คลั่งรักเด็กซื่อ

142.0K · จบแล้ว
นักเขียนติดเรท
51
บท
78.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เขาที่เป็นถึงท่านประธานบริษัทได้เสนอแกมยัดเยียดงานพิเศษสุดสวาทให้... เธอที่เป็นเพียงพนักงานตัวน้อยๆ จึงทำได้เพียงแค่จำใจยอมรับไปกับความวาบหวามที่ไม่อาจปฏิเสธ! ______________________________________________ ตัวอย่างความแซ่บ “อึก! คุณแดน...” “คายออกมา...เด็กดีคายออกมาเร็วเข้า” แดเนียลเอ่ยเร่งเพราะกลัวว่าเธอจะสำลักจนหายใจไม่ออก “อึก...ฝัน...ฝันกลืนลงไปแล้วค่ะ” ฝันหวานเงยหน้าสบตากับเขาอย่างรู้สึกผิด ใบหน้าหวานเหยเกเล็กน้อยเพราะว่ารสชาติมันแปลกๆ เธอไม่รู้นี่นาว่าห้ามกลืน... “อ่าส์...ให้ตายสิ เธอมันน่าฟัดชะมัด!” _________________________________________________ คำเตือน! เรื่องนี้พระเอกคลั่งรักและหื่นหนักมาก (ก.ไก่ล้านตัว)

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักประธานรักหวานๆคนรับใช้มาเฟียเศรษฐีโรงแรม/มหาลัยโรแมนติกฟินๆ

EP1 : ถูกใจตั้งแต่แรกเจอ

1

ถูกใจตั้งแต่แรกเจอ

เสียงเฮฮาปาร์ตี้ของพวกหนุ่มสาวในร้านอาหารริมทะเลแห่งหนึ่งดังขึ้นเป็นระยะ พวกเขามาเลี้ยงฉลองกันอีกครั้งหลังจากรับปริญญาไปได้ไม่นาน คืนนี้จึงนัดกันออกมากินเลี้ยงเสียหน่อยหลังจากผ่านการเรียนหนักมาตลอดช่วงสี่ป

“ยัยฝันนน!...ดื่มให้หมดแก้วเลยนะยะ ห้ามตุกติกอีกเด็ดขาด!”

เสียงอ้อแอ้ของเพื่อนสาวเอ่ยดักคอ ‘ฝันหวาน’ ที่นั่งมองแก้วเหล้าตรงหน้าด้วยสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะตั้งแต่เกิดมาจนป่านนี้อายุยี่สิบสองปีเต็มก็ไม่เคยแตะเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เลยสักครั้งเดียว

บ่อยครั้งที่เพื่อนสนิทในกลุ่มอย่างเจนนี่ แล้วก็วิเวียนเอ่ยชวนแกมบังคับให้ไปผับด้วยกัน แต่เธอก็หาข้ออ้างปฏิเสธได้ทุกครั้งไป

“แต่ฉันว่า...”

“โอ้ยยยย! ยัยฝัน! เหล้าปั่นแก้วเดียวมันไม่ทำให้แกเมาได้หรอกน่า เรียนจบทั้งทีแกก็หัดลองอะไรใหม่ๆ บ้างเหอะ”

‘วิเวียน’ สาวผมยาวหน้าตาจิ้มลิ้มเพื่อนสนิทในกลุ่มอีกคนเอ่ยสมทบ พร้อมกับยื่นแก้วเหล้าปั่นสีสันสดใสไปให้เพื่อนรักที่คบกันมาตั้งแต่สมัยมัธยมต้น จนตอนนี้จบปริญญาตรีแล้ว

“รีบๆ เลยยัยฝันนน อย่าให้พวกฉันต้องจับกรอกปากกกก”

‘เจนนี่’ ชี้นิ้วสั่งเพื่อน แต่เป็นเพราะว่าเมาหนักไปหน่อยนิ้วเลยชี้ไปที่วิเวียนแทนที่จะเป็นฝันหวาน

“ชี้นิ้วให้มันถูกคนก่อนเถอะเจน...เมาขนาดนี้จะมีปัญญาอะไรไปจับเพื่อนกรอกเหล้า”

