
จอมใจมาเฟีย [Mafia’s Beloved] เซต Romance Of Mafia ลำดับที่ 5
บทย่อ
ความรักระหว่างเขากับเธอก็น่าจะราบรื่นดี ถ้าเธอไม่ทำผิดต่อเขาโดยการหนีการแต่งงานที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยไม่บอกกล่าวใดๆ...การตามล่า ทวงคืนหัวใจจึงเกิดขึ้น แต่แล้วเมื่อเขาได้รู้สาเหตุของการหนีครั้งนี้เขาจึงทุ่มเททุกอย่างให้กับเธออีกครั้ง ไม่เว้นแม้แต่ชีวิต จนเขากลับกลายเป็นปีศาจร้าย...น้ำใสจะหาทางออกกับเรื่องนี้อย่างไรต่อไประหว่างเธอและเขาจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีกมั้ย....จอมใจมาเฟีย [Mafia’s Beloved] SET : Romance Of Mafia ลำดับที่ 5คำโปรย: “ถอยไปนะ!!!” “ไม่สู้แล้วเหรอ” น้ำใสกำปมผ้าขนหนูไว้แน่น ดวงตากลมจดจ้องเข้าไปในดวงตาสีเทาของเขาเขม็ง แม้ตัวเองจะเสียเปรียบแต่เธอไม่มีทางยอมแพ้ง่ายๆ“จะเอายังไง” “นั่นสินะ! ไม่อยากเชื่อเลยว่าอย่างเราสองคนจะมาถึงจุดนี้ได้เหมือนกัน...ใครกันนะที่บอกรักกันได้ทุกเวลา...ไม่อายปากบ้างเหรอ” คำเย้ยหยันที่ถูกพ่นออกมามันไม่ได้แค่ทำร้ายจิตใจคนฟังเพียงฝ่ายเดียว ในทางตรงข้ามคนพูดน่าจะอาการสาหัสยิ่งกว่า “แล้วไง! คุณก็เหมือนของกินมีใครบ้างที่กินของเดิมซ้ำๆกันทุกวัน คำแรกมันก็ชื่นมื่นน่าลิ้มลองเป็นธรรมดา คำที่สองก็ยังน่าพิสมัย แต่คำต่อๆไปใครจะยังกลืนมันลงละในเมื่อรู้รสชาติแล้ว เมื่อถึงเวลาก็ต้องหารสชาติใหม่ๆมาลอง...ใช่มั้ย” แววตาของเอ็ดเวิร์ดเปลี่ยนไป สีหน้าและแววตาของน้ำใสมันช่างเข้าได้กับคำพูดของเธอเสียจริง นี่เขาเกิดหวั่นไหวใช่เหรอเปล่าว่าเธอคิดอย่างที่พูดจริงๆ ความเบื่อหน่ายอย่างงั้นเหรอ... “ได้!!! ในเมื่อเธอเบื่อรสชาติที่ฉันอุตส่าห์ปรุงแต่งมันเพื่อเธอคนเดียว งั้นลองรสชาติใหม่ก็...แล้ว...กัน!” อร้ายยยย!!! น้ำใสร้องดังลั่นเมื่อเอ็ดเวิร์ดกระชากผ้าขนหนูออกจากการปกป้องเรือนกายเปลือย ควับ!!! แรงเขากับแรงเธอมันเทียบกันไม่ได้หรอก ควับ!!! และอีกผืนที่หลุดล่วงไปคือของเขา สองร่างเปลือยเปล่าแนบชิดกัน เมื่อน้ำใสพยายามจะหนีให้พ้นจากรัศมีไอร้อนของร่างกายเขาที่พวยพุ่งออกมากระทบพื้นผิวเนียนของเธอSET : Romance Of Mafia ลำดับที่ 1 ; จังหวะรักมาเฟีย [ Mafia’s Rhythms Of Love ] ลำดับที่ 2 ; มาเฟีย'จ้าว'ชีวิต [ Mafia’s King ] ลำดับที่ 3 ; 'ลูกไม้'มาเฟีย [ Heir Of Mafia ] ลำดับที่ 4 ; นางฟ้ามาเฟีย [ Mafia’s Fairy ] ลำดับที่ 5 ; จอมใจมาเฟีย [ Mafia’s Beloved ]
