บท
ตั้งค่า

ชั่งใจ ครั้งที่ 6: ออโรราแกรนด์โอเพนนิ่ง [2/2]

“ไม่มีหรอกครับ มีแต่เตียงที่น้องธารนั่งนั่นแหละ”

พอผมตอบกลับไปแบบนี้ ธารก็ย่นคิ้ว ผมเลยฉุกคิดได้ว่ามันต้องไม่โอเคแน่ๆ ที่จะนอนร่วมเตียงกับผม ผมเลยรีบโพล่งขึ้นก่อน

“เดี๋ยวน้องธารนอนบนเตียง พี่เหนือนอนกับพื้นก็ได้ครับ ไม่ต้องห่วงนะ”

เสียสละมากไอ้เหนือ เอารางวัลครูดีเด่นไปเลย!

แต่ถึงจะไม่เสียสละ ผมก็พอจะเดาออกว่ามันต้องไม่ยอมลงไปนอนบนพื้นกระเบื้องเย็นๆ แข็งๆ แน่

หากแต่พอผมพูดไปอย่างนั้น ความไม่คาดหมายก็บังเกิดเมื่อมันสวนขึ้นมา

“ก็นอนด้วยกันบนเตียงนี่แหละ จะลงไปนอนกับพื้นทำไม เปิดแอร์งี้ เดี๋ยวก็หนาวตาย”

เบิกตาโตเลยเมื่อได้ยินมันชวนผมร่วมเตียง ถึงจะไม่ใช่การชวนร่วมเตียงเพื่อมีอะไรกัน แต่บอกเลยว่าเหนือฟินแรง

แต่จะให้แสดงอาการฟินออกนอกหน้าก็ไม่ได้ อีกอย่าง ผมกับเด็กนี่ก็ใช่ว่าจะสนิทสนมหรือถูกชะตากันถึงขนาดมานอนร่วมเตียงกันได้ ถ้าเกิดจู่ๆ มันเอาหมอนอุดหน้าฆ่าผมกลางดึกขึ้นมาล่ะจะทำยังไง

เพราะงั้นผมเลยถามออกไป

“แล้วน้องธารโอเคเหรอครับที่จะนอนเตียงเดียวกับพี่เหนือ”

“ผู้ชายเหมือนกันจะมีไร’จารย์ นอนกับไอ้โรมไอ้จอมก็ออกจะบ่อย ถ้านอนกับไอ้ไม้หรือ’จารย์เป็นเกย์ก็ว่าไปอย่าง แบบนั้นค่อยน่าเป็นห่วง”

เออ อันนั้นก็จริงของมัน แต่...มึงยังไม่รู้สินะว่ากูเป็นเกย์

“ไม่ได้เป็นใช่มั้ย” จู่ๆ มันก็ถามขึ้น ผมเลยส่ายหน้าเป็นพัลวัน “ก็ดี งั้นก็ไม่น่าห่วง”

เห็นสีหน้ามันแล้ว รู้เลยว่าไม่สมควรบอกมันอย่างแรงในตอนนี้ ถ้ามันไม่ช็อคก็กระทืบผมแน่นอน ผมเลยเนียนๆ ยิ้มให้มันไป

“นั่นสินะ ไม่เห็นต้องห่วงเลย”

“แล้วนี่’จารย์จะนอนยัง เที่ยงคืนละ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ไม่ตื่น” มันว่าหลังจากเดินเอาเศษซากขนมกับน้ำไปทิ้ง

ผมเลยเออออพยักหน้ารับมันไป ก่อนจะมองมันทิ้งตัวลงบนเตียง ยึดหมอนใบเดียวที่ผมมีอยู่ไป แล้วก็ดึงผ้าห่มไปคลุมตัวอีก แต่อะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับการที่มันสวมกางเกงสั้นๆ ตัวเดียวนั่นนอน

ไม่อยากจะคิดเลยว่าตื่นเช้ามาจะเป็นยังไง ความฟินอยู่สุดปลายทางรำไรแน่ๆ เหนือสัมผัสได้...

