บทที่ 1.จอมวายร้าย
แทนฤทัย ธอมป์สัน หญิงสาวแสนสวยร่ำรวยผู้ฉลาดมาดมั่นเดินออกมาจากห้องน้ำอย่างสดชื่น หญิงสาวเดินไปยังตู้เสื้อผ้าเพื่อเลือกชุดสวยมาสวมใส่อย่างอารมณ์ดีแล้วก็ต้องขมวดคิ้วมุ่นเมื่อเสียงโทรศัพท์เครื่องหรูดังขึ้น หญิงสาวปรายตามองนาฬิกาเรือนสวยบนผนังแล้วชักสีหน้าอย่างไม่ค่อยจะพอใจนัก
เพิ่งจะเก้าโมง ใครนะโทร. มาแต่เช้า เก้าโมงสำหรับเธอมันยังเช้านะ.. หญิงสาวเดินลงส้นมารับสายอย่าหงุดหงิด
“สวัสดีค่ะ แทมมี่พูดค่ะ..”
หญิงสาวพูดเสียงสุภาพกับเบอร์แปลกไม่คุ้นเคย แต่เสียงหัวเราะยียวนของปลายสายทำให้เธอแทบอยากจะวางสายทันที
“สวัสดีคนสวย..”
“นาย.. โทร. มาทำไม แล้วมีเบอร์โทรศัพท์ฉันได้ยังไง..”
หญิงสาวแผดเสียงตอบออกไปใบหน้างามแดงก่ำด้วยความโกรธจัด ราฟาเอล จอมวายร้ายที่เธอไม่เคยชอบขี้หน้าเขาเลยแม้แต่น้อย
“หึหึ มีใครบ้างล่ะที่ไม่รู้จักคุณหนูแทมมี่จอมหยิ่ง ที่มาพังงานแข่งรถของฉันเมื่อวาน คงกลัวพี่ชายตัวเองแพ้ฉันล่ะสิถึงได้มาล้มงานแข่งขันก่อนน่ะ”
“พี่ชายฉันไม่มีวันแพ้นายหรอก นายต่างหากที่จะต้องแพ้พี่ธาม และแพ้มาตลอดเลยด้วย”
“ก็ไม่แน่นะ หากแข่งกันอีกรอบ แข่งจริงๆ จังๆ พี่ชายเธอก็อาจจะต้องเสียทุกสิ่งทุกอย่างให้ฉันก็ได้ แต่ฉันคงไม่เสี่ยงกับคนเจ้าเล่ห์อย่างพวกเธอหลอกสาวน้อย”
“ไม่มีทาง น้ำหน้าอย่างนายหากไม่เล่นวิธีสกปรก ไม่มีทางชนะพี่ชายฉันได้หรอก”
แทนฤทัยหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธเมื่อราฟาเอลตั้งใจพูดจาดูถูกพี่ชายของตน
“หึหึ.. มั่นใจเหลือเกินนะคนสวย ฉันไม่อยากคุยกับเด็กขี้แพ้ชวนตี”
“ไม่อยากคุยแล้วโทร. มากวนประสาทชาวบ้านแต่เช้านี่ต้องการอะไร”
แหวกลับอย่างฉุนเฉียว ดวงตากลมโตสีน้ำตาลเข้มวาววับ ริมฝีปากรูปกระจับงดงามขบกันแน่นพยายามระงับอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน
“แค่จะโทร. มาบอกว่า เราจะต้องได้เจอกันเร็วๆ นี้แน่นอนครับคนสวย..” ราฟาเอลลากเสียงยียวนมาตามสาย
“ราฟาเอล ไอ้คน..”
“คุณหนูคนสวยครับหน้าตาชาติตระกูลก็ดี หน้าตาทางสังคมก็เริดหรู แต่พูดไม่เพราะเลยนะครับ หึหึ..” ไม่ทันที่เธอจะได้พูดอะไรชายหนุ่มก็ขัดขึ้นยิ่งทำให้แทนฤทัยฉุนจัด
“ฉันพูดเพราะๆ กับคนบางคน แต่สำหรับคนอย่างนายฉันไม่จำเป็นต้องเสียเวลาเสวนาด้วย..”
