ชาติผูกพันลิขิตมังกร

288.0K · จบแล้ว
มือซ้ายเอื้อมจันทร์
124
บท
51.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ทั่วทั้งสามภพเป็นอันต้องวุ่นวายเมื่อองค์หญิงมังกร ธิดาหัวเเก้วหัวเเหวนของราชันมังกรเเอบหนีออกมา ‘เที่ยว’ โลกมนุษย์ ชะตากรรมที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง นางเเค่อยากจะเล่นสนุกเท่านั้นเองชั่งหัวชะตากรรมมันซิ" เพราะความเบื่อหน่ายนางจึงหนีออกมา โลกภายนอกนี้เยี่ยมจริงๆ ท้องฟ้าสดใส ผู้คนมากมาย เธอได้พบกับสหายคนเเรก ไห่หลิน หญิงสาวที่นางรู้สึกถูกชะตาตั้งเเรกพบเเละยัง'เก็บ'นกกระเรียนตัวหนึ่งมาเป็นลูกสมุนอีก โลกภายนอกมีเรื่องน่าสนุกตั้งเยอะ ไม่รู้ทำไมเสด็จพ่อถึงไม่ให้เธอออกมากันนะ นางเเค่อยากจะ 'เล่นสนุก' เท่านั้นเองทำไมต้องทำเรื่องให้มันวุ่นวายด้วย" "โชคชะตาได้ร้อยรัดพวกเขาทั้งสามคนตั้งเเต่เเรกเจอหนึ่งหมื่นปี หนึ่งพันปี ทุกภพทุกชาติ"

นิยายแฟนตาซีนิยายผจญภัยนิยายเทพเซียนนิยายจีนโบราณฝึกพลังเซียนสมุนไพรจีนโบราณกำลังภายใน

หนีเที่ยว

ตั้งแต่ผานกู่แบ่งแยกฟ้าดิน เหตุการณ์นั้นทำให้เกิดสรรพชีวิตมากมาย แต่สัตว์เทพผู้อยู่เหนือสรรพชีวิตทั้งปวงกำเนิดจากฟ้าดินตั้งแต่บรรพกาลสิ่งมีชีวิตนั้นก็คือมังกร ตำนานเล่าว่ายามเมื่อมังกรถือกำเนิดขึ้นมีแสงสีทองส่องสว่างไปทั่วทั้งพิภพ แม้ยามกำเนิดขึ้นมาใหม่ๆร่างกายของมังกรก็ใหญ่โตจนสามารถจะพันรอบโลกได้ทั้งใบ อิทธิฤทธิ์และพลังที่มหาศาลทำให้แม้แต่ผานกู่ราชาผู้ปกครองเหล่าทวยเทพยังต้องหวั่นเกรง ด้วยเกรงกลัวว่าอำนาจและอิทธิฤทธิ์ของพญามังกรจะทำลายพื้นพิภพและสวรรค์

พญามังกรจึงสร้างมิติลี้ลับขึ้นมาตัดขาดจากโลกภายนอก พิภพและสวรรค์จึงรอดพ้นวิกฤตมาได้ ไม่มีใครรู้ว่ามิติที่พญามังกรสร้างอยู่ที่ไหนและจะเข้าไปได้ยังไง แต่ทวยเทพเก่าแก่เคยเล่าไว้ว่าพญามังกรที่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวมาหลายแสนปี จึงแบ่งร่างตัวเองออกมากลายเป็นเผ่าพันธุ์มังกรและอาศัยอยู่ในมิติลี้ลับนั้น มีบางครั้งที่ลูกหลานพญามังกรจะออกมาจากมิติลี้ลับออกมาเที่ยวเล่นภายนอก แม้จะเป็นลูกหลานที่พญามังกรแบ่งภาคมีพลังเพียงแค่ 1 ส่วนของพญามังกร แต่ก็ยังทำให้เหล่าทวยเทพสัตว์อสูรขวัญหนีดีฝ่อได้

ผู้ปกครองสวรรค์ในขณะนั้นจึงออกโองการสวรรค์ให้มังกรเป็นสัตว์เทพศักดิ์สิทธิ์ที่แม้แต่ทวยเทพยังต้องเคารพ เหล่ามนุษย์เทพและสัตว์อสูรจึงเคารพมังกรผู้อยู่เหนือสรรพชีวิตทั้งปวง

