ep2
“โธ่! นุ่นใจเย็นหน่อยได้ไหม ผมไม่ทำอะไรนุ่นหรอก ผมแค่อยากคุยกับคุณเท่านั้น”
“นุ่นไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ”
“นุ่น....นุ่นก็รู้ว่าผมรักนุ่นมานานแค่ไหนแล้ว กับนก ผมก็แค่เอ็นดูเธอเหมือนน้องสาว เดี๋ยวเธอเข้ามหาวิทยาลัย เธอก็จะมี
คนอื่นไปเอง สิ่งที่เธอรู้สึกกับผม มันแค่บ็อบบี้เลิฟ”
“แล้วตอนนี้ละคะ? คุณจะให้นุ่นหลบๆ ซ่อนๆ ในการคบหาคุณหรือคะ?”
“ไม่ใช่อย่างนั้น ผมก็แค่..ให้คุณอย่าไปใส่ใจ นกเขายังเด็ก เขาอาจจะวู่วามไปบ้าง คุณก็รู้ว่าเขากำลังหลงผม”
“หลง!”
นลินีตวาดเสียงใส่ด้วยความไม่พอใจ
“บ๊อบบี้เลิฟ ผมพูดผิดน่ะใจเย็นๆ สินุ่น ผู้หญิงแตกเนื้อ สาวก็แบบนี้ทั้งนั้น คุณเองก็เคยเป็นไม่ใช่เหรอ”
นลินีจ้องหน้าชายหนุ่มอย่างอัดอั้นตันใจ ก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะเขียนหนังสือ ปวริศเดินตามไปนั่งด้วย หญิงสาวก็หนีมานั่งที่ขอบเตียง แต่พอชายหนุ่มขยับจะมานั่งที่ขอบเตียง นลินีก็ลุกขึ้นเดินไปที่ประตู ซึ่งยังไม่ทันที่หญิงสาวจะเอื้อมมือเปิด เอวคอดกิ่วก็ถูกรวบเข้าสู่อ้อมแขนของชายหนุ่ม
หญิงสาวดิ้นรนสุดชีวิตจนหลุดออกมาจากวงแขนแล้วเธอก็สะบัดมือใส่ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาดัง เพี๊ยะ!
ทุกอย่างในห้องเงียบสนิท นิชภาที่แอบมองเหตุการณ์อยู่ในข้างห้อง ถึงกับอุดปากไว้เพราะเกรงว่าจะมีใครได้ยินสียงหายใจของเธอ
“นุ่นขอโทษ”
หญิงสาวกล่าวคำขอโทษเบาๆ เมื่อเห็นรอยผื่นแดงบนใบหน้าของชายหนุ่ม
“ไม่เป็นไรหรอกนุ่น คุณจะตบผมอีกก็ได้ ถ้ามันทำให้คุณสบายใจขึ้น”
ปวริศบอกเสียงอ่อนโยนแล้วค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้หญิงสาว ดึงเธอเข้ามากอดไว้อย่างปลอบโยน นลินีที่พยายามสะกดกลั้นความเสียใจเอาไว้ถึงกับปล่อยโฮลงบนไหล่เขาอย่างอดไม่ได้
“อย่าร้องไห้เลย ผมไม่ได้โกรธคุณสักนิด”
“เราจบกันแค่นี้เถอะนะคุณริศ ต่างคนต่างไป ถ้าคุณมีคนอื่นที่ไม่ใช่นก นุ่นอาจทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น แต่นี่เป็นนก นุ่นทนไม่ได้หรอก” เธอสะอื้นไห้ด้วยความเสียใจ พยายามตัดใจจากผู้ชายคนนี้
“แต่ผมไม่ได้รักนกเลยนะครับ คุณก็รู้ว่าผมรักคุณ”
ปวริศพยายามต่อรอง โดยไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาพูดนั้น คนที่แอบฟังอยู่แทบจะกลั้นใจตายด้วยความเสียใจ
“ไม่มีประโยชน์หรอกค่ะ เชื่อนุ่นเถอะ นุ่นแย่งน้องไม่ได้ แล้วนุ่นก็มีคนใหม่แล้ว”
“ไม่จริง..ผมไม่เชื่อ”
“หมอราเมศไงคะ คุณน่าจะรู้จักดี”
นลินีอ้างชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีเครดิตดีกว่าปวริศ และที่สำคัญเขารู้ดีว่าหมอราเมศนั้นจีบนลินีมาพร้อมๆ กับเขา
“ผมไม่มีทางเลือกสินะ ในเมื่อคุณเลือกที่จะทิ้งผม”
“คุณกลับไปเถอะค่ะ เดี๋ยวนกมาเห็นเข้า เขาจะเสียใจได้”
“ถ้าอย่างนั้น ผมขอนั่งอยู่กับคุณอีกสักพักได้ไหม? ผมอยากเก็บความทรงจำที่มีกับคุณให้มากที่สุด”
นลินีนิ่งงันไป เธอยอมให้ปวริศอยู่กับเธอภายในห้องนอนตามลำพัง ซึ่งครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาขึ้นมาที่นี่ เพียงแต่...ครั้งที่แล้วมา เธอไม่รู้ว่าเขาคบหาอยู่กับน้องสาวเธอ
“ขอผมกอดคุณได้ไหม..รับรองว่าผมไม่ทำอะไรคุณ ถ้าคุณไม่อนุญาต”
เขาขยับเข้ามาใกล้แล้วกอดเธอไว้ทั้งตัว ก่อนจะผลักเธอลงนอนด้วยกันบนเตียง
“ไม่นะคะ คุณริศ”
“ผมอยากนอนกอดคุณไว้อย่างนี้...อยากซึมซับความรู้สึกดีๆ ที่เรามีให้กัน”
“แต่ว่า...”
หญิงสาวขยับดิ้นแต่ชายหนุ่มรัดรึงร่างสมส่วนของเธอเอาไว้หนาแน่น
“ไม่มีใครรู้หรอกน่า..นอกจากเราสองคน”
ปวริศซุกใบหน้าลงที่เรือนผมของหญิงสาวแล้วเลื่อนลงไปจูบที่ซอกคอขาวผ่อง นลินีพยายามขัดขืนและแกะมือออก แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล ชายหนุ่มยังคงรุกหนักด้วยการพยายามปลุกปล้ำเธอด้วยการกอดและหอมจนเธออ่อนระทวยไปทั้งตัว
“ไหนว่าจะไม่ทำอะไรนุ่นไงคะคุณริส”
“ถ้าคุณไม่อนุญาต...”
เขาต่อคำเบาๆ แล้วลูบไล้ฝ่ามือไปตามเรียวแขนของเธอ นลินีห่อตัวขดงอด้วยความสยิว แล้วรีบจับมือของเขาเอาไว้
“ไม่ได้นะคะ คุณออกไปได้แล้ว”
“ขอผมชื่นใจครั้งสุดท้ายก็แล้วกันนะ”
ชายหนุ่มตอบเสียงกระเส่า แล้วก้มลงจูบปากเธอทันที หญิงสาวเบือนหน้าหนีแต่ไม่พ้น เพราะทันทีที่เธอเผยอปาก ลิ้นของเขาก็สอดเข้าไปดูดปากเธออย่างคนคุ้นเคย จนเธอหยุดนิ่งไม่ดิ้นรน ในขณะเดียวกันคนที่เห็นภาพตรงหน้าแทบจะทรุดนั่งลงกับพื้นเพราะคาดไม่ถึง