แต่ก็นะ ผมเป็นอาจารย์ที่แม้จะเป็นแค่อาจารย์ฝึกงาน ทว่าก็มีศีลธรรมสูง ถึงจะแอบคิดอกุศลกับมันไปหลายครั้งแล้วก็ตาม เอาเข้าจริง ผมก็แอบเป็นห่วงอยู่เหมือนกันเรื่องความไม่เหมาะสม

“แล้วน้องธารจะนอนแบบนี้จริงเหรอ” ถามแย็บๆ ไป หมายถึงเรื่องการแต่งตัวนอนของมันนี่แหละ กะว่าถ้ามันไม่โอเค จะได้เอาเสื้อยืดมาให้ยืมใส่

หากแต่มันดันเข้าใจผิด ผงกหัวขึ้นมาแล้วดึงหมอนที่หนุนอยู่มาตรงกลาง

“ขี้งกจังวะ เออๆ นอนคนละครึ่งก็ได้”

กูไม่ได้หมายถึงเรื่องที่มึงยึดเอาหมอนไปนอนคนเดียวเว้ย กูหมายถึงมึงจะนอนยั่วกูทั้งคืนแบบนี้จริงๆ หรือไง!

ผมทำท่าจะอธิบายว่าไม่ใช่อย่างที่มันเข้าใจ แต่มันก็สวนขึ้นมาก่อน

“ปิดไฟสักที ง่วงแล้ว” ว่าแล้วก็ดึงผ้าห่มลงต่ำมาที่หน้าอกหน่อยนึง เผยให้เห็นสีชมพูรำไร

กะ...กลืนน้ำลาย... เด็กมันยั่วจริงๆ เดี๋ยวก็อยู่ได้ไม่ถึงเช้าหรอก

“ครับๆ” สุดท้ายแล้วผมก็กลั้นใจปิดไฟก่อนตบะจะแตกรอบสอง แล้วกลับมานอนเตียง

บอกเลยว่าคืนนั้นคือนอนตัวแข็งมาก เว้นระยะห่างจากธารพอสมควรเลยทีเดียวทั้งที่หัวก็หนุนหมอนใบเดียวกัน เรียกได้ว่าหัวน่ะอยู่ข้างกัน แต่ตัวนี่แทบจะปีนลงจากเตียง

นะ...นอนไม่หลับ!

ใครมันจะไปหลับลงวะ ไอ้เด็กเวรนี่มานอนกรนคร่อกๆ ในสภาพยั่วเย้าสุดๆ อยู่ข้างๆ เนี่ย หนุนหมอนใบเดียวกันไม่พอ ยังจะผ้าห่มผืนเดียวกันอีก หรือนี่จะเป็นแผนการกลั่นแกล้งผมของมันในเลเวลที่สูงขึ้น อารมณ์แบบว่าหลอกล่อให้ผมทำผิดศีลธรรมแล้วเอาไปฟ้องพี่สมรอะไรงี้

คิดแล้วก็ไม่น่าใช่ เพราะทันทีที่หัวถึงหมอน ธารก็หลับไปแต่โดยดี สงสัยผมคงจะคิดมากไป อาจจะไม่มีอะไรก็ได้ เลยพยายามข่มตาให้หลับ ทว่ากว่าจะหลับก็เล่นเอาเกือบเช้ามืด ร้ายกว่านั้นคือพอฟ้าเริ่มสาง ผมก็กลายสภาพเป็นหมอนข้างให้ธารที่นอนกอดผมซึ่งนอนหงายอยู่ ไม่ได้กอดแค่แขนด้วย ขาก็ยกมาพาดบนตัวผมอีก มารู้สึกตัวตื่นว่าเป็นหมอนข้างให้มันได้ก็เพราะไก่ขัน ไก่ที่ว่าหมายถึงไก่ชนที่บ้านตรงข้ามกับหอพักเลี้ยงไว้ มันขันทุกเช้านั่นแหละ แต่วันนี้แปลก... มีไก่สองตัว

ไก่ตัวแรกคือไก่ตัวเดิมที่ขันทุกวัน ส่วนอีกตัว...