‘แทนไท’ แฟนหนุ่มของเจนนี่พูดอย่างเหนื่อยใจ ดึงร่างโซเซไปมาของเธอมานั่งบนตักของเขา ซึ่งเจนนี่ก็ขัดขืนเล็กน้อยก่อนจะอ้วกออกมาใส่เสื้อเขาในเวลาต่อมาเพราะว่าดื่มหนักตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ แทนไทจึงขอตัวกลับก่อนเพราะตอนนี้มันดึกมากแล้ว

“พี่พาเจนนี่กลับก่อนนะ”

“พามันไปเลยค่ะพี่แทน เมาหนักขนาดนี้” วิเวียนพยักหน้าให้พี่แทนพายัยเพื่อนบ้ากลับไป เขาจึงอุ้มร่างอวบอิ่มของเธอออกไปจากร้านอาหาร ส่วนวิเวียนก็กลับมาสนใจฝันหวานที่กำลังทำท่าจะลุกออกจากโต๊ะ

“แกจะไปไหน...ไม่ต้องมาเนียนเลย ไม่มียัยเจนฉันก็ต้องบังคับให้แกดื่มแก้วนี้ให้ได้”

“เออใช่...ฉันยังไม่เคยเห็นยัยฝันแตะเหล้าเลยสักครั้ง”

เพื่อนอีกคนในคณะที่นั่งโต๊ะใกล้ๆ กันพูดขึ้น แล้วคนอื่นๆ ก็มองมาที่โต๊ะของฝันหวานอย่างสนอกสนใจ

“แต่พรุ่งนี้ฉันต้องตื่นไปทำงานแต่เช้านะ...”

ใบหน้าหวานจิ้มลิ้มราวกับตุ๊กตาของฝันหวานมองแก้วเหล้าปั่นที่อยู่ตรงหน้าพักหนึ่ง

สุดท้ายก็ตัดสินใจเลื่อนกลับไปวางคืนไว้ตรงหน้าวิเวียน เพราะหลังจากที่ไปสัมภาษณ์งานในบริษัทใหญ่ยักษ์แห่งหนึ่งเมื่อสัปดาห์ก่อน เธอก็ได้รับอีเมลตอบกลับให้เริ่มทำงานในวันพรุ่งนี้แล้ว ซึ่งแน่นอนว่าเธอต้องรีบตื่นแต่เช้า เพราะนี่ถือเป็นการเริ่มงานครั้งแรกของเธอนั่นเอง...

“แค่แก้วเดียวน่า...ลองดูหน่อย มันไม่ได้รสชาติแย่อย่างที่แกคิดหรอก คิดซะว่าฉลองที่แกได้งานทันทีหลังจากที่เรียนจบไง” วิเวียนเกลี้ยกล่อมฝันหวานอีกรอบ

เธอพยายามมาตั้งหลายปีแล้วแต่ก็ไม่เคยสำเร็จเลยสักครั้ง มึนจึงกลายเป็นเหมือนภารกิจเล็กๆ อย่างหนึ่งที่เธอฝังใจอย่างมาก ว่าจะทำให้สาวผมสั้นน่ารักสุดแสนเรียบร้อยอย่างฝันหวานดื่มแอลกอฮอล์ให้ได้

“เฮ้อออ...”

“อย่าทำเหมือนฉันบังคับให้แกแก้ผ้าได้ป้ะ เหล้าแก้วเดียวเองน่า” วิเวียนถือแก้วเหล้าปั่นไปตรงหน้าฝันหวานอีกครั้ง ตอนนี้เรียนจบแล้ว ต่างคนก็ต้องแยกย้ายไปหาที่ทำงานกัน จะนัดเจอกันอีกครั้งก็คงยากกว่าเดิมแน่ๆ

รอบนี้เธอต้องทำให้ภารกิจตลอดสี่ปีที่ชวนเพื่อนสาวดื่มเหล้าสำเร็จให้ได้!

“อือๆ...แค่แก้วเดียวนะ”

มือเล็กนุ่มนิ่มของฝันหวานรับแก้วจากเพื่อนมาอย่างไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่

“หมดแก้ว! หมดแก้ว!”

