ตอนที่5. ครวญคราง
“อ๊ะ...อะ ...อ๊ะ”
สีหน้าและเสียงครวญครางนั้นทำให้เขาโยกเอวไม่ยั้ง หน้าอกอิ่มสวยถูกดันจนเหมือนจะทะลักล้นออกมา ธีรยาได้แต่ปล่อยให้เขาเคลื่อนไหวตามความพอใจรวมทั้งนำพาความเสียวซ่านที่ไม่เคยรู้จักมาเธอได้ลิ้มรส ช่องรักคับแคบตอดรัดลำเอ็นทำให้เขารู้สึกดีและแทบควบคุมตัวเองไม่อยู่ ดวงตาคู่สวยปรือตาขึ้นมามีหยาดน้ำตาเอ่อคลอ เขาขยับเปลี่ยนท่าแยกขาที่ไร้เรี่ยวเองออกโดยที่ท่อนเอ็นยังเชื่อมอยู่ภายใน เขายื่นมือไปยึดหัวเตียงไว้แล้วเริ่มบดคลึงเนินเนื้อเนิบช้า น้ำรักวาวใสเปื้อนเปรอะไรขนอ่อนบาง เธอครางกระเส่าและร่างกายเริ่มสั่นไหวอีกครั้งเมื่อเขาโยกเอวถี่รัวโดยที่สองมือยังยึดหัวเตียงและก้มมองคนใต้ร่างที่ได้แต่บิดตัวไปมาเพราะความเสียวซ่าน ความร้อนรุมรัญจวนถาโถมละลอกแล้วละลอกเล่า หญิงสาวใกล้แต่สุดสุดยอดอีกครั้ง
“อีกนิด พร้อมกัน..” เสียงแหบพร่าดังขึ้นอย่างรู้ว่าเธอใกล้จะเสร็จอีกครั้ง คราวนี้เขาไม่ยั้งความต้องการอีก เร่งเดินเครื่องเต็มกำลังจนร่างเล็กเกร็งกระตุกไปอีกรอบพร้อมกับชายหนุ่มที่แหงนหน้าคำรามอย่างสุขสม
ธีรยาเหนื่อยล้าอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แต่ในขณะเดียวกับหัวสมองก็โล่งปลอดโปร่งอย่างที่สุด นี่นะเหรอข้อดีของการถึงจุดออกัสซั่มอย่างที่เคยได้ยินมา แต่เวลานี้เธอเพลียจนไม่อาจลืมตาได้อีก โจวเจียอีคอยๆ ถอนลำเอ็นออกจากร่องรักที่บวมช้ำเล็กน้อย ผ้าปูที่นอนมีคราบสีแดงจางๆ เขาขมวดคิ้วแล้วมองหน้าคนที่ชิงหลับไปก่อน ปกติเขาไม่เคยอนุญาตให้ ‘คู่ขา’ หลับบนเตียงเดียวกับเขา แต่ครั้งนี้เห็นทีว่าเป็นเขาที่ต้องละเมิดกฎของตัวเองแล้ว.
หญิงสาวในชุดกระโปรงสีหวานสวมเสื้อกาวน์สั้นเดินเข้ามาในแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลพร้อมถุงขนมในมือ มือเรียวขยับแว่นตาให้ชิดใบหน้าก่อนผลักบานประตูเข้าไป เวลานี้ไม่มีคนไข้หนัก คุณหมอหนุ่มกำลังนั่งอ่านเคสคนไข้บนหน้าจอคอมพิวเตอร์
“พี่หมอก้องยุ่งหรือเปล่าคะ”
คนถูกทักเงยหน้าขึ้นพร้อมรอยยิ้ม “น้องหมิวมาถึงER มีอะไรหรือเปล่าเอ่ย”
หมิว-ธีรยา คุณหมอคนสวยส่ายหน้า เธออยู่แผนกพยาธิวิทยาแต่ตอนนี้ออกเวรแล้วจึงเดินมาที่แผนกอุบัติเหตุและฉุกเฉิน เพื่อพบหมอก้องภพซึ่งเป็นรุ่นพี่ที่จบจากโรงเรียนมัธยมเดียวกันและมหาวิทยาลัยเดียวกัน แม้จะห่างกันหลายรุ่นก็ตาม
และใช่..เป็นคนที่ทำให้เธออกหัก
“สองสามวันก่อนพยาบาลแพรวเล่าให้ฟังว่าขนมในห้องERหายไป พอดีหมิวได้ขนมถั่วทอดโบราณเจ้าอร่อยมา ก็เลยเอาฝากพี่หมอก้องค่ะ”
“แหม! เรื่องน่าอายแบบนั้นเอาไปคุยเล่นกันอีก”
ก้องภพหัวเราะร่า เขาเป็นคนอารมณ์ดี หัวเราะง่าย ผิดกับเวลารักษาคนเจ็บหรือคนไข้จะจริงจังจนน่ากลัว ธีรยาพลอยหัวเราะตามไปด้วยแล้วยื่นถุงกระดาษที่ใส่ขนมส่งให้เขา
“ไม่เกรงใจนะ”
หมอก้องภพรับถุงขนมมาวางบนโต๊ะ มองหน้าหญิงสาวนิ่งๆ เขาอยากถามเรื่อง ‘คืนนั้น’ แต่เขาเดินตามเธอไม่ทัน และไม่เหมาะนักถ้าจะเดินไปตามถึงห้องพัก แต่เช้าวันต่อมาซึ่งเป็นวันว่างให้คนที่มาร่วมสัมมนาพักผ่อนตามอัธยาศัยก่อนเดินทางกลับ เขาไม่เจอธีรยาแต่เมื่อโทรหาก็ได้ยินน้ำเสียงงัวเงียทำให้เขาหัวเราะและขอโทษที่รบกวนเวลานอน เขาเห็นเธอเหมือนน้องสาวจึงอดเป็นห่วงไม่ได้ และเหมือนจะเป็นห่วงจนเกินไป เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนยิ้มออกมา แล้วทำหน้าแบบพึ่งนึกได้
“มาพอดีเลย พี่ว่าจะไปหาอยู่เหมือนกัน”
“มีอะไรหรือคะ หรือจะมากล่อมให้หมิวเรียนต่ออีกคน” เธอเพิ่งทำงานที่โรงพยาบาลได้ปีเศษ ยังพอใจกับการทำงานที่แผนกของตนเอง
“ไม่ใช่เรื่องนั้นหรอก” ก้องภพพูดพลางเปิดลิ้นชักโต๊ะหยิบซองสีชมพูหวานแหววส่งให้ “ว่าจะเอาการ์ดงานแต่งงานไปให้นะ”
รอยยิ้มแข็งค้างบนใบหน้าทันที ธีรยารับซองสีหวานแถมยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆมาไว้ในมือ เพิ่งประกาศตัวว่ามีแฟนไปไม่กี่สัปดาห์ ตอนนี้มาแจกการ์ดงานแต่งงานแล้ว เธอต้องรู้สึกยังไงกันละที่นี่
แต่ที่แน่ๆ ใจเธอยังเจ็บแปลบอยู่เลย
“ยินดีด้วยนะคะ”
“ขอบใจนะ”
ก้องภพไม่รู้สึกผิดสังเกตอะไร แต่ไหนแต่ไรเขาแสดงออกชัดเจนว่าตัวเองมี ‘คุย’กันอยู่แล้ว และไม่เคยนอกลู่นอกทาง กับธีรยาก็เป็นรุ่นน้องจึงสนิทสนมกันมากแม้จะอยู่คนละแผนก และที่สำคัญแฟนของเขาก็เคยเจอธีรยาอยู่บ่อยๆ ถึงขั้นกำชับให้แจกการ์ดให้ธีรยาด้วย
