คุณตัวชั่วคราว

47.0K · จบแล้ว
Lalyblue,Woohoo,พิมพ์พรรษ
53
บท
4.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

"พอเถอะ""ห๊ะ? ""จูบของคุณมันไม่ได้เรื่องเลย""ว่าไงนะ""จูบห่วยขนาดนี้ยังจะกล้ารับงานอีกเหรอคะ ฉันว่าคุณเปลี่ยนอาชีพเถอะ" ว่าจบหญิงสาวก็ล้วงมือเข้าไปควานหาบางอย่างในกระเป๋ากางเกงของตน ก่อนจะแตะมันเข้ากับแผงอกของเขาเสียงดัง 'ปึก'"อะ...""ค่าจูบ"กล่าวเสร็จสรรพเธอก็รีบสาวเท้าอ้อมไปเปิดประตูรถและก้าวขึ้นไปนั่งประจำตำแหน่งคนขับ ก่อนจะขับจากไปอย่างรวดเร็ว ในขณะที่เขายังอึ้งกับการกระทำเมื่อสักครู่ของสาวเจ้าไม่หายจูบห่วย?ค่าจูบ?ยิ่งเห็นแบงค์ยี่สิบยับยู่ยี่ในมือ เขาก็ยิ่งรู้สึกทึ่งหนักกว่าเก่า เพราะนอกจากอารมณ์ดิบในตัวที่ถูกเธอปลุกเร่าขึ้นมาจะไม่ได้รับการปลดปล่อยออกมาแล้ว คนที่มั่นใจว่าตัวเองจูบโคตรเก่งยังโดนดูถูกเข้าให้อีกบ้าเอ๊ย!

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักนิยายปัจจุบันตลกรักหวานๆครอบครัวใช้ความรุนแรงรักแรกพบเศรษฐีโรแมนติก

บทที่ 1

เสียงเอะอะโวยวายด้วยความไม่พอใจของรัตติยาดังลอดออกมาจากบ้านหลังใหญ่ ตามมาด้วยเสียงขว้างปาข้าวของที่นายหญิงของบ้านมักจะกระทำอยู่เสมอเวลาที่มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันกับสามี โดยเรื่องที่ว่านี่ก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องชู้สาว ที่นายแพทย์โปรดผู้เป็นสามีก่อเอาไว้แบบไม่จบไม่สิ้น

“เลิกโวยวายสักทีเถอะคุณยา ผมก็บอกแล้วไงว่าเลิกกับเขาไปแล้ว คุณยังจะเอาอะไรกับผมอีก”

“เลิกเหรอ เลิกแล้วทำไมนังนั่นมันถึงมาตามรังควานฉันได้”

รัตติยาตะโกนถามเสียงดัง พร้อมทั้งปาโทรศัพท์มือถือของตนใส่อกผู้เป็นสามีเสียงดังอั่ก สร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้พบเห็น จนแม่สามีถึงกับทนไม่ไหวรีบออกโรงปกป้องลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของตนทันที

“นี่หล่อนจะทำเกินไปแล้วนะแม่ยา ถือว่าบุญคุณท่วมหัวฉันกับลูกแล้วหล่อนจะทำอะไรก็ได้อย่างนั้นเหรอ”

“คุณแม่! เรื่องนี้ลูกชายของคุณแม่เป็นคนผิดนะคะ”

แม่ของโปรดแค่นหัวเราะเสียงขึ้นจมูกด้วยความไม่พอใจ เนื่องจากท่านเองก็ไม่ได้ชอบพอลูกสะใภ้คนนี้อยู่แล้ว แต่ที่ต้องยอมให้อีกฝ่ายเข้ามาร่วมวงศ์ตระกูลด้วยนั่นก็เป็นเพราะความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานของลูกชายค้ำคออยู่

มาคิดย้อนดูแล้วนั่นก็เป็นความผิดของท่านเองส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดเรื่องนี้ขึ้น รู้ทั้งรู้ว่ารัตติยาเป็นคนอารมณ์ร้อนและเอาแต่ใจตัวเองมากขนาดไหน แต่ท่านก็ยังพยายามจับคู่ให้กับลูกชายของตนจนได้ เพราะว่าพ่อของรัตติยาได้ให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง นายแพทย์โปรดถึงได้ขึ้นมาเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังได้อย่างราบรื่น

“แต่หล่อนเป็นเมีย จะทำอะไรก็รู้จักเกรงอกเกรงใจผัวบ้าง นี่ลูกเต้าก็โตกันหมดแล้วยังตะโกนโหวกเหวกโวยวายเป็นแม่ค้าปากตลาดไม่จบไม่สิ้น ไม่นึกอายคนในครอบครัวก็อายคนใช้ในบ้านบ้างเถอะ”

“คนที่ต้องอายน่ะมันลูกชายคุณแม่ต่างหากค่ะ แอบมีเมียน้อยอายุคราวลูก ป่านนี้คนทั้งโรงพยาบาลเขาเอาไปพูดกันถึงไหนต่อไหนแล้ว” รัตติยาโต้กลับอย่างไม่ยอมแพ้

“ประสาทกลับ ผัวแกเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียวนะ ใครเขาจะกล้านินทา”

“โอ๊ยย คุณแม่ไปอยู่โลกไหนมาคะ ถึงไม่ได้ไม่รู้ว่ายิ่งสูงยิ่งหนาว ตำแหน่งใหญ่โตศัตรูก็ยิ่งเยอะ” คนเป็นลูกสะใภ้ตอกกลับอย่างไม่ไว้หน้า ก่อนจะหันไปคว้ากระชากแขนลูกสาวของคนเล็กของตนให้ลุกขึ้นจากโซฟาอย่างมีโทสะ “ก็อย่างว่า วันๆ ไม่ได้ออกไปเจอคน หลบอยู่แต่ในกะลา”

“นี่แกว่าฉันเหรอ” ปานตะโกนถามลูกสะใภ้

“หนูระบุชื่อหรือคะ”

หญิงชราเต้นเร่าพลางชี้หน้าลูกสะใภ้ตาปูดโปน แต่กลับนึกหาคำด่าที่จะทำให้ตนสะใจออกมาไม่ได้ จนหลานชายคนโตต้องรีบเข้ามาห้ามไว้ เพราะเกรงว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้เป็นย่า

“ป้าบัวพาคุณย่าไปพักผ่อนก่อนเถอะครับ”

หญิงรับใช้วัยกลางคนรีบเข้ามาพาปานไปพักผ่อนที่ห้องนอนบนชั้นสองของบ้าน ในขณะที่รัตติยาเหลือบไปเห็นลูกสาวคนโตของตนที่กำลังก้าวเท้าเข้ามาภายในบ้านพอดี

“แกไปไหนมา”

เสียงกระโชกโฮกฮากดังขึ้นทันทีที่เทียนแพรก้าวขาไปเหยียบพรมหน้าประตู

“ทำงานค่ะ”

“งานบ้างานบออะไรของแก ฉันบอกให้แกเรียนหมอแกก็ไม่เชื่อฉัน ไปเป็นครูสอนดนตรีกระจอกๆ มันจะไปพอยาไส้อะไร แกนี่มันไม่เคยได้ดั่งใจฉันเลยจริงๆ”