วันแรกในจวนอ๋อง
เสี่ยวไป๋ถอนหายใจสวรรค์ใยกลั่นแกล้งผิวเนื้อขาวเนียนของวัยสาวกับน้ำเสียงหวานหยดนั้นไม่อาจทดแทนใบหน้าที่อัปลักษณ์
ซีหรูถอนหายใจเหนื่อยกับพิธีการมาทั้งวัน พอได้พักรู้สึกสบายอย่างที่สุดอาจจะนอนไม่ค่อยหลับเพราะแปลกที่แต่วันนี้เหนื่อยมากแล้วเรื่องนอนไม่เป็นปัญหา
ทิ้งตัวลงนอนในอาภรณ์บางเบาหลับใหลไปง่ายดาย
่จนฟ้าใกล้จะสางร่างสูงของชินหวางอ๋องเดินโซซัดโซเซเข้ามา ทิ้งตัวลงนอนบนแท่นนอนข้างๆ ซีหรู
มือข้างหนึ่งดึงสายรัดเอวของตัวเองออกโยนทิ้งกลิ่นสุราคละคลุ้งเมามายหรอกหรือไม่เช่นนั้นคงไม่มาถึงนี่มืออีกข้างไขว่คว้า
“อะ จะทำอะไร” อีกคนกลับคว้าเอวบางไว้ เผลอสูดดมกลิ่นหอมของคนข้างกายอย่างลืมตัว
“ข้าน่ะอยากให้เจ้าท้องแล้วนี่ ข้าจะได้แต่งกับฟางหลานเสียที นางร้องจนตาบวม ข้าไม่อยากให้นางเสียใจไปมากกว่านี้” ซีหรูกลืนก้อนแข็งๆ ลงคอ
ผลักร่างสูงที่เมามายลงไปบนแท่นนอนลุกขึ้นยืน แล้วคว้าผ้าห่มเดินออกจากตรงนั้นแต่อีกคนกับคว้าร่างบางไว้
ซีหรูสะบัดมือไฟในห้องก็สว่างไสว ชินหวางอ๋องลุกขึ้นยืนจ้องใบหน้าของซีหรูนิ่งสร่างเมาในทันที
“ใบหน้าเจ้าอัปลักษณ์สิ้นดี” สะบัดชายเสื้อเดินออกจากห้องไป ซีหรูยิ้มทิ้งตัวลงบนแท่นนอนแม้จะเจ็บปวดแต่ไม่มีน้ำตา
เช้าสดใส
“ไทเฮาเสด็จจจจจจจจจ” ร่างท้วมเดินมาพร้อมกันขันทีและนางสนองพระโอฐและนางกำนัลสองสามคน
ถือวิสาสะเดินเข้าในห้องบรรทมของชินหวางอ๋องกับซีหรู
ซีหรูที่รีบเอาผ้าแพรพันใบหน้าเพื่อปกปิดใบหน้าอัปลักษณ์เสีย รีบย่อกายลงอ่อนหวานตรงหน้าไทเฮา
“ซีหรูถวายพระพรไทเฮา”
“หือเสียงดังกระดิ่งทอง ไพเราะเสียจริง”
“พวกเจ้าช้าอยู่ไย” ซีหรูตกใจไม่น้อยนี่เพิ่งจะยามเฉิน (07.00น-09.00น) ทำไมไทเฮาถึงมาถึงจวนอ๋องได้รวดเร็วนัก นางกำนัลรีบมาไปที่แท่นนอนรื้อค้นราวกับกำลังหาสิ่งสำคัญที่ทำหล่นหาย
“เจอไหม” นางกำนัลสองคนส่ายหน้า ไทเฮาเดินมาหยุดที่ซีหรูยกมือขึ้นเชยคางมนขึ้นสบตา
“ดูเจ้าสิ หน้าตาอัปลักษณ์ จนข้าไม่อาจบรรยายได้ แต่สามีก็ไม่ควรทำผิดต่อภรรยา พวกเจ้าให้ใครตามชินหวางอ๋องหรือยัง”
“เพฮะไทเฮา ข้าน้อยให้คนตามท่านอ๋องเรียบร้อยแล้ว”
“เสด็จย่า เหตุใดจึงมาถึงนี่มีเรื่องใดทำไมไม่ให้ใครแจ้งข้าชินหวางอ๋อง” ร่างสูงเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