เพื่อนๆ ที่นั่งโต๊ะรอบข้างก็ปรบมือเชียร์อย่างสุดฤทธิ์สุดเดช

คืนนี้ถ้าได้เห็นดาวคณะอย่างฝันหวานดื่มเหล้า พวกเขาคงนอนตายตาหลับได้แล้วล่ะ

“อึก...อึก...” ฝันหวานหลับตากลั้นหายใจแล้วกระดกแก้วทีเดียวจนหมด

ถึงมันจะเป็นแค่แก้วเล็กๆ ที่มีเหล้าปั่นอยู่แค่ครึ่งเดียว แต่เธอก็ไม่ชอบอยู่ดี...

“ฮิ้ววววว...กูว่าคืนนี้หิมะตกแน่เลยว่ะ”

“ฮ่าๆๆๆ”

เสียงเพื่อนๆ รอบโต๊ะหัวเราะอย่างถูกอกถูกใจ เอ่ยแซวดาวคณะคนสวยเพราะในที่สุดก็ดื่มเหล้ากับเขาเสียที

“อึ๋ยยย...ไม่เห็นอร่อยเลย” รสชาติมันไม่ถูกปากเธอเลยสักนิดเดียว

ใบหน้าน่ารักจิ้มลิ้มที่แทบไม่มีเครื่องสำอางแต่งแต้มดูน่ารักขึ้นเท่าตัว เมื่อทำท่าไหล่สั่นหลับตาปี๋ ผู้ชายในคณะที่แอบชอบเธอก็ได้แต่ทำตาละห้อยอย่างหลงใหล แต่ก็ไม่กล้าคว้าดาวคณะเกินเอื้อมมาเป็นแฟน

“มีแกคนเดียวนี่แหละที่บอกว่าไม่อร่อย...ขนาดเหล้าปั่นยังดื่มไม่ได้ คราวนี้ไม่ต้องนึกถึงเหล้าเพียวๆ เลย”

วิเวียนส่ายหน้าอย่างจนใจ แต่อย่างน้อยเธอก็ทำภารกิจอันยิ่งใหญ่ตลอดสี่ปีสำเร็จในที่สุด

“ก็มันไม่อร่อยจริงๆ นี่นา...”

ถ้าให้เปลี่ยนจากเหล้าเป็นโค้กก็ว่าไปอย่าง...

“เออๆ แล้วแต่แกแล้วกัน”

“แล้วนี่พี่ชายแกจะมารับเมื่อไหร่อะ ฉันว่ามันดึกมากแล้วนะ พรุ่งนี้ก็ต้องไปทำทำงานอีก”

พวกเธอมาเลี้ยงฉลองแล้วก็ดื่มกันจึงไม่สามารถขับรถกลับเองได้ วิเวียนจึงโทรบอกพี่ชายให้มารับที่นี่ และอาสาไปส่งฝันหวานด้วยเลยเพราะพวกเธอกลับทางเดียวกัน

“อีกหน่อยก็น่าจะถึงแล้วล่ะมั้ง พี่ฉันเพิ่งตอบไลน์ว่าขับออกมาตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงที่แล้ว เดี๋ยวฉันโทรจิกอีกรอบดีกว่า รู้สึกมึนๆ แล้วเหมือนกัน อยากกลับไปนอนเตียงนุ่มๆ” วิเวียนพูดก่อนจะรื้อกระเป๋าสะพายหามือถือของตัวเอง

แต่พูดยังไม่ทันขาดคำพี่ชายของวิเวียนก็เดินเข้ามาหาพวกเธอในร้านแล้ว

“สวัสดีค่ะพี่จอห์น” ฝันหวานยกมือไหว้ ‘พี่จอห์น’ พี่ชายของเพื่อนอย่างมีมารยาท

“อ้าว...กำลังจะโทรหาพี่พอดีเลย”

“อืม...รีบกันกลับเถอะ พี่มีงานต้องไปเคลียร์ต่อ” จอห์นพยักหน้ารับไหว้จากฝันหวาน แล้วหันไปพูดกับวิเวียน

“โอเคๆ...ฉันลืมไปว่ากำลังขอร้องพี่ชายที่ทำตัวยุ่งที่สุดในโลกให้มