2
วยสีหน้าเข้มเครียดขึ้น พอหันไปทางหน้าต่างบานสูงใหญ่ มือเรียวถือแท็บเล็ตปรากฏรายละเอียดของตารางงานประชุม
“พรุ่งนี้คุณไปพบแพทย์ให้ฉัน บอกให้หมอจัดยาเดิม พยาบาลที่บ้านฉันขอเปลี่ยนคนใหม่ ฉันไม่ชอบคนที่มีนิสัยสอดรู้สอดเห็น ไม่เป็นกุลสตรี”
“ครับ คุณเฌอเอม”
“ถ้าหากว่าอยู่กันลำพัง ฉันอนุญาตให้คุณเรียกเฌอเอมเฉย ๆ ได้นะ ไม่จำเป็นต้องเรียกเต็มยศ หวังว่าคุณจะทำงานกับฉันได้นาน ๆ อย่างไม่มีปัญหา”
“รับทราบครับ” ในสีหน้าราบเรียบไร้อารมณ์ทว่ายังคงสุภาพอ่อนน้อมอย่างคนเป็นลูกจ้าง
อองเดรมีความเข้าใจว่าเธอคงไม่ชอบทำตัวเจ้ายศเจ้าอย่าง อย่างมารดาซึ่งเป็นหม่อมราชวงศ์ ได้รับการพระราชทานบรรดาศักดิ์เครื่องราชอิสริยาภรณ์ เนื่องมาจากว่าทำความดีเอาไว้มากจนได้รับการยกย่อง อีกทั้งนามสกุล ‘ไอยเรศ’ ยังเป็นตระกูลเก่าแก่ สมัยก่อนนั้นพวกเขาเป็นถึงเจ้านาย
ตอนนี้ก็ยังเป็นเจ้านายอยู่
เลขาฯ หนุ่มพยักหน้ารับคำสั่งและเอกสารกองเล็ก ๆ เธอยังคงชี้แจงระบบการทำงานให้ชัดเจน
“...ถึงเวลาเลิกงานแล้วคุณกลับบ้านได้เลยนะคะ ฉันไม่ใช้งานเลขาฯ เกินหกโมงเย็น ต่อให้ฉันหอบตายคุณก็ไม่จำเป็นต้องมา นั่นเป็นหน้าที่ของพยาบาล”
“ครับ... ชะ...” ปลายเสียงเงียบไป เลขานุการหนุ่มยืนขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่ว่าหากเขาเรียกชื่อเจ้านายเหมือนเป็นเพื่อนเล่น มันจะดีหรือ?
ทำไมเธอทำตัวเป็นกันเอง มากเกินไปไหม!
ขณะตาสบดวงตาเยียบเย็นราวน้ำแข็ง เธอยังเอาแต่จ้อง ไม่พูดอะไรต่อจากนั้น รอให้เขาเป็นฝ่ายพูดออกมา
“ครับบอส ผมพอเข้าใจระบบการทำงานที่นี่...”
“เฌอเอม บอส... อื้ม เอาที่คุณสะดวกใจเรียกละกัน” พูดจบ ร่างบางในเดรสสีขาวกระโปรงยาวผ่าข้างและเครื่องเพชรของเธอ ลุกขึ้นเดินออกจากห้องไปโดยไม่เหลียวมองหลัง มือเรียวจับประตูไม้สลัก พูดเสียงดังจากที่เธอยืนตรงนั้น “อาหารเย็นฉันเป็นสลัดร้านเดิม ทุกอย่างเหมือนเดิมนะคะ รบกวนด้วย แล้วอย่าลืมน้ำผลไม้ร้านน้ำปั่นออแกนิคข้างล่าง ชั้นหนึ่ง”
----------------------------------
เรื่องสำคัญที่สุดคือเจ้านายเป็นโรคหอบหืด เลขานุการประจำตัวคุณเฌอเอมจะต้องพกขวดพ่นยาเล็ก ๆ ติดกระเป๋าไว้ยามฉุกเฉิน ต่อให้เธอรับผิดชอบตัวเองดี เขาได้ยินมาจากเลขาฯ คนก่อนว่าเธอมีกระเป๋ายาพกติดตัวไปไหนมาตลอด ไม่เคยรบกวนใครในเรื่องนี้ เธอตรวจสุขภาพ ออกกำลังกายเบา ๆ ภายใต้ข้อจำกัดของร่างกายตนเอง รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างเคร่งครัด
อย่างว่าคนรวยจะทำอะไรก็ได้ เงินของพวกเขาสามารถซื้อทุกสิ่งแม้กระทั่งสุขภาพ และนั่น...