กะ...ไก่น้องธาร

มาขันอยู่ตรงต้นขากูเนี่ย! หูย ขันแรงมาก รู้สึกได้เลยว่าชูคอพร้อมตีสุดๆ

ผมใจเต้นตึกตักขึ้นมาตอนนี้ เมื่อคืนอุตส่าห์ระงับกิเลสตัณหาได้แล้ว เช้ามานี่ไร้ประโยชน์ไปเลย ยิ่งผงกหัวขึ้นมามองไก่น้องธารที่จิกต้นขาผมไม่เลิกแล้วก็ตาลุกวาว

แม่จ๋า เหนืออยากกินไก่เป็นๆ ทั้งขน ดูท่าทางแซ่บ...

มะ...ไม่ใช่สิ ต้องปลุกให้มันตื่นต่างหาก ไม่ใช่อยากไปกินไก่มัน

เท่านั้นผมก็ยื่นมือไปแตะแขนใหญ่ที่วางพาดบนตัวเบาๆ

“น้องธาร... ตื่นเร็ว เช้าแล้ว”

“อืม...” ธารส่งเสียงรำคาญออกมา ซุกหน้าเข้าไปซอกคอผมทันใด กอดแน่นกว่าเดิมด้วย

แล้วผมเป็นไงล่ะ ตัวค้างสิตัวค้าง โอ๊ย! แนบชิดเกินไปแล้ว!

“ธะ...ธารใจ ตื่น” สติสตังเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัว มือไม้ที่สะกิดแขนมันเริ่มสั่น แต่ธารก็ไม่ยอมตื่น ซุกหน้าลงมาบนซอกคอผมอยู่นั่น

ดะ...เดี๋ยวกูก็กดซะหรอก!

หอบหื่นกำเริบหนักมาก โชคดีที่จู่ๆ โทรศัพท์ผมก็ร้องดังขึ้น ปลุกให้ธารตื่นขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติ

“ถึงเวลาตื่นแล้วเหรอ” ถามแบบคนเมาขี้ตาด้วย แต่ดูสภาพคือยังไม่รู้ตัวว่านอนกอดผมอยู่

ผมเลยคว้าโทรศัพท์ที่อยู่บนโต๊ะข้างเตียงมาดูหน้าจอ เห็นเบอร์แปลกๆ โทรเข้ามาเลยเดาว่าน่าจะเป็นเบอร์เพื่อนมัน

“น้องมายด์โทรมาน่ะครับ”

ธารปรือตา คว้าโทรศัพท์จากมือผมไปกดรับแล้วพลิกตัวไปอีกทาง

“ฮัลโหล...”

ผมหายใจโล่งได้ก็ตอนนี้แหละ เด้งตัวขึ้นนั่งผึง รีบกำหนดลมหายใจให้เป็นปกติอย่างรวดเร็วโดยที่หูไม่ได้ยินบทสนทนาที่ธารคุยกับน้องมายด์เลยแม้แต่คำเดียว มาได้ยินอีกทีก็ตอนธารร้องเรียกผมแล้ว

“’จารย์ ไอ้ไม้อยู่หน้าห้องแล้ว ไปเปิดให้มันที”

ไอ้เด็กนี่... ตื่นขึ้นมาได้ก็ใช้กูเลยนะ!

แต่ผมก็เดินไปเปิดนั่นแหละ พอเปิดประตูปุ๊บ อีน้องมายด์ที่ถือถุงเสื้อผ้าที่เอามาให้ธารในมือก็โผล่พรวดเข้ามา

“อ้ายเหนือ มอร์นิ่งคิสเจ้า (พี่เหนือ มอร์นิ่งคิสจ้า!)”

