ซาตานร้อนซ่อนสวาท

76.0K · จบแล้ว
ฟ้ารดา, ฟ้าใส ไอรดา, ธัญญา, ดาวฉาย, จันทร์นารี, ภูต เภตรา, จรรยา เลิศพงษ์ไทย
53
บท
7.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เป็นเรื่องราวของมาริสาสาวสวยที่อยู่ท่ามกลางผู้คนที่จ้องจะเอาแต่ผลประโยชน์จากมรดกจากผู้ให้กำเนิดที่ล่วงลับไปแล้วทิ้งไว้ให้เธอ กระทั่งเธอรู้ว่าถ้ายังอยู่ที่บ้านต่อไปชีวิตคงไม่ปลอดภัย โชคดีที่มีผู้ใหญ่ใจดีพาเธอไปอยู่ที่อื่น ทว่าทุกคนเข้าใจว่าเธอสิ้นคิดยินยอมเป็นภรรยาชายแก่ ท่ามกลางข้อครหาในแง่ลบ แต่เธอไม่สนใจขอแค่เพียงหลบไปอยู่ที่อื่นชั่วคราวเท่านั้น แต่ชีวิตกลับเล่นตลกเธอตกใจเมื่อรู้ว่ามนต์เสกผู้ชายดิบเถื่อนที่เคยมีเรื่องกัน เขาเป็นลูกชายของผู้ใหญ่ท่านนั้น และเขาก็คิดเหมือนคนอื่นว่าเธอคือนางบำเรอของบิดาจึงตั้งป้อมรังเกียจ และดูถูกเหยียดหยาม

นิยายรักโรแมนติกแต่งงานสายฟ้าแลบเศรษฐีชู้รัก

1 ผู้ชายเถื่อน

เอี๊ยด!

“ว้าย!”

มาริสาอุทานด้วยความตกใจ หลังจากเบรกรถอย่างกะทันหันจนหน้าเกือบทิ่มกระจกเพราะมัวแต่เสียใจต่อการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของมานพและเพียงนภาผู้เป็นบิดา มารดาด้วยอุบัติเหตุสยดสยอง

รถคันหน้าชะลอแล้วจอดเมื่อสัญญาณไฟแดงขึ้นมา แต่เธอกลับพุ่งรถเร็วกว่าเดิมเพื่อไปโรงพยาบาล แต่ก็เกือบรถชนท้ายคนอื่น โชคดีที่เท้าไวเหยียบเบรกเอาไว้ทัน ทว่าเรื่องไม่จบเพียงเท่านั้น เธอเห็นผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ ผมยาวระต้นคอยุ่งเป็นกระเซิง หนวดเคราเต็มใบหน้า สวมเสื้อผ้ายับยู่ยี่ ท่าทางซกมก สกปรกน่ากลัวเปิดประตูรถ และเดินเข้ามาใกล้ๆ

เมื่อมาถึงเขาเคาะกระจกรถหญิงสาวแรงๆ ท่าทางน่ากลัวเหมือนมหาโจร ดวงตาวาวเสียจนเธอ ไม่กล้าที่จะสบตา

“เปิดกระจกเดี๋ยวนี้นะ”

สาววัย 23 ปี เห็นปากเขาขยับขึ้นลง รู้ว่าคงพูดอย่างนี้ แต่เธอลังเลว่าจะลดกระจกลงดีไหม กลัวต่อรูปลักษณ์ที่บ่งบอกว่า ไม่ใช่คนดีเท่าไรนัก ถ้าเป็นโจรจริงๆ เธอจะทำอย่างไร กระทั่งเขาเปลี่ยนจากเคาะเป็นทุบ เธอจึงลดกระจกลง พร้อมกับขอโทษ

“ขอโทษค่ะ คือว่าฉันรีบ”

เธอพูดไม่เต็มเสียงนักเพราะกลัวต่อหน้าตาที่โหด ท่าทางกักขฬะ ดิบเถื่อนเหมือนพวกมหาโจร ในเวลาเดียวกันมนต์เสก ชายหนุ่มวัย 28 ปีจ้องหน้าสาวสวย ผิวขาว ผมยาวเขม็ง

“ใครๆ เขาก็รีบด้วยกันทั้งนั้นแหละ คุณอย่ามาอ้างเลย เวลาขับรถหัดมีความรับผิดชอบต่อเพื่อนร่วมถนนบ้าง ไม่ใช่ว่านึกอยากจะเบรกก็เบรกโดยไม่ดูคันหน้าแบบนี้ ได้ฉิบหายกันหมดละ นี่คุณยังนั่งนิ่งอยู่ได้ พูดอะไรหน่อยสิ ไม่ใช่แค่คำขอโทษ”

“ฉันขอโทษแล้วไง รถคุณก็ไม่เป็นอะไรสักหน่อย”

หญิงสาวพูดอย่างใจเย็นเพราะรู้สึกผิดต่อความประมาท แต่หนุ่มคนเถื่อนกลับไม่จบง่ายๆ ทำราวกับว่าเธอทำผิดอย่างมหันต์

“ก็ถือว่าโชคดีไงที่รถผมไม่เสียหาย ถ้ามีแม้แต่รอยแมวข่วนนิดเดียว ผมเล่นงานคุณหนักแน่ บ้าจริงทำให้เสียเวลากับคนไม่มีวินัย“

“แล้วคุณจะเอาอย่างไร”

