บทที่ 7 ระบายอารมณ์ Nc
“โธ่เว้ย! ทำไมไม่รับสายวะ” ทางด้านคิลเลียนเขาพยายามกระหน่ำโทรหาพิมพ์ดาวหลายสายแต่ไร้การตอบกลับจากคนตัวเล็กทำเอาหงุดหงิดเป็นอย่างมาก ก่อนจะสบถด้วยคำหยาบคายอย่างหัวเสีย
“พี่คิลเลียนขา อาหารเสร็จแล้วค่ะ” เสียงของนิรินทำให้ผละจากหน้าจอโทรศัพท์แล้วก้าวเดินไปหาเจ้าของห้อง
“อาหารน่าทานจัง” ปรายตามองอาหารเต็มโต๊ะแต่เขาไม่รู้สึกอยากกินสักนิดเดียวเพราะมัวแต่พะวงถึงพิมพ์ดาว
“ของโปรดพี่คิลเลียนทั้งนั้นเลย นั่งสิคะ” เธอลากเก้าอี้ให้ชายหนุ่มนั่ง
“ไม่กินด้วยกันเหรอ” ช้อนตามองนิรินซึ่งยังคงยืนนิ่งข้างหลังตัวเอง ไม่มีท่าทีจะนั่งทำเอาอดสงสัยไม่ได้
“กินค่ะ” พูดพร้อมหย่อนก้นนั่งลง แต่นิรินไม่ได้ตักอาหารกินทันใดยังคงจับจ้องมองคิลเลียนอย่างรอลุ้น
หลังจากชายหนุ่มรับประทานอาหารคำแรก นิรินเผยยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ที่ไปเป็นตามความคาดหวัง
“อร่อยไหมคะ”
“อืม”
“ทานเยอะ ๆ เลยนะคะ” พูดพร้อมตักอาหารใส่จานของเขา
“ไม่กินเหรอ” เหลือบมองคนข้างกายเอาแต่ตักอาหารให้ตัวเอง
“นิรินไม่ค่อยหิวค่ะ แค่เห็นพี่คิลเลียนกินก็อิ่มแล้ว”
“อืม” ชายหนุ่มไม่ได้เซ้าซี้มากนักยังคงนั่งรับประทานอาหารต่อเรื่อย ๆ กระทั่งผ่านไปสักพักเริ่มรู้สึกร้อนรุ่มทั่วกายแกร่ง ก่อนจะมองอาหารตรงหน้าและเหลือบมองนิริน
เขาเพิ่งตระหนักได้เดี๋ยวนี้เองในอาหารมีบางอย่างผิดปกติ ถึงกระนั้นไม่ได้แสดงอาการใด ๆ ให้นิรินเห็น พยายามอดกลั้นต่อความรู้สึกขณะนี้
“พี่คิลเลียนเป็นอะไรคะ เหงื่อออกเยอะเลย”
“ขอตัวกลับก่อนละกัน” เขาทนต่อไม่ไหวแล้วจึงเด้งตัวลุกขึ้นพรวดและก้าวเท้าเดินไปอย่างไว
“อย่าเพิ่งไปสิคะ” นิรินวิ่งไปสวมกอดคิลเลียนจากด้านหลัง มือไม้ลูบไล้ตามแผงอก ส่งผลให้ชายหนุ่มครางต่ำในลำคอ
“จะกลับจริงเหรอคะ” เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงยั่วยวน นิรินยังคงไม่หยุดลูบคิลเลียน
“ขอตัวก่อนละกัน” แกะแขนเธอออกจากเอวสอบและก้าวจากไป ขืนยังปล่อยให้นิรินรั้งอยู่อย่างนั้นมีหวังความอดทนคงได้หมดกันพอดีจนอาจทำในสิ่งที่ไม่คาดคิด เขาไม่ปรารถนาให้เป็นอย่างนั้น
“พี่คิลเลียนอย่าเพิ่งไป” นิรินตะโกนไล่หลังชายหนุ่มแต่อีกคนกลับไม่สนใจ
คิลเลียนออกจากคอนโดของนิรินอย่างไว แล้วตรงไปยังรถคันหรูก่อนขึ้นและขับไปทันทีด้วยความเร็วเกินมาตรฐานกำหนด
ระหว่างมุ่งหน้าไปยังคอนโดของตัวเองเพื่อไปหาพิมพ์ดาว เขาต้องพยายามข่มความรู้สึกมากมายขณะขับรถเพื่อไม่ให้ระเบิดออกมาเสียก่อนซึ่งทรมานเหลือเกิน
“โธ่เว้ย!” เขาหัวเสียเป็นอย่างมาก คาดไม่ถึงนิรินจะเล่นกันแบบนี้ คิดแล้วก็อดโมโหไม่ได้
เวลานี้รถไม่ค่อยติดทำให้ชายหนุ่มถึงคอนโดเร็วกว่าปกติ เขารีบเข้าไปหาคนตัวเล็กในห้องนอนแต่เมื่อกดสวิตช์ไฟพบว่าเธอนอนแล้ว
คิลเลียนไม่อยากรังแกเธอ เลยจำใจเลี่ยงเข้าไปในห้องน้ำเพื่อดับความร้อนรุ่มในกายขณะนี้
เสียงดังในห้องน้ำราวกับมีใครบางคนอยู่ในนั้น ปลุกคนตัวเล็กตื่นจากการนอนหลับ ดวงตากลมโตปรือตาขึ้นทีละนิดเนื่องจากแสงแยงตา
“คิลเลียนกลับมาเหรอ” เหลือบมองประตูห้องน้ำก่อนพลิกกายไปอีกด้าน
แอ๊ด!
เสียงประตูดังขึ้น พิมพ์ดาวเอี้ยวคอไปมองเห็นเขานุ่งผ้าขนหนูผืนเดียวพันรอบเอวสอบ เส้นผมเปียกชุ่ม ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขาเพิ่งอาบน้ำเสร็จหมาด ๆ
“ฉันทำให้เธอตื่นเหรอ”
“เปล่า” พิมพ์ดาวลุกขึ้นนั่งพิงหลังกับหัวเตียงพลางขยี้ตา
“นอนต่อสิ”
หญิงสาวไม่โต้ตอบ เธอเหลือบมองเขาซึ่งเห็นสีหน้า ท่าทางอีกฝ่ายไม่ค่อยสบอารมณ์ จากนั้นก้าวเท้าลงจากเตียงหมายจะเดินไปยังประตูก่อนหยุดชะงักกับเสียงทุ้ม
“ไปไหน”
“ข้างนอก”
“ไปทำไม”
“ฉันจะไปนอนที่โซฟา นายดูไม่ค่อยมีอารมณ์เลยคิดว่าน่าจะอยากนอนคนเดียวมากกว่า” จบคำพูดคนตัวเล็กก้าวเดินต่อ
คิลเลียนไม่ยอมให้คนตัวเล็กทำตามความปรารถนา ชายหนุ่มโอบกอดคนตัวเล็กจากด้านหลัง จากนั้นช้อนร่างเล็กในท่าเจ้าสาวพาไปจับกดลงกับที่นอน
“คิลเลียน!” มองเขาด้วยสายตาโกรธเคือง
“อย่าคิดอะไรแทนฉัน” เขาอุตส่าห์หักห้ามใจไม่อยากรังแกคนตัวเล็กในคืนนี้ แต่เธอดื้อเหลือเกิน
ขณะอาบน้ำเขาใช้แม่นางทั้งห้าช่วยตัวเอง ทว่าไม่สามารถดับความร้อนรุ่มในกาย ยิ่งมาเจอเธอทำท่าทางเมินเฉยต่อกัน อารมณ์พลุ่งพล่านมากขึ้นจนไม่สามารถยับยั้งได้อีกต่อไปอยากปลดปล่อยกับเธอตอนนี้
“ปล่อยนะคิลเลียน” คนตัวเล็กพยายามดิ้น
ชายหนุ่มไม่สนใจต่อคำพูดของเธอ เขาโน้มหน้าหล่อเหลาซุกไซ้ซอกคอระหง ดูดเลียตามลำคอขาวเนียนให้สาสมกับความอดอยากมาหลายวัน กลิ่นกายเฉพาะจากตัวเธอบวกกับยาปลุกเซ็กซ์ที่ได้รับทำให้เขาเผลอรุนแรงกับคนตัวเล็ก
ทั่วลำคอระหงเต็มด้วยรอยแดงมากมายจากฝีมือคนเอาแต่ใจ
“อื้อ อ๊ะ รุนแรงไปแล้วนะคิลเลียน”
“ฉันทำให้เธอเจ็บเหรอ” ผงกศีรษะมองหน้าหวานพลางเอ่ยถามด้วยความห่วงใย
“ใช่สิ” ตอบอย่างแง่งอน
“ขอโทษนะ แต่ฉันคิดถึงเธอมาก” จุมพิตหน้าผากเกลี้ยงเกลาด้วยความอ่อนโยน
“เราไม่ได้รู้จักกันสักหน่อย นายจะคิดถึงฉันทำไม” เบือนหน้าหลบสายตาคู่คมจ้องมองอย่างอ่อนโยน
“โกรธเหรอ ฉันพูดแบบนั้นหรือว่าหึงเห็นฉันอยู่กับผู้หญิงคนอื่น” คิลเลียนขบเม้มติ่งหูของคนตัวเล็กแผ่วแต่กลับสร้างความซาบซ่านแก่คนใต้ร่าง
“อ๊ะ คิลเลียน”
“คนอื่นอย่าไปสนใจเลย ตอนนี้สนแค่เรื่องของเราพอ” ฝ่ามือใหญ่ประคองหน้าจิ้มลิ้มพร้อมประสานสายตา เขาพรมจูบทั่วหน้างดงาม กระทั่งหยุดยังกลีบปากอวบอิ่มก่อนลูบไล้ดั่งคนคลั่งไคล้
“ปากเธอเนี่ยไม่ว่าจูบกี่ครั้งไม่เคยเบื่อเลย แถมหวานทุกครั้งที่ได้สัมผัส” ส่งสายตาหวานเยิ้มไปยังคนใต้ร่าง พิมพ์ดาวเขินอายจนหันหน้าหนี
“ขอชิมหน่อยนะ” ถามไปอย่างนั้นแหละ ไม่ได้ต้องการให้เธอตอบอนุญาตสักหน่อย เพราะอะไรที่เขาต้องการก็ต้องได้เสมอ
คิลเลียนจับหน้าจิ้มลิ้มมารับจูบจากเขา ริมฝีปากหยักทาบบนปากนุ่ม ขบเม้มปากบนและปากล่างแล้วสอดลิ้นเข้าในโพรงปากสาว
จูบที่เขามอบให้คนตัวเล็กเต็มด้วยความคะนึงหา หลายวันที่ผ่านมาไม่ได้เจอหน้ากันเต็มด้วยความรู้สึกมากมายยากจะอธิบาย
“อื้อ” เสียงร้องครวญครางของคนทั้งสองดังประสานกัน
ทั้งคู่ยังคงแลกจูบกันอย่างนัวเนียกระทั่งคิลเลียนจำใจถอนจูบออก เนื่องจากกลัวพิมพ์ดาวขาดอากาศหายใจเสียก่อน
“ฉันคิดถึงเธอ เธอล่ะคิดถึงฉันบ้างไหม” เอ่ยถามด้วยเสียงเซ็กซี่พร้อมกับนิ้วแกร่งลูบไล้ข้างพวงแก้มขาวใส นัยน์ตาคมกริบจ้องคนตัวเล็กอย่างรอคอยคำตอบ
“ไม่รู้” พิมพ์ดาวหลุบตาต่ำ เธอไม่อยากเผยความรู้สึกในใจให้ล่วงรู้
“งั้นให้ร่างกายเป็นเครื่องพิสูจน์ละกัน” ไม่พูดเปล่า คิลเลียนกระตุกผ้าขนหนูออกจากเอวสอบแล้วโยนทิ้งแบบไม่ไยดี
พิมพ์ดาวมองการกระทำของคนตัวโตถึงขั้นหน้าแดงระเรื่อ เมื่อเห็นท่อนลำผงาดชี้โด่งพร้อมกระแทก ก่อนหันหน้าหนีด้วยความไวเนื่องจากใจสาวกำลังเต้นตึกตักแทบปะทุออกนอกอก
“มองฉันสิพิมพ์ดาว” คิลเลียนเห็นคนตัวเล็กกำลังเขิน เลยอยากแกล้งสักหน่อยจึงสอดมือเข้าใต้ท้ายทอยเธอและยกขึ้นเล็กน้อยเพื่อต้องการให้มองสิ่งนั้นของเขา
“คิลเลียน!!” เธอเหลือบมองแก่นลำก่อนจ้องเขม็งหน้าหล่อ
“พิมพ์ดาวฉันต้องการเธอ”
แควก!
ความอดทนของชายหนุ่มเริ่มถดถอยลง คิลเลียนไม่รอช้าฉีกชุดนอนกระโปรงสีขาวขาดเป็นสองชิ้น แล้วกระชากบราเซียร์ออกไปให้พ้นดอกบัวตูมก่อนงับยอดสีถันหวาน
“อื้อ” นัยน์ตาคู่งามหลับพริ้มด้วยความเสียวซ่าน ขณะเดียวกันฝ่ามือใหญ่ล้วงเข้าในแพนตี้น้อยและแหวกเข้าไปทักทายโพรงอ่อนนุ่ม
“อื้อ เสียวเหลือเกิน…คิลเลียน” พิมพ์ดาวร้องครางแทบไม่เป็นภาษา มือเรียวจิกเล็บลงบนท่อนแขนกำยำแน่นพร้อมกับแอ่นอกสวยให้เขาเชยชิมอย่างสะดวก
