ตอนที่ 3 ร่างเก่าคนใหม่
ช่วงเวลาแห่งความเป็นความตายในความมืดมิดมีแสงสลัวอยู่ไกลออกไปหลินซินเหยียนที่ร่างกายบอบช้ำจากแรงกระแทกเธอคิดว่าอย่างไรเสียเธอคงตายไปแล้วอย่างแน่นอนเครื่องบินตกกระแทกหน้าผาขนาดนั้นหากรอดออกไปได้ก็ปาฏิหาริย์แล้วล่ะ แล้วนั่นคือแสงอะไรกัน
หลินซินเหยียนดั่งฝันเธอวิ่งออกไปฝ่าความมืดเพื่อไปหาแสงสว่างรำไรที่อยู่ตรงหน้า แต่ครั้นเมื่อใกล้จะถึงร่างทั้งร่างของเธอก็หล่นวูบลงไป เธอรู้เพียงว่าตัวเองนั้นถูกดูดลงไปในบ่อลึกที่ไม่มีที่สิ้นสุด จนกระทั่ง
"เฮือก!!" ร่างบอบบางที่สิ้นใจอยู่ในศาลาจมกองเลือดอยู่ จู่ๆก็ลืมตาขึ้นโพลงขึ้นมา ร่างบางค่อยๆพยุงตัวเองขึ้นมาแล้วหันมองสำรวจบริเวณรอบๆ จากนั้น "ซี้ด....อ่าา เจ็บหัวชะมัด"
มือเรียวเล็กขาวดุจหิมะกอบกุมบาดแผลที่ศรีษะเอาไว้ พร้อมกับลุกเดินไปที่บันไดริมสระเพื่อล้างคราบเลือด แต่เพียงแค่เห็นเงาของคนในน้ำ หลินซินเหยียนก็ตกตะลึงไปในทันที
หลินซินเหยียนจำได้ว่านางได้เดินทางเพื่อไปเข้าร่วมการประชุมแพทย์โอสถของสมาคมแพทย์แผนโบราณ เรียนรู้การฝังเข็มแบบผสมผสานและที่สำคัญคือ นางต้องการนำตำราโอสถสวรรค์ของบรรพบุรุษไปมอบให้พิพิธภัณฑ์นานาชาติเก็บเอาไว้ แต่แล้วการเดินทางเกิดปัญหาเครื่องบินตก แล้วนี่....
"ที่นี่ที่ไหน? แล้วนี่ใคร? " สองมือที่เต็มไปด้วยคราบเลือด ลูบคลำใบหน้าของเด็กสาวที่เป็นเงาสะท้อนในน้ำด้วยความมึนงง ไม่บอกไม่ได้ว่าสตรีในน้ำนี้สวยงามมากจริงๆ ใบหน้ารูปไข่ หน้าผากโค้งมน แม้เวลานี้จะเต็มไปด้วยคราบเลือดก็ตาม ดวงตาของนางกลมโต ขนตาหนาเป็นแพ จมูกเรียวเล็กโด่งรับกับริมฝีปากอิ่มบางอมชมพู
แต่ว่า....ในขณะที่หลินซินเหยียนก้มมองสำรวจร่างกาย พลันศรีษะที่ปวดอยู่แล้วก็มีความเจ็บปวดมากยิ่งขึ้น เรื่องราวต่างๆมากมายที่ไม่ใช่ของนางหลั่งไหลเข้ามาในสมองมากมาย หลินซินเหยียนพยายามที่จะตั้งสติรับรู้เรื่องราวเหล่านั้น
หลินซินเหยียนรู้สึกเจ็บปวดราวกับสมองถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆนางค่อยๆลูบศรีษะพร้อมกับความเจ็บปวดแทบขาดใจเมื่อสักครู่ค่อยๆจางหายไป
"แคว้นลั่วเฉิน?" นี่เราโผล่มาอยู่ ยุคสมัยเมื่อครั้งห้าร้อยปีที่แล้วอย่างนั้นหรือ แล้วนี่คือ หลินซินเหยียนล้างคราบเลือดออกจากใบหน้าพร้อมกับลุกขึ้นเดินมานั่งพิงต้นเสาในศาลา
จากความทรงจำที่หลังไหลเข้ามาเมื่อสักครู่นางพอจับใจความได้ว่า นางได้ย้อนเวลากลับมาในยุคสมัยที่คนจีนโบราณให้ความสำคัญกับการฝึกลมปราณ วิทยายุทธเป็นที่ ที่ให้การยอมรับเกี่ยวกับวิชาโอสถที่เป็นประเภทมีฤทธิ์ช่วยในด้านการเสริมสร้างและใช้จุดตันเถียนเพื่อใช้ในการฝึกสะสมพลังลมปรานและยังมีการแบ่งลำดับชั้นเฉกเช่นในตำราโอสถได้กล่าวไว้นั่นเอง
และร่างที่นางมาอาศัยอยู่นี้เป็นร่างของหญิงสาวที่มีชื่อคล้ายกันกับเธอแต่ความสามารถของนางนั้นนับอยู่ในขั้นไร้ค่าหรือเป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้นางไม่สามารถต่อสู้กับศัตรูที่ทำร้ายนางทำให้นางนั้นต้องตายไป
เมื่ออยู่ที่ทศวรรษที่ยี่สิบหลินซินเหยียนเป็นอาจารย์แพทย์และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านแพทย์แผนโบราณผสมผสานที่อายุน้อยที่สุด หญิงสาวได้รับการถ่ายทอดวิชาความรู้จากบรรพบุรุษที่สืบทอดกันมา โดยคุณปู่และคุณย่าเป็นผู้ฝึกสอนตั้งแต่จำความได้ ตำราลมปราณการฝึกพลังควบคุมพลังนางได้อ่านและคลุกคลีมาตั้งแต่ยังเด็ก
รวมถึงตำราแพทย์โอสถของบรรพบุรุษนั่นด้วย ไม่มีตกหล่นแม้แต่ตัวอักษรเดียว แต่ถ้าเทียบกับผู้ฝึกยุทธ์ในยุคสมัยโบราณแล้วนางเองก็ยังห่างไกลอยู่ มาก โลกในยุคสมัยโบราณนี้ไม่ว่าด้วยเรื่องอะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น เมื่อคิดมาถึงตรงนี้หลินซินเหยียนก็ขมวดคิ้วถอนหายใจออกมา
วิญญาณของนางได้ข้ามภพมาแล้วซ้ำยังมาอยู่ในร่างของสตรีไร้ค่าอีกด้วย!