แม้เป็นถึงพญามังกรผู้ยิ่งใหญ่เหนือสรรพชีวิตทั้งปวงแต่ก็ไม่อาจหลีกพ้นการแตกดับได้ทุกสรรพสิ่งในฟ้าดินมีเกิดตั้งอยู่และดับไป หลายล้านปีแห่งการเฝ้ามองลูกหลานกำเนิดในที่สุดพญามังกรผู้ยิ่งใหญ่ก็ต้องแตกดับกลับเข้าสู่กระแสธารฟ้าดิน เมื่อไร้พญามังกรผู้ให้กำเนิดเหล่าเผ่าพันธุ์มังกรที่ลงเหลืออยู่ก็เริ่มลดจำนวนลง เพราะตัวเองเป็นเพียงร่างแยกของพญามังกรผู้ยิ่งใหญ่จึงไม่อาจสืบพันธุ์ได้เหมือนชีวิตทั่วไป การให้กำเนิดลูกมังกรแต่ละครั้งจึงยากเย็นแสนเข็ญ และในที่สุดวันแห่งการรอคอยก็มาถึง เมื่อราชันมังกรและราชินีได้ให้กำเนิดองค์หญิงน้อยน่ารักเป็นการให้กำเนิดมังกรในรอบ 1 หมื่นปีของเผ่าพันธุ์มังกร

ราชันมังกรและราชินีเดินออกมาจากตำหนักที่ตกแต่งด้วยแก้วคริสตัลมากมายในอ้อมอกของราชินีก็คือองค์หญิงน้อยลูกมังกรที่ถือกำเนิดขึ้น เผ่าพันธุ์มังกรนั้นมีรูปร่างหน้าตาที่งดงามและสมบูรณ์แบบจนเรียกได้ว่าแทบล่มฟ้าดิน มีอายุขัยที่ยาวนานราชันมังกรและราชินีมีอายุขัยเกือบจะเเสนปีแต่รูปโฉมของทั้งสองยังคงวัยเพียง 30 ปีเท่านั้น เหมือนกับมังกรตนอื่นๆที่จะมีช่วงอายุขัยหนุ่มสาวยาวนาน ทั้งเผ่าพันธุ์มังกรจึงมีแต่มังกรหนุ่มสาวหน้าตางดงามที่แม้แต่เราเทพธิดานางฟ้าบนสรวงสวรรค์ก็ไม่อาจเทียบได้แม้แต่เศษเสี้ยว

“ในที่สุดฟ้าดินก็ได้มอบของขวัญล้ำค่าแก่เรา เราขอตั้งชื่อเจ้าว่า องค์หญิงซิ่วอิง” ราชันมังกรใช้อิทธิฤทธิ์ของตัวเองประกาศก้องสะเทือนฟ้าดินให้สรรพชีวิตได้รับรู้ว่าธิดามังกรได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว

“ราชันมังกรจงเจริญ ราชินีจงเจริญ ธิดามังกรจงเจริญ” เสียงสรรเสริญดังกึกก้องไปทั่วมังกรทุกตัวในเผ่าพันธุ์ต่างปลื้มปิติกับการกำเนิดของธิดามังกร

ราชันมังกรจัดงานเลี้ยงฉลองการกำเนิดของธิดามังกรอย่างยิ่งใหญ่ ธิดามังกรผู้ถือกำเนิดขึ้นมาจากความหวังของทั้งเผ่าพันธุ์นางจึงเป็นลูกมังกรเพียงหนึ่งเดียวในเผ่าพันธุ์ หากเทียบกับทุกชีวิตในพื้นพิภพคงไม่มีใครจะถูกตามใจได้เท่ากับธิดามังกรอีกแล้วและอีกหลายหมื่นปีผ่านไปที่ได้ธิดามังกรเติบโตขึ้น เป็นเจ้าหญิงที่เอาแต่ใจที่สุดถึงแม้นางจะมีนิสัยแบบนั้นก็ไม่มีใครรู้สึกรังเกียจเพราะเธอคือความหวังของเผ่าพันธุ์ธิดามังกรเพียงหนึ่งเดียวหากจะได้รับการตามใจมากกว่านี้ก็เป็นเรื่องที่สมควร

“เสด็จพ่อลูกเบื่อ….” ธิดามังกรเดินเข้ามาหาเสด็จพ่อแล้วปีนขึ้นไปนั่งบนบัลลังก์ทองคำใช้ดวงตากลมโตใสแจ๋วออดอ้อน ด้วยรูปร่างที่เหมือนกับเด็กน้อยหน้าตาน่ารักอายุ 13-14 ที่ใครเห็นก็รู้ว่าเด็กคนนี้โตขึ้นต้องกลายเป็นสาวงามที่ทั่วทั้งสามโลกหมายปอง

“ลูกเบื่ออย่างนั้นหรอเดี๋ยวพ่อจะให้นางกำนัลพาลูกออกไปเที่ยวนอกพระราชวังไหม” เห็นธิดามาออดอ้อนต่อให้เป็นราชันมังกรผู้น่าเกรงขามก็ต้องยอมสยบ ตั้งแต่ธิดาน้อยกำเนิดมาเขาไม่เคยขัดใจลูกคนนี้เลยสักครั้ง เลี้ยงดูประคบประหงมราวกับไข่ในหินแต่ธิดามังกรยังคงทำหน้าบูดบึ้งเพราะนั่นไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการ ทุกที่ในมิติลี้ลับแห่งนี้เธอสำรวจจนพรุนไปหมดแล้วออกไปนอกพระราชวังมันก็เหมือนเดิมไม่มีอะไรแปลกใหม่

“เสด็จพ่อลูกไม่ได้แค่อยากออกจากพระราชวังแต่ลูกอย่าออกจากมิติลี้ลับแห่งนี้” คำขอร้องของธิดาคนโปรดทำให้ราชันมังกรถึงกับมีสีหน้าเคร่งขรึม แม้ว่าการออกจากมิติลี้ลับแห่งนี้จะไม่ใช่ข้อห้ามอะไรแต่โลกภายนอกนั้นช่างน่ากลัว เต็มไปด้วยกิเลสตัณหาเขากลัวว่าธิดาน้อยสุดที่รักจะต้องแปดเปื้อนแต่ความโสมมของโลกภายนอก

“โลกภายนอกมันอันตรายนัก มีแต่คนหยาบช้าจิตใจสกปรกพ่อไม่อาจปล่อยลูกออกไปพบเจอกับคนเหล่านี้เป็นอันขาด” เมื่อไม่ได้ดั่งใจธิดามังกรก็ทำสีหน้าเหมือนกับจะร้องไห้เธอตะโกนลั่นพระราชวัง

“ไม่เอาลูกไม่ยอมลูกจะออกไป ที่แห่งนี้มันน่าเบื่อมาก” น้ำตาหยดเล็กๆไหลออกมาจากดวงตาที่แสนน่ารักของธิดามังกร ราชันมังกรมองภาพธิดาน้อยร้องไห้ด้วยสีหน้าที่เจ็บปวดเขาเลี้ยงลูกคนนี้มาอย่างดีไม่เคยทำให้ธิดาร้องไห้เลยสักครั้ง แต่จะปล่อยให้ธิดาออกไปเผชิญโลกข้างนอกมันก็ไม่ได้ช่างเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากเหลือเกิน ราชันมังกรจึงได้แต่กล้ำกลืนฝืนทนทำใจแข็งไม่โอนอ่อนผ่อนตามกับธิดาน้อย

“ไม่ว่ายังไงลูกก็ออกไปไม่ได้หากลูกเป็นอะไรไปพ่อคงเจ็บปวดจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป ลูกเป็นแก้วตาดวงใจของพ่อกับแม่ ลูกต้องการสิ่งใดพ่อล้วนตามใจลูกทั้งหมดมีแค่เรื่องออกจากมิติลี้ลับนี้เท่านั้นที่พ่อทำให้ลูกไม่ได้ พ่อไม่อยากให้ลูกต้องรับอันตรายใดๆเชื่อพ่อเถอะนะ ” ราชันมังกรอุ้มธิดาขึ้นมานั่งบนตักและลูบหัวธิดาอย่างอ่อนโยนปลอบใจให้ลูกหยุดร้องไห้ และเกลี้ยกล่อมให้ตัดใจเรื่องที่จะออกไปจากมิติแห่งนี้ซะ

ธิดามังกรร้องไห้อยู่พักนึงแล้วก็ค่อยๆหยุดลง เธอมองหน้าเสด็จพ่อของตนด้วยแววตาที่เศร้าหมองราชันมังกรเห็นอย่างนั้นก็อดเจ็บปวดไม่ได้ แต่จะทำอย่างไรได้การให้ธิดาออกไปเผชิญโลกภายนอกนั้นอันตรายเกินไป ไม่ว่ายังไงเขาต้องใจแข็งเข้าไว้

ไม่ว่าจะใช้ลูกไม้อะไรราชันมังกรก็ไม่ยอมใจอ่อนธิดามังกรจึงถอดใจและเดินออกจากตำหนักไปราชันมังกรที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ยังได้ยินเสียงร้องไห้เล็กๆก็อดถอนใจไม่ได้

“ไม่ว่าอย่างไรก็จะให้เป็นไปตามคำทำนายไม่ได้” ราชันมังกรพูดพึมพำออกมา ย้อนกลับไปตอนที่ธิดามังกรถือกำเนิดขึ้นมาใหม่ๆราชันมังกรจัดงานเลี้ยงฉลองติดต่อกันไม่หยุดแล้วยังเชิญโหรหลวงมังกรในเผ่าพันธุ์มาทำนายชะตาอนาคตของธิดาตนเอง

“หากองค์หญิงออกจากมิติลี้ลับแห่งนี้ท่านจะต้องพบกับเคราะห์กรรมครั้งใหญ่จนถึงชีวิต แต่องค์หญิงจะเปลี่ยนแปลงเผ่าพันธุ์มังกรของเรา”

ราชันมังกรได้ยินคำทำนายนี้ถึงกับใจหายวูบ ธิดาที่เขาใช้ความพยายามให้กำเนิดมาอย่างเหน็ดเหนื่อยถูกกำหนดให้ต้องรับเคราะห์กรรมครั้งใหญ่หัวใจของผู้เป็นพ่อบีบรัดจนแทบจะแตกเป็นเสี่ยงเมื่อรับรู้ถึงอนาคตของธิดา พระองค์จึงสั่งให้โหรหลวงเก็บคำทำนายนี้เป็นความลับและปิดประตูมิติลี้ลับแห่งนี้กับโลกภายนอกเพื่อป้องกันธิดาออกไปตามคำทำนายไม่ว่าอย่างไรเขาจะไม่ยอมเสียธิดาองค์น้อยของเขาไปแน่

“ให้ตายสิ..” ธิดามังกรพูดอย่างหัวเสียแล้วเอามือขยี้หัวไปมาด้วยความหงุดหงิด เธอกัดเล็บท่าทางกำลังใช้ความคิด

“ไม่ว่ายังข้าจะต้องออกไปให้ได้” ธิดามังกรจินตนาการถึงท้องฟ้ากว้างใหญ่สีครามเต็มไปด้วยหมู่เมฆกับพื้นหญ้าเขียวชอุ่มและภูเขาสูง คำบรรยายของโลกภายนอกที่เธออ่านจากในหนังสือทำให้เธออยากไปเห็นพวกมันกับตา แต่ไม่ว่าเธอจะขอร้องเสด็จพ่อเท่าไหร่ท่านก็ไม่ยอมให้เธอออกไปข้างนอกสักครั้ง ธิดามังกรเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าโลกที่สวยงามขนาดนั้นจะเต็มไปด้วยความโหดร้ายและสกปรกโสมมได้ยังไง

“องค์หญิงเพคะ ได้เวลาเรียนวิชาอาคมเจ้าคะ” สาวใช้หน้าตางดงามคนนึงเดินเข้ามาหาธิดามังกรและโค้งคำนับอย่างนอบน้อม

“เอาเถอะไว้เราค่อยหาแผนหนีออกไปก็ได้ ฮิฮิ” ธิดามังกรเดินเข้ามาในห้องเรียนทั่วทั้งห้องมีแต่นางเพียงคนเดียวเธอนั่งลงไปในเก้าอี้เพียงหนึ่งเดียวในห้องเก้าอี้ตัวนั้นฝังมุกประดับประดาไปด้วยอัญมณีมากมายดูงดงามและสูงค่า

“วันนี้กระหม่อมจะมาสอนองค์หญิงในวิชาค่ายกล” มังกรชายอายุประมาณ 40 ถึง 50 ไว้หนวดเครายาวแสดงถึงความเป็นอาวุโสเขาวาดมือขึ้นไปบนอากาศไปมาสัญลักษณ์มากมายปรากฏขึ้นส่องประกายแวววาวไปทั่ว ธิดามังกรจดจ้องสิ่งที่อาจารย์ทำอย่างตั้งใจ

“นี่คือค่ายกลมังกรที่บรรพบุรุษมังกรคิดค้นขึ้นเมื่อหลายพันปีก่อน ค่ายกลนิทรงพลังมากแม้แต่ประตูสวรรค์ในปัจจุบันนี้ก็ใช้ค่ายกลของบรรพบุรุษเรา” เมื่ออาจารย์พูดถึงประตูสวรรค์หน้าตาของธิดามังกรก็สว่างวาบ

“อาจารย์เเล้วค่ายกลประตูมิติลี้ลับล่ะ ได้ใช้ค่ายกลมังกรฟ้าหรือเปล่า” ธิดามังกรถามในสิ่งที่ตนสงสัยหากค่ายกลประตูมิติเป็นค่ายกลเเบบเดียวกันนางก็มีทางแก้ได้

“ไม่ใช่พะยะค่ะ ค่ายกลมังกรฟ้าเป็นค่ายกลระดับฟ้าเท่านั้น หากเป็นค่ายกลประตูมิติลี้ลับต้องใช้ค่ายกลระดับสวรรค์ขึ้นไป” พอได้ยินอย่างนั้นแววตาของธิดามังกรก็หม่นหมองลงแปลว่าเธอไม่มีโอกาสออกไปจากมิติลี้ลับแห่งนี้ได้เลยสินะ

“แต่ว่า...” อาจารย์ทำเสียงลากยาวต่อไปธิดามังกรเงยหน้าขึ้นมา

“ด้วยองค์ความรู้จากบรรพบุรุษมังกรหากองค์หญิงศึกษาเเละฝึกฝนจน เเตกฉานเรื่องค่ายกลแล้วอย่าว่าแต่ค่ายกลระดับสวรรค์เลยแม้แต่ระดับตำนานท่านก็สามารถแก้ได้” สายตาของธิดามังกรเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและดีใจเมื่อรู้ว่ายังพอมีทางหากเธอตั้งใจศึกษาเรื่องค่ายกลดีๆเธอก็สามารถแก้และออกไปจากนิติแห่งนี้ได้

“ท่านอาจารย์เมื่อข้าได้ฟังท่านสอนสั่งเกี่ยวกับเรื่องค่ายกลแล้วรู้สึกสนใจมันมากข้าอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับค่ายกลให้มากกว่านี้ ข้าก็ขอรบกวนอาจารย์สั่งสอนข้าจนแตกฉานเรื่องค่ายกลให้ด้วยเจ้าค่ะ” ธิดามังกรโค้งคำนับอาจารย์ เมื่ออาจารย์มังกรเห็นองค์หญิงมังกรโค้งคำนับให้ตนก็ยิ้มหน้าบานถึงหูด้วยความปลาบปลื้มดีใจ เขาจะนำความรู้ตลอดหลายแสนปีที่ตนสั่งสมมาสั่งสอนให้องค์หญิงมังกรแตกฉานในเรื่องค่ายกลให้ได้ โดยไม่ทันสังเกตรอยยิ้มน้อยๆของธิดามังกรก่อนมันจะจางหายไปอย่างรวดเร็ว

ราชันมังกรผู้ยิ่งใหญ่เป็นผู้หยั่งรู้ฟ้าดินแต่ท่านก็ไม่อาจรู้ว่าองค์หญิงที่พระองค์คิดว่าถอดใจไปแล้ว กลับกำลังวางแผนการหลบหนีครั้งใหญ่ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอไปตลอดกาล

อีกหลายหมื่นปีผ่านไปการเรียนให้แตกฉานในเรื่องค่ายกลนั้นยากเย็นแสนเข็ญแม้แต่ธิดามังกรที่ถูกอาจารย์ยกย่องว่าเป็นอัจฉริยะยังต้องใช้เวลาเป็นหมื่นปีกว่าจะแตกฉานศาสตร์ต่างๆจนหมด จนแม้แต่เหล่าอาจารย์ก็ไม่มีสิ่งใดจะสอนนางแล้ว ราชันมังกรรู้สึกปลาบปลื้มใจมากที่ธิดาตนสามารถร่ำเรียนศาสตร์ต่างๆได้จนหมดโดยที่นางมีอายุเพียงแค่สองหมื่นปีเท่านั้น

“ฮ่าๆๆๆ ซิ่วอิงมาหาพ่อหน่อยสิลูก” ธิดามังกรตอนนี้เติบโตขึ้นมากรูปร่างหน้าตาของเธอเหมือนกับหญิงสาวอายุ 15-16 ปีหน้าตางดงามล่มบ้านล่มเมืองแม้แต่นางฟ้านางสวรรค์ก็ไม่อาจเทียบเทียมได้ แต่ในแววตาของเธอยังแฝงไปด้วยความซุกซน

“เสด็จพ่อ..” ธิดามังกรวิ่งเข้าไปกอดราชันมังกร ทุกคนในห้องโถงต่างมองภาพนั้นอย่างยินดีธิดามังกรผู้เป็นที่รักของทุกคนเติบโตขึ้นมาก

“ซิ่วอิง ทำไมถึงเข้าไปหาแต่เสด็จพ่อไม่มาหาเสด็จแม่ด้วยล่ะ” ราชินีมังกรที่นั่งอยู่ข้างๆพูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจที่ธิดาสุดรักพุ่งเข้าไปกอดแต่พ่อคนเดียว

“เสด็จแม่ลูกไม่ลืมท่านหรอก” พูดจบธิดามังกรก็วิ่งเข้าไปกอดราชินีมังกรด้วยอีกคน

“ฮ่าๆๆๆ ลูกของข้าเป็นอัจฉริยะในรอบหมื่นปีจริงเพียงไม่กี่หมื่นปีก็สามารถเรียนศาสตร์ทั้งหลายจนเหล่าอาจารย์ไม่รู้สอนอะไรเเล้ว”

“พวกเรารู้สึกเป็นเกียรติยิ่งนักที่ได้เป็นอาจารย์สอนองค์หญิง”

ราชันมังกรรู้สึกดีใจมากเขาได้จัดงานเลี้ยงเฉลิมฉลองการสำเร็จการศึกษาขององค์หญิงธิดามังกรได้รับความชื่นชมจากผู้คนในความเป็นอัจฉริยะ ทุกคนต่างมอบของขวัญในการสำเร็จการศึกษาให้กับองค์หญิงมากมายจนล้นท้องพระคลัง

ธิดามังกรขอตัวกลับไปที่ห้องก่อนแม้ห้องของเธอจะอยู่ห่างจากท้องพระโรงมาพอสมควรแต่นางก็ยังได้ยินเสียงเฮฮาดังแว่วมาแต่ไกล ธิดามังกรเอาฟูกที่นอนออกมาจากเตียงแล้วยกแผ่นไม้ออกมาใต้เตียงนั้นมีหีบเล็กๆหีบหนึ่งที่ถูกซ่อนเป็นอย่างดี

“ฮิๆๆ ถึงเสด็จพ่อไม่ยอมแต่ลูกก็จะออกไปให้ได้ ลูกเบื่อกับมิติแห่งนี้เหลือเกิน” ธิดามังกรเปลี่ยนมาใส่ชุดทะมัดทะแมงเธอสะพายสัมภาระไว้บนหลังแอบออกไปจากพระราชวังโดยไม่มีใครรู้เพราะทุกคนต่างไปเฉลิมฉลองกันที่ท้องพระโรงกันหมด

องค์หญิงเหาะออกมาจากพระราชวังเพียงพริบตาเดียวนางก็มาถึงหน้าประตูมิติลี้ลับที่ถูกปิด เธอเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเสด็จพ่อถึงออกพระราชโองการปิดประตูมิติแห่งนี้ เรื่องสนุกอยู่ตรงหน้าแท้ๆเธอจะไม่พลาดได้ยังไง

ประตูมิติลี้ลับถูกวางอาคมไว้อย่างแน่นหนาแต่อาคมแค่นี้มีหรือที่จะทำอะไรธิดามังกรอย่างนางได้ ธิดามังกรมองค่ายกลบนประตูตลอดเวลาหลายหมื่นปีที่นางอดทนร่ำเรียนศาสตร์ต่างๆก็เพื่อวันนี้วันที่จะได้ออกไปโลกภายนอก องค์หญิงวาดอักขระขึ้นมาบนอากาศค่อยๆลอยเข้าไปในประตู ไม่นานอาคมที่แน่นหนาหน้าประตูก็ค่อยๆเลือนหายไปประตูมิติลี้ลับที่ถูกปิดมานานหลายหมื่นปีก็ถูกเปิดออก

“หึๆๆ เสด็จพ่อลูกขอเที่ยวซัก 100 ปีนะลูกจะรีบกลับมาให้ไวที่สุด” องค์หญิงพุ่งตัวเข้าไปในประตูมิติลี้ลับเกิดเป็นแสงสว่างวาบองค์หญิงมังกรกำลังเดินตามรอยชะตาฟ้าดิน โดยที่ราชันมังกรผู้เป็นพ่อไม่อาจขวางได้อีกต่อไป