Ep.1
แก้วคริสตัลในมือถูกยกขึ้นจรดริมฝีปากหลายครั้ง ไม่ได้ตั้งใจจะดื่มให้เมา ก็แค่คนเหงาคนหนึ่งที่กำลังนั่งมองเพื่อนรักออกไปแดนซ์กับแฟนหนุ่มท่ามกลางฝูงผีเสื้อราตรีทั้งหลาย ทว่าพอจิบของเหลวสีสวยหวานซ่าหลายครั้งเข้า มันก็ชักจะมึนๆเมาๆบ้างเหมือนกัน แต่กระนั้นรศิกานต์ก็ยังบอกตนเองว่า
‘ยังไหว’
สายตาเหม่อๆ กวาดมองคู่รักหลายคู่ที่เต้นรำด้วยกันอย่างสนุกสนานด้วยใจที่เลื่อนลอย
สำหรับเธอเหรอ มันไม่เคยมีโมเมนต์นี้เลยหลังจากแต่งงานอยู่กินกับสามีได้แค่ปีเดียว คิดแล้วก็อดที่จะสะท้อนใจไม่ได้ ป่านนี้เขากำลังทำอะไรอยู่ ทำงานหรือกำลังพัก นอนคนเดียวหรือว่านอนกับใคร คำถามหลังสุดเธอไม่กล้าเดาคำตอบเลย
ของเหลวสีหวานใสเย็นเจี๊ยบ ถูกยกขึ้นจรดริมฝีปากเล็กอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่ใช่แค่จิบแต่ดื่มลงคอรวดเดียวหมดแก้วโดยไม่รู้ตัว
ไม่นานนักใบหน้าหวานอมเศร้าก็เริ่มยิ้มให้กับผู้คนรอบข้างที่ยิ้มให้กับเธอ มีหนุ่มๆหลายคนเข้ามาทักทายโอภาปราศรัย แต่คนที่เริ่มรู้ตัวว่าตนเองเริ่มเมาก็เพียงแค่ยิ้มรับเท่านั้น สายตาหวานเยิ้มเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์เริ่มสอดส่ายมองหาเรวดีเพื่อนรัก นึกอยากจะกลับบ้านแล้ว
“ผมเห็นคุณนั่งดื่มอยู่คนเดียวตั้งนาน มาคนเดียวเหรอครับ”
“เปล่าค่ะ ฉันมากับเพื่อน”
“แล้วเพื่อน ไปไหนเสียล่ะครับ”
รศิกานต์เริ่มหวาดๆกับสายตาโลมเลียของอีกฝ่าย ที่มองเธอราวกับจะเปลื้องผ้า นึกอยากจะลุกหนีไปเดี๋ยวนั้น ทว่าเธอไม่ใช่แค่นึกแต่ลุกขึ้นจะเดินหนีผู้ชายตรงหน้าไปจริงๆ แต่สองขากลับก้าวไม่ออก เพราะรู้สึกเหมือนโลกกำลังโคลงเคลงและหมุนรอบตัวเธอ แล้วไม่กี่วินาทีต่อมาแสงสลัวจากดวงไฟหลากสีก็วูบดับลง เธอกำลังจมดิ่งลงไปในความมืดมิด ความคิดเริ่มหลุดลอย ความรู้สึกสุดท้ายรู้แค่ว่าเหมือนมีใครมาพยุงเธอเอาไว้ แล้วสติสัมปชัญญะทุกอย่างก็วูบดับลง
ไม่รู้ว่านานแค่ไหน เหมือนกำลังหลับฝันแล้วมีใครมาปลุก
“ศิ ศิ ถึงบ้านแล้ว ลุกไหวรึเปล่า”
“ท่าทางยัยศิจะเมามาก รบกวนคุณช่วยพยุงเพื่อนฉันไปไว้ในห้องนอนทีนะคะโคลด์”
เรวดีหันไปบอกแฟนหนุ่มด้วยภาษาอังกฤษแบบง่ายๆ ชายหนุ่มพยักหน้าตอบรับเบาๆ
เรวดีเองก็เมามากพอสมควร แต่ก็ยังพอมีสติพอช่วยเหลือตนเองได้บ้าง