ในขณะที่หลินซินเหยียนกำลังนั่งทำความเข้าใจกับเรื่องราวต่างๆของเจ้าของร่างนี้อยู่นั้น พลันก็ได้ยินเสียงอ่อนหวานเอ่ยขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นตกใจ
"ท่านพี่ท่านยังมีชีวิตอยู่?" หญิงสาวที่มีรูปโฉมงดงาม ทำให้คนที่พบเห็นต่างก็หลงใหลกล่าวขึ้น
"ดีจริง ข้านึกว่าท่าน..."
หลินซินเหยียนปรับเปลี่ยนอารมณ์เมื่อสักครู่ พิจารณาสตรีตรงหน้าอย่างถี่ถ้วน สายตาเย็นชากวาดมองไปที่หญิงสาวที่มีใบหน้าที่ยินดีอย่างเปี่ยมล้น ริมฝีปากของหลินซินเหยียนยกขึ้นน้อยๆแต่ทว่าเยือกเย็น นางขยับริมฝีปากเพียงเล็กน้อย ก่อนที่จะพูดขึ้นว่า "เจ้ามีอะไรอีกไหม? ถ้าไม่มีก็หลบไปให้พ้น!"
"ข้า..." หลินเสี่ยวซินเม้มริมฝีปากเล็กน้อยพลางบีบน้ำตาให้ไหลออกมานางกล่าวพร้อมเสียงสะอื้นว่า "ข้าเพียงแต่เป็นห่วงท่านพี่ ถ้าหากว่าข้าทำสิ่งใดผิดไป ขอท่านพี่ได้โปรดอย่าถือสาข้า"
ท่าทางของนางน่าสงสารยิ่งนัก เหมือนดอกไม้สีขาวอันบริสุทธิ์ที่ทำให้ผู้คนที่ พบเห็นต่างหลงรักและสงสาร
พลันเสียงดุด่าก็ดังมาแต่ไกล ไม่นานใบหน้าของชายวัยกลางคนที่ดูโกรธขึงขึ้นมาเอ่ยตะคอกขึ้นว่า
"หลินซินเหยียน นี่คือสิ่งที่เจ้าทำกับน้องสาวของเจ้าอย่างนั้นหรือ? เสียแรงเปล่าที่ซินเอ๋ออุตส่าห์เป็นห่วงเป็นใยเจ้า
แต่เจ้ากลับมองไม่เห็นแม้แต่ความปรารถนาดีจากนาง!"
"น้องสาวหรือ?" หลินซินเหยียนเผยรอยยิ้มเยือกเย็นออกมา "ข้าไม่เห็นจะจำได้ว่าท่านแม่เคยให้กำเนิดน้องสาวเช่นเจ้ามาก่อน!"
สีหน้าของหลินเสี่ยวซินเปลี่ยนไปกลายเป็นเศร้าหมองในทันที นางเป็นเพียงบุตรสาวบุญธรรม ไม่ใช่บุตรสาวสายตรงของตระกูลหลิน นี่เป็นเรื่องที่นางเสียใจอย่างมากที่สุด ถ้าหากปีนั้นท่านแม่ของนางไม่ล้มป่วยจนหมด หนทางรักษา
และเพื่อที่จะหาแหล่งพักพิงใหม่ให้นาง ทำให้ต้องวางแผนช่วยชีวิตหัวหน้าตระกูลหลินให้เป็นหนี้บุญคุณ เด็กไร้ที่พักพิงเช่นนางคงไม่ได้ถูกอุปการะเลี้ยงดูเช่นนี้
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
นางจึงปฏิญาณกับตนเองในใจว่า หากอยากจะอยู่เหนือผู้อื่น ต้องทำให้คนในตระกูลหลินยกนางให้เป็นคุณหนูตระกูลหลินให้ได้เสียก่อน
แต่หญิงไร้ค่าอย่างหลินซินเหยียนกลับทำให้นางต้องเจ็บปวดเช่นนี้ทุกครั้งไป
นอกเสียจากว่านางไม่ใช่สายเลือดตระกูลหลิน นางมีอะไรที่เทียบเทียมหลินซินเหยียนไม่ได้หรือ!
หากต่อจากนี้นางจะต้องวางแผนใหม่อีกครั้งเพื่อกำจัดขยะไร้ค่าผู้นี้ให้ออกไปจากตระกูลหลินเสีย ดังนั้นตำแหน่งคุณหนูของตระกูลหลินถึงจะเป็นของนางอย่างสมบูรณ์
.....