=เฝ้าจับตา= [1/4]
“วายร้าย!” อาร์เชอร์ย้ำคำของคู่หูที่พึ่งจะเอ่ยเพื่อกล่าวหาใส่ร้าย ตัวเขาเองและเหล่าพรรคพวกเดียวกัน
“ใช่!” เจเนต ย้ำสิ่งที่เธอคิดและรู้สึก จะไม่ให้เธอคิดแบบนี้ได้ไง ก็ในเมื่อตอนนี้พวกเธอสองคนมานั่งอยู่ในผับดังที่ต้องเป็นสมาชิกเท่านั้นถึงจะเข้ามาได้ ถ้าพวกเธอมาเที่ยวตามประสาก็ไม่แปลก แต่นี้พวกเธอนั่งมานานเกือบสองชั่วโมงในขณะคนที่นี่ถ้าไม่ไปแด้นซ์ก็ดื่มครื้นเครงอย่างสนุกสนาน แต่พวกเธอสองคนจะดื่มก็ได้อยู่ แต่ต้องน้อยๆ ห้ามเมาสติต้องอยู่ครบ เพราะพวกเธอต้องคอยเฝ้าจับตามองใครคนหนึ่งที่ไม่รู้ว่าจะมาเหรอเปล่า เจเนตแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเบื่องานแบบนี้ งานสุ่มจับตา
“ฉันไม่อยากจะคิดเลยว่าทำไมคนแบบเธอท่านอดัมถึงส่งมาทำงานนี้ได้ ความอดทนต่ำอย่างร้ายกาจ” เจเนต จ้องมองอาร์เชอร์ด้วยความไม่พอใจ
“ใช่ นั่นแหละฉัน ตอนนี้ฉันก็เริ่มสงสัยแล้วว่าทำไมท่านอดัมถึงส่งฉันมาทำงานแบบนี้ ทั้งๆที่ฉันมันความอดทนต่ำ และแถมให้มีคู่หูเป็นครั้งแรกด้วยทั้งๆที่ท่านก็ทราบดีว่าฉันชอบฉายเดี่ยว” อาร์เชอร์ยิ้มมุมปากเข้าใจโดยทันที เพราะเขารู้แล้วว่าทำไมเจเนตถึงถูกส่งมาทำงานนี้ ‘ความอดทนต่ำ’
อาร์เชอร์ไม่ต่อคำกับเจเนต สายตามองไปที่ทางเข้าที่มีชายร่างสูงสวมเสื้อแจ็คเกตหนังสีดำกำลังเดินเข้ามาและเดินเลยพวกเขาไป อาร์เชอร์ไม่ได้มองตาม แต่รับรู้ได้ว่าชายคนนั้นนั่งห่างจากโต๊ะของพวกเขาอยู่มาก น่าจะติดผนังเลยก็ว่าได้ในมุมอับสายตา
“ไปเต้นรำกันเถอะ”
! เจเนตตกใจเล็กน้อยปนไม่เข้าใจ เต้นรำก็พอเข้าใจว่าตอนนี้ดนตรีเปลี่ยนเป็นเพลงช้าแล้วแต่ทำไมจู่ๆ ถึงต้องเต้นด้วย แต่เจเนตไม่มีโอกาสปฎิเสธ เมื่อถูกคู่หูดึงแขนเธอให้ไปที่ฟลอร์เต้นรำ พร้อมกับเอวบางของเธอก็ถูกรั้งเข้าแนบร่างกำยำของเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ และเขาก็พูดต่อ...
“เราสองคนมานั่งนานสองชั่วโมงแล้ว ถ้าไม่ทำอย่างอื่นบ้าง คนจะสงสัย และผับนี้เจ้าของเป็นผู้ทรงอิทธิพล จบไม่สวยแน่ถ้ามีใครสังเกตเห็นว่าเรามาคอยและจับตาใครอยู่...”