ช่วงเวลาชีวิตของคนรวยไม่เคยเท่ากันกับคนจน กับคนหาเช้ากินค่ำ
อองเดรได้พูดคุยกับเพื่อนฝูงในวงการเดียวกัน หล่อนบอกต่องานมาในกลุ่มแช็ตไลน์ให้เขารับรู้ปัญหา ลักษณะนิสัยคุ้มดีคุ้มร้ายของเจ้านายสาว เหมือนเป็นไบโพลาร์
แต่เลขานุการผู้ถูกเชิญออกฟ้าผ่ายังได้รับเงินชดเชยตามสมควร
ในความคิดของเขาคุณเฌอเอมอาจไม่เลวร้ายอย่างที่ได้ยินมาก็ได้ เขาชอบที่จะพิสูจน์คนด้วยเวลามากกว่าการฟังเพียงฝ่ายเดียว
ชายหนุ่มล้วงหยิบที่พ่นยาขนาดกะทัดรัดขึ้นมาดู คิ้วเข้มหนาขมวดเข้าหากัน ในสีหน้าฉงน
‘เจ้านายเป็นโรคหอบ แต่จูบได้ดี... อื้ม มีเรื่องแปลกแล้วหนึ่ง’
เขาคงไม่คิดว่าเธออยากข้ามเส้นเจ้านายลูกน้อง ด้วยความที่ประสบพบเจอผู้หญิงมาพอสมควร สาวคนไหนถูกใจเขาก็เห็นว่าพวกหล่อนชอบ นอกจากการส่งสายตาน่ารักให้แล้วยังคอยเข้ามาเกาะแกะระหว่างวันทำงาน มันเป็นเช่นนั้นมาโดยตลอด
แต่...
นั่นเธอกำลังยิ้มใช่ไหม?
ประจวบเหมาะพอดี ร่างบางในเดรสสีขาวตัวสวย เพิ่งปิดประตูไม้ลงหลังจากที่เก็บของออกจากห้อง เธอหิ้วกระเป๋าแบรนด์เนมใบเล็กสีขาวเข้ากับรองเท้าส้นสูงคัทชู พอเขาหันไปสนใจเธอ พลันเก็บมุมปากให้กลับมามีสีหน้านิ่งเฉย ทว่าแก้มขาวนวลกลายเป็นสีแดงระเรื่อ
“ยังไม่กลับบ้านอีกหรือคะ?”
“กำลังจะกลับแล้วครับ” ในน้ำเสียงราบเรียบตอบ อองเดรยังพยายามเข้าข้างตัวเองว่าเธออาจไปเติมเครื่องสำอางก่อนกลับบ้าน จากนั้นเขาก็ทำหน้าที่โทรเรียกคนขับรถชื่อลุงเปี๊ยกให้ หยิบกระเป๋าหนังขึ้นสะพายพาดบ่า โดยมีเจ้านายสาวโบกมือล่ำลาเสียงหวาน
“ขอบคุณสำหรับสลัดนะคะ อร่อยมาก ขับรถกลับบ้านปลอดภัยค่ะ อองเดร”
----------------------------------
หน้าที่เลขานุการ เป็นเรื่องน่าเบื่อสำหรับหนุ่มวัยสามสิบแปดปีผู้ผ่านการทำงานมาโชกโชน
บริษัทแรกเกี่ยวกับอะไหล่ยนต์ประเภทซูเปอร์คาร์ บริษัทที่สองเป็นบริษัทขายประกันชีวิตรายใหญ่ อองเดรเป็นเลขานุการของผู้บริหารระดับ CEO มาตั้งแต่จบจากมหา’ลัยชื่อดังในฝรั่งเศส ด้านงานบริหารจัดการ ตอนอายุยี่สิบกว่า ๆ จนถึงตอนนี้ นั่นหมายความเขามีประสบการณ์มากกว่าสิบห้าปี
งานเลขานุการ ยุ่งหัวหมุนทั้งวัน ยิ่งเป็นชีวิตในเมืองกรุงซึ่งการจราจรคับคั่ง ไม่มีวันไหนที่รถมันจะไม่ติด เขาจึงต้องตื่นตั้งแต่ตีสี่ครึ่ง แต่งตัวมาดเนี้ยบขับรถมาออฟฟิศเพื่อมาชงกาแฟให้เจ้านาย ส่งรายงานการประชุม ตารางแพลนงานล่วงหน้า บริษัทที่สองนั้นยังต้องทำการตลาดยื่นให้ผู้จัดการฝ่าย ยังต้องคอยจัดหาอาหารให้เวลาที่เจ้านายทำงานยุ่งเสียจนไม่มีเวลาสั่งอะไรมาทานแม้สักนาที ไม่มีแม้เวลาตักอาหารเข้าปาก
เลยต้องมีคนรับใช้ส่วนตัวสักคน...
