บทนำ
กรี๊ด!!
โครม เพล้ง!!
เสียงเล็กแหลมกรีดร้องเสียงหลงปะปนกับเสียงของจักรยานที่ล้มไถลลงข้างทางดังลั่นสนั่น ฉุดให้ใครหลายๆ คนที่อยู่บริเวณนั้นต้องหันไปมองตามเสียงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“โอ๊ยเจ็บจัง!!”
เสียงร้องโอดครวญของคนร่างเล็กในชุดออกกำลังกายเสื้อแขนยาว ขาสั้นล้มหน้าคะมำไปกับจักรยานคู่ใจในทันที ความตื่นตกใจดึงรั้งร่างเล็กรีบโผล่หัวขึ้นมาด้วยสภาพที่ยุ่งเหยิง แต่ทว่ากลับเผยให้เห็นดวงหน้าสวยโดดเด่นสะดุดตามาแต่ไกล
ผิวขาวผ่องออร่า ณ ตอนนี้กลับซีดเผือดไร้เลือดฝาดจากอาการตื่นตกใจเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา ดวงตากลมสีน้ำตาลเข้มเต้นสั่นระริกคลุกเคล้ากับน้ำเม็ดใสๆ ที่กำลังเจ่อนองออกมาอย่างพรั่งพรูด้วยความเจ็บปวด
“คุณ!! หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ”
ยังไม่ทันที่เธอจะได้นั่งคร่ำครวญกับความเจ็บปวดที่ได้รับ เสียงที่ดุดันของตำรวจในเครื่องเเบบ 3 นายกำลังวิ่งกรูเข้ามาเพื่อหวังจับกุมหญิงสาวที่ดีดตัวลุกขึ้นตั้งท่าจะวิ่งหนี
“กรี๊ดอย่าเข้ามานะ!!”
ร่างเล็กกรีดร้องเสียงดัง พร้อมๆ กับวิ่งขากะเผลกๆ หนีการจับกุมของตำรวจเข้าไปในตลาดสดใกล้ๆ ที่เกิดเหตุ ชวนให้บรรดาพ่อค้าแม่ค้า และผู้คนที่มาจับจ่ายใช้สอยมองตามด้วยความสงสัย และมึนงงกันเข้าไปใหญ่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“ช่วยด้วยค่า!! ตำรวจรังแกประชาชน”
“ช่วยจับเธอด้วยครับ!!”
“ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด คุณตำรวจจะมาจับฉันทำไม อือๆ”
“แล้วคุณจะวิ่งหนีทำไมครับ?”
คนร่างเล็กยังคงวิ่งต่อไป เพื่อหลบตำรวจทั้ง 3 นายที่วิ่งตามจนแทบเกือบจะไม่ทัน ยิ่งเธอตัวเล็กและวิ่งเร็วยิ่งทำให้อริสซอกแซกไปตามซอยเล็กๆ ได้คล่องแคล่วมากกว่า
“ตายแล้วๆ ช่วยด้วยๆ”
เมื่ออริสวิ่งหลบตำรวจจนพ้นสายตา เธอรีบแอบเข้าไปหลบใต้แผงขายน้ำปลาร้าสดในขณะที่แม่ค้ากำลังเผลอไม่ทันได้สังเกตเห็นเธอในวินาทีนั้น
“เจอเธอไหมพี่วิ?”
“ไม่เจอเลยเอก ตัวเล็กๆ วิ่งเร็วฉิบหายเลย”
“ไปหาให้ทั่วเธอหนีไปไหนไม่ไกลหรอก ยังอยู่ในตลาดสดนี่แหละ”
“ครับพี่เล็ก!!”
ตำรวจ 3 นายยังคงวิ่งวุ่นตามหาอริส ด้วยความหวาดกลัวหญิงสาวยังคงแอบหลบอยู่ใต้ถังน้ำปลาร้าเงีบยๆ ด้วยความตื่นกลัว
จนไม่กล้าหายใจเสียงดังเพราะกลัวทุกคนจะได้ยินเสียงเธอ
‘ฉันแค่ปั่นจักรยานหลงทางมาเอง ต้องวิ่งไล่จับกันเหมือนฉันไปฆ่าใครตายมาขนาดนี้เลยอะ’
หญิงสาวได้แต่คิดอยู่ภายในใจ น้ำตาหยดใสต่างไหลรินออกมาไม่ขาดสายตามกลไกของร่างกายที่ตกอยู่ในสภาวะตื่นกลัวสุดขีด
“นายครับยังหาเธอไม่เจอครับ”
“นายจะมาตามหาเธอเองหรอครับ”
“ได้ครับ!!”
เสียงของนายตำรวจคนหนึ่งที่กำลังคุยโทรศัพท์ถึงใครสักคนที่พวกเขาเรียกว่า “นาย” เมื่ออริสได้ยินเช่นนั้นยิ่งทำให้เธอตกใจมากกว่าเดิม
‘ถึงขั้นต้องให้ผู้หลักผู้ใหญ่มาตามจับฉันเลยหรอเนี่ย’
หญิงสาวบ่นพึมพำดังคร่ำครวญขึ้นภายในจิตใจ พานทำให้น้ำตาที่เจ่อนองอยู่ที่ดวงตาสองข้างไหลหลั่งออกมาอีกครั้ง จนกระทั่งเธอเริ่มสะอึกสะอื้นเสียงสั่นเทาอยู่ใต้แผง
พรึบ!!
“อี๋!! อึก อึบ แหวะ!!”
ยังไม่ทันที่ความวัวยังไม่หายความควายก็เข้ามาแทรก แม่ค้าดันทำน้ำปลาร้าในถังร่วงลงมารดศีรษะ ไหลลงตามต้นแขนและขาของเธอ กลิ่นที่เหม็นเน่าของน้ำปลาร้าแทรกซึมเข้าไปยังเนื้อผ้าส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งน่าขยะแขยง
ซึ่งอริสเองที่กำลังตกใจอดไม่ได้ที่จะกรีดร้องเบาๆ ออกมา พร้อมๆ ทั้งพะอืดพะอมจนแทบจะอวกแตกอยู่อีกไม่ช้า
“เอ้า!! คุณมาอยู่ในนี้ได้ยังไง?”
“ชูวร์!!”
นิ้วเรียวเล็กถูกยกขึ้นมาชูไว้ที่ปาก เพื่อบ่งบอกให้แม่ค้าเบาเสียงลง เธอกลัวว่าตำรวจจะได้ยินเสียงแล้วเข้ามาจับภายใต้แผงน้ำปลาร้านี้
“นายครับ!!”
“ผมรู้แล้วครับพี่เล็ก”
สายตาคมเฉียบของนายตำรวจยศใหญ่จ้องมองไปยังแผงขายน้ำปลาร้าตาเขม็ง สายตาทุกคู่ยังคงจับจ้องมองหน้าของแม่ค้าที่กำลังเลิ่กลั่กและสับสนไม่รู้จะเอายังไงดีกับสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้า
“คุณตำรวจอยากได้น้ำปลาร้าสักขวดมั้ยคะ?”
ทันทีที่แม่ค้าสบนัยน์ตาคมคู่นั้น พร้อมกับชี้นิ้วลงที่ใต้แผง เพื่อให้คุณตำรวจรับรู้ถึงใครบางคนที่หลบซ่อนตัวอยู่ในนี้
“ครับ!!”
เมื่อได้ยินเสียงการสนทนาที่เกิดขึ้น อริสพยายามเงียบเสียงมากที่สุด พลางกดตากลมต่ำลงพยายามจ้องมองเท้าของแม่ค้าขายน้ำปลาร้าอย่างใจจดใจจ่อ แต่ทว่ากลับต้องสะดุ้งเฮือก เมื่อเท้าใหญ่นั้นเริ่มขยับออกห่างไปเรื่อยๆ ปรากฏเท้าของใครสักคนเข้ามาแทนที กระตุ้นให้อริสรีบเงยหน้าขาวซีดขึ้นมองตามด้วยความตกใจ
“คุณคิดว่าจะหนีผมพ้นหรอครับ? คุณอริส!!”
นายตำรวจหนุ่มนอกเครื่องแบบนั่งยองย่อลงตรงหน้าของหญิงสาวทันที ใบหน้าหล่อดูดีกับทรงผมทรงเกาหลีเกาใจของเขาดูไม่เหมือนตำรวจจริงๆ เลยสักนิด เพราะใครๆ ต่างก็รู้ว่าอาชีพนี้ไม่ว่าจะยศเล็กยศใหญ่แค่ไหนผมจะสั้นเกรียน ซึ่งช่างแตกต่างกับคนนี้อย่างสิ้นเชิง
“อื้อ!!”
สายตาเจ้าเล่ห์ที่แอบแฝงไปด้วยความดุดัน ยิ่งมองยิ่งดูน่าเกรงขาม ฉุดให้อริสเสียวสันหลังวูบวาบในทันทีที่จ้องมองด้วยแววตาแบบนั้นจากเซทท์
“ดะ เดี๋ยวๆ นะ ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดคุณจะมาจับฉันทำไม ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ”
