บท
ตั้งค่า

#หมอหมี่ของหมาขาล EP.2 น้องชายกระหายรัก (2)

“เมื่อคืนไปห้องเจ้หมี่มาใช่มั้ย”

ผมผงกหัวขึ้นมา หลังจากที่น้องสาวฝาแฝดในทรงผมสั้นม้าเต่อถามขึ้นในระหว่างที่กินข้าวเช้า น้องสาวผมทำอาหารเก่ง และเพราะผมไม่ชอบทำอาหาร เลยโยนมันมาให้ขิมทำบ่อย และขิมก็เป็นทั้งน้องสาวที่ทั้งน่าหมั่นไส้และกวนประสาทไปพร้อมๆ กัน

เพราะพอผมไม่ชอบอาหารเช้า มันก็จะลุกขึ้นมาขยันทำอาหารเช้าทุกวัน

อะไรที่ผมไม่อยากให้รู้ มันก็จะไปสืบให้รู้มาจนได้

“เสือก” ผมตอบมันสั้นๆ ก่อนที่ไอ้ตัวแสบจะฉีกยิ้ม

“มีไรกันยัง” แทบจะสำลักข้าวตอนที่มันถามซะตรงเผงสัสๆ “เมื่อคืนพี่เตเล่าให้ฟังว่าพี่หึงเจ้หมี่ เลยอุ้มเธอกลับห้องไปปู้ยี่ปู้ยำ”

ผมแทบจะหักตะเกียบ ไอ้เหี้ยเต ปากสว่างอีกตามเคย

ถ้ามันไม่มีซัมติงอะไรกับไอ้ขิม คงไม่มาพูดให้รู้กันขนาดนี้หรอก

“มึงกับมันเป็นผัวเมียกันเหรอขิม เห็นกี่ทีรู้จากไอ้เตตลอด” พอถามคำถามที่รู้ว่าน้องผมมันต้องตอบไม่ได้ ไอ้ขิมก็สะอึก

“เสือก” มันย้อนผมกลับ ไอ้เด็กเวร

“กูไม่กินล่ะ” หมดรมณ์ อีกอย่างไม่ชอบข้าวเช้าอยู่แล้วด้วย

“พี่จะไปไหน ไม่ไปส่งหนูที่โรงเรียนเหรอ” ไอ้ตัวเล็กถามหลังจากที่เห็นว่าผมรวบผมขึ้นมัดจุกหลวมๆ แล้วสะพายกระเป๋าแฟบๆ ที่มีแต่รอยลิควิดแล้วจะก้าวออกนอกประตู

“มีตีนก็ไปเองดิ เงินพ่อก็ส่งให้”

“ทำตัวเป็นพี่ชายที่แสนดีเหมือนที่ทำตัวเป็นน้องชายที่ภักดีกับเจ้หมี่หน่อยดิ”

“ไม่สะดวกใจ”

ผมตอบแค่นั้นอย่างไม่แคร์ คาบบุหรี่มวนที่สองของเช้านี้ จุดไฟแช็คแล้วเดินออกไปจากประตู ทิ้งให้มันกินข้าวเช้าที่ชอบกินนักหนาคนเดียวไป เพราะยังไงก็เจอหน้ากันทุกวัน อีกอย่างไอ้ขิมมันดูแลตัวเองได้อยู่แล้ว

ก็ตามที่บอก ถ้าไม่ใช่พี่หมี่ ผมก็ไม่ได้สนเหี้ยอะไร

แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นน้องแท้ๆ ก็ตาม

ผมแวะมาที่โรงพยาบาล เพราะถ้าจะแวะมาหาพี่หมี่ ก็ต้องมาที่นี่เท่านั้น

โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังใจกลางเมืองหลวงที่พ่อของพี่หมี่เป็นผู้บริหาร ลูกสาวจะกลายเป็นหมอที่สมบูรณ์แบบขนาดนั้นก็ไม่แปลก

ใช่ ผมชอบที่เธอดูเซ็กซี่และสง่างามแบบนั้น แต่กลับมีความลับอันย้อนแย้งขัดกับบุคลิกภายนอกที่เพิ่งรู้เมื่อคืน เอาเป็นว่าผมพอใจมากกับความลับนี้

และจะใช้มันให้เป็นประโยชน์ที่สุด

ผมตรงเข้าไปที่โซนประชาสัมพันธ์ เพราะคนที่นี่รู้จักผมในฐานะลูกชายนักธุรกิจสีเทาคู่ผัวเมียที่เติบโตในต่างประเทศ อีกอย่างก็เป็นหุ้นส่วนกับพ่อของพี่หมี่ด้วย

แทบไม่มีอะไรที่เราสองคนจะไม่เข้ากัน แต่มีแค่พี่หมี่ที่ยังไม่อยากมีใครเท่านั้น

ถ้าผมทำให้เธอหลงได้ การได้เธอมาเป็นเมียมันก็ไม่ยากอะไร เพราะชีวิตผมมันมีครบทุกอย่าง

พนักงานประชาสัมพันธ์แจ้งห้องพักของพี่หมี่ วันนี้คนไข้น้อยเธอเลยได้พักหายใจบ้าง เห็นบอกว่าพี่หมี่ดูมีอาการแฮงก์เหล้า แต่ก็ยังทำงานได้ดี ที่คอมีรอยเหมือนยุงกัด เหมือนว่าเธอจะป่วย

ผมกระตุกยิ้ม พยาบาลที่นี่ช่างซื่อจริงๆ เพราะไอ้รอยยุงกัดนั่นน่ะ เป็นรอยที่ผมทำมันด้วยตัวเองไงล่ะ

ผมเลื่อนบานประตูกระจกมัวออกไปอย่างถือวิสาสะ เพราะผมแวะเวียนมาหาพี่หมี่ที่นี่ประจำในเวลาว่างจนพยาบาลทุกคนรู้จักผม และดูเหมือนพวกเธอจะคลั่งไคล้ผมอยู่เหมือนกัน แต่ผมกลับแสดงออกแบบนั้นกับพี่หมี่แค่คนเดียว

ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนช้อนขึ้นมาสบสายตาผม เธอในชุดกาวน์ที่ขาวสะอาดกลับดูเซ็กซี่เพราะหุ่นอวบอัดภายใต้ชุดแซกทรงสวย ผมเผลอจินตนาการถึงเรื่องเมื่อคืนและเรือนร่างใต้ผ้าของเธอ และก็ดูเหมือนว่าพี่หมี่จะจำมันได้เหมือนกัน เธอผุดลุกขึ้นจากโต๊ะขาวที่มีเครื่องคอมและเอกสาร ในขณะที่ผมเลื่อนประตูปิดอย่างเงียบเชียล

“ขาล คือเมื่อคืน...” เธอพูดเสียงแผ่ว จ้องมองริมฝีปากผมที่หยัดยิ้มอย่างอ้อยอิ่ง “พี่ทำอะไรน่าอายลงไปเยอะเลย ขอโทษนะคะ”

“แต่ผมกลับชอบที่พี่ทำแบบนั้นนะ” ผมโพล่งขึ้นมาอย่างไม่แคร์ความรู้สึกผิดจากแววตาคู่สวยที่หวานซึ้ง ผมรู้ว่าในใจลึกๆ ของเธอกำลังกระหายใคร่รู้ในตัวตนที่ซ่อนอยู่ของผม แต่เธอแค่ยังกลัวกับขนบธรรมเนียมเก่าๆ “แล้ววันนี้”

“...”

“พี่จะให้ผมแวะไปหาที่ห้องอีกรึเปล่า?”

“หยุดก่อนเลยนะ” พอเห็นว่าผมเริ่มเข้ามาประชิดตัว พี่หมี่ที่เสียเปรียบเพราะเธอตัวเล็กกว่าก็เลยพยายามดันแผงอกผมออกไป “เหมือนน้องขาลจะลืมไปว่าที่นี่คือโรงพยาบาล”

“ผมไม่สน” ผมสวนกลับทันที ก่อนที่จะเบี่ยงหน้าไปกระซิบข้างกกหูขาว “ผมอยาก ที่มาหาพี่ก็เพราะอยาก”

“... แต่พี่ยังไม่พร้อมนะ” เธอเม้มริมฝีปากแน่นเมื่อผมใช้ฝ่ามือหนาเกลี่ยปอยผมยาวๆ สีชมพูอ่อนที่ปรกหน้าเธอจนเห็นพวงแก้มนวลเชื่อมต่อไปจนถึงใบหูที่ขึ้นสีจัดจากสิ่งที่ผมทำ ผมเลยขบหูเธอเบาๆ “อ๊ะ ขาล ฟังพี่ด้วย”