“อ่อ…” เจเนตเคลื่อนไหวไปตามการนำของอาร์เชอร์ หญิงสาวร่างบอบบางสูงโปร่งแต่อย่างไรแล้วเธอก็สูงแค่คางของอาร์เชอร์เองเท่านั้น เกือบสัปดาห์แล้วที่เธอยังไม่มีโอกาสได้เจอเจ้านายคนใหม่ของเธอเลย ท่านอดัมส่งเธอมาเพื่อมาช่วยงานบุตรชายคนโตของท่านอดัมท่านว่าอย่างงั้น ‘เอ็ดเวิร์ด’ แต่เธอไม่เคยเห็นตัวจริงเลย เคยเห็นรูปถ่ายและเคยได้ยินแต่เสียงเล่าลือว่าเขาไม่ธรรมดาว่าเจ้านายใหม่คนนี้เพียงคนเดียวและใช้เวลาไม่นานสามารถแฝงตัวเข้าไปยังตัวหลักของแก็งค้ามนุษย์และเข้าร่วมกับเจ้าหน้าที่จัดการกับแก็งนี้จนพวกมันล้มหายตายจากกันไม่น้อยและหนีกระจัดกระจายไปจนขบวนการ ค้ามนุษย์แก็งนี้ล่มสลายไปเลยจะว่าแบบนั้นก็ได้
เจเนตพึ่งเข้ามาทำงานกับท่านอดัมหลังจากที่บุตรสาวและบุตรชายคนเล็กของท่านอดัมแต่งงานกันแล้ว แต่ที่เธอไม่เข้าใจก็คือทำไม ท่านโนอาห์ถึงเป็นทายาทที่จะรับตำแหน่งต่อจากท่านอดัม ในเมื่อท่านอดัมมีบุตรคนโตที่เก่งกล้าสามารถนักตามคำเล่าลือเสียงเล่าอ้าง แต่เขาหายไปไหนนะ...
“ทำไมเราสองคนถึงมีบัตรเข้ามาได้ ถ้าเจ้าของที่นี่ไม่ธรรมดา” เจเนตถามตามที่สงสัย แม้จะรู้อยู่แล้วว่ามาเฟียตระกูลนี้ไม่ธรรมดา อะไรที่คิดว่าไม่ได้ ไม่มีทาง คนตระกูลนี้ทำได้หมด โดยที่ไม่ต้องเบียดเบียนใครเลย เธอที่พึ่งเข้ามาเป็นสมาชิกยังรู้สึกว่าตัวเองเป็นมาเฟียทรงคุณธรรมที่สูงส่งไปเสียแล้ว
“แน่นอน บัตรปลอม” เจเนตจ้องตากลับของอาร์เชอร์ ‘บัตรปลอม’
“บัตรปลอมที่ทำให้เราอยู่ในนี้ได้นานถึงขนาดนี้ นายอำ!ฉันเล่นแล้วละ”
“ถ้าเธอรู้จักท่านโนอาห์ จะไม่พูดแบบนี้” อาร์เชอร์กล่าวสั้นๆ พร้อมยิ้มอย่างมั่นใจ
“ท่านโนอาห์ บุตรชายคนเล็กของท่านอดัม ฉันเคยเห็นอยู่สองสามครั้ง ดูไม่เหมือนท่านอดัมสักเท่าไหร่” เจเนตย้อนคิดชายหนุ่มหน้าตาผิวพรรณใสปิ๊งไปทั้งตัว ‘มาเฟียหน้าใส’ แม้ท่านโนอาห์จะตัวสูงใหญ่และเรือนร่างกำยำ แต่ใบหน้าและดวงตากลับดูอ่อนหวานและบ่งบอกถึงความใจดีมาก แตกต่างกับท่านอดัมผู้เป็นพ่อลิบลับเจ้านายสายตรงของเธอ
