ชีวิตที่สามของหนิงอัน

76.0K · จบแล้ว
Ocean Books
36
บท
966
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

คำโปรย สามชาติภพที่เวียนว่ายนางสามารถจดจำเรื่องราวได้ทุกสิ่ง แต่ไม่ว่าจะทำเช่นไรก็หนีไม่พ้นจอมมารผู้หนึ่ง คนที่นางมั่นใจว่าเป็นผู้สังหารตนในชาติที่สอง ชาติสุดท้ายนางต้องใช้ชีวิตให้ดีหลีกหนีจากจอมมารให้จงได้ สปอยล์ “ข้า…ข้าทำอะไรผิด…” แค่ก ๆ นางไอออกมาเป็นเลือดสีดำ “...” ชุนหรงตอบไม่ได้ ทำได้เพียงพุ่งเข้าไปและพยายามที่จะช่วยเหลือ แต่ไม่มีทางยาพิษโดนของหวานนั้นรุนแรงเกินไป  ลมหายใจของหญิงงามในอ้อมแขนปลิวหายไป ดวงตานางกลายเป็นไร้แวว “อาอัน!” ไม่อยากจะเชื่อ เขาเป็นคนทำให้นางต้องตายเช่นนี้  ผู้หญิงที่เขารักถูกฆ่าตาย และมันเจ็บกว่าที่คิด หัวใจราวกับกำลังแหลกสลาย ชุนหรงรู้สึกเหมือนตัวเองต่างหากที่สมควรตาย  “อาอัน อย่าทิ้งข้าไว้เพียงลำพัง เจ้าอยากได้อะไรข้าจะหามาให้ ขอเพียงอย่าทิ้งข้าเอาไว้คนเดียว”

นิยายจีนโบราณจีนโบราณนิยายรักดราม่าโรแมนติกเกิดใหม่แก้แค้น

บทที่ 1 บทนำ

แค่ก ๆ ๆ

ความแสบร้อนที่เกิดขึ้นในทรวงอกราวกับกลืนน้ำร้อนลงไปก็ไม่ปาน ยามนี้หากจะคายชาจอกนั้นออกมาก็ไม่ทันเสียแล้ว ซ้ำร้ายผู้ที่กำลังจับปากนางอ้าออกและกรอกชาที่เต็มไปด้วยยาพิษก็ไม่ใช่ใครอื่นใด แต่กลับกลายเป็นสามีที่นางรักนั่นเอง

‘หนิงอัน’ นึกสงสัยในตนเอง นางเป็นสตรีเฝ้าครองเรือนหลังดูแลบ้านให้เรียบร้อย สามเชื่อฟังสี่กตัญญูไม่เคยขาดตกบกพร่อง เหตุไฉนเขาจึงต้องการกำจัดตน

เพียงเพราะความมั่งคั่ง รุ่งเรืองเช่นนั้นหรือ

เพราะนางเป็นเพียงสาวชาวนาไม่สามารถกลายเป็นคู่ครองที่ดีของขุนนางได้ เช่นนั้นก็ควรปลดภรรยาเอก ตั้งภรรยาใหม่เอาที่เขาสบายใจ มิใช่ทำร้ายกันจนตายเช่นนี้

นึกย้อนถึงเหตุการณ์ก่อนหน้าก็ยิ่งเจ็บใจ ตนเองเชื่อฟังสามีทุกอย่างกระทั่งเสียชีวิตลงเพราะสามีไม่ใยดีปล่อยทิ้งขว้าง หลังจากสามีสอบติดได้งานราชการทั้งที่ลำบากมาด้วยกันมากมายแต่พอเขาสบายกลับทิ้งขว้างนางจนตายรู้สึกเหมือนคำสั่งสอนที่บิดามารดาสั่งสอนมาตลอดชีวิต คำสอนหญิงสามเชื่อฟังสี่จรรยานี้ไม่ใช่เรื่องดีแม้แต่น้อย

เชื่อสามีแล้วอย่างไร เพราะเป็นหญิง เพราะเป็นลูกหลานจึงต้องกตัญญู โดยที่ไม่ต้องคำนึงเลยหรือว่า อีกฝ่ายจะปฏิบัติต่อตนอย่างไร

