บทที่4
หลังจากชมภาพจนพอใจแล้วชายหนุ่มร่างใหญ่ก็พาเธอมาทานข้าวเย็นในภัตตาคารหรู สิรินทร์ทั้งประหม่าและเกรงใจไปพร้อมๆ กันเพราะเธอไม่ได้เตรียมตัวไว้ล่วงหน้าตามแพลนเดิมคือเที่ยวเสร็จก็กลับไปทานข้าวยังโรงแรมที่จองเอาไว้ แต่แมตต์ไม่รอให้เธอเสียเวลาคิด คนชอบควบคุมตัดสินใจแทนด้วยการเอื้อมมือมาแตะไหล่เบาๆ แล้วดันตัวเธอกึ่งบังคับให้ก้าวเดินเข้าไปในร้านพร้อมกัน
ชายหนุ่มเลือกนั่งโต๊ะริมซ้ายมือข้างหน้าต่างซึ่งเป็นมุมดีที่สุดในร้าน เขารับเมนูจากบริกรมาเปิดดูด้วยท่าทีสบายๆ ต่างจากสาวน้อยฝั่งตรงข้ามที่กำลังรู้สึกอึดอัดเพราะไม่คุ้นชินกับการที่มีนักดนตรีใส่สูทตัวโก้มาสีไวโอลินอยู่ข้างหู ท่วงทำนองสุดโรแมนติกทำให้รู้สึกขนลุกขนพอง เธอจึงดึงสายตากลับมาที่เมนูอีกครั้งส่วนใหญ่เป็นอาหารฟิวชั่นที่ชื่อค่อนข้างแปลกตา ปกติแล้วทานแต่ของพื้นๆ ร้านหรูแบบนี้ทำได้แค่มองอยู่ด้านนอกราคาต่อจานแพงหูฉี่นี่ถ้าสั่งเมนูแนะนำมาสักห้าอย่างมันเท่ากับเงินเดือนทั้งเดือนเลยทีเดียว
“ขอไวน์แดงปี 1985 มาก่อนแล้วกัน” บริกรโค้งรับคำสั่งแล้วเดินจากไป
สิรินทร์โล่งใจนิดๆ ที่ได้ยินชายหนุ่มสั่งเครื่องดื่มมาก่อนเพราะช่วยลดความกดดันในการเลือกเมนูอาหารได้ดีเลย เธอไม่เคยทานอาหารประเภทฟิวชั่นมาก่อน ไม่รู้ว่าชื่อที่เรียงรายยาวเป็นตับมีหน้าตาอย่างไรบ้างกลัวจะสั่งมาแล้วทานไม่เป็น คนพามาจะขายหน้าเปล่าๆ เพราะว่าในร้านแห่งนี้มีแต่คนที่ดูภูมิฐานเป็นผู้ดีกันทั้งนั้น
“สั่งได้เลยไม่ต้องเกรงใจ มื้อนี้ผมเลี้ยงเอง” ริมฝีปากใต้ไรเคราเขียวขยับยิ้มอย่างเป็นมิตร
แต่หารู้ไม่ว่าชายหนุ่มซ่อนแผนการร้ายกาจไว้ในใจ ไม่มีนักลงทุนคนไหนที่ไม่หวังกำไรเขาเองก็เช่นกัน การเอาใจหญิงสาวเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สร้างความประทับใจได้ไวที่สุด ความจริงแมตต์ แฮร์ริงตันไม่จำเป็นต้องทำขนาดนี้ก็ได้แค่เขาเอ่ยปากก็ไม่มีสาวคนไหนกล้าปฏิเสธหรอก แต่กับสาวน้อยตัวเล็กคนนี้เขารู้สึกสนใจมากเป็นพิเศษบางอย่างในตัวเธอดึงดูดให้เขาอยากทำความรู้จักก่อนจะขึ้นเตียง
“ไม่เป็นหรอกค่ะ แชร์กันคนละครึ่งดีกว่า” เธอพูดตะกุกตะกักอย่างไม่รู้ตัวเมื่อสายตาเลื่อนมาเจอราคาไวน์ปี 1985 ที่ชายหนุ่มเพิ่งสั่งไป
พระเจ้าช่วย! ราคามันเท่ากับเงินเดือนทั้งเดือนของเธอ
แทบกลืนน้ำลายไม่ลงคอเมื่อต้องคำนวณค่าใช้จ่ายในอาหารมื้อนี้แม้จะเป็นการหารสองแต่ก็ยังแพงอยู่ดี ในแต่ละเดือนหญิงสาวมีค่าใช้จ่ายส่วนตัวพอสมควรค่าครองชีพในลอนดอนสูงมาก โชคดีหน่อยงานที่เธอทำมีสวัสดิการครอบคลุมหลายอย่างแต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าจะใช้จ่ายฟุ่มเฟือยได้
“ให้ผมเลี้ยงเถอะ ถือเป็นการฉลองมิตรภาพใหม่” บริกรเดินมาเสิร์ฟไวน์ในขณะที่เขาพูดจบประโยคพอดี
ชายหนุ่มชูแก้วทรงสูงขึ้นมาเป็นการเชื้อเชิญ สิรินทร์เลยให้เกียรตินั้นด้วยการยกแก้วขึ้นมาชนฉลองให้กับมิตรใหม่ เธอไม่ค่อยดื่มไวน์เท่าไหร่แต่ก็รู้วิธีในการลิ้มรสชาติยังไงให้ละมุน กลิ่นหอมหวานของน้ำสีแดงเข้มยามแกว่งแก้วลอยวนอยู่ปลายจมูก ชวนให้แตะริมฝีปากลงบนขอบแก้วเพื่อลิ้มรส
เดิมทีหญิงสาวคิดว่าจะจิบชิมเพียงเล็กน้อยแต่พอปลายลิ้นแตะสัมผัสรสชาติหวานอมเปรี้ยวของไวน์ก็อดใจที่จะดื่มต่อไม่ได้แม้จะรู้สึกขมเมื่อไวน์แดงไหลผ่านลำคอก็ตาม ความหอมหวานในโพรงปากทำให้รู้สึกดีจนอยากลิ้มลองไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็หมดแก้ว
“ไม่ยักรู้ว่าคุณก็เป็นนักดื่ม” เสียงแซวของชายหนุ่มทำให้เธอชะงักค้างกลางอากาศ
หล่อนเพิ่งรู้ตัวเดี๋ยวนี้เองว่าฤทธิ์ของแอลกอฮอล์นั้นน่ากลัวขนาดไหน เพียงแค่ได้กลิ่นก็หลงใหลเผลอใจดื่มไปจนหมดแก้ว แม้ในขณะนี้รสหอมหวานละมุนก็ยังอบอวลอยู่ในปาก
“ไม่หรอกค่ะ เพิ่งจะมีโอกาสดื่มไวน์รสเยี่ยมแบบนี้เป็นครั้งแรก”
“ไวน์รสชาติดีขึ้นเมื่ออยู่ในมือของสาวสวย”
คนฟังรู้สึกขบขันจนกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ในความปากหวานของชายหนุ่มตรงหน้า เขาเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์มา เข้าใจหยอกล้อเอาใจผู้หญิง นี่ขนาดเธออยู่กับเขาเพียงแค่ครึ่งวันยังรู้สึกสนุกและผ่อนคลายขนาดนี้ เชื่อว่าสาวคนไหนที่ได้อยู่ใกล้แมตต์นานๆ จะต้องมีความสุขไปกับสารพัดมุกที่เขานำมาใช้แน่นอน
“ปากหวานขนาดนี้ คุณคงมีสาวๆ ในสต๊อกเยอะน่าดู” หล่อนได้โอกาสแซวเขากลับบ้าง
ในความคิดหล่อนแมตต์เป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบมาก หล่อ ภูมิฐานและน่าจะรวยด้วย เขาพูดคุยสนุกมีความเป็นกันเองและรู้ใจผู้หญิงเป็นอย่างดี หากลองจีบใครแล้วล่ะก็ไม่ยากที่สาวๆ จะหลงใหลไปกับคำพูดเหล่านั้น
“อยากเป็นหนึ่งในสต๊อกของผมไหมล่ะ สวัสดิการแน่นจนคุณคาดไม่ถึงเลยล่ะสาวน้อย” คนพูดขยิบตาอย่างมีเสน่ห์
แต่คนฟังกลับคิดว่า ‘เขามันตัวอันตรายที่ควรอยู่ห่างไว้เป็นดี’
“ไม่ดีกว่าค่ะ ฉันขอเป็นแค่ผู้ชมละกัน” สิรินทร์รีบปฏิเสธแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก นั่นเพราะเธอมีคู่หมั้นอยู่แล้วและจะแต่งงานกันอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
แม้ไบรอันจะงานยุ่งจนแทบไม่มีเวลาให้ แต่หญิงสาวตกลงปลงใจเลือกที่จะแต่งงานกับเขาแล้วก็ควรที่จะซื่อสัตย์ทั้งกายและใจ ไม่หลงไปกับเสน่ห์อันล้นเหลือของชายหนุ่มตรงหน้า วางให้เขาเป็นมิตรสหายใหม่คนนึงเท่านั้น