“มาแล้วหรือ เฮ้อย่าละไม่อยากจะพูด สามีเช่นไรละเลยภรรยา ได้ยินว่าเมื่อคืน คุณหนูบ้านหยางมาที่นี่ ท่านอ๋องของเราก็กลับไปส่งนางที่มาให้โอ้โลมถึงในจวนอ๋องในวันเข้าหอแล้วยังต้องให้ท่านอ๋องเท่านั้นไปส่ง ย่าก็เลยคิดว่า ชินหวางไม่ควรทำเช่นนี้อีก ในเมื่อแต่งชายรองมาแล้วอดใจไว้รอให้แต่งนางมาในฐานะชายาเอกเสียก่อนจึงค่อยทำตามใจ วันนี้พาพวกนางมาตรวจสอบรอยโลหิตก็ไม่มีร่องรอยอย่าบอกนะว่าเมื่อคืนเข้าหอแต่ปล่อยให้ชายานอนในห้องหอเพียงลำพัง” น้ำเสียงติเตือนอย่างที่สุด ชินหวางถอนหายใจ
“หลานยังทำใจเรื่องใบหน้าอัปลักษณ์ของนางไม่ได้เสด็จย่าเห็นใจหลานด้วย” พูดเสียงเรียบเฉย
“ถึงอย่างนั้นชินหวางอ๋องก็ทำไม่ถูก ชายารองซีหรูผิดอะไรจะหวานอมก็ต้องขมกลืนกันไป จะมาบอกว่าไม่ได้เพราะทำใจไม่ได้ อย่างนี้ก็แสดงว่าไม่อยากจะแต่งชายาเอกแล้วใช่ไหมฮ่องเต้ให้โอกาสแล้วนี่ หากชายารองตั้งครรภ์จึงจะให้แต่งชายาเอก เช่นนั้นก็ไม่ต้องแต่งชายาเอก”
“เสด็จย่า” ซีหรูก้มหน้า ทุกอย่างล้วนพุ่งเป้ามาที่ซีหรูจะหลีกหนีได้อย่างไรในเมื่อทุกอย่างล้วนต้องมีคนรับเคราะห์ทั้งสิ้น
“พรุ่งนี้จะต้องมีรอยโลหิตไม่ว่าอย่างไง ก็ต้องมี”น้ำเสียงคาดคั้นดังใจหวังๆไม่สนใจสีหน้าของชินหวางอ๋องว่าบูดบึ้งเพียงใด ซีหรูย่อกายลงช้าๆหวั่นใจไม่น้อยว่าจากนี้ไปจะต้องรับมือกับชินหวางอ๋องอย่างไรบ้างเขาจะโกรธแค่ไหนกันเขาจะเกลียดซีหรูแค่ไหนกัน ไทเฮาจากไป มาหารอยโลหิตแต่ทิ้งไว้แค่รอยบาดหมาง
บรรยากาศอึมครึมกับความบาดหมางที่คุกรุ่นอึมครึ้มราวกับว่ากำลังจะเกิดพายุใหญ่
ซีหรูนั่งมองมือตัวเองบนเก้าอี้ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องทนฟังว่าเขาจะพูดว่าอย่างไรคนตัวสูงเอามือไพล่หลังมามาจ้องซีหรูที่ก้มหน้านิ่ง
“จะพูดว่า ข้าเกลียดเจ้าก็ไม่ผิด ในเมื่อเจ้าทำให้ข้ายุ่งยากเพียงนี้ ทำไมต้องเป็นข้า เจ้าคงหลงใหลใบหน้าหล่อเหลาของข้าสินะถึงได้ขอให้บิดาทูลฝ่าบาทเรื่องข้าเลือกข้ามาเป็นสามีเจ้า ข้าช่างโชคร้ายเสียจริง”
“เชิญท่านตามสะดวกจะคิดแบบไหนก็เชิญตามสะดวกข้ารู้ว่าพูดไปก็ไร้ประโยชน์ไม่ต่างจากการแก้ตัว” ชินหวางอ๋องตาโต ตกใจกับเสียงหวานปานน้ำผึ้งกังวานราวกระดิ่งทอง
“ข้าไม่อยากแต่งท่าน ไม่อยากแต่งใครทั้งนั้น แต่เพราะบัญชาฝ่าบาทที่ข้าก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเป็นท่าน เช่นนั้นเลิกกล่าวหาข้าได้แล้ว ข้าจะเข้าวังหลวง ทูลขอประทานอนุญาตหย่ากับท่านอ๋องกับฝ่าบาทด้วยตัวเอง”