มาริสาถามเสียงดังเพราะไม่พอใจต่อท่าทางกร่างๆ ที่เขาแสดงออกมา ทั้งที่รู้สึกกลัวอยู่เหมือนกัน ถ้าหากว่าเขาทำอันตราย เธอคงสู้ไม่ได้

“จะให้เอากลางถนนหรือไงแม่คุณ”

เขาพูดพลางถลึงตาใส่ แล้วมองตรงหน้าอกของเธออย่างน่าเกลียดที่สุด หญิงสาวสะดุ้งใจหายวาบจ้องหน้าด้วยความไม่พอใจ

“ไอ้บ้า! ลามก สกปรก จิตเสื่อม”

จากคนที่สุภาพเรียบร้อย เมื่อเจอผู้ชายหยาบกระด้าง พูดจาดูถูกอย่างนี้เธอด่าไม่ยั้งเช่นกัน และเห็นเขาจ้องตาวาววับ แยกเขี้ยวยิงฟัน ทำราวกับจะขย้ำเธอให้แหลกเป็นจุณ แต่ความดิบเถื่อนยังไม่จบเพียงแค่นั้น เขาแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากช้าๆ ซึ่งเป็นการกระทำน่าสะอิดสะเอียนที่สุด

“ชอบจริงๆ เลยผู้หญิงปากดีอย่างนี้ ถ้าเจอกันสองต่อสองแล้วรถไม่ติดไฟแดงละก็จะเล่นให้ยับจนเดินไม่ตรงทางเลย”

“ไอ้บ้า ไอ้ทุเรศ”

เธอด่าเป็นชุดที่สองด้วยความโกรธ มนต์เสกไหวไหล่ เบะปาก จ้องหน้าตาขวาง มาริสามีความรู้สึกว่าเขาเหมือนพวกโรคจิตหื่นกาม

“ผมไม่อยากมีเรื่องกับผู้หญิงปากตลาดหรอกนะ มันไร้สาระเกินไป ถ้าอย่างนั้นก็เชิญขับรถไปกกผัวได้แล้วครับ”

เขาปากร้ายไม่ใช่ย่อย คำพูดนั้นสร้างความไม่พอใจแก่มาริสาที่เกลียดเขาจับใจจนต้องด่าออกมาอย่างสุดจะทนไหว

“ไอ้คนชั่ว จิตใจต่ำ ไม่มีคุณธรรม คุณรู้ไหมว่าที่ฉันขับรถเร็วอย่างนี้เพราะอะไร ฉันรีบจะไปดูศพคุณพ่อคุณแม่ที่โรงพยาบาล”

หญิงสาวร้องไห้ออกมาอย่างสุดกลั้นกับเหตุการณ์ร้ายๆ ที่โถมเข้าใส่ติดๆ กันกับวันมหาวิปโยค ทั้งสูญเสียผู้ให้กำเนิดทั้งสอง และถูกผู้ชายหน้าโหดพูดไม่ดีซึ่งเป็นการบีบคั้นหัวใจอย่างแรงจนทนไม่ไหวจึงระบายออกมาเป็นหยดน้ำตา

มนต์เสกตกใจ อึ้งไปชั่วครู่เมื่อรู้ว่าสาเหตุที่สาวสวยคนนี้ขับรถเร็วจนเกือบชนท้ายรถเขานั้นเพราะรีบจะไปดูศพพ่อแม่ที่โรงพยาบาล

“อ้าว แล้วผมจะรู้มั้ยว่าคุณจะไปไหน เอาเป็นว่าถ้าคุณมีสติ ขับรถดีๆ ก็คงไม่ลงเอยอย่างนี้หรอก โชคดีแค่ไหนแล้วที่รถผมไม่เสียหาย”

“จบได้ยัง”

“โอเค ครั้งนี้ผ่าน ผมไม่ถือสาหาความ”

ทว่าร่างใหญ่สะดุ้งสุดตัวเมื่อเสียงบีบแตรรถดังขึ้นในลักษณะแช่ติดๆ กัน เขาหันไปมองด้วยความไม่พอใจ

“บีบแตรหาพระแสงของ้าวทำไมวะ”

เขาสบถด้วยเสียงห้าวลึก น่ากลัวเสียจนมาริสารีบกดกระจกรถขึ้น กลัวว่าถ้าเขาอารมณ์ไม่ดี อาจจะทำในสิ่งที่คาดไม่ถึง

“เฮ้ย! ไปได้แล้ว ไฟเหลืองแล้ว”

เจ้าของรถขับเคลื่อน 4 ล้อ โผล่หน้าใหญ่ที่เต็มไปด้วยหนวดเครายาวยุ่งออกมาตะโกนบอกให้เขารู้ ด้วยท่าทางไม่เป็นมิตรเท่าไรนัก

“เออ รู้แล้ว บ้าชิบ...เพราะคุณคนเดียวทำให้ผมถูกมองในทางไม่ดี แล้วไอ้คนในรถนั่นอาจจะด่าผมแล้วก็ได้ วันนี้ซวยจริงๆ เลย”

จู่ๆ เขาหันมาตะโกนใส่หน้ามาริสาอย่างโกรธๆ แล้วเดินขึ้นรถ ขับออกไปด้วยความเร็ว ส่วนมาริสาตั้งสติให้มั่น แล้วขับรถตามไปอีกคัน