คุกคามรักเมียในนาม ชุด วิวาห์ไร้รัก

104.0K · จบแล้ว
เนื้อนวล/baiboau
51
บท
36.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ทะเบียนสมรสผูกมัดเขาเอาไว้กับหล่อน หาใช่ความรัก... ในสายตาของทุกคนรวมถึงเขา หล่อนคือผู้หญิงอ่อนแอ ขาพิการที่ต้องนั่งรถเข็นตลอดเวลา หล่อนจึงไม่มีค่าพอที่จะทำให้เขาหันมามอง จำต้องก้มหน้าจมอยู่กับหยาดน้ำตาเพียงลำพัง จนกระทั่งมารดาล้มป่วยลงและต้องการให้หล่อนแต่งงาน และเขาก็คือผู้ชายที่มารดาเห็นว่าเหมาะสมกับหล่อนที่สุด สำหรับมาร์ติเนซ ยายเด็กผู้หญิงข้างบ้านเนื้อตัวมอมแมมสกปรกไม่เคยอยู่ในสายตามาก่อน จนกระทั่งกาลเวลานำพาให้ได้พบกันอีกครั้ง แม้ว่าหล่อนจะยังคงนั่งรถเข็นเช่นเดิม แต่หัวใจของเขาก็ตกอยู่แทบเท้าของหล่อนเสียแล้ว “ทำไมจะต้องแกล้งทำเป็นขาพิการด้วย สราวลี” “มันเรื่องส่วนตัวของวลีค่ะ” “มันเป็นเรื่องของพี่ด้วย ในเมื่อพี่เป็นสามีของเธอ” “ก็แค่สามีในนาม” “ที่พี่ไม่ทำอะไรเธอ ก็เพราะเห็นว่าไม่แข็งแรง แต่หลังจากวินาทีนี้ไป เธอเตรียมรับความคลั่งของพี่ได้เลย สราวลี”

นิยายรักโรแมนติกนิยายปัจจุบันดราม่าสัญญาทางรักรักแรกพบโตมาด้วยแก้แค้นเศรษฐีโรแมนติก

ตอนที่ 1

“กรี๊ดดดดด...จารย์...จารย์มาร์ตมาแก...มาทางนี้แล้ว กรี๊ดดดด...”

ทุกครั้งที่ มาร์ติเนซ มาเลซาสโซ ปรากฏตัวขึ้นในมหาวิทยาลัยที่ตัวเองเป็นทั้งเจ้าของและอาจารย์ผู้สอน เสียงกรี๊ดกร๊าดของสาวๆ ก็จะดังขึ้นแบบนี้เป็นประจำจนชายหนุ่มคุ้นเคยกับมันไปเสียแล้ว เขาทำเพียงแค่ระบายยิ้มให้ แล้วเดินตรงไปยังห้องทำงาน

“ล้อหล่อ...” นักศึกษาสาวๆ ต่างพากันชื่นชมอย่างออกนอกหน้ากับความหล่อเหลาปานเทพบุตรของอาจารย์หนุ่มรูปงามยิ่งกว่าเทพบุตรลงมาจุติ

“ใช่แก...หล่อมาก ฉันเข้ามาเรียนที่นี่ก็เพราะอยากอยู่ใกล้ๆ เขาเลยนะ”

“เหมือนฉันเลยแก ไม่งั้นไม่มาเรียนที่นี่หรอก ค่าเทอมอย่างแพง”

นักศึกษาสาวๆ คุยกันอย่างออกรสออกชาติ ก่อนจะต้องรีบยกมือขึ้นปิดปากกลั้นเสียงอู้หู เมื่อหันไปเห็นอาจารย์สาวสวยดีกรีนักเรียนนอกเดินผ่านมาพอดี

“พวกเธอมายืนทำอะไรกันแถวนี้ล่ะ ไม่มีเรียนหรือไง” รวีบงกชตวัดตาที่กรีดด้วยอายไลเนอร์มองนักศึกษาสาวๆ ตรงหน้าอย่างไม่พอใจ “แล้วนั่นน่ะ น้ำลายที่มุมปากเช็ดออกกันเสียด้วย”

“จารย์น่ะ พวกเราก็แค่มาแอบมองจารย์มาร์ตเองค่ะ” นักศึกษาสาวนางหนึ่งอธิบาย

“จะมาแอบมองทำไม ไม่รู้หรือไงว่าอาจารย์มาร์ตของพวกเธอน่ะกำลังจะแต่งงานในอีกไม่กี่วันนี้แล้ว” น้ำเสียงของรวีบงกชดุดันขึ้นจนแปลกหู

“พวกหนูรู้กันแล้วล่ะค่ะ ข่าวออกจะดัง”

“รู้แล้วก็ไม่ต้องมายุ่งกับอาจารย์มาร์ตอีก จะไปไหนก็ไปกันเลยพวกเธอน่ะ”

“ค่ะ จารย์รวี”

“ค่ะ ก็ไปได้แล้ว”

นักศึกษาสาวหลายคนพากันเดินออกไปจากทางเดินขึ้นตึกอาคารอำนวยการ

“แรดแต่เด็กเลยนะนังพวกนี้” รวีบงกชบ่นตามหลังเหล่านักศึกษาไปอย่างหงุดหงิด ก่อนจะหันมองขึ้นไปบนตัวตึก แล้วพยายามปรับสีหน้าพร้อมกับก้าวเข้าไป

“คุณมาร์ตมีสอนเหรอคะ”

เมื่อเดินเข้ามาแล้วพบมาร์ติเนซระหว่างทางเดิน รวีบงกชก็อดทักทายเสียงอ่อนเสียงหวานไม่ได้

“ครับ”

“แหม นึกว่าจะเตรียมตัวเป็นเจ้าบ่าวอย่างเดียวเสียอีกนะคะ”

มาร์ติเนซระบายยิ้มน้อยๆ สีหน้าเรียบขรึม

“เจ้าบ่าวอย่างผมไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมากหรอกครับ หนักไปที่ทางเจ้าสาวมากกว่า”

“นั่นสิคะ เห็นว่าขาพิการด้วยใช่ไหมคะ” รวีบงกชพูดออกไปแล้วก็รีบยกมือขึ้นปิดปากของตัวเอง ก่อนจะจีบปากจีบคอแก้ไขคำพูด “อุ๊ย...รวีขอโทษนะคะ เผลอไปน่ะค่ะ”

“ไม่เป็นไรหรอกครับ มันเป็นเรื่องจริง เพราะเจ้าสาวของผมนั่งรถเข็น” สีหน้าของมาร์ติเนซยังคงเรียบเฉย “ผมขอตัวก่อนนะครับคุณรวี ต้องไปเตรียมตัวสอนแล้วครับ” เขาจะเดินจากมา แต่รวีบงกชคว้าแขนเอาไว้เสียก่อน

ชายหนุ่มหรี่ตามองฝ่ามือขาวสะอาดของรวีบงกชที่ท่อนแขนของตัวเอง ก่อนจะมองหน้าหล่อน หญิงสาวจึงรู้ตัวและรีบเอามือออกไปจากท่อนแขนล่ำของเขา

“ขอโทษค่ะ”

มาร์ติเนซระบายยิ้มบางๆ บอกให้รู้ว่าไม่ได้ติดใจเอาความอะไร “ว่าแต่คุณรวีมีอะไรกับผมอีกหรือครับ”

“เอ่อ...รวีอยากทราบบางเรื่องน่ะค่ะ แต่ไม่รู้ว่าควรจะพูดออกไปดีหรือเปล่า” หล่อนแสดงทีท่าอึดอัดลำบากใจ

“ถามมาเถอะครับ ถ้าผมตอบได้ ผมจะตอบ”

รวีบงกชเม้มปากเล็กน้อย ก่อนจะตัดสินใจตอบออกมา “ทำไมคุณมาร์ตถึงตัดสินใจ...แต่งงานกับเจ้าสาวที่ขาพิการล่ะคะ ทั้งๆ ที่มีผู้หญิงเพียบพร้อมอีกมากมายรอให้คุณมาร์ตเลือก”

แววตาของมาร์ติเนซราบเรียบอ่านความรู้สึกไม่ออก แต่ที่ใบหน้ามีรอยยิ้มน้อยๆ แต้มอยู่

“เพราะผมอยากดูแลวลีน่ะครับ”

“อยากดูแล...ผู้หญิงพิการที่วันๆ เอาแต่นั่งรถเข็นเนี่ยนะคะ”

“ครับ ผมอยากดูแลเธอ”

“แต่รวีว่าเธอไม่คู่ควรกับคุณมาร์ตเลยสักนิดค่ะ” รวีบงกชลืมตัวออกความคิดเห็นส่วนตัวอย่างออกรสออกชาติ “ผู้ชายเพียบพร้อมอย่างคุณ มาร์ตน่าจะได้ผู้หญิงที่ดีกว่านี้...”

ใบหน้าของมาร์ติเนซยังคงมีรอยยิ้ม น้ำเสียงของเขาสุภาพนุ่มนวลยามพูดโต้แย้งออกมา

“คนเรามองความเพียบพร้อมต่างกันครับ”

“ยังไงเหรอคะ”

“สำหรับผม...วลีเพียบพร้อมสำหรับผม และเธอก็เป็นผู้หญิงคนเดียวที่ผมต้องการดูแลไปชั่วชีวิต”

รวีบงกชไม่อยากจะเชื่อที่หูได้ยิน “รวีว่าคุณมาร์ตขัดความต้องการของผู้ใหญ่ไม่ได้มากกว่าค่ะ”

มาร์ติเนซยังคงระบายยิ้มอ่อนๆ “ผมมีจุดยืนของตัวเองเสมอ และถ้าไม่ใช่หรือไม่ชอบ ผมจะไม่มีวันยินยอมพร้อมใจ”

“แต่รวีว่า...”

“ผมขอตัวนะครับ ต้องไปสอนแล้วจริงๆ”

“เอ่อ ค่ะ...”

รวีบงกชมองตามร่างสูงใหญ่ของของมาร์ติเนซไปด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเสียดาย

“นังง่อยนั่นมันคู่ควรกับคุณที่ไหนกัน ฉันต่างหากที่ควรจะได้คุณมาครอบครอง คุณมาร์ต” คนบ่นพึมพำกำมือทั้งสองข้างที่ทิ้งอยู่ข้างลำตัวแน่น ดวงตาเต็มไปด้วยความริษยา