“ก็แค่รูปลักษณ์ภายนอก เอาเถอะ! อย่างไรเสียฉันก็ขอเตือนไว้ว่า อย่าให้รูปลักษณ์ภายนอกมาทำให้เราประมาท” อาร์เชอร์เคยติดตามนายน้อยของตระกูลนี้มาช่วงหนึ่ง ตอนนั้นเขาได้เข้าร่วมจัดการขบวนการค้ายาแม้ไม่ใช่แก็งใหญ่ แต่ดีทรอยต์ไม่ใช่เมืองที่จะน่าเข้าไปเยี่ยงกรายนัก แต่เนื่องจากคนของเราถูกกักขังไว้ ท่านอดัมจึงมอบหมายให้ท่านโนอาห์ไปจัดการเรื่องนี้ การเข้าเมืองดีทรอยต์ด้วยจำนวนคนเพียงไม่กี่คนไม่ค่อยมีใครทำกัน แต่ตัวเขาก็เป็นหนึ่งในไม่กี่คน แน่นอนว่ามีการปะทะทั้งอาวุธปืน มีด แลกหมัดกับฝั่งตรงข้าม แต่ทุกอย่างอยู่ภายใต้การนำของท่านโนอาห์ ซึ่งพวกเขาแม้จะบาดเจ็บบ้างแต่ก็เล็กๆน้อยๆ และสามารถช่วยคนของเราออกมาได้ทั้งหมด แต่ท่าน โนอาห์แค่มีเหงื่อออกเล็กน้อยโดยที่ไม่มีใครที่จะสามารถทำให้ท่านโนอาห์บาดเจ็บได้เลย ตอนแรกเขาแปลกใจคิดว่าท่านโนอาห์หลบซ่อนตัวเก่ง แต่ตอนที่เกิดการจู่โจมแบบกะทันหันตอนนั้นเขาได้เห็นศิลปะการต่อสู้ด้วยมือและอาวุธของท่านโนอาห์ เขาจึงยอมศิโรราบและยอมรับอย่างสนิทใจเลย ซึ่งการฆ่าด้วยมือเปล่าของท่านโนอาห์ช่างทรงพลังเหมือนกับท่านอดัมมาก แล้วแบบนี้ใครที่เห็นอย่างเขา คงไม่คิดว่าสองพ่อลูกนี้แตกต่างกันแน่นอน
“มาแล้ว!” เจเนตที่เงียบไปนานก็ตื่นตัว เมื่อได้ยินสัญญาณจาก อาร์เชอร์
เจเนต ซบใบหน้าแนบอกของอาร์เชอร์ เพื่อที่เธอจะได้ลอบมองคนที่พวกเธอมานั่งเฝ้ารออยู่สองชั่วโมงกว่า ‘สวย’ คำนิยามแรกที่เจเนตให้กับผู้หญิงในชุดเดรสเข้ารูปสีดำ และถ้ามองให้ดีเธอคนนั้นสวมบอดี้สูทแนบเรือนกายอีกชั้นอยู่ด้านใน แม้ในที่สว่างน้อยมากต้องสังเกตอย่างมากถึงจะเห็นได้และแน่นอนว่าคนธรรมดาไม่อาจรู้ได้ แต่สำหรับเจเนตที่ช่ำชองเรื่องแบบนี้มองออกว่าเธอคนนี้ไม่ธรรมดาดวงตาแน่วแน่ เด็ดเดี่ยวมาก แม้เธอจะพยายามปิดและคอยยิ้มหว่านเสน่ห์ตลอดเวลาก็ตาม
“เป็นผู้หญิงไทยที่สวยมากคนหนึ่ง แต่แฝงความไม่ธรรมดาไว้อย่างน่ากลัวเลย” ความคิดเห็นของเจเนตสร้างรอยยิ้มให้กับอาร์เชอร์และเขากระซิบเบาๆที่ข้างหูเจเนตว่า...
“ผู้หญิงธรรมดาทั่วไปทำไม่ได้หรอก ที่จะครอบครองหัวใจทั้งดวงของเจ้านายได้”
! “เธอเป็น เป็นคนรักของคุณเอ็ดเวิร์ด อย่างนั้นเหรอ?”
“ตอนนี้เหรอ...ความรู้สึกที่เจ้านายมีให้เธอยังมีอยู่แน่ๆ แต่สถานะยังใช่หรือไม่ก็ต้องดูกันต่อไป...”
“ข่าวที่ได้ยินมาก็แน่ชัดแล้วสินะ! ว่าเธอคนนี้ทิ้งเจ้านายของพวกเรา และเธอก็ต้องรับโทษทัณฑ์ใช่มั้ย?”
อาร์เชอร์ไม่ตอบแต่ยิ้มเล็กๆตามสไตล์ “เอาเป็นว่าเรามีหน้าที่ทำตามคำสั่งก็พออย่ามากกว่าที่สั่งเท่านั้นก็พอ...เจเนตเธอควรเรียนรู้เรื่องนี้ไว้เจ้านายแต่ละคนมีลักษณะและคุณสมบัติที่ไม่เหมือนกัน เอาเป็นว่าตอนนี้เจ้านายใหม่ของเธอเน้นเผยด้านมืดของมนุษย์ออกมาใช้เสียส่วนใหญ่ในช่วงนี้”
เจเนตรับฟังเงียบๆ อย่างไรแล้วเธอก็ต้องรับฟังสิ่งที่คู่หูที่ทำงานกับเจ้านายคนใหม่มาก่อน แบบนั้นเรียกว่าฉลาดอยู่...“แล้วคราวนี้เอาไงต่อ
ตอนนี้เธอไปนั่งที่โซฟาตัวเดี่ยว เหมือนเธอกำลังรอใครบางคนอยู่...”
“ดูต่อไปและคอยรายงาน” อาร์เชอร์สั่งการ ตามที่ได้รับคำสั่งมาอีกทอดจากใครคนหนึ่งที่นั่งอยู่อีกฟากที่ไม่อาจมองเห็นคนที่เจเนตกำลังรายงานสดในตอนนี้ได้ รวมถึงอาร์เชอร์ที่จะไม่หันไปมองเลย เพราะแบบนั้นเขาจะโดนจับพิรุธได้ เจ้านายเตือนย้ำมากเพราะคุณน้ำใสไม่ธรรมดา เธอไวต่อความรู้สึกของสายตาถ้าหากถูกจับจ้องและมองอยู่
ซึ่งตอนนี้เอ็ดเวิร์ด เจ้านายของคู่หูที่แสร้งทำเป็นคู่รักกำลังข่มอารมณ์ของตัวเองไว้ ไม่ให้ลุกจากที่นั่งอยู่ไปกระชากน้ำใสและลากกลับไปตอนนี้ เขาได้ยินทุกคำของเจเนต เพราะอาร์เชอร์ติดลำโพงเล็กๆที่สัญญาณส่งตรงมาที่หูฟังในหูเขา ซึ่งอาร์เชอร์เองก็มีหนึ่งอันในหูเช่นกัน เพื่อฟังและรับคำสั่งจากเขาอีกทอดโดยที่เจเนตไม่รู้เรื่องนี้เลยซึ่งเธอก็ไม่จำเป็นต้องรู้ คำสนทนาของสองคนนั้นเขาได้ยินทุกคำ ‘คนรักของคุณเอ็ดเวิร์ด’ ‘ความรู้สึกยังมีแน่’ ‘รับโทษทัณฑ์’ คำเหล่านี้เอ็ดเวิร์ดคิดซ้ำไปซ้ำมา แต่...
“มีผู้ชายหน้าตาดีดูไม่ธรรมดา เข้ามานั่งข้างๆเธอแล้ว” ...
“คุณผู้หญิง คุณมาจริงๆด้วยสินะ” น้ำใสยิ้มในแบบที่ไม่ใช่ตัวตนของเธอให้กับไซม่อน
“โรส เรียกฉันว่าโรสเถอะคะ” น้ำใสบอกชื่อที่เคยเป็นสัญลักษณ์แทนตัวเธอมาก่อนองค์กรลับจะตั้งชื่อดอกไม้ให้กับเด็กๆในการดูแล ชื่อจะถูกเปลี่ยนไปใช้กับเด็กใหม่ก็ต่อเมื่อเจ้าของชื่อคนปัจจุบันไม่มีลมหายใจแล้ว ซึ่ง น้ำใสก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นคนที่เท่าไหร่ของชื่อดอกไม้ชนิดนี้ โรส [Rose]
