คุณหนูทาสรักทาสใจ

16.0K · จบแล้ว
นกกระจิบ
12
บท
713
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ใครจะคิดว่า...คุณหนูผู้สูงศักดิ์จะยอมแลกร่างกาย เพื่อสัมผัสรสรักจากคนสวนหนุ่มที่ดิบเถื่อนยิ่งกว่าไฟแต่เมื่อเขายอมเป็นทาสของเธอ...เธอกลับกลายเป็นทาสหัวใจของเขาเสียเอง เพราะในเกมรักนี้...ไม่มีใครเหนือกว่า มีแต่คนที่ยอมหลงและยอมเป็นของกันและกันตลอดไป

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักคนรับใช้เศรษฐีโรแมนติก18+คู่นอนคืนเดียวคู่รักลิขิตความอยากเป็นเจ้าของ

1 ข้อเสนอที่ไม่ควรมีใครรู้

ตอนที่ 1

ข้อเสนอที่ไม่ควรมีใครรู้

เขาไม่ใช่เจ้าชาย ไม่ใช่แม้แต่คนที่เธอควรจะชายตามอง...แต่แค่สายตาของเขา...เธอกลับรู้สึกเหมือนเป็นคนที่ต่ำต้อยเสียเอง

สายลมยามสายของวันอาทิตย์พัดเอื่อย แบกพาเสียงนกร้องแผ่วเบาจากเรือนยอดไม้ ราวกับเสียงกระซิบของฤดูร้อนที่กำลังทอดตัวลงบนผืนป่าอันเงียบสงบ กลิ่นหอมฟุ้งของดอกไม้นานาพรรณในเรือนกระจกแก้วขนาดใหญ่ลอยมาปะปนกับกลิ่นหญ้าสดที่เพิ่งถูกตัดแต่งอย่างประณีต แต่ทั้งหมดนี้กลับไม่สามารถดึงดูดความสนใจของ อลิสา ได้เลย หัวใจของเธอไม่ได้เต้นแรงเพราะความงดงามตามธรรมชาติ หรือเพราะความสงบสุขที่โอบล้อมบ้านพักตากอากาศอันหรูหราแห่งนี้แต่เป็นเพราะ...เขา

ชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง แต่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อที่ซ่อนอยู่ใต้ผิวคล้ำแดดนั้น ทุกสัดส่วนของร่างกายบ่งบอกถึงการทำงานหนัก เสื้อกล้ามสีซีดที่แนบไปกับลำตัวเผยให้เห็นแผงอกกว้างและหน้าท้องที่เรียบแบน ขณะที่กางเกงผ้าขายาวสีเข้มถูกพับขึ้นเหนือข้อเท้า เผยให้เห็นน่องขาที่แข็งแรง

เขากำลังก้มลงขุดดินด้วยจอบอย่างใจเย็นและอดทน แขนที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดปูดโปนปรากฏขึ้นอย่างชัดเจนทุกครั้งที่กล้ามเนื้อเกร็งตัวเพื่อออกแรง ความแข็งแกร่งที่ฉายชัดจากทุกท่วงท่าคือความงามที่ดิบเถื่อน งามในแบบที่เธอไม่เคยพบเจอจากผู้ชายคนไหนที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิต

อลิสายืนอยู่บนระเบียงชั้นสองของคฤหาสน์หรูหราของเธอ แม้จะอยู่ห่างไกลเกินกว่าจะได้ยินเสียงลมหายใจของเขา แต่สายตาของเธอกลับชัดเจนพอที่จะจับภาพหยาดเหงื่อที่ไหลรินจากขมับ ไล่ตามกรอบหน้าคมคาย ก่อนจะกลิ้งผ่านลำคอแกร่งแล้วซึมหายไปในร่องกล้ามเนื้อที่แผงอก ดวงตาคู่สวยจ้องมองราวกับต้องการจะซึมซับทุกรายละเอียดของภาพตรงหน้า

หญิงสาวกัดริมฝีปากแน่น รู้สึกแปลกประหลาดในท้องราวกับมีผีเสื้อนับร้อยตัวกำลังโบยบินอยู่ภายใน มันเป็นความรู้สึกที่ทั้งน่าอึดอัดและน่าตื่นเต้นในเวลาเดียวกัน

“หยุดมองได้แล้วน่า...เขาเป็นแค่คนสวน...” เสียงหนึ่งในความคิดของเธอดุด่าตัวเองอย่างอ่อนล้า

แต่แล้วเสียงที่หยันเย็นกว่ากลับตอบกลับมา “แล้วทำไมต้องหน้าแดงขนาดนั้น...แค่เห็นเขาเหงื่อซึม”