ทว่าโคลด์ วอล์กเกอร์ ผู้ชายคอทองแดง ไวน์ไม่กี่แก้วไม่ได้ทำให้เขาเมาจนครองสติไม่อยู่
ร่างสูงสมาร์ทปานนายแบบยังคงมีแววตาคมกล้าพราวระยับ ก้าวเดินอย่างมั่นคงเมื่อดับเครื่องยนต์แล้วลงมาเปิดประตูให้กับสองสาว เขาช่วยแฟนสาวพยุงคนเมาไม่ได้สติลงจากรถแบบทุลักทุเล
“เดี๋ยวผมอุ้มเธอไปเองดีกว่า คุณพอเดินไหวไหม”
“ไหวค่ะ ว่าแต่คุณอุ้มเพื่อนฉันไหวแน่นะคะ”
“ตัวแค่นี้เอง ไม่มีปัญหาครับ สบายมาก”
“โอเค งั้นฉันจะรีบไปเปิดประตูให้นะคะ” เจ้าของบ้านคนสวยรีบเดินไปเปิดประตูแบบไม่มั่นคงนัก เซไปเซมานิดหน่อย แต่กว่าคุณเธอจะหากุญแจมาไขประตูได้ ก็ทำเอาคนที่กำลังอุ้มคนเมาอยู่รอจนเหงื่อแตกเหมือนกัน
“โทษทีค่ะ ลูกกุญแจมันเยอะไปหน่อย” คนที่มึนๆเมาๆหันมายิ้มแหยๆ ก่อนจะเปิดประตูให้ชายหนุ่มแล้วปิดล็อกกลอนอย่างที่เคยทำเป็นประจำ ก่อนจะเดินขึ้นไปชั้นบนแล้วเปิดประตูห้องนอนของรศิกานต์ให้โคลด์แบบงกๆเงิ่นๆเช่นเคย
จนคนที่อุ้มร่างคนเมาเดินขึ้นบันไดมาเหนื่อยมากอยู่แล้ว ต้องมายืนรออยู่หน้าประตูอีกหลายนาทีกว่าจะเปิดเข้าไปได้ ก็แทบหมดแรง
โคลด์วางร่างนุ่มกรุ่นกลิ่นไวน์อ่อนๆ ที่คอพับคออ่อนลงบนที่นอนแบบไม่เบามือนัก แทบจะโยนร่างของเธอลงไปบนเตียงเลยก็ว่าได้ เพราะคนที่อุ้มเธอมาตั้งแต่ที่จอดรถจนถึงห้องนอนใกล้หมดแรงนั่นเอง ซึ่งปกติชายหนุ่มจะแข็งแรงกว่านี้ แต่เพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ทำให้เรี่ยวแรงของเขาลดลงไปบ้างนิดหน่อย
ร่างสูงพ่นลมหายใจออกมาแรงๆเมื่อจัดการจัดท่านอนให้กับเพื่อนรักของแฟนสาวเสร็จ
แต่พอหันมาอีกทีปรากฏว่าเรวดีนั่งฟุบอยู่ตรงโต๊ะเครื่องแป้งเสียแล้ว โคลด์ส่ายหน้ายิ้มๆ ก่อนจะเดินมาโน้มตัวลงอุ้มคนเมาอีกคนพาดบ่าเข้าไปนอนอีกห้อง
ดีที่เขาพกกุญแจอีกดอกของห้องนี้ไว้กับตัว ไม่อย่างนั้นคงต้องหาลูกกุญแจให้วุ่นวายแน่
เมื่อวางแฟนสาวลงบนที่นอน เขาก็จัดการเปลี่ยนชุดให้กับหญิงสาวมาอยู่ในชุดนอนบางเบาสีหวาน ส่วนโค้งส่วนเว้าของเรวดีทำให้ไฟปรารถนาในกายของเขาลุกโชนขึ้นมาทันที
“เร เรครับ”
ดูท่าแล้วคนที่กำลังนอนหลับตาพริ้มคงไม่ตื่นขึ้นมาดับไฟร้อนในกายของเขาได้แน่ๆ โคลด์ถอนหายใจอีกหลายครั้งก่อนจะถอดชุดของตนเองออกเพื่อไปอาบน้ำ
