก้เผ็ดท่านประธานครรชิต
“ดึกแล้วไม่เปลี่ยนดีกว่า กลับทั้งชุดซานตี้นี้แหละ ใส่แค่ปีละครั้งเอาให้คุ้มเลยละกัน” เยนาพูดพึมพำคนเดียวในห้องแต่งตัว จากนั้นหญิงสาวรีบเดินออกมาจากห้อง แล้วตรงไปยังลานจอดรถ
เยนาเดินออกมาได้สักพัก เธอรู้สึกเหมือนมีคนเดินตาม แต่พอหันหลังกลับไปก็ไม่เจอใคร หญิงสาวกำลังคิดว่าตัวเองคงจะเมาจนหลอน เพราะเธอทำงานที่นี่มาหลายปีดีดัก ก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์อะไรที่ทำให้ดูน่ากลัว แต่ตอนนี้เธอรู้สึกเวียนหัว คงเป็นเพราะว่าแก้วแรกที่ดื่มเข้าไป ไม่รู้ว่าคาสโนวาตัวพ่อผสมอะไรลงไปบ้าง
หมับ!!
“เฮ้ย! คุณเป็นใคร ต้องการอะไร!” เยนาอุทานออกมาเสียงดัง เมื่อชายตัวโตเข้ามาประชิดตัว พร้อมกับคว้าข้อมือเรียวของเธอเอาไว้แน่น
“อยากได้เท่าไหร่”
“หมายความว่าไง”
“ก็หมายความตามนั้น นอนกับฉันคืนหนึ่ง เธอคิดเท่าไหร่” “คุณไปเอาความคิดสกปรกแบบนี้มาจากไหน ปล่อยฉันนะ ฉันไม่ได้ขาย” เยนาสะบัดมือออกอย่างแรง ซึ่งเธออยู่ในชุดซานตี้สีแดงรัดรูปสั้นเสมอหู ทรวงอกกลมโตนูนขาวผ่อง จนชายตรงหน้ากวาดสายตามองตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าของเรือนร่างอรชร ซึ่งทำให้เยนารู้สึกหวาดกลัวขึ้นมอย่างฉับพลัน แม้เธอจะมีวิชาแม่ไม้มวยไทยติดตัว แต่น้ำเมาที่ดื่มเข้าไปไม่น้อย ก็ทำให้หญิงสาวแทบจะมองเห็นภาพซ้อนอยู่แล้ว
“อย่าเล่นตัวไปหน่อยเลยน่า... ไหน คุณต้องการเท่าไหร่ลองเสนอมาซิ” ดูเหมือนว่าชายตรงหน้าจะพูดไม่รู้เรื่อง เขาคงคิดว่าเยนาเล่นตัว เพื่อโก่งราคาให้สูงขึ้น
“อย่ายุ่ง! หลบไป! ฉันจะกลับบ้าน” เยนาตวาดออกมาเสียงดัง เมื่อเธอไม่อยากคุยกับผู้ชายในมุมจอดรถ ที่ไฟสาดส่องเข้ามาแค่สลัว
“ผมรู้คุณเองก็ชอบ ไปต่อที่คอนโดกับผมนะ”
“เอามือของคุณออกไปให้พ้นนะ นี่คุณ คิดจะทำอะไร” คราวนี้มือไม้ของชายตัวโต เริ่มที่จะแตะลงมายังไหล่ของเธอ เขาลูบไล้ไปมาด้วยแววตาที่ดูเจ้าเล่ห์ ก่อนจะดันร่างอรชรของเธอชิดกันประตูรถยนต์คันหรูคู่ใจของเยนา
“คุณสวยมากรู้ตัวหรือเปล่า อย่าปฏิเสธผมเลย เราไปหาอะไรทำกันแบบสนุกๆ ดีกว่า”
“ไม่ฉันจะกลับ ถ้าคุณยังขืนดึงดันไม่ปล่อย ฉันจะเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้มาช่วย”
“แน่จริงก็ร้องสิ ฉันเป็นลูกของใครให้มันรู้ซะบ้าง”
“ว้าย!” เยนาถึงกับอุทานออกมาเสียงดัง เมื่อเธอขัดขาตาเองล้มเซถลาเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของชายแปลกหน้า ที่หญิงสาวรู้สึกขนหัวลุกมากกว่าหัวใจเต้นแรง
“ปล่อยเธอ!” น้ำเสียงเข้มอันทรงพลังดังขึ้น ทำให้เยนารู้สึกอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก หรือว่าเธอจะตกหลุมรักคาสโนวาตัวพ่ออย่างไม่รู้ตัว
“คุณไม่มีสิทธิ์ออกคำสั่งกับผม”
“อย่าคิดแตะต้องเธอแม้แต่ปลายเล็บ เยนาคือผู้หญิงของฉัน” น้ำเสียงอันทรงพลังประกาศประกาศิตออกมาอย่างก้องกังวาน เพื่อแสดงตัวความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของหญิงสาวที่เขาหมายตาเอาไว้ ซึ่งเธอพิเศษกว่าใครๆ เพราะเยนาคือว่าที่แม่ของลูก ที่ท่านประธานหนุ่มปรารถนาอยากได้เธอมาอยู่ข้างกาย
“หึ! อยากลองดีใช่ไหม”
ผัวะ! ผัวะ! ผัวะ! ทั้งสองแลกหมัดกันไปมา แต่ทว่าชายอีกคนกำลังเป็นรอง เพราะท่านประธานหนุ่มอย่างครรชิต ออกกำลังกายและมีวิชาการต่อสู้ที่เก่งกาจพอตัว
“โอ๊ย! ยอมแล้ว” ดูเหมือนว่าผู้ชายปากดีจะยอมสยบให้กับหมัดของครรชิต เขาร้องโอดโอยออกมาด้วยท่าทีที่เจ็บปวด ก่อนจะรีบตะเกียกตะกายออกไปจากบริเวณนั้นอย่างไว
“นี่คุณ! เป็นอะไรหรือเปล่า” ครรชิตอุทานออกมาด้วยความตกใจเมื่อเยนาทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้น
“ฉันยืนไม่ไหวอ่ะ รู้สึกว่าโลกมันกำลังหมุนรอบตัว ปกติแล้วฉันดื่มได้เยอะกว่านี้คุณรู้หรือเปล่า” เยนาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงยานเหมือนคนเมา คงเป็นเพราะว่าแก้วแรกที่เธอรับจากชายหนุ่มไปดื่มนั้น เพิ่งจะออกฤทธิ์ ซึ่งบรั่นดีที่เธอดื่มเข้าไปเพียวๆ เกือบค่อนแก้วต่อให้คอแข็งแค่ไหน ถ้าบวกกับไวน์เข้าไปอีกหลายแก้ว ก็สามารถทำให้เมาจนคอพับได้
“ลุกขึ้นยืนดีๆ สิคุณ เข้าไปนั่งในรถ แล้วชุดเนี่ยชอบมากเลยรึไง ใส่อ่อยอยู่ได้ทำไมไม่รู้จักเปลี่ยน” ครรชิตบ่นออกมาด้วยความหึงหวง แม้ว่าผู้ชายจะชอบมองความเซ็กซี่ของผู้หญิงแค่ไหน แต่พอเป็นคนของใจร้อยทั้งร้อยก็ไม่ชอบให้เธอสวมใส่โชว์ผู้ชายคนอื่นอยู่ดี
ชายหนุ่มจับจ้องไปที่ใบหน้างามที่พยายามจะลืมตา แต่กลับปรือลงอย่างช้าๆ ก่อนจะหลับไปในที่สุด ซึ่งตอนนี้ครรชิตเองก็ไม่รู้ว่าจะไปส่งเธอที่ไหน เขาจึงถือโอกาสขับรถพาเยนาไปที่คอนโดมิเนียมย่านธุรกิจ ซึ่งเป็นอาณาจักรของท่านประธานหนุ่ม
