บทย่อ
จากที่ต้องมาเป็นไม้กันหมาให้กับเจ้านายอย่างธีรวัฒน์ อิงดาวกลับเป็นฝ่ายตกหลุมรักเขาซะเอง หล่อนจะทำยังไงกับความรู้สึกของตัวเองในตอนนี้ คนที่ทั้งหล่อทั้งรวยอย่างเขา มีผู้หญิงสวยๆเข้าหาไม่เว้นแต่ละวัน โอกาสที่เขาจะหันมามองคนที่ทั้งเฉิ่มทั้งเชยอย่างหล่อนแทบไม่มีเลย
ตอนที่ 2 หางานทำ
สามเดือนแล้วที่อิงดาวตกงาน ถ้าภายในเดือนนี้หล่อนยังไม่ได้งานต้องแย่แน่ ๆเลย พ่อและน้องสาวของหล่อนคงต้องพูดให้หล่อนเป็นแน่
อิงดาวพึ่งจะเข้าใจคำว่า "งานมันหายาก" ก็วันนี้เอง หล่อนเดินสมัครงานมาตั้งหลายบริษัทแล้ว แต่ก็โดนปฏิเสธตลอด ไม่รู้ว่าเป็นเพราะโชคชะตาหรือว่าฟ้ากลั่นแกล้งกันแน่ น้องสาวของหล่อนพึ่งจะเรียนจบมาแท้ ๆ สมัครงานที่แรกก็ได้งานเลย แถมยังมีอีกตั้งหลายบริษัทที่เรียกน้องสาวหล่อนไปสัมภาษณ์
อิงดาวอยากจะตะโกนดังๆ ให้กับความซวยของตัวเองจริงๆ เลย ถ้าไม่เป็นเพราะไอ้ผู้จัดการบ้ากามนั่น หล่อนคงไม่ต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้ คอยดูนะถ้าฉันเจอแกอีก ฉันสัญญากับตัวเองเลยต้องแก้แค้นแกให้ได้
“ไอ้หื่นเฮ้ย!” อิงดาวพูดคนเดียว เมื่อนึกถึงใบหน้าของผู้จัดการ หล่อนก็ยิ่งทวีความโกรธขึ้นไปอีก
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก!”
“ดาวออกมาทานข้าวเถอะลูก นี่มันจะเที่ยงแล้วนะลูก” เสียง
แม่ของหล่อนเรียกอยู่หน้าประตูห้อง
“ค่ะแม่ ดาวบอกแล้วไงคะ แม่ไม่ต้องเป็นห่วงดาวหรอก ถ้าดาวหิวดาวจะออกมาทานเอง” หล่อนพูดพลางเดินตามหลังมารดาลงไปข้างล่าง
“อย่าไปเครียดกับมันนักเลยดาว งานน่ะค่อยๆหาไปเดี๋ยวก็ได้เองแหละลูก”
“แต่นี่มันสามเดือนแล้วนะคะแม่ จะไม่ให้ดาวกลุ้มใจได้ยังไงคะ ยายเดือนสมัครงานไม่ถึงเดือนก็ได้งานแล้วทั้งๆ ที่เดือนไม่มีประสบการณ์การทำงานด้วยซ้ำ”
“แม่ว่าเราออกไปเปิดหูเปิดตาข้างนอกหน่อยดีมั้ย แม่เห็นเราขลุกอยู่แต่ในห้อง พอเราสบายใจขึ้นเดี๋ยวอะไรดีๆ มันก็เกิดขึ้นเองแหละ ไปเที่ยวนอกบ้านให้สมองปลอดโปร่ง ดาวจะได้มีกำลังใจในการหางานต่อไงลูก”
“เอาแบบนั้นก็ได้ค่ะแม่ เดี๋ยวทานข้าวเสร็จดาวออกไปดูหนังดีกว่าค่ะ งั้นดาวรีบทานก่อนนะคะจะได้รีบไป”
"ณ ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง"
อิงดาวอารมณ์เสียออกมาจากโรงหนัง หล่อนดูหนังแทบไม่รู้เรื่อง ก็คู่รักชายหญิงที่นั่งอยู่เบาะข้างหน้าหล่อนจู๋จี๋กันตลอดเวลาหล่อนแทบจะได้ดูหนังสดอยู่แล้ว สองคนนี้เสียมารยาทจริงๆ เลย ถ้าอยากจู๋จี๋กันทำไมไม่ไปโรงแรม มาที่โรงหนังทำไมหล่อนคิด ก่อนจะรีบเดินออกมาจากตรงนั้น
อิงดาวไปที่ร้านหนังสือ ไหน ๆ หล่อนก็ว่างงานแล้ว ไปหาหนังสือนิยายสักเล่มสองเล่มกลับไปอ่านดีกว่า ก้มหน้าก้มตาหางานอย่างเดียว จนจะเครียดตายอยู่แล้ว หลังจากหาหนังสือที่อยากได้ครบแล้วหล่อนก็รีบไปจ่ายตังค์ทันที
อิงดาวมองดูนาฬิกาข้อมือ นี่หล่อนอยู่ที่ร้านหนังสือเป็นชั่วโมงเลยเหรอ หล่อนคงต้องรีบกลับบ้าน เพราะว่าออกมาข้างนอกนานเกินไป ยังไงเสียหล่อนก็ต้องรีบกลับไปหางานอยู่ดี หล่อนหยิบถุงหนังสือแล้วรีบเดินออกมาจากร้านทันที
“โครม !!!”
“ว๊ายยย!!” อิงดาวกรี๊ด ก่อนที่หล่อนจะล้มลงก้นกระแทกพื้นอย่างจัง หนังสือกระจัดกระจายเต็มพื้น หล่อนพยายามเอามือควานหาแว่นสายตา ไม่รู้ว่ามันหล่นไปที่ไหน
“นี่หล่อน! เดินไม่ดูตาม้าตาเรือเลยนะ จะรีบไปไหนไม่ทราบยะ” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งแว้ดๆ ใส่หล่อน
“ต้องขอโทษด้วยนะคะ ฉันไม่ทันระวัง คุณเจ็บตรงไหนหรือเปล่าคะ” อิงดาวพูดพลางมือก็ควานหาแว่นสายตา
“เจ็บสิยะ! ถามออกมาได้ว่าเจ็บมั้ย ไม่สวยแล้วยังซุ่มซ่ามอีกนะ”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมก็ต้องขอโทษคุณเช่นกัน...แล้วคุณเจ็บตรงไหนมั้ยครับ”
“ฉันไม่เป็นไรค่ะ” อิงดาวตอบออกไปทั้ง ๆ ที่ตอนนี้หล่อนเจ็บก้นจนแทบจะลุกไม่ขึ้นอยู่แล้ว
“ถ้าคุณไม่เป็นอะไรก็ดีครับ นี่ครับหนังสือและก็แว่นของคุณ” ธีรวัฒน์พูดพลางยื่นถุงหนังสือและก็แว่นสายตาให้หล่อน
“วัฒน์ทำไมต้องขอโทษยายเฉิ่มนี่ด้วยคะ” จีน่าพูดพร้อมทั้งทำท่ากระเง้ากระงอด หล่อนคงจะคิดว่าหล่อนน่ารักมากกระมัง
“ไม่เป็นไรหรอกน่าจีน่า คุณก็ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย”
“ถ้าคุณไม่เป็นอะไร ผมขอตัวก่อนนะครับ” เขาพูดพลางเดินหันหลังไปจากตรงนั้น
อิงดาวพึ่งนึกขึ้นได้ว่ายังไม่เห็นหน้าคนที่หล่อนเดินชนเลยหล่อนจึงรีบหยิบแว่นสายตาขึ้นมาใส่ แต่ว่าผู้ชายและผู้หญิงคนนั้นเดินไปไกลแล้ว แต่ดูจากข้างหลังเหมือนเคยเห็นที่ไหนนะ หล่อนคิดในใจ ก่อนจะรีบออกไปเรียกแท็กซี่
อิงดาวเดินมาขึ้นแท็กซี่กลับบ้าน หล่อนคิดวนไปวนมาว่าเคยเจอสองคนนั้นที่ไหนนะ ทำไมถึงคุ้นจัง เหมือนเคยเห็นที่ไหน
ในที่สุดหล่อนก็คิดออก สองคนนี้นี่เองที่ทำ ให้หล่อนดูหนังไม่รู้เรื่อง บ้าชะมัดเลย ถ้ารู้ว่ายายผู้หญิงคนนั้นเป็นคนเดียวกันกับที่อยู่ในโรงหนังแม่จะด่าให้ลืมทางกลับบ้านเลย
พอกลับมาถึงบ้าน อิงดาวรีบเข้าไปในห้องนอน แล้วรีบเปิดโน้ตบุ๊กทันที กะว่าจะกรอกใบสมัครงานสักหน่อย พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นถุงหนังสือนิยาย ความขี้เกียจก็เข้าครอบงำหล่อนทันทีอ่านหนังสือนิยายก่อนดีกว่า ใบสมัครงานเอาไว้อ่านนิยายเสร็จแล้วค่อยมากรอกก็ได้ รีบกรอกไปก็ใช่ว่าจะได้งานวันนี้นี่นา หล่อนคิดเข้าข้างตัวเอง
แน่นอน! ตอนนี้อิงดาวกำลังเพลินกับการอ่านหนังสือนิยายมาก หล่อนอ่านเพลินจนกระทั่งไม่กินข้าวเย็นเลยทีเดียว พอรู้ตัวอีกที
“ตีสาม! บ้าไปแล้ว นี่ฉันอ่านหนังสือนิยายตั้งแต่หกโมงเย็นจนถึงตีสามเลยเหรอนี่ ใบสมัครงานก็ยังไม่ได้กรอกเลย มารู้สึกผิดตอนนี้ก็สายเกินไป งั้นนอนก่อนดีกว่า พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่” ว่าแล้วหล่อนล้มตัวลงนอนทันที
เรายังไม่ได้อาบน้ำเลยนี่นา นอนทั้งแบบนั้นเลยดีกว่า พรุ่งนี้ค่อยอาบละกัน ไม่เป็นไรหรอกอีกไม่กี่ชั่วโมงก็เช้าแล้ว เมื่อคิดได้แบบนั้นอิงดาวก็หลับปุ๋ยไปทันที