อลิสาเกลียดตัวเองที่คิดแบบนั้น แต่ก็ไม่อาจห้ามหัวใจที่เต้นรัวและความปรารถนาอันแปลกประหลาดนี้ได้ เขาไม่เคยมองเธอด้วยสายตาแบบที่คนใช้มองเจ้านายเลยแม้แต่ครั้งเดียว ทุกครั้งที่ดวงตาของทั้งคู่สบกัน มีเพียงแววตานิ่งเฉยที่สะท้อนความเย็นชา มองผ่านเธอราวกับเธอเป็นเพียงอากาศธาตุ มันน่ารำคาญใจที่เขาไม่เคยสนใจเธอเลยแม้แต่น้อย แต่นั่นกลับเป็นสิ่งที่ดึงดูดเธออย่างประหลาด ความไม่แยแสของเขาทำให้เขาน่าค้นหา และน่าดึงดูดเกินกว่าจะต้านทานไหว

“คุณหนู” เสียงทุ้มของ แม่บ้านศรี ดังขึ้น ทำให้ร่างบางสะดุ้งเล็กน้อย อลิสาหันกลับมาอย่างรวดเร็วราวกับถูกจับได้

“คะ?” เธอตอบรับ พยายามควบคุมสีหน้าให้กลับมาเป็นปกติ

“คุณผู้หญิงถามหาน่ะค่ะ บอกว่าอย่าลืมว่าเย็นนี้มีงานเลี้ยงที่บ้านรัฐมนตรี”

งานเลี้ยงอีกแล้ว... งานเลี้ยงที่เต็มไปด้วยผู้ชายแต่งตัวดีที่เธอไม่รู้จัก มารยาทสังคมที่น่าเบื่อหน่าย บทสนทนาที่เธอไม่มีสิทธิ์เลือก หัวเราะในเวลาที่ต้องหัวเราะ ยิ้มในเวลาที่ต้องยิ้ม มันคือกรงทองที่พันธนาการชีวิตของเธอมาโดยตลอด

อลิสายิ้มบางๆ อย่างเหนื่อยอ่อนแล้วพยักหน้า ก่อนจะหันกลับไปมองเรือนกระจกอีกครั้ง... และพบว่าเขาหายไปจากสายตาแล้ว ทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่าที่ก่อกวนหัวใจของเธอ

คืนนั้น... อลิสากลับจากงานเลี้ยงเร็วผิดปกติ เธออ้างว่าปวดหัวและหนีกลับมาก่อนใครทั้งหมด ความเบื่อหน่ายและอึดอัดกับบรรยากาศจอมปลอมทำให้เธอแทบจะทนไม่ได้อีกต่อไป

เมื่อความมืดมิดเข้าปกคลุม และทุกคนในบ้านต่างหลับใหลอยู่ในห้วงนิทรา เธอค่อยๆ หยิบไฟฉายขนาดเล็กขึ้นมา แล้วเดินเท้าเปล่าอย่างเงียบเชียบผ่านทางเดินด้านหลังบ้าน ผ้าคลุมบางเบาที่ห่มทับชุดนอนเนื้อผ้าโปร่งเบาพลิ้วไหวไปตามลม ราวกับคนที่คิดเพียงแค่จะเดินเล่นรับลมยามค่ำคืน

แต่จุดหมายปลายทางของเธอไม่ใช่สวนหย่อมที่สวยงาม หรือบ่อน้ำพุที่ส่องประกายระยิบระยับใต้แสงจันทร์ แต่เป็นเรือนกระจก ที่ตั้งอยู่อย่างเงียบงันห่างจากตัวคฤหาสน์

เมื่อบานประตูเลื่อนไม้ขนาดใหญ่ถูกเปิดออก กลิ่นไม้สดและกลิ่นดินชื้นที่ปะปนกับกลิ่นไอดินของต้นไม้นานาพรรณก็ตลบอบอวลเข้ามาปะทะจมูกทันที ความรู้สึกดิบๆ ของธรรมชาติที่ถูกกักเก็บไว้ในเรือนกระจกนี้ทำให้ใจของเธอสงบลงอย่างประหลาด

และที่นั่น... ภายใต้แสงจันทร์สีเงินยวงที่สาดส่องลงมาผ่านกระจกใสบานใหญ่จนเกิดเป็นเงาตะคุ่ม

เขาอยู่ที่นั่นในร่างเปลือยเปล่าท่อนบน เผยให้เห็นกล้ามเนื้อทุกส่วนที่เคลื่อนไหวอย่างชัดเจน กางเกงมวยผ้าสีดำแนบลำตัวเผยให้เห็นขาที่แข็งแรงและเรียว มือเปล่าเปลือยทุบเข้ากับกระสอบทรายขนาดใหญ่ที่แขวนอยู่กลางห้องอย่างแม่นยำและหนักหน่วง ร่างกายของเขาเคลื่อนไหวราวกับสัตว์นักล่าแข็งแรง มั่นคง รวดเร็ว และดิบเถื่อนอย่างน่าหลงใหล ทุกหมัดที่กระแทกกระทั้นลงบนกระสอบทราย สร้างเสียงดัง “ตุบ! ตุบ!” กึกก้องไปทั่วเรือนกระจกที่เงียบสงัด

เธอหลบอยู่หลังพุ่มไม้สูงใบใหญ่ เฝ้ามองเขาราวกับต้องมนต์สะกด หัวใจของเธอเต้นแรงทุกครั้งที่เขาเปลี่ยนท่วงท่า การเคลื่อนไหวที่พลิ้วไหวแต่ทรงพลังนั้นดึงดูดสายตาเธออย่างไม่อาจละสายตาได้ ทุกหยาดเหงื่อที่ไหลซึมตามแผ่นหลังและไหล่กว้างของเขาคือรอยกระเพื่อมในอารมณ์ที่ซ่อนเร้นของเธอ และทุกแรงปะทะที่กระสอบทรายได้รับ มันเหมือนกับว่าเขากำลังต่อสู้กับอะไรบางอย่างในใจตัวเอง ความดุดันและแข็งกร้าวของเขาคือแรงดึงดูดที่เธอไม่เคยสัมผัสมาก่อน

อลิสาไม่รู้ว่าอะไรครอบงำเธอในตอนนั้น ความกล้าหาญที่มาพร้อมกับความต้องการอันแปลกประหลาดที่ก่อตัวขึ้นในใจ ทำให้เธอตัดสินใจเดินออกมาจากพุ่มไม้ทีละก้าวอย่างช้าๆ เผยร่างภายใต้แสงจันทร์สีนวล

“คุณ...มาทำอะไรที่นี่” เสียงเขาทุ้มต่ำ ราบเรียบ แต่แฝงไว้ด้วยแรงกดดันบางอย่างที่ทำให้อลิสาต้องกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก

“ฉัน...อยากดูคุณซ้อม” เธอพูดออกไปแล้วก็อยากจะกัดลิ้นตัวเองให้ขาด มันดูงี่เง่า น่าอาย และไร้เหตุผลสิ้นดี

แต่เขาไม่พูดอะไร เพียงยืนมองด้วยดวงตาคมกริบที่แวววาวใต้แสงจันทร์ ราวกับกำลังอ่านเธอจากหัวจรดเท้า พินิจพิจารณาทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าด้วยความเงียบงัน

และนั่นคือวินาทีที่อลิสาตัดสินใจ บางสิ่งบางอย่างในตัวเธอถูกปลุกให้ตื่นขึ้น ความกล้าหาญที่มาพร้อมกับความปรารถนาอันลึกซึ้งผลักดันให้เธอเอ่ยสิ่งที่อยู่ในใจออกไป

“ฉันมีข้อเสนอให้คุณ”

“...” ชายหนุ่มยังคงเงียบงัน ดวงตาจับจ้องเธอไม่กระพริบ

“มาเป็น...คนของฉัน”

“แค่...บางคืน” เธอกระซิบเสียงแผ่ว ใบหน้าร้อนผ่าวราวกับไฟ มันเป็นข้อเสนอที่บ้าบิ่นที่สุดในชีวิตของเธอ

“ฉันจะจ่ายเท่าที่คุณต้องการ...ไม่มีข้อผูกมัด ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ นอกจากเราสองคน...เท่านั้น”

ความเงียบเข้าปกคลุมเรือนกระจก มีเพียงเสียงลมหายใจของคนสองคน เขาเดินเข้ามาหาเธอทีละก้าว ทีละก้าว ช้าๆ และมั่นคง จนกระทั่งเธอได้กลิ่นเหงื่อ กลิ่นดิน และกลิ่นกายผู้ชายที่หอมกรุ่นปะปนกัน กลิ่นที่ไม่เคยแตะต้อง...แต่กลับกระตุ้นความรู้สึกบางอย่างในตัวเธออย่างรุนแรงจนอยากจะลิ้มลอง

“คุณแน่ใจหรือครับ...ว่าคุณจะรับไหว” เสียงเขาเบาราวกับกระซิบ แต่แฝงไว้ด้วยคำเตือนบางอย่างที่ทำให้หัวใจเธอเต้นระรัว

เธอพยักหน้าอย่างมั่นคง แม้จะรู้สึกหวาดหวั่น แต่ความปรารถนาอันรุนแรงกลับมีมากกว่า...

และเขาก็กระซิบตรงริมใบหูเธอด้วยน้ำเสียงพร่าพร่าที่ทำให้ขนลุกซู่ไปทั้งตัว ก่อนจะเดินจากไปในความมืดมิด ทิ้งเธอไว้กับความหนาวเย็นที่แสนอบอุ่นในเรือนกระจกนั้น...

“แล้วฉันจะทำให้คุณรู้...ว่าการเป็นทาสของใครบางคน มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คุณคิด”