ตอนที่30 ข่าวใหญ่
ฟากฝั่งฤทธิชัยที่วิ่งตามหลานสาวมานั้นในตอนนี้กำลังถูกพี่สาวบิดหูอยู่เพราะเด็กหญิงรัมภาวีร์ฟ้องร้องว่าคนเป็นน้าหน้าไม่อาย
“โอ๊ย ไม้เจ็บน่ะพี่รุ้ง เฮียรักช่วยไม้ด้วย”
“เจ็บสิดี จะได้จำ ในร้านหนังสือก็ยังไม่เว้น มันน่าตีนัก รุ่มร่ามจริงเชียว เขาเป็นดาราเชียวนะถ้ามีคนถ่ายติดขึ้นมาเป็นเรื่องใหญ่เลยนะไม้” คนเป็นพี่บ่นยืดยาวก่อนจะยอมปล่อยน้องชายตัวดี นายทหารหนุ่มสังกัดกองพันทหารบกหนึ่งเดียวของบ้านลูบหูปรอย ๆ หวังจะให้ทุเลาความเจ็บปวดลงพร้อมกับถอยไปยืนด้านหลังพี่เขย
“ไม่ต้องทำตัวเป็นเต่าหดหัวเลยนายไม้ เล่ามา ไปรู้จักมักจี้กับเขาได้ยังไง?” พี่สาวถาม
“ผมกำลังตามจีบพี่สาวเขาอยู่ คนที่ดัง ๆ อะ” น้องชายตอบแล้วก็หลบด้านหลังราชนาวีด้วยกลัวพี่สาวจะฟาดงวงฟาดงาใส่อีก
“จีบชมพูพราว แต่มากอดจูบกับแพรวไพลิน ไอ้เด็กบ้าไม่รู้หรือไงว่าพี่น้องคู่นี้เขาไม่ถูกกัน คนน้องน่ะชอบแย่งงานแย่งของพี่สาว”
“นั่นสิ พี่ชมพูพราวต้องเสียใจแน่ ๆ ไม้จ๋านิสัยไม่ดี ตีเลยแม่รุ้ง ตีไม้จ๋าให้ก้นลายเลย” เด็กหญิงรัมภาวีร์เหมือนเป็นลูกคู่ที่พลอยโกรธไปกับคนเป็นแม่ด้วยจนฤทธิชัยหน้าซีด
“เฮียรัก ช่วยไม้ด้วย”
“รุ้งกับหนูเล็กน่ะไม่น่ากลัวหรอกไม้ คนที่น่ากลัวน่ะคือคนที่นายตามจีบอยู่โน่นต่างหากล่ะ ถ้าเขารู้เขาคงเกลียดนายมาก แล้วถ้าเขาหวั่นไหวกับนายล่ะก็ เขาคงจะเกลียดนายมากและไม่มีทางเข้าใกล้นายอีกแน่” ราชนาวีเอ่ยแล้วก็หันไปทางภรรยาและลูก “รุ้งกับหนูเล็กก็ใจเย็นลงหน่อยเถอะ”
“ฮึย ระวังแพรวไพลินไว้ดี ๆ ไม้ พี่ว่าผู้หญิงคนนั้นเข้ามาหาเราด้วยเจตนาไม่ดีถึงสองต่อ อย่าเล่นกับหล่อน และอย่าเล่นกับความรู้สึกผู้หญิงเพราะถ้าผู้หญิงเสียความรู้สึกไปแล้วมันไม่ได้เรียกคืนมาได้ง่าย ๆ ผู้หญิงบางจำพวกเจ็บแล้วจำ ความรู้สึกผู้หญิงที่ว่าพี่หมายถึงชมพูพราว” พี่สาวบอกก่อนจะหันไปบอกราชนาวี “เลือกหนังสือต่อไปแล้วกัน รุ้งกับหนูเล็กจะไปกินไอติม”
“โอเค เดี๋ยวพี่ตามไป” ชายหนุ่มตอบรับก่อนที่สองแม่ลูกจะออกจากร้านหนังสือไป
ราชนาวีมองตามก่อนจะหันมาเตือนน้องชายภรรยา “ใส่กระดุมให้เรียบร้อยไอ้น้อง”
“เดี๋ยวนี้มีพี่มีรุ้งแล้วเหรอ?”
“อย่ายุ่ง เขาจะเรียกกันว่าอะไรก็เรื่องของเขา เรื่องของผัวเมียเข้าใจไหม?” คนเป็นพี่เขยตอบกลับก่อนจะหันสายตาไปมองหาหนังสือ
“ไหนว่าพากันงอนหนีมาอยู่กับพี่ครีม แล้วนี่ดีกันแล้วเหรอ ก็ง้อเป็นเหมือนกันนี่เฮียของเรา”
“ไม่ได้ง้อเลย ฟลุคชัด ๆ”
“ฟลุค?”
“ก็ใช่สิ พี่ยังไม่ได้ง้อหนูเล็กเลย พอวันนี้เขารู้ว่าแม่เขาจะมีน้องเท่านั้นล่ะหายงอนเลย” ราชนาวีบอกพลางยิ้มอย่างเป็นสุข ไม่สนว่าอีกคนจะตกใจขนาดไหน
“เฮ้ย หมายความไม้จะมีหลานอีกคนเหรอ?”
“2คน หมอบอกเป็นแฝด” พี่เขยแก้
“เดี๋ยว ๆ พี่รุ้งท้อง อ้าว ผมก็นึกว่าเฮียโง่จำศีลไม่กินเนื้อตลอดชีพซะอีกเห็นหลายปีไม่มีวี่แววคนที่สองจะมา ไอ้เราเคยถามก็ตอบว่าไม่ได้แตะแม้ปลายก้อยจะท้องได้ไง ทำไมตอนนี้มาท้องได้ล่ะ”
“ก็เลิกโง่ เลิกจำศีล หันมากินเนื้อ ก็ต้องท้องได้สิครับน้อง เฮียไม่ได้เป็นหมันนี่หว่า”
“แสดงว่ามีวี่แววความสัมพันธ์ดีขึ้น?”
“ก็ดีขึ้น แต่อีกไม่นานมันจะดีที่สุด และสุขที่สุด” ราชนาวีตอบอย่างแน่วแน่ “ไม่ต้องยุ่งเรื่องเฮียหรอก เรื่องตัวเองเอาให้รอดเถอะ ระวังกระแสต่อต้าน”
“นี่ใคร ร้อยตรีฤทธิชัยนะครับ ไม่ใช่เรือตรีรณกฤต ไม้น่ะไม่กระจอกแบบไอ้เทียนสักหน่อย” ไอ้เทียนที่ว่าก็คือเรือตรีรณกฤตผู้เป็นคู่แฝดที่มีชื่อเล่นว่าสีเทียน ที่ตอนนี้กำลังเป็นข่าวรักสามเส้าอยู่กับคู่หมั้นของพระเอกดังอยู่จนถูกสังคมต่อต้าน
“ให้มันจริงไอ้น้อง ไปกินไอติมกับหลานไหม?”
“ไปก็ดีเฮีย นาน ๆ ทีจะได้เจอหลาน ได้ยินว่าพากันมาอยู่กรุงเทพก็ไม่ได้แวะไปหาเลย” นายทหารหนุ่มเอ่ยบอกก่อนจะยืนรอพี่เขยชำระค่าหนังสือแล้วก็พากันเดินไปที่ร้านไอศกรีมชื่อดังซึ่งมั่นใจว่าสองแม่ลูกจะต้องนั่งอยู่ที่นั่น
“อย่าแย่งหนูเล็กสิไม้จ๋า”
“ก็ของไม้จ๋ายังไม่มาเลย กินของหนูเล็กก่อนดีกว่าเนาะ”
“ไม่ให้” “ไม่ให้ก็จะเอา โบราณเขาว่าด้านได้อายอด เคยได้ยินไหม?”
เสียงของน้าหลานที่ตอบโต้กันกลายการผูกขาดบทสนทนาบนโต๊ะไปโดยปริยายรัมภาภัสร์และราชนาวีไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาเลย หญิงสาวเอาแต่ทานไม่สนใจอะไรแวดล้อมส่วนชายหนุ่มนั้นนั่งมองลูกสาวทีแม่ของลูกทีจนกระทั่งหนูน้อยอยากที่จะเข้าห้องน้ำคนเป็นแม่จึงต้องพาไป ที่โต๊ะจึงเหลือแต่สองพี่น้องคนละสายเลือดที่นั่งสนทนากัน
“เรื่องนั้นเป็นไงบ้าง เจออะไรเพิ่มเติมไหม?” ราชนาวีเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อนด้วยใบหน้าจริงจัง
“ก็พอได้เบาะแสบ้างครับ แต่ยังไม่มีคำสั่งลงมาจริงจังก็ทำอะไรไม่ได้” ฤทธิชัยตอบรับอย่างรู้กันว่าหมายถึงเรื่องอะไร เป็นเรื่องงานที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติซึ่งทั้ง4เหล่าทัพต้องร่วมมือกันและมันเป็นเรื่องที่พูดต่อหน้ารัมภาภัสร์และหนูน้อยรัมภาวีร์ไม่ได้
“ทางนี้ก็ยังไม่มีคำสั่งลงมา หน่วยข่าวกรองก็ส่งรันเวย์ลงพื้นที่หาข่าวอยู่”
“แล้วทางเฮียดิน เฮียเมฆ เฮียยุล่ะได้เรื่องอะไรหรือเปล่า?” นายทหารบกถามถึงเพื่อนสมัยอยู่โรงเรียนเตรียมทหารของพี่เขยที่เป็นเพื่อนสนิทกันมาจนถึงทุกวันนี้แต่แกล้งไม่ค่อยถูกกันเพื่อการปฏิบัติงาน เฮียดิน หรือพันตรีพงษ์ปฐพี ผู้พันหนุ่มจากกองพันทหารบก เฮียเมฆ หรือนาวาอากาศตรีม่านเมฆา ผู้ฝูงหนุ่มจากกองทัพอากาศ เฮียยุ หรือพันตำรวจตรีศตายุ สารวัตรหนุ่มจากกรมตำรวจปราบปราม
“ก็ไม่มีคำสั่งก็ยังทำอะไรมากไม่ได้ ก็เลยต้องนิ่งทำตัวเป็นพระอิฐพระปูน ไม่สะทกสะท้านต่ออะไรทั้งสิ้น”
“อืม งั้นก็คงต้องรอคำสั่ง ว่าแต่พี่ลางานได้กี่วันเนี่ย?”
“1อาทิตย์ หมดไปแล้ว3วัน เหลืออีก4วันก็ต้องกลับไปทำงาน” ชายหนุ่มบอกแล้วก็ถอนใจพรืด “หลังจากนี้คงต้องเทียวไปเทียวมาสัตหีบ-กรุงเทพสักพักใหญ่ ๆ เลยล่ะ เพราะสองแม่ลูกไม่กลับไปเร็ว ๆ นี้”
“แล้วเฮียวางแผนไว้ว่าไง?”
“ก็คงให้หนูเล็กเรียนที่นี่สักเทอมหรือสักปีล่ะมั้ง ส่วนรุ้งเฮียกะจะให้คลอดที่นี่ วันนี้ก็พาไปฝากครรภ์กับหมอที่นี่แล้ว” ชายหนุ่มบอกแล้วก็ต้องเงียบเมื่อสองแม่ลูกเดินกลับมาด้วยท่าทีไม่สบายใจ
“เป็นอะไรไปสองแม่ลูก?” ฤทธิชัยถามแล้วก็ต้องร้องโอ๊ยเพราะพี่สาวยื่นมือมาบิดหูเขาอีกรอบ
“ดูนี่สิ ข่าวใหญ่ข่าวดังไปแล้ว” พี่สาวบอกพร้อมกับยื่นโทรศัพท์ให้ ในจอสี่เหลี่ยมปรากฏคลิปความยาวกว่า3นาที ในคลิปเป็นฤทธิชัยที่กำลังกอดจูบอยู่กับแพรวไพลิน แล้วหนูน้อยรัมภาวีร์ก็เข้ามาบอกว่าชายหนุ่มคือพ่อ ข้อความกำกับภาพคือ นางร้ายสาวอักษรย่อ พ. นัวเนียหนุ่มหล่อในร้านหนังสือไม่แคร์ว่าหนุ่มหล่อจะมีลูกเมียแล้ว ซ้ำลือสนั่นหนุ่มหล่อตามจีบชมพูพราวอยู่
“หนูเล็กนั่นแหละผิด ไปบอกว่าไม้เป็นพ่อ” น้องชายบอก
“มันผิดตั้งแต่นายไปกอดจูบกับเขาแล้ว ไม่รู้เหรอแบบนี้น่ะหล่อนเจตนาให้เป็นข่าวเพื่อให้พี่สาวหล่อนหน้าเสีย แล้วดูคอมเม้นต์สิ บางคนเข้าใจว่าเป็นเทียนไปแล้ว เทียนนั่งเฉย ๆ ก็โดนคนด่าไป10คนแล้ว” รัมภาภัสร์บอกพร้อมกับชี้ให้อีกฝ่ายอ่านความคิดเห็นที่มีหลากหลายคนโยนไปใส่รณกฤตที่กำลังเป็นกระแสดราม่ามือที่สามคู่ของพระเอกดัง
“ไปแก้ข่าวเลยนะ สงสารเทียนจ๋า” เด็กหญิงรัมภาวีร์เอ่ยพร้อมกันท่าทีแสนงอน ทั้งที่ตัวเองก็ร่วมสร้างความผิดครั้งนี้ด้วย
“จะแก้ยังไงหนูเล็กไม้จ๋าไม่ใช่คนในวงการ”
“ก็หาทางเอาดิ หนูเล็กไม่ผิดนะ หนูเล็กแค่หมั่นไส้ยัยป้าหน้าขาวโบ๊ะเท่านั้นเอง”
“ตอนนี้พ่อรักว่าเรากลับกันดีกว่านะครับหนูเล็ก คนมองเราใหญ่แล้ว” ราชนาวีเตือนเมื่อเห็นว่ามีหลายสายตามองมาที่โต๊ะของตนและซุบซิบกัน “เรื่องนี้ไม่ใช่เล็ก ๆ นายโทรคุยกับเทียนแล้วนัดไปเจอกันที่คอนโดครีมก็แล้วกัน หลายคนช่วยกันคิดมันอาจจะดีกว่า”
“ครับเดี๋ยวผมตามไป ขอโทรหาไอ้เทียนแป๊บ” ฤทธิชัยรับคำก่อนที่จะลุกขึ้นเลี่ยงไปอีกทางพร้อมกับโทรศัพท์หาคู่แฝด ทางด้านราชนาวีนั้นพาสองแม่ลูกกลับคอนโดทันที เพราะรณกฤตกำลังอยู่ในช่วงปฏิบัติภารกิจลับคุ้มกันพยานสาวในคดีใหญ่ระดับชาติจึงแฝงตัวเป็นบอดี้การ์ดของหญิงสาวซึ่งก็คือคู่หมั้นสาวของพระเอกดังนั่นเอง ฐานะที่แท้จริงของรณกฤตจึงให้ใครรู้ไม่ได้ในตอนนี้ข่าวที่โยงไปถึงอีกฝ่ายในวันนี้จึงไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ
การประชุมปรึกษากันจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุดในตอนนี้ใบหน้าของราชนาวีจึงเคร่งขรึมไปผิดจากก่อนหน้านี้ แม้รัมภาภัสร์และเด็กหญิงรัมภาวีร์จะไม่เข้าใจแต่ก็ไม่ได้สอบถามอะไรได้แต่เงียบมาตลอดทางกลับบ้าน