เช่นนั้นในชาตินี้หนิงอันก็ไม่เสียใจอะไรแล้ว คงมีแต่ชาติหมาเท่านั้นที่อกตัญญู และสามีนางในชาตินี้ก็เป็นยิ่งกว่าชาติหมาเสียอีก เพราะหากคิดดูดี ๆ แล้ว หนิงอันต่างหากที่เลี้ยงดูฟูมฟักเขาจนสามารถกลายเป็นขุนนางได้อย่างในตอนนี้

แต่สามีชาติหมาดันอกตัญญู นอกจากจะไม่ดูแลนางให้ดีแล้วยังจับกรอกยาพิษให้ตาย จากนั้นก็ระริกระรี้ไปแต่งงานกับสาวชาวเมืองผู้มั่งคั่ง มีหน้ามีตามาเป็นภรรยาเอกที่เหมาะสมแทน

‘ข้าไม่นึกเสียใจจริง ๆ เพราะตัวข้านั้นทำดีที่สุดแล้ว’ คิดอย่างนั้นได้ดวงตางามก็ค่อยปรือตาขึ้น

“ว้าย!” เห็นเพียงชายชุดดำยืนหน้าถมึงทึง ไม่ตกใจก็แปลกแล้ว

“ท่านเป็นผู้ใดกัน เข้ามาในห้องของข้า…” มองไปรอบ ๆ นี่ไม่ใช่ห้องของตน เป็นสถานที่อีกแห่งหนึ่ง ไม่รู้ว่าอยู่ที่ใด แปลกประหลาดยิ่งนัก หรือนี่คือชีวิตหลังความตาย

“ข้าตายแล้ว เช่นนั้นท่านที่มองเห็นข้าก็คือ ผะ…ผะ…”

“ยมทูต ไม่มีตัวอักษรผะ” ชายหนุ่มชุดดำกล่าวตอบเสียงเรียบ ใบหน้านั้นดูไร้อารมณ์อย่างยิ่ง

“ท่านยมทูต!” ไม่ตกใจสิแปลก ชีวิตหลังความตาย คิดว่าทุกอย่างจะหายฟึ่บแล้วไปเกิดใหม่ หรือไม่ก็ต้องมีเฮยไป๋อู่ฉางมานำทางสู่ปรโลกถูกตัดสินว่าต้องชดใช้อย่างไร ไปเกิดใหม่หรือตกนรกไม่ใช่หรือ คิดไม่ถึงว่าจะมียมทูตหนุ่มชุดดำรูปร่างหน้าตาหล่อเหลาปรากฎกายขึ้นตรงหน้าเช่นนี้ มองซ้ายมองขวาก็ไม่เห็นยมทูตหนุ่มชุดขาว แสดงว่าไม่ใช่เฮยไป๋อู่ฉางอย่างแน่นอนแล้ว

“มองหาสิ่งใด”

“มองหายมทูตสีขาว”

“ข้าไม่ใช่เฮยไป๋อู่ฉาง” ยังคงตอบเสียงเรียบ

“เช่นนั้น ข้าต้องทำอย่างไรต่อเจ้าคะ ข้าไม่รู้สึกเสียใจต่อสิ่งใดในชีวิตนี้แล้ว หากเลือกได้ชาติหน้าข้าก็อยากจะเกิดเป็นชายดีกว่ากลายเป็นหญิง หญิงสาวช่างมีชีวิตรันทดยิ่งนัก”

“เจ้าคงต้องผิดหวังแล้ว” ว่าแล้วชายชุดดำก็หยิบกระดาษขึ้นมาเล่มหนึ่งใบหน้าขยับเป็นครั้งแรก คิ้วขมวดขึ้นเป็นปมขณะเอ่ยชื่อคนในเอกสาร

“หนิงอัน”

“ข้าเองเจ้าค่ะ ถูกคนแล้ว ไม่ผิดคนแน่นอน”

“เนื่องจากเจ้าทำความดีระดับสูงเอาไว้ตลอดมา จึงมีโอกาสสามชีวิตในชาติภพนี้”

“แปลว่าข้าดั่งนางแมวเก้าชีวิตหรือเจ้าคะ ที่ข้าตายแล้วก็ตายได้อีก ตายได้เรื่อย ๆ คือข้าจะฟื้นขึ้นมาหรือเจ้าคะ” นางนึกถึงร่างของตนเองที่ถูกนำไปโยนทิ้งอย่างไม่ใยดี คาดว่าหากไม่โดนสัตว์ป่ากินจนไม่เหลือซาก ก็คงโดนแผ่นดินฝังกลบจนยากจะกู้คืนแล้ว

“หาเป็นเช่นนั้นไม่ กล่าวคือเจ้าจะได้มีโอกาสย้อนกลับไปในช่วงต้นของชีวิต ครั้งที่หนึ่งใช้ไปแล้ว”

“แปลว่า…ข้ายังตายได้อีกหนึ่งครั้ง ใช่หรือไม่?” หนิงอันเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจ “หรือข้ายังตายได้อีกสองครั้ง”

“เจ้าตายได้อีกครั้งเดียวเท่านั้น เมื่อตายครั้งที่สองก็จะกลับคืนสู่ปรภพ เวียนว่ายตายเกิดอีกครา”

“ข้าทำความดีไว้ขนาดนั้นเชียวหรือเจ้าคะ” หนิงอันยังนึกสงสัย

เคยได้ยินว่าทำดีไว้ในชาติก่อนชีวิตต่อมาอะไรก็ราบรื่น แต่นี่บอกว่าทำดีระดับสูงไว้ แต่ชีวิตนางในชาติภพนี้กลับเป็นลูกคลื่นเรื่องร้ายถาโถมมาไม่หยุดหย่อน แบบนี้ใช้ได้ที่ไหน

“มีปัจจัยหลากหลายในการเกิด มีโอกาสสามครั้งเช่นนี้ก็ถือว่าดีถมไปแล้ว”

“หากเลือกได้ ข้าอยากตาย ๆ ไปเสียยังดีกว่า ดื่มน้ำแกงยายเมิ่งกลับชาติมาเกิดใหม่โดยไม่ต้องจดจำสิ่งใด” ใบหน้าของหญิงสาวปรากฎความเศร้า บ่งบอกว่านางคิดดังที่พูดออกมาจริง ๆ

“มนุษย์มีทางเลือกหลากหลาย คราก่อนเจ้าเลือกผิด เมื่อรู้แล้วยังจะเลือกผิดอยู่อีกหรือ”

“เพราะมีทางเลือกหลากหลาย ดังนั้นเมื่อเลือกแล้วก็อยากลืมแล้วเลือกใหม่ มากกว่ายังจดจำแล้วเลือกใหม่อยู่ดี เว้นแต่ว่าข้ากลับไปเพื่อเลือกเส้นทางใหม่ในชีวิตเดิม ก็คงไม่มีทางเลือกเส้นทางเดิมอยู่แล้ว”

“เจ้ามีโอกาสกลับไปเลือกเส้นทางใหม่แล้ว ใช้ชีวิตให้ดี หนิงอัน”

“ข้าย่อมต้องการอย่างนั้นอยู่แล้ว คราวหน้าที่ข้าตายก็จะได้เจอท่านอีกใช่หรือไม่เจ้าคะท่านยมทูต”

“ใช่”

“เช่นนั้น ไว้เจอกันครั้งหน้านะเจ้าคะ ท่านจะส่งข้าไปหรือยัง”

“ยัง”

“อ้าว แล้วก็ไม่บอก”

“จิบชารอก่อน ข้าต้องทำเอกสารสักครู่”

ยมทูตหนุ่มโบกมือ ปรากฎโต๊ะน้ำชาพร้อมของว่างวางอยู่ตรงหน้าอย่างเรียบร้อย หนิงอันไม่เกรงใจนั่งลงเริ่มจิบชาไม่คิดเอ่ยปากขัดขวางการทำงานของยมทูตชุดดำ

ชายหนุ่มกลับมีท่าทางขึงขัง แต่มีหลายคราวที่ขยับมือเป็นระวิง ดูยุ่งยากมากเพียงแค่ส่งหญิงสาวคนหนึ่งย้อนกลับไป กระทั่งเงยหน้าขึ้นเห็นนางยิ้มน้อย ๆ ส่งมา พลันเกิดสงสัย

“เหตุใดเจ้าจึงใจเย็นได้ถึงเพียงนี้”

“เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมดา”

“แม้เจ้าจะถูกฆ่าตายก็ไม่เคียดแค้นเลยหรือ ร่างของเจ้าถูกโยนเป็นอาหารสัตว์ ไม่แม้แต่มีสุสานบูชาเสียด้วยซ้ำ”

“เมื่อตายแล้วร่างย่อมกลับคืนสู่ดิน ไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง จะสัตว์หรือคนหากนำร่างข้าไปใช้ประโยชน์ได้ ถือเป็นการดีแล้วไม่ใช่หรือ”

“เช่นนั้นเจ้าก็…” ยมทูตหนุ่มหยุดปาก

“...”

“สมควรแก่เวลาแล้ว ไปเถอะ ย้อนกลับไปและใช้ชีวิตที่ดียิ่งขึ้น”

“ข้าจะถือว่าเป็นพรจากท่านนะเจ้าคะ ท่านยมทูต” หนิงอันยิ้มรับนางยังมองโลกในแง่ดี ในที่นี้ไม่ได้แปลว่าไม่เจ็บแค้น แต่แค้นแล้วอย่างไร หากการกลับไปแปลว่าย้อนเวลากลับไปจุดเริ่มต้น เช่นนั้นนางกับเขาก็ยังไม่ได้มีความแค้นใดต่อกัน

“ข้าหวังว่าเจ้าจะใช้ชีวิตอีกสองรอบอย่างดี”

“ข้าจะใช้ชีวิตอย่างดีแน่นอนเจ้าค่ะ” ราวกับหนิงอันมีพลังงานดี ๆ อยู่รอบกายเสมอ ทำให้ยมทูตหนุ่มเบาใจ นางเป็นบุคคลที่คิดดีทำดี สมกับบุญระดับสูงที่เคยกระทำไว้

“ลาก่อน”

“แล้วเจอกันใหม่นะเจ้าคะ” ร่างเงาของหญิงสาวหายวับไปจากสายตา ยมทูตหนุ่มก้มลงมองเอกสารของตนแล้วถอนหายใจ

“ข้าหวังว่าเจ้าจะมีชีวิตที่ยืนยาว และมีความสุขตลอดทั้งสองชีวิตนี้”

เขาคิดว่านางคงใช้ชีวิตได้ดีขึ้น จากบทเรียนครั้งก่อน เรื่องแรกนางย่อมไม่มีทางไปยุ่งกับสามีคนเดิมที่ฆ่าตนเอง เรื่องที่สองนางย่อมหาหนทางที่จะมีชีวิตยืนยาวและมีความสุขได้ง่ายขึ้นจากประสบการณ์ชีวิตในคราวแรก

โดยปกติมนุษย์นั้นหวงแหนชีวิตเป็นธรรมดา และหญิงสาวผู้รู้ว่าตนเองมีอีกหนึ่งชีวิตย่อมหวงแหนชีวิตตนเองมากยิ่งขึ้น

“ย้อนกลับไปตอนสิบหกหนาว ตอนนี้คงมีชีวิตที่ดีไม่น้อย” เงยหน้าขึ้นท้องฟ้าที่ไม่มีสิ่งใดตรงหน้า ยมทูตหนุ่มก็เอ่ยออกมาอีกครา

“คาดว่านางน่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกอย่างต่ำก็สี่สิบปี ข้าเองก็จะได้พักชั่วขณะ” ว่าแล้วก็เดินไปดื่มชาโต๊ะเดียวกับที่วิญญาณหญิงสาวเคยนั่ง ยกชาขึ้นจิบถอนหายใจออกมายาวๆด้วยความโล่งใจ

“ชาดี~”

“...”

“...”

“สดชื่นหรือไม่เจ้าคะ ชานี้รสชาติดีไม่น้อยเลย หรือท่านยมทูตคิดยังไง”

“ฮะ!” ยมทูตหนุ่มผงะ ใบหน้าเขาแปรเปลี่ยนเป็นครั้งแรก หลังจากเห็นร่างโปร่งบางของหญิงสาวคนเดิมที่เขาเพิ่งนึกถึงเมื่อครู่

ชายหนุ่มรีบหันไปมองท้องฟ้าอีกครั้ง

“ห้าปีเท่านั้น ทำไมเจ้าถึงตายเร็วแบบนี้” น้ำเสียงของยมทูตหนุ่มดูแตกตื่นอย่างยิ่ง แต่พอเห็นใบหน้าไร้เดียงสา รอยยิ้มเหมือนไม่คิดมากของนาง เขาก็กลับมาสงบอีกครั้ง

“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันเจ้าค่ะ แหะ ๆ”