มอร์นิ่งคิสป้ามึง! รีบเอามือดันหน้ามันที่ถลาเข้ามาหาผมรัวๆ สวรรค์ของไอ้เหนือจากความฟินเกือบขั้นนิพพานเมื่อครู่อันตรธานหายไปทันทีที่เห็นหน้าน้องชายบัวขาว

“นะ...น้องมายด์เข้ามาก่อนครับ” แล้วผมก็ตัดบทก่อนที่มันจะพยายามมอร์นิ่งคิสผมให้ได้ด้วย

น้องมายด์ทำปากยู่ขัดใจเล็กน้อย ว่าพึมพำก่อนจะเข้ามาแต่โดยดี

“อ้ายเหนือซวกปะล้ำ ซอบน้องมายด์แต่เล่นตั๋วเน้อ มอร์นิ่งคิสน้อยก็บ่ะได้ เป๋นเพราะธารอยู่ต้วยเหียก้า กลั๋วจะเป๋นข่าวแหละ (พี่เหนือนี่ใจร้ายจัง ชอบน้องมายด์แต่เล่นตัวนะ มอร์นิ่งคิสนิดหน่อยก็ไม่ให้ เพราะธารอยู่ที่นี่ด้วยล่ะสิ กลัวจะเป็นข่าวล่ะสินะ)”

อะไรของมึงเนี่ย! มโนเป็นตุเป็นตะ มึงไปเช็กสมองที่โรงพยาบาลมั้ย!?

เข้ามาถึง พอเห็นธารนอนหันหลังให้อยู่บนเตียง ก็กระโดดขึ้นไปหา และ...

“มอร์นิ่งคิสเจ้าธาร อุ้ก! (มอร์นิ่งคิสจ้ะธาร อุ้ก!)”

ปากเกือบจะโดนหน้าธารอยู่แล้ว ดีที่ธารพลิกตัวมายกขายันหน้าอกไว้ได้ทัน

“ไอ้ไม้...มึงอยากโดนกระทืบจนหายเป็นตุ๊ดใช่มั้ย” เสียงเข้มดังลอยมาตามลม ก่อนจะออกแรงยันจากฝ่าเท้าให้น้องมายด์ถอยออกห่าง

“ซวกแต้ซวกว่า คนเฮาอุตส่าห์มอบความหวังดีหื่อแต้ๆ (ใจร้ายแท้ๆ อุตส่าห์มอบให้ด้วยความปรารถนาดี)” น้องมายด์กระเง้ากระงอดเมื่อถูกปฏิเสธอีกครั้ง

ผมนี่อยากจะวิ่งไปตะโกนใส่หน้ามันเลยว่า ‘เอาความปรารถนาดีของมึงกลับไปเลย จูบกับมึง กูจูบกับน้องธารดีกว่าเว้ย!’

ดีกว่าจริงๆ อันนี้เป็นความอยากลึกๆ จากใจ แต่อย่าพูดออกไปเลย เดี๋ยวผมจะโดนธารเอาฝ่าเท้ายันเหมือนน้องมายด์ด้วยอีกคน กลัวจะไม่ได้ยันแค่หน้าอกด้วย แต่จะเลยขึ้นมาถึงหน้า

“เอาเสื้อผ้ามา กูจะไปอาบน้ำ” ธารลุกขึ้นนั่ง ยื่นมือขอถุงเสื้อผ้าก่อนน้องมายด์จะส่งให้

“เอ๊าะ เอาไป แล้วก่อเอาก้าจ้างตี้เอาผ้ามาหื่อจ่ายมาต้วย ขอแฮงๆ สักสองสามเตื้อ (อะ เอาไป แล้วเอาค่าจ้างที่เอาเสื้อผ้ามาให้จ่ายมาด้วยนะ ขอจัดแรงๆ สักสองสามที)”

“กระทืบใช่มั้ย ได้ เดี๋ยวกูจัดให้” ธารว่าเสียงเข้มอีกครั้ง แต่คราวนี้เหมือนจะพูดเล่นเพราะเห็นน้องมายด์หัวเราะร่วนไม่เลิก ก่อนที่จะหายเข้าห้องน้ำไป

ทีนี้ก็เหลือแค่ผมกับน้องมายด์ละ บรรยากาศมาคุลอยเข้ามาทันที จะให้อยู่ในห้องสองคนกับมันก็ดูท่าจะไม่ดี ไม่ใช่ว่าผมคิดจะทำอะไรมันอย่างที่คิดเลยเถิดไปเรื่อยกับไอ้เด็กธารนะ แต่มันนี่แหละที่จะทำมิดีมิร้ายผม

จะหนีเข้าห้องน้ำไปกับธารก็ไม่ได้ เดี๋ยวโดนกระทืบ จะไปตรงระเบียงก็ไม่ได้อีก ไม่มีทางหนีถ้ามันตามออกมา งั้นทำทีว่าจะออกไปซื้อข้าวแล้วกัน

“เดี๋ยวพี่เหนือไปซื้อข้าวก่อนนะครับ จะได้กินกัน”

“บะต้องเจ้า ข้าเจ้าซื้อมาแล้ว ตอบแทนตี้อ้ายเหนือซื้อข้าวนึ่งจี้นปิ้งมาหื่อข้าเจ้าเจ้า (ไม่ต้องจ้า หนูซื้อมาแล้ว ตอบแทนที่พี่เหนือซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งมาเลี้ยงหนูน่ะค่า)” อีน้องมายด์ขัดคอผมทันควัน มือก็ชูถุงโจ๊กสามถุงขึ้นมา ทำเอาผมชะงักกึก

ละ...แล้วกูจะอ้างว่าไปซื้ออะไรดีล่ะทีนี้

ในหัวคิดเป็นพัลวันเลย ทว่าน้องมายด์ไม่สนใจแล้ว เดินไปหาจานชามมาเทโจ๊กประหนึ่งอยู่ในห้องตัวเอง ก่อนจะยกถ้วยโจ๊กร้อนๆ เข้ามานั่งบนเตียงแล้วตบที่ว่างข้างๆ เรียกผม

“อ้ายเหนือมานั่งเพียะเจ้า โว้ยๆ มานั่งกินต้วยกัน (พี่เหนือมานั่งนี่เร็ว มากินด้วยกัน)”

“คะ...ครับ” ผมไม่มีทางเลือกเลยต้องเดินไป

ทว่าพอเดินไปนั่งปุ๊บ แทนที่จะได้กินเอง น้องมายด์ก็แย่งถ้วยโจ๊ะไปถือ ตักแล้วเป่าพรูดๆ ก่อนเอามาจ่อตรงหน้าผม

“อ้ายเหนือกิ๋นเน้อเจ้า อ้าม (พี่เหนือกินนะคะ อ้าม...)”

โอ้โห มึงเป่าน้ำลายกระจายอย่างนั้น ใครมันจะไปกินลงวะ!

“เดี๋ยวพี่เหนือกินเองดีกว่าครับ” ผมทำท่าจะแย่งช้อนในมือมันมา แต่มันสะบัดหนี ทำท่าสะบัดสะบิ้งจนน่าโดนตบให้คว่ำ

“บ่ะเอา เป๋นแฟนกั๋นก็ต้องเยี้ยะหื่อมันเปิงเป๋นแฟนกันกะเจ้า เดี๋ยวข้าเจ้าป้อนหื่อเน้อ (ไม่เอา เป็นแฟนกันก็ต้องทำตัวให้เหมือนแฟนสิคะ เดี๋ยวหนูป้อนให้นะ)”

กูไปเป็นแฟนมึงตั้งแต่ตอนไหน!

อาการหนักมาก มโนแรงมาก ตั้งแต่ที่ผมเอาข้าวเหนียวหมูปิ้งที่ธารมาแขวนหน้าห้องไปให้ นอกจากเต๊าะผมไม่เลิกแล้ว ยังมัดมือชกเป็นแฟนมันอีก ไม่ใช่แค่คำพูดด้วย แต่การกระทำก็มาเต็ม อยู่ที่วิทยาลัยยังพอทนได้เพราะไม่ได้ใกล้ชิดอะไรเท่าไหร่ด้วยต่างคนต่างมีหน้าที่ต้องทำเลยทำให้ไม่เจอกันมากนัก ทว่าพอมาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ แถมยังอยู่ในห้องแบบนี้ บอกเลย... ขยะแขยง!

“เอาเลยเจ้า อ้าม (เอาสิคะ อ้าม)” น้องมายด์ทำท่าจะป้อนผมอีกครั้ง คราวนี้ทำท่าบีบนมก้มต่ำๆ ลงมาด้วย ผมมองแล้วของเก่าที่กินเมื่อคืนก็แทบพุ่ง

มึงมันตุ๊ดไม่ได้กินยาคุม อย่ามาทำเป็นว่ามีนมนะเว้ย!

ไม่ได้การละ คงต้องบอกมันว่าผมไม่ได้มีรสนิยมแบบนี้ ไม่งั้นได้ประสบการณ์ขนหัวลุกมากกว่านี้แน่นอน

“น้องมายด์ พี่เหนือมีเรื่องจะบอก” ผมรีบคว้าข้อมือมันที่พยายามจะยัดเยียดโจ๊กเข้าปากไว้ทันควัน

“อะหยังกอเจ้า (อะไรเหรอคะ)”

“พูดไทยกลางนะ พี่เหนือขอ”

ต้องขอล่ะ คุยเรื่องซีเรียสนี่ อย่ามาอู้กำเมืองใส่กูเลย กูขี้เกียจแปล

“ได้ค่ะ พี่เหนือว่ามาสิคะ” มันกลับมาพูดไทยกลางละ แต่ตัวนี่เอนมาจนแทบจะซบหน้าอกผม ผมเลยต้องดันมันออกให้ไปนั่งตรงๆ

สูดหายใจเข้าเต็มปอดได้ก็เริ่มพูด

“น้องมายด์ฟังพี่เหนือนะ คือ...ที่พี่เหนือทำดีกับน้องมายด์เนี่ย พี่เหนือไม่ได้ชอบน้องมายด์แบบอย่างที่น้องมายด์คิด โอเคมั้ย”

พูดตรงมาก ฟันประเด็นโชะ น้องมายด์ก็ดูตะลึงไปนิด ก่อนจะยักไหล่ ทำท่าไม่สนใจ

“ไม่เห็นเป็นไรเลยค่ะ ถึงหนูจะไม่ใช่เมียพี่เหนือ แต่พี่เหนือก็เป็นผัวน้อยของหนู”

ฟังกูสิเว้ย! หยุดขี้ตู่ไปเองสักที!

ไม่ฟังไม่พอ ทำท่าจะมาซบผมอีกด้วย โห... มึงนี่พอลับสายตาคนแล้ว ทั้งเต๊าะทั้งพยายามจะลวนลามกูหนักมาก

ผมเลยต้องผลักมันออกไปอีก แล้วว่าเสียงเข้ม

“น้องมายด์... พี่เหนือไม่ชอบนะที่มาทำแบบนี้”

คราวนี้ได้ผล น้องมายด์ทำหน้าจ๋อย ยื่นปากเล็กน้อย

“ก็ได้ค่ะ ถ้าพี่เหนือไม่ชอบ น้องมายด์จะไม่ทำแบบนี้กับพี่เหนือในที่สาธารณะ แต่จะทำในที่ลับตาคนแทน”

กูไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น!

โอย ปวดหัวกับมัน สงสัยคงต้องบอกไปตรงๆ

“น้องมายด์... พี่เหนือบอกตรงๆ นะ คือพี่เหนือ...” จู่ๆ ก็ลังเลขึ้นมา กลัวว่าจะบอกไปแล้ว ถ้าธารที่อยู่ในห้องน้ำรู้ว่าเมื่อคืนผมไม่ได้บอกมันเรื่องเป็นเกย์ แล้วมันก็นอนกับผมด้วยความไว้ใจเต็มที่ มันจะมากระทืบผมมั้ย

แต่พอเกริ่นขึ้นมาอย่างนี้แล้ว น้องมายด์ก็อดอยากรู้ไม่ได้ เลยถามต่อ

“พี่เหนือทำไมคะ”

“รู้แล้วเหยียบไว้นะ” ผมกระซิบ พอเห็นน้องมายด์พยักหน้า ผมก็ยื่นหน้าเข้าใกล้มันแล้วว่าเสียงเบา “พี่เป็นเกย์”

“ว้าย! เป็นเกย์!”