พูดจบหญิงสาวก็กดวางสายทันทีด้วยความฉุนเฉียวอยากจะกรีดให้ลั่นห้องเลยทีเดียว..
ราฟาเอล ฟร้องส์ ซาตานหน้าหยก จอมวายร้าย จอมยียวน จอมกวนประสาท แทนฤทัยแทบจะปาโทรศัพท์เครื่องหรูให้พังพินาศไปเสียให้สมกับความพรุ่งพล่านในใจหากไม่คิดถึงราคาที่ซื้อมาแพงลิบลิ่ว
“คนบ้า ไอ้คนทุเรศกวนประสาทที่สุด อยากจะบีบคอให้ตายนัก..”
แทนฤทัยสะบัดศีรษะเร็วๆ เพื่อสลัดความคิดเกี่ยวกับ ราฟาเอล ทิ้งไป ผู้ชายคนนี้เธอไม่สมควรจะเสียเวลาไปใส่ใจ สาวจอมหยิ่งเดินกลับไปแต่งตัวเพื่อออกไปสังสรรค์กับเพื่อนๆ โดยไม่รู้เลยว่า นับจากวินาทีนี้ ชีวิตสาวโสดที่สงบสุขของตนจะสิ้นสุดลงในไม่ช้า...
ร่างสูงสมาร์ตของชายหนุ่มในชุดสูทสีเทาเข้มเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาและเรือนผมสีทองอร่ามเด่นสง่าทำให้หญิงสาวต่างมองร่างสูงของเขาจนเหลียวหลังไม่เว้นแต่ผู้ชายด้วยกันก็ยังต้องมองเขาเหมือนต้องมนต์...
“สวัสดีครับ..”
เสียงนุ่มทุ้มดังขึ้นทำให้พนักงานต้อนรับสาวเงยหน้าขึ้นมองเขาแล้วต้องตกตะลึงในความหล่อเหลาราวเจ้าชายของคนตรงหน้า
“เอ่อ สวัสดีค่ะ”
“ผมมีเรื่องให้คุณช่วยนิดหน่อยครับ”
น้ำเสียงนุ่มทุ้มน่าฟังพร้อมด้วยรอยยิ้มกระชากใจ ทำให้คนมองถึงกับนิ่งงันแต่ด้วยรู้ว่าตนต้องทำหน้าที่อย่างดีเยี่ยม หญิงสาวกะพริบตาปริบๆ แล้วยิ้มเก้อๆ ด้วยความขัดเขิน
“ค่ะๆ มีอะไรให้ดิฉันช่วยคะ...”
“ผมต้องการพบคุณแทมมี่ครับ”
“ได้นัดคุณแทมมี่ไว้รึเปล่าคะ”
“ไม่ครับ แต่ถ้าคุณบอกว่า ราฟาเอล ฟร้องซ์ มาพบ รับรองได้ว่าเธอจะต้องรีบให้ผมพบเธอทันที..”
ชายหนุ่มบอกอย่างมั่นใจแล้วเดินไปนั่งที่มุมรับรองด้วยท่าทางแสนสบายไม่สนใจสายตาของหญิงสาวหลายคนที่ทอดเชิญชวนให้เขาสานสัมพันธ์ด้วยอย่างเปิดเผย ชายหนุ่มทำเพียงแค่ยิ้มบางๆ ในหน้าเท่านั้น...
“เชิญคุณราฟาเอลขึ้นไปรอคุณแทมมี่ที่ห้องรับรองชั้นสิบห้านะคะ เชิญด้านนี้เลยค่ะดิฉันจะนำไปเอง”
ไม่นานพนักงานสาวคนเดิมก็เดินมาหาเขาด้วยรอยยิ้มหวานในแบบของพนักงานต้อนรับที่ดี ร่างสูงลุกขึ้นเดินตามร่างระหงของพนักงานสาวไปยังลิฟต์ส่วนตัวที่ใช้รหัสผ่านจากผู้บริหารเท่านั้นไม่นาน ไม่นานลิฟต์หรูก็มาหยุดที่ชั้นเป้าหมายพนักงานสาวก็เดินนำเขาไปยังห้องรับรองสุดหรูที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของมหานครเช่นกรุงเทพฯ ได้กว่า 180 องศาเลยทีเดียว
“รอสักครู่นะคะ พอดีว่าคุณแทมมี่เธอติดประชุมถ้าต้องการอะไรเพิ่มเติมเรียกดิฉันได้นะคะ”
หญิงสาวบอกอย่างสุภาพแล้วเดินออกไปเพื่อให้แขกคนสำคัญของเจ้านายได้อยู่อย่างเป็นส่วนตัว
ราฟาเอลเดินไปหยุดมองภาพเบื้องหน้าผ่านกระจกใสอย่างไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรกับภาพตรงหน้านัก กรุงเทพมหานครก็เหมือนกับเมืองหลวงหรือเมืองใหญ่ของประเทศต่างๆ ที่มีแต่ความสับสนวุ่นวายและเขาก็ค่อนข้างจะเบื่อมันเหลือเกิน...
“นายมาที่นี่ทำไมไม่ทราบ..”
เสียงหวานแต่ทว่าห้วนจัดของหญิงสาวดังขึ้นทำให้ริมฝีปากเรียวได้รูปสีเข้มราวริมฝีปากอิสตรียกยิ้มน้อยๆ แต่ชายหนุ่มก็ยังไม่หันกลับไปเผชิญหน้ากับผู้ซึ่งเป็นเจ้าของสถานที่แห่งนี้...
“ฉันถามว่านายมาทำไม..”
แทนฤทัยตวัดเสียงใส่เขาอีกครั้งชายหนุ่มจึงหันมามองหญิงสาวที่เท้าสะเอวมองเขาตาเขียวปัดอย่างนึกขัน ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีแทนฤทัยก็ยังเหมือนเดิม น้ำเสียงแสนเกเรท่าทางหยิ่งผยองและไม่เคยยอมอ่อนข้อให้เขามันทำให้เขาสนุกทุกครั้งที่แหย่เย้าเจ้าหล่อน...
“ก็คิดถึงเลยแวะมาทักทาย ทำไม มาไม่ได้เหรอ..”
“อี๊ อย่าใช้มุกน้ำเน่ามาจีบฉันเลยย่ะ ฉันไม่สนนายหรอก”
หญิงสาวทำท่าแขยงกับคำพูดของเขาซึ่งมันทำให้ราฟาเอลหัวเราะเบาๆ แล้วเดินไปนั่งเหยียดยาวยกขาแกร่งพาดเท้ากับโต๊ะกระจกหรูอย่างสบายอารมณ์เหมือนว่าที่นี่เป็นบ้านของตน
“นี่ๆ เอาเท้าลงไปเลยนะ อย่ามาแสดงความถ่อยที่นี่ เดี๋ยวข้าวของฉันพัง เอาเท้าของนายลงจากโต๊ะฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ”
หญิงสาวโวยวายตาโตกับท่าทางของเขาพลางทำท่าหยิบชายกางเกงของเขาอย่างขยะแขยงและพยายามรั้งให้เท้าใหญ่ของเขาพ้นจากโต๊ะตัวสวยของห้องรับรองสุดหรูที่เขารู้มาว่าแทนฤทัยเป็นคนออกแบบตกแต่งเองยิ่งทำให้อยากจะแกล้งไม่ยอมเอาเท้าลงง่ายๆ จนหญิงสาวตาเขียวแล้วเขียวอีก
“แค่นี้ก็ทำเป็นเรื่องใหญ่ไปได้..” ในที่สุดราฟาเอลก็ยกขาลงเพราะเห็นว่าเธอคงหัวฟัดหัวเหวี่ยงพอแล้ว
“ตกลงนายมาทำไม ไม่รู้รึไงว่าฉันไม่อยากต้อนรับ”
“ก็อยากมาทักทายหุ้นส่วนคนใหม่ก็เท่านั้นเอง” ราฟาเอลยิ้มๆ แต่คนฟังหน้างอง้ำ
“หา.. อะไรนะ หุ้นส่วนคนใหม่ ใครเป็นหุ้นส่วนนาย..”
“ก็เธอคิดถูกแล้ว ตอนนี้ ฟร้องส์เอนเทอร์ไพรส์กับแทนฤทัยบายธอมป์สัน เป็นหุ้นส่วนธุรกิจกันแล้วเรียบร้อยนับตั้งแต่วันงานประมูลเครื่องประดับของเธอเมื่อสามเดือนก่อน..”
เมื่อสามเดือนก่อนราฟาเอลชนะการประมูลเครื่องประดับชุด เลอค่าแทนฤทัย ซึ่งเครื่องประดับชุดนั้นแทนฤทัยเป็นคนออกแบบเองและลงทุนจ้างพริตตี้เงินล้านอย่าง พิมพ์ภัสสร มาเดินแบบชุดฟินาเล่ให้ แล้วยังต้องไปดินเนอร์กับเขาอีกหนึ่งมื้อซึ่งเป็นข้อตกลงที่อยู่ในสัญญาการะประมูลซึ่งหญิงสาวคงไม่คิดว่าเขาจะชนะ ราฟาเอลมองใบหน้าสวยยุ่งเหยิงของเธออย่างพอใจ...
“ฉันไม่รู้เรื่อง นายตกลงกับใครก็ไปคุยกับคนนั้นเลยฉันไม่มีทางร่วมงานกับนายหรอก” หญิงสาวดื้อดึงแต่ราฟาเอลกลับยิ้มบางๆ
“ก็แล้วแต่ เดี๋ยวฉันบอกคุณลุงเองว่าเธอมันขี้แพ้ไม่กล้าทำงานกับฉัน”
ชายหนุ่มเลิกคิ้วยียวนแล้วลุกขึ้นทำท่าเหมือนจะเดินจากไป เดือดร้อนให้คนที่ถูกเรียกว่าขี้แพ้อดรนทนไม่ได้
“นี่นาย ทุเรศที่สุดคนอะไรขี้ฟ้อง”
“ก็ช่วยไม่ได้ เธอก็ขี้แพ้จริงๆ นี่นา”
“ฉันไม่ได้ขี้แพ้ แค่ไม่ชอบขี้หน้านายมีอะไรมั้ย แล้วทำไมนายจะต้องมายุ่งวุ่นวายกับชีวิตฉันด้วย”
ชายหนุ่มมองหน้าแดงจัดด้วยความไม่พอใจของคนที่เดินมาขวางเข้าไว้อย่างพยายามซ่อนความขบขันเอาไว้มิดชิด
“เพราะฝันร้ายไงล่ะคนสวย ฝันร้าย...”
ราฟาเอลเอ่ยแผ่วเบาด้วยน้ำเสียงที่แฝงไว้ด้วยความเจ็บปวดในขณะที่หญิงสาวส่ายหน้าอย่างไม่เข้าใจ...
“ฝันร้ายบ้าอะไรของนาย..”
“ฝันแบบนี้ไงล่ะ..” เร็วเกินกว่าหญิงสาวจะทันทัดทานริมฝีปากสาวก็ถูกครอบครองด้วยริมปากสีชมพูสดของเขาอย่างรวดเร็ว...
และเหมือนโลกสีชมพูสดใสของแทนฤทัยถล่มลงตรงหน้าด้วยพายุฝนที่โหมกระหน่ำอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย เรียวลิ้นร้อนผ่าวของเขาล่วงเร้นเข้าไปในโพรงปากสาวที่กำลังตื่นตระหนกไม่รู้จะไปทางไหนกับการจู่โจมของเขา สุดท้ายมันก็ถูกดูดดื่มบดเคล้าจากปากสวยไม่แพ้อิสตรีของเขา
ราฟาเอลเสาะแสวงหาความหวานจากปากสาวอย่างหิวกระหายด้วยลีลาที่ช่ำชองจนหญิงสาวไหวสะท้านร่างบางสั่นระริกหวามไหว ความซ่านหวิววิ่งพล่านไปทั้งกาย ความร้อนระอุเกิดขึ้นในกายจนเหงื่อเม็ดโตผุดพรายเต็มใบหน้าทั้งที่ในห้องแอร์เย็นฉ่ำ
มือไม้แขนขาของแทนฤทัยอ่อนเปลี้ยไร้กำลังจะต่อต้านเขาเหมือนคนเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงอย่างไรอย่างนั้น มือบางที่คิดจะผลักไสเขากลับกลายเป็นว่ายึดเหนี่ยวท่อนแขนแข็งแรงของเขาไว้มั่นเมื่อเธอรู้สึกเหมือนโลกโคลงไหวจนเธอจวนเจียนจะล้มลง
ร่างสาวเบียดบดเข้าหาร่างใหญ่อย่างลืมตัวอีกทั้งยังครางแผ่วด้วยความซ่านกระสันอย่างไม่อาจเก็บกักอารมณ์ส่วนลึกและดำมืดนั้นได้สร้างความพอใจให้กับชายหนุ่มผู้จุดไฟปรารถนาให้ก่อเกิดในกายสาวได้อย่างง่ายดาย...
“อืม หวานดีนะไม่คิดว่าคนปากร้ายๆ เนี่ย จะให้ความรู้สึกดีแบบนี้มาก่อน..”
ราฟาเอลถอนริมฝีปากออกอ้อยอิ่งทั้งเสียดายความหวานของปากสาวทั้งยังต้องคอยรั้งตัวเองไว้ไม่ให้หลงใหลเธอมากไปกว่านี้...
“อ๊ะๆ อย่าตบหน้าฉันเชียว ฉันไม่ใช่สุภาพบุรุษนักหรอกนะ หากเธอตบฉัน ฉันก็อาจจะทำอะไรเธอมากกว่าจูบในห้องรับรองนี้เลยก็ได้นะ”
ราฟาเอลยกนิ้วชี้ขึ้นส่ายไปมาตรงหน้าหญิงสาวที่กำลังจะเงื้อมือตวัดลงบนแก้มขาวๆ ของเขาด้วยโทสะ
“แก ไอ้..” แทนฤทัยพูดไม่ออกเหมือนหายใจไม่ทั่วท้องในขณะเดียวกันก็ร้อนรุ่มด้วยความโกรธและอารมณ์บางอย่างที่ตีตื้นขึ้นมา หญิงสาวมองเขาด้วยประกายตากร้าวอย่างสับสนน้ำใสๆ คลอดวงตางามจวนเจียนจะร่วงแหล่มิร่วงแหล่
“หึหึ.. หน้าตาก็สวย ปากก็หวานดี แต่คำพูดนี่ต้องปรับปรุงนะครับ.. หมดธุระฉันแล้ว ไปละ อ้อ.. หากติดใจจูบของฉันก็ไปหาฉันได้เสมอนะจ๊ะคนสวย..”
เสียงหัวเราะยียวนดังก้องไปทั้งห้องและเหมือนว่ามันดังอึกทึกอยู่ในหัวของเธอ จนเมื่อร่างสูงลับตาไปแทนฤทัยก็กรีดร้องด้วยความเจ็บใจ
“กรี๊ดดดดดด.. ไอ้บ้า ไอ้คนทุเรศ..”
หญิงสาวกระทืบเท้ากรีดร้องด้วยความเจ็บใจ น้ำตาใสๆ ไหลอาบแก้มไม่ใช่เพราะเธอเสียใจอะไรนักแต่เจ็บใจเสียมากกว่าที่โดนลบเหลี่ยมถึงถิ่น และที่สำคัญเขาบังอาจขโมยจุมพิตแรกของเธอไป...