แปลกดี ปากห้ามผมแทบตาย แต่กลับไม่ผลักผมออกสักที

พี่หมี่กำลังท้าทายผมอ้อมๆ โดยที่เธอเองก็ไม่รู้ตัว

“เมื่อคืนผมยังไม่เสร็จ พี่ก็ไม่เสร็จไม่ใช่เหรอ” ผมพูดเย้าแหย่ข้างกกหูตอนที่ดึงเส้นผมหอมๆ ของเธอมาสูดดมอย่างหลงใหล ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นกายสาว หรือแม้แต่เส้นผม ก็หอมหมดจดไปซะทุกส่วนจริงๆ

“แต่ที่นี่มันโรงพยาบาล อีกอย่างขาลก็ไม่ได้ล็อกประตูด้วยนะคะ”

“ไม่มีใครเข้ามาหรอกครับพี่หมี่”

“ขาล เมื่อคืนที่พี่พลั้งเกือบมีอะไรกับเรา พี่เมานะ แล้วพี่ก็ไม่... อื้อ” พอเห็นว่าพี่หมี่เริ่มตั้งท่าที่จะปฏิเสธเรื่องเมื่อคืนขึ้นมาเพราะเถียงสู้ผมไม่ได้ ทั้งที่เธอก็รู้อยู่แก่ใจว่าพวกเรากลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้อีกแล้ว ผมในวันนี้ไม่ใช่ขาลผู้ภักดีและเว้นระยะห่าง ในเมื่อพี่หมี่ยั่วยวน ผมก็จะไม่หยุด

ผมดูดปลายลิ้นที่หอมหวานของเธอจนเกิดเสียงภายในห้องพักของแพทย์ที่เงียบสงัด พี่หมี่พยายามทุบอกผมที่ตัวใหญ่กว่ามาก แต่แรงเธอกลับไม่ทำให้ผมสะเทือน กลับกัน ผมจูบเธอแรงขึ้น หนักขึ้น และดูดดื่มขึ้นมากกว่าเดิมจนคนตัวเล็กหอบหายใจชิดริมฝีปากของผม

“แฮ่ก... อื้อ” เธอโดนผมจูบอีกรอบเพราะใบหน้ายั่วๆ นั่น มือแกร่งเริ่มปลดกระดุมเม็ดบนของเสื้อกาวน์ออก ในขณะที่พี่หมี่พยายามดิ้นทุรนทุรายในอ้อมแขนของผม “อ๊ะ ขาล”

“ทำไมชอบปฏิเสธผม” ผมกระซิบชิดพวงแก้มที่ขึ้นสีแดงฝาดของเธอโดยไม่ต้องการคำตอบ กดจูบมันหนักๆ ในขณะที่มือหนาก็บีบเคล้นหน้าอกทรงโตที่ซ่อนความเซ็กซี่เหลือร้ายนั่นไว้ใต้เสื้อกาวน์สีขาวและชุดแซก “พี่ปฏิเสธผมมากี่ร้อยครั้งแล้ว พี่หมี่”

“อื้อ ขาล พี่เจ็บ” เธอเบ้หน้าที่ขึ้นสีแดงจัดนั่นเมื่อผมใช้แผ่นอกและตัวใหญ่ๆ ดันร่างบางจนบั้นท้ายกลมกลึงชนกับโต๊ะทำงานที่อยู่ด้านหลัง เธอจนมุมอยู่ตรงนั้น ในขณะที่มืออีกข้างที่ยังว่างของผมก็เชยคางเธอขึ้นมา

“แต่ใจผมมันด้านพอ ผมไม่ยอมแพ้หรอกครับ”

“...”

“เมื่อคืนสำหรับพี่หมี่อาจเป็นเรื่องพลาด แต่สำหรับผม” ผมกดเสียงเน้นย้ำในประโยคท้าย ถึงความเรียลลิสติกในใจผม “มันคือของจริง”

“แฮ่ก...”

“ผมจะไม่ให้พี่ไปให้ครั้งแรกกับใคร นอกจากผมคนเดียว”

[จบพาร์ท : ขาล]

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel