บทที่ 8 เปิดดวงตาแห่งเทพ
บทที่ 8 เปิดดวงตาแห่งเทพ
หลังจากกลับเข้าห้องส่วนตัว จางหมี่ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงอย่างอ่อนล้า นิ้วเรียวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเตรียมส่งข้อความตอบกลับเจียงซินอี้ ที่ส่งข้อความมาขอบคุณเธอรัวๆ สำหรับเงิน 30,000 หยวนที่โอนไปให้
จางหมี่เข้าใจดีว่าครอบครัวของป้าถงกำลังแบกรับความกดดันเรื่องค่าใช้จ่าย ทั้งค่าเทอมลูกสาว และยังต้องเตรียมเงินสำรองเผื่อกรณีฉุกเฉินของเธออีก แต่เมื่อเธอปลอดภัยดีและยังมีเงินก้อนโตมาแบ่งปัน ความกังวลเหล่านั้นก็มลายหายไป เหลือเพียงความซาบซึ้งใจที่ส่งผ่านมาทางตัวอักษร
จางหมี่หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา นิ้วเรียวเตรียมจะกดพิมพ์ข้อความตอบกลับเจียงซินอี้เพื่อขอบคุณสำหรับคำอวยพรและความห่วงใย
ขณะที่ปลายนิ้วกำลังจะสัมผัสหน้าจอ ทันใดนั้น... ความผิดปกติบางอย่างก็เกิดขึ้น!
เริ่มแรกมันเป็นเพียงความรู้สึกอุ่นวาบที่กระบอกตา คล้ายกับมีกระแสพลังงานบางอย่างไหลเวียนมาหล่อเลี้ยงเส้นประสาทตาอย่างรวดเร็ว ภาพตรงหน้าเริ่มพร่ามัวเล็กน้อยเหมือนเลนส์กล้องที่กำลังปรับโฟกัส ก่อนจะชัดเจนขึ้นในรูปแบบที่แปลกประหลาดจนน่าขนลุก!
สายตาของเธอมองทะลุผิวหนังที่นิ้วมือตัวเอง เห็นชั้นกล้ามเนื้อสีแดงจางๆ เห็นเส้นเลือดฝอยที่ถักทอเป็นร่างแห และเห็นแม้กระทั่งการไหลเวียนของเม็ดเลือดที่เต้นตุบๆ สอดประสานไปกับจังหวะหัวใจ ในขณะเดียวกัน โทรศัพท์มือถือในมือที่เคยเป็นวัตถุทึบแสงก็ค่อยๆ จางลง... หรือจะพูดให้ถูกคือ มันกำลังกลายเป็นวัตถุโปร่งใสราวกับทำจากแก้วคริสตัล!
จางหมี่เบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง ลมหายใจสะดุดกึก
"นี่มัน..."
ด้วยความอยากรู้อยากเห็นที่พุ่งพล่าน จางหมี่รวบรวมสมาธิเพ่งมองให้ละเอียดยิ่งขึ้น ราวกับมีคำสั่งลึกลับส่งตรงจากสมองไปยังดวงตา ภาพเบื้องหน้าค่อยๆ เปลี่ยนไปราวกับเวทมนตร์ ผิวหนังและกรอบพลาสติกของโทรศัพท์เลือนหายไปทีละชั้น เหลือเพียงโครงสร้างภายในที่สลับซับซ้อนและงดงามอย่างน่าประหลาด
เส้นเลือดสีแดงฉานตัดกับกระดูกนิ้วมือสีขาวนวล แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ที่เรียงรายอย่างเป็นระเบียบ แบตเตอรี่ และไมโครชิปขนาดจิ๋ว ปรากฏแก่สายตาของเธออย่างชัดเจนทุกรายละเอียด
ราวกับโทรศัพท์ถูกชำแหละออกเป็นชิ้นๆ ต่อหน้าต่อตา! เธอเห็นประกายแสงสีฟ้าของกระแสไฟฟ้าที่วิ่งผ่านแผงวงจร สว่างวาบขึ้นจากหน้าจอ ราวกับมันกำลังตอบรับกระแสพลังจากดวงตาของเธอ
"เกิดอะไรขึ้นกันแน่?" จางหมี่พึมพำกับตัวเอง เสียงของเธอสั่นเครือด้วยความตื่นเต้นระคนประหลาดใจ
ดวงตาของเธอ... ไม่เพียงแต่มองเห็นออร่าของวัตถุเหมือนก่อนหน้านี้ แต่มันพัฒนาไปถึงขั้นมองทะลุทะลวงโครงสร้างระดับจุลภาคได้แล้ว! มันละเอียดลออยิ่งกว่าเครื่องเอกซเรย์ และคมชัดยิ่งกว่ากล้องจุลทรรศน์เสียอีก!
ทำไมจู่ๆ พลังถึงก้าวกระโดดขนาดนี้? ก่อนหน้านี้เธอยังต้องเพ่งจนปวดตาแทบระเบิด แต่ตอนนี้กลับมองเห็นได้อย่างลื่นไหลเป็นธรรมชาติ หรือว่า...
ภาพเห็ดหลินจือสีทองดอกนั้นผุดขึ้นมาในหัว
‘เห็ดหลินจือแดงสีทอง...’
จางหมี่พลันนึกถึงคำสอนของท่านพ่อจางอี้เฉิงในภพก่อน น้ำเสียงทุ้มต่ำแต่อ่อนโยนของท่านดังก้องในความทรงจำ
"จำไว้นะหมี่หมี่... เห็ดหลินจือแดงสีทองคือสมุนไพรชั้นเลิศที่หาได้ยากยิ่งในใต้หล้า นอกจากจะบำรุงร่างกายและเสริมสร้างพลังปราณแล้ว มันยังมีสรรพคุณวิเศษในการฟื้นฟูพลังจิตและยกระดับประสาทสัมผัส โดยเฉพาะดวงตาให้เฉียบคมดั่งตาเหยี่ยว สามารถมองเห็นแก่นแท้ของสรรพสิ่งได้"
ใช่แล้ว! ต้องเป็นเพราะน้ำยาเห็ดหลินจือที่เธอดื่มเข้าไปเมื่อตอนเย็นแน่ๆ! มันไม่เพียงฟื้นฟูร่างกายที่อ่อนแอ แต่ยังปลุกพลังพิเศษของเธอให้ตื่นขึ้นอย่างเต็มที่ เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์!
ความปีติยินดีแล่นพล่านไปทั่วหัวใจ รอยยิ้มกว้างปรากฏบนใบหน้าจางหมี่ ดวงตาคู่นี้... คือของขวัญล้ำค่าจากสวรรค์ที่จะเปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล!
เธอทดลองใช้พลังอีกครั้งด้วยความตื่นเต้น คราวนี้เธอกวาดสายตามองไปรอบห้อง สิ่งของต่างๆ ถูก 'ปอกเปลือก' ออกทีละชั้น แจกันดอกไม้บนโต๊ะเปิดเผยให้เห็นท่อลำเลียงน้ำภายในก้านดอกที่กำลังดูดซึมน้ำอย่างช้าๆ ผนังห้องที่ดูทึบตันกลับเผยให้เห็นโครงสร้างอิฐ ปูน และเหล็กเส้นที่ซ่อนอยู่ภายใน แม้กระทั่งอากาศรอบตัว เธอก็ยังมองเห็นละอองฝุ่นและกระแสการไหลเวียนของพลังงานที่ล่องลอยอยู่อย่างอิสระ
"สุดยอด..."
ความสามารถนี้เหนือกว่าตอนที่เธอต้องพึ่งพลังจากจี้หยกหลายเท่าตัว ไม่ต้องเพ่งจนปวดตา ไม่ต้องกังวลว่าพลังจะหมดกลางคัน ทุกอย่างลื่นไหลและชัดเจนราวกับภาพยนตร์สามมิติที่ฉายอยู่ในหัว
จางหมี่ตระหนักได้ในทันทีว่า 'ดวงตาเทพ' นี้จะเป็นอาวุธลับที่ทรงพลังที่สุดของเธอ ทั้งในการหาของเก่า และ...การรักษาผู้คน!
ใช่แล้ว! ด้วยสายตาที่มองทะลุปรุโปร่งขนาดนี้ เธอสามารถมองเห็นความผิดปกติในร่างกายคนได้ ไม่ต่างจากเครื่องสแกนอัจฉริยะที่แม่นยำที่สุดในโลก!
ความหวังใหม่เรืองรองขึ้นในใจ จางหมี่รีบลุกขึ้นนั่งขัดสมาธิบนเตียง แววตามุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว เธอต้องฉวยโอกาสทองนี้รีบฝึกฝนพลังปราณให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพื่อรองรับความสามารถของดวงตาที่ทรงพลังนี้และดึงศักยภาพของมันออกมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ตลอดทั้งคืน จางหมี่จดจ่ออยู่กับการเดินลมปราณ พลังงานไหลเวียนไปทั่วร่างอย่างราบรื่น ไม่มีติดขัด ราวกับสายน้ำที่ไหลเชี่ยว ก่อเกิดเป็นรากฐานที่มั่นคงสำหรับอนาคตที่กำลังจะมาถึง จนกระทั่งแสงแรกของวันใหม่มาเยือน...
-----
เช้าวันต่อมา...
แสงอรุณรุ่งสาดส่องผ่านผ้าม่านเก่าคร่ำคร่าเข้ามากระทบเปลือกตา จางหมี่ลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกับสูดอากาศยามเช้าเข้าเต็มปอด ความรู้สึกสดชื่นกะปรี้กะเปร่าอย่างที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนในร่างนี้แผ่ซ่านไปทั่วสรรพางค์กาย ความหนักอึ้งและความเจ็บปวดจากอุบัติเหตุหายเป็นปลิดทิ้ง ราวกับร่างกายได้ถูกชำระล้างจนบริสุทธิ์
พลังวัตรภายในจุดตันเถียนหมุนวนอย่างแข็งแกร่งและเปี่ยมล้น แต่สิ่งที่ทำให้เธอตื่นเต้นที่สุดคือ... ดวงตาคู่นี้ มันแจ่มใสและคมชัดราวกับกระจกวารีที่ถูกเช็ดถูจนวาววับ มองเห็นแม้กระทั่งฝุ่นละอองที่ลอยคว้างในอากาศ
เธอยกมือขึ้นมาดูเส้นเลือดที่นิ้วมืออีกครั้ง รอยยิ้มแห่งความมั่นใจปรากฏที่มุมปาก
"ขอบคุณสวรรค์... ที่มอบโอกาสและอาวุธชิ้นนี้ให้ลูก"
หลังจากจัดการธุระส่วนตัวเสร็จ จางหมี่เดินออกมาจากห้องนอนด้วยฝีเท้าที่เบาสบาย กวาดสายตามองหาแม่ในห้องนั่งเล่นแต่พบเพียงความว่างเปล่า กลิ่นหอมจางๆ ของอาหารลอยมาจากทิศทางห้องครัว เธอจึงเดินตรงไปทางนั้นทันที
ภาพแผ่นหลังบอบบางของจางเจินที่กำลังง่วนอยู่หน้าเตาแก๊สเก่าๆ ปรากฏสู่สายตา ท่าทางของแม่ดูเหนื่อยล้ากว่าปกติ ไหล่ที่เคยตั้งตรงเพื่อแบกรับภาระครอบครัวดูห่อเหี่ยวลงเล็กน้อย ภาพนั้นทำให้หัวใจของลูกสาวกระตุกวูบด้วยความเป็นห่วงและความหวาดกลัวที่แล่นพล่านขึ้นมาจับขั้วหัวใจ
‘แม่เป็นอะไรหรือเปล่า? ร่างกายแม่ยังไหวไหม?’
ความกังวลผลักดันให้จางหมี่ต้องพิสูจน์เดี๋ยวนี้!
จางหมี่ค่อยๆ หรี่ตาลง รวบรวมสมาธิทั้งหมด พลังปราณอุ่นวาบภายในร่างกายเริ่มหมุนวนจากจุดกึ่งกลางหน้าผาก ไหลเชี่ยวผ่านเส้นชีพจรพุ่งตรงสู่ดวงตาราวกับกระแสน้ำป่า
วูบ!
ริ้วแสงสีทองสว่างวาบพาดผ่านนัยน์ตาสีดำขลับ เปลี่ยนดวงตาธรรมดาให้กลายเป็น 'ดวงตาเทพ' ในเสี้ยววินาที!
โลกทั้งใบพลันเปลี่ยนไปในสายตาของจางหมี่ ทุกสรรพสิ่งถูกเชื่อมโยงด้วยเส้นใยพลังงานที่ส่องแสงระยิบระยับ เสียงรบกวนรอบข้างเงียบงันลง เหลือเพียงเสียงที่สำคัญที่สุด...
ตึกตัก... ตึกตัก...
เสียงจังหวะหัวใจของแม่ที่เต้นอย่างสม่ำเสมอและหนักแน่น
เธอเพ่งมองทะลุผ่านเสื้อผ้าที่แม่สวมใส่ ทะลุผ่านผิวหนัง เข้าไปสำรวจอวัยวะภายในด้วยใจที่เต้นระทึก
หัวใจห้องต่างๆ บีบตัวเป็นจังหวะปกติ... ปอดขยายตัวและหดตัวอย่างแข็งแรงตามลมหายใจ... กระดูกสันหลังและข้อต่อยังคงสมบูรณ์ดี ไม่มีร่องรอยของความเสื่อมสภาพหรือโรคร้ายใดๆ แฝงอยู่ เส้นชีพจรไหลเวียนสะดวก ไม่มีสิ่งอุดตัน
ความตึงเครียดที่ขึงตึงอยู่ในอกมลายหายไปทันที จางหมี่พรูลมหายใจยาวเหยียดด้วยความโล่งอก ร่างกายของแม่แข็งแรงดีมาก เปี่ยมไปด้วยพลังชีวิตที่สมบูรณ์สมวัย
รอยยิ้มแห่งความสุขระบายเต็มใบหน้าจนตาหยี เธอค่อยๆ คลายพลังออก แสงสีทองจางหายไป ดวงตากลับมาเป็นสีดำขลับสดใสและอ่อนโยนเช่นเดิม
จางหมี่เดินย่างเท้าเข้าไปเงียบๆ สวมกอดเอวแม่จากด้านหลัง ซบหน้าลงกับแผ่นหลังอุ่นๆ ที่ชื้นเหงื่อเล็กน้อยนั้นอย่างโหยหาและออดอ้อน
“แม่คะ... ทำอะไรอยู่ หอมจังเลย”
จางเจินสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะผ่อนคลายลงและหัวเราะเบาๆ เมื่อสัมผัสได้ถึงอ้อมกอดคุ้นเคยของลูกสาว
"ตื่นแล้วเหรอตัวแสบ? แม่กำลังผัดผักบุ้งไฟแดงของโปรดลูกไง หิวหรือยัง?"
"หิวที่สุดในโลกเลยค่ะ!"
จางหมี่ตอบเสียงใส กระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นอีกนิด ในใจเปี่ยมล้นไปด้วยความสุขที่ประเมินค่าไม่ได้...
ต่อให้มีพลังวิเศษล้ำเลิศแค่ไหน หรือมีเงินทองกองเท่าภูเขา ก็ไม่มีอะไรดีไปกว่าการได้เห็นคนที่เรารักมีสุขภาพแข็งแรงและมีความสุขอยู่ตรงหน้าแบบนี้... นี่แหละคือสมบัติที่ล้ำค่าที่สุดของเธอ
****