อีน้องมายด์! กูบอกว่าให้เหยียบไว้ไง จะแหกปากหาเตี่ยมึงเหรอ!

แหกปากอย่างเดียวไม่พอ ทำท่าขนลุกขนชันใส่ผมอีก ผมเห็นแล้วอยากจะยกขาถีบมันเลย กูต่างหากเว้ยที่สมควรทำท่าทางนั้นน่ะ

พอมันเริ่มตั้งสติได้ มันก็ยื่นหน้ามากระซิบถามผมที่ส่งสายตาอาฆาตใส่มันอีก

“ว่าแต่พี่เหนือเป็นเกย์รุกหรือรับคะ”

ผมไม่เห็นประโยชน์ที่จะปิดอีกต่อไป เลยบอกไปตรงๆ

“พี่เหนือเป็นเกย์โบท แต่ชอบรับมากกว่า”

“ตายแล้ว! เกย์โบทรับนี่มันคุณแม่ชัดๆ! คุณแม่ออโรรา!”

ออโรราอะไรเล่า! แล้วมึงจะเสียงดังทำไม กูบอกว่าให้เบาๆ เนี่ย เดี๋ยวไอ้ธารมันได้ยิน!

ไม่ทันแล้วล่ะ ได้ยินไปแล้ว จังหวะที่น้องมายด์โวยวาย ธารก็เปิดประตูห้องน้ำออกมาพอดี แล้วก็ทำหน้าอึ้งๆ ที่ได้ยินว่าผมเป็นเกย์ด้วย ซ้ำน้องมายด์ยังตอกย้ำความจริงเข้าไปอีก

“ธารๆ พี่เหนือเป็นเกย์เว้ย เป็นเกย์รับด้วยมึง! กูก็เผลอไปลวนลามดอมดมตั้งนาน โอ๊ย ผิดผีแรง!” ภาษาไทยกลางสำเนียงเหนือหลุดออกจากปากน้องมายด์ด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

ผมใจเต้นตึกทันทีเมื่อเห็นธารมองมายังผมตาไม่กะพริบ ลุ้นในใจว่ามันจะทำยังไงต่อจากนี้ แต่ไม่ทำอะไร มองผมอึ้งได้แค่นั้น พอตั้งสติได้ก็ปั้นหน้าเครียด เดินถือผ้าเช็ดตัวกับกางเกงขาสั้นที่ใส่นอนเมื่อคืนสวนผมออกจากห้องเท่านั้น หากแต่จังหวะที่มันเดินผ่านหน้า ผมก็ได้ยินมันพูดขึ้นมา

“เรื่องแค่นี้ยังไม่บอก เป็นพวกไว้ใจไม่ได้จริงๆ ด้วย”

แล้วก็ตามด้วยการเรียกน้องมายด์ออกจากห้อง ทิ้งให้ผมนั่งมองแบบงุนงงว่าทำอะไรผิดเพราะดูท่าทางเด็กนั่นจะโกรธผมอีกแล้ว แต่ก็พอจะเข้าใจได้ว่าเมื่อคืนมันอุตส่าห์วางใจถึงขนาดยอมนอนร่วมเตียงด้วย ซ้ำยังเกริ่นถามผมมาแล้วด้วยว่าผมเป็นเกย์หรือเปล่า แต่ผมดันปฏิเสธไปซะนี่

ก็ช่วยไม่ได้นี่หว่า ตอนนั้นกลัวโดนมันกระทืบน่ะ แต่ไม่รู้ทำไมผมถึงได้รู้สึกว่าถ้าย้อนกลับไปเมื่อคืนได้ ผมน่าจะบอกมัน รู้สึกแย่ชะมัด

ชะ...ช่างแม่งเถอะ จะไปแคร์อะไรกับแค่เด็กเกเรคนเดียววะ! ช่างหัวมัน!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel