ep3
น้ำรินที่นั่งจัดห้องอยู่ถึงกับชะงัก เมื่อได้ยินเสียงของคนสองคนที่ครวญครางอยู่ด้วยกัน เธอไม่ใช่สาวน้อยไร้เดียงสา จึงพอจะรู้ว่าเสียงที่เกิดขึ้น คือเสียงอะไร?
กรรณิการ์ พี่สาวของเธอหึงหวงสามี จนพาเธอมาอยู่บ้านหลังเดียวกับชายหนุ่มช่างภาพ โดยใช้ห้องว่างที่อยู่ติดกับสตูดิโอของเขา ทว่า...สิ่งที่เธอคิดไว้ น่าจะเป็นเสียงของการทำงานที่อาจจะรบกวนการทำงานของเธอ แท้ที่จริงมันกลับเป็นเสียงของการเสพสังวาสของช่างภาพหนุ่มกับนางแบบสาว
“บ้าชะมัด รู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ว่าเราอยู่ห้องนี้ จะทำอะไรกัน ทำไมไม่รู้จักเกรงใจกันบ้าง?”
น้ำรินคิดอย่างหงุดหงิดในใจ เธอไม่ชอบสายตาของเขา ตั้งแต่มองเธอครั้งแรกแล้ว มันดูโลมเลียและหื่นกระหายชอบกล และก็เป็นจริงๆ อย่างที่เธอคิดไว้
เสียงครางครวญยังอยู่ชั่วครู่ก็เงียบหายไป น้ำรินถอนใจเฮือก พลางมองดูรอบๆ ห้องที่เธอจัดใหม่ เก้าอี้เขียนหนังสือ เตียงอยู่มุมห้องใกล้หน้าต่าง มีตู้เสื้อผ้าอยู่ปลายเตียง ส่วนฝาผนังเป็นไม้ฝาเชอร่า ไม่ใช่ไม้จริง มีร่องรอยชุดอยู่หลายแห่ง หญิงสาวคิดอย่างกังวล ก่อนจะคิดได้ว่าจะซื้อภาพแขวนฝาผนังมาติดปิดไว้เสียก็สิ้นเรื่อง เมื่อวางแผนจัดห้องไว้เรียบร้อยแล้ว ด้วยความเหนื่อยและเพลียจากการเดินทาง น้ำรินก็ผล็อยหลับไปอย่างสบายใจ
ขณะเดียวกันที่ห้องติดกันที่วางไว้เป็นสตูดิโอของธนัส การทำงานถ่ายภาพอิโรติกของเขาเป็นไปด้วยความราบรื่น เขาทำงานได้เร็วเพราะได้รับความร่วมมือจากนางแบบ บ่อยครั้งที่เขาและเธอถูกเนื้อต้องตัวกันจนเจ้าจ้อนของเขามันตื่นผงกหัวทักทายเธอบ่อยๆ แต่ชายหนุ่มก็มืออาชีพพอที่จะทำงานจนแล้วเสร็จ
“เซ็ทสุดท้ายแล้ว คุณแต่งตัวได้เลยครับ”
ธนัสบอกนางแบบยิ้มๆ เขาเองค่อนข้างเพลียจากการเสียน้ำไปหลายยก นี่ก็ใกล้ค่ำเต็มที่ เขาไม่เคยอนุญาตให้นางแบบคนได้อยู่ค้างอ้างแรมกับเขาเลย
“แหม ที่อย่างนี้แล้วรีบไล่กลับเลยเหรอคะ”
หญิงสาวเดินถือผ้าเช็ดตัวเดินมาหาเขา พร้อมปล่อยผ้าเช็ดตัวลงที่ปลายเท้า
“ให้ฉันกลับไปแบบนี้ โดยไม่ร่ำลากันเลยเหรอ?”
ชายหนุ่มถอนใจแต่ก็อดใจไว้ไม่ได้ เขาก้มลงไปดูดปากแลกลิ้นกับเธออีกครั้ง เธอหลับตาพริ้มกอดคอเขาไว้ ขณะที่เขาใช้นิ้วลากขึ้นลงตามร่องเสียวที่กำลังส่ายร่อนสู้นิ้วอยู่
“อ๊ะ..อา....อืมมมม....”
หญิงสาวร่อนส่ายสะโพกไปมา ขณะที่นิ้วแข็งแรงแยงเข้าไปในร่องลึก ธนัสดันร่างเธอกลับเข้าไปที่ตั่งอีกครั้งแล้วผลักให้เธอนอนหงาย หญิงสาวคว้าแก่นกายของเขาไว้แล้วรูดกำเล่นเบาๆ
“ระหว่างที่คุณถ่ายภาพฉันอยู่ รู้ไหมฉันกำลังคิดอะไร?”
“คิดถึงผม”
เขาตอบอย่างไม่ต้องเสียเวลาคิด สายตาที่เชิญชวนผ่านกล้อง ทำไมเขาจะเดาไม่ออกว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่
“ผิดแล้วฉันไม่ได้คิดถึงคุณ ฉันกำลังคิดถึงเจ้านี่ต่างหาก”
เธอเฉไฉไปอีกทางพร้อมรั้งร่างเขาขึ้นมาโดยที่กึ่งกลางร่างกายของเขาคร่อมอยู่ที่บ่าของเธอ
“อาวุธของคุณมันพิเศษมากเหลือเกิน ฉันอดใจไม่ไหว ยิ่งมองก็หวามลึกลงไปในช่องท้อง”
เธอเงยหน้ามองชายหนุ่มยิ้มๆ แล้วเริ่มและเล็มลิ้นไปตามลำท่อนอาวุธที่ผงาดอยู่ตรงหน้า ธนัสเกร็งขมิบบั้นท้ายตัวเองด้วยความเสียว ท่อนลำอาวุธถูกดูดดุนอยู่กับริมฝีปากเย้ายวน ลิ้นเล็กๆ ตวัดวนไปรอบๆ ลำท่อนสลับกับการดูดเข้าไปในอุ้งปากแล้ววนลิ้นรอบๆ รอยหยักพร้อมดูดชิมน้ำเสียวที่หลั่งออกมาหล่อลื่นเล็กน้อย
“อา....หวานเหลือเกินค่ะที่รัก”
นางแบบสาวดูเหมือนจะติดใจช่างภาพหนุ่ม เธอเฝ้าดูดดุนอยู่กับท่อนอาวุธของเขาอย่างหลงใหล โดยไม่รู้เลยว่าเสียงครางครวญแห่งความสุขนี้จะทำให้ใครบางคนต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาอย่างหงุดหงิด
******
น้ำรินสะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเวียงกุกกักที่อยู่ข้างห้อง เธอกวาดสายตารอบๆ ห้อง เห็นว่าเป็นเวลาพลบค่ำ และที่เธอเผลอหลับไปก็ไม่ใช่สถานที่เดิมที่เธอเคยคุ้น หญิงสาวนิ่ง ลำดับเรื่องราวในหัวสมองอย่างรวดเร็ว เธอกำลังย้ายมาอยู่ห้องใหม่ และข้างห้องเป็นสตูดิโอของช่างภาพที่ไร้มารยาทที่สุด
“อา....อูยยย...ซี๊ดดดดด”
เสียงครวญครางดังมากขึ้นท่ามกลางความเงียบและความมืดที่โรยตัวเข้ามาช้าๆ
น้ำรินมองไปที่รอยชำรุดที่ฝาผนังโดยอัตโนมัติ เธอรู้ว่าหลังรอยแยกที่ฝาผนังนั้น มันคือหนังสดดีๆ นี่เอง
“ไอ้บ้า ทำอะไรไม่รู้จักเกรงใจคนอื่น”
เธอบ่นอย่างหงุดหงิด พยายามอุดหูเพื่อไม่ให้ได้ยินเสียงครางครวญอย่างกระสันรัญจวนของคนทั้งคู่ ทว่า...สายตาของเธอกลับมองไปยังรอยแตกอย่างไม่อาจห้ามไว้ได้