ชายหนุ่มเคยมีความคิดแบบนั้น เลวร้ายที่สุดเขาดันนึกถึงคำว่า ‘ขี้ข้าคนรวย’ ถึงแม้ว่าเจ้านายเก่าของเขาไม่เคยทำตัวเรื่องมาก ไม่เหยียดคนที่มีฐานะด้อยกว่า ไม่เคยจิกหัวใช้พนักงานคนไหน เงินเดือนก็ดี มีโบนัส OT พิเศษทุกสิ้นเดือน
จะมามีปัญหาตรงบรรดาสาว ๆ คู่ขาของเจ้านายดันชอบมาเกาะแกะเลขาฯ บางคนพูดออกมาตรง ๆ ในตอนเจ้านายของเขามัวแต่ยุ่งอยู่กับการทำงานว่าอยากจะเป็น FWB กับฝรั่งรูปหล่อ ดูเฉลียวฉลาดอย่างเขา
แน่นอนว่าด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มีจรรยาบรรณในอาชีพเลขานุการ คนอย่างอองเดรไม่เคยมีความคิดเหล่านั้นในหัว ได้แต่เก็บความอึดอัดใจ จนถึงกับต้องเปลี่ยนงานกะทันหัน ทันทีที่ได้รับสายเข้ากลางดึก
ทว่าโชคดันไม่เข้าข้างเท่าไร เพื่อนตัวดีไม่ได้บอกว่าคุณเฌอเอมเพิ่งเปลี่ยนเลขาฯ มาเจ็ดคนภายในเดือนเดียว! เพื่อเขาจะได้ยอมรับงานต่อจากหล่อน ปล่อยให้เขามารู้ทีหลังจากคนที่นี่ว่ามาเป็นเลขาฯ คนที่แปด สิ้นเดือนพอดี
‘ยัยพอลลี่ แกนะแก อย่าให้เจอตัวเชียว’
ป่านนี้เจ้าตัวคงลอยลำไปแล้ว อองเดรทำได้เพียงคิดแค้นหล่อนลึก ๆ ในใจ
หน้ากระจกบานใหญ่ในห้องน้ำกว้างขวางสะอาดตาของตึกระฟ้า ร่างสูงชะลูดในสูทหล่อเหลากระชับเนคไทให้เข้าที่ ครุ่นคิดอยู่สักพักหนึ่งว่าตัวเองจะโดนไล่ออกวันไหน เวลาไหน ตัวเขาคงไม่มีหน้าไปซบอกเจ้านายเก่าอย่างไร้ศักดิ์ศรี เขาจะกลายเป็นเลขาฯ ตกงานอยู่สักพักก่อนซมซานตามหาเจ้านายใหม่ดี ๆ ต่อไป
ชายหนุ่มจัดแจงเสื้อผ้าทรงผม เสร็จธุระส่วนตัวเรียบร้อยแล้วก้มหน้าเดินจัดการตารางงาน ผ่านแท็บเล็ตจอใหญ่คู่กายซึ่งผ่านการทำงานมาอย่างนมนาน เขาส่งตารางการประชุมให้เจ้านายทางโปรแกรมแช็ตและอีเมล อีกฝ่ายรีบตอบกลับมาเป็นสติ๊กเกอร์น่ารัก
‘บ้าชะมัด...’
มันไม่ประหลาดแค่สติ๊กเกอร์ตุ๊กตาสาวผมยาวหน้าคุณเฌอเอมยิ้ม หัวสมองดันเผลอไปคิดถึงริมฝีปากนุ่มนิ่มเคลือบลิปสติกสีแดงสด ปลายลิ้นเล็กไม่ประสีประสา จุมพิตเพลิดเพลินใจ ดวงตาฉ่ำปรือและสีหน้าตื่นตระหนก เอวคอดบางที่กอดกระชับเต็มแขน
จูบเจ้านายตั้งแต่วันแรก ทำไปได้ยังไงวะ อองเดร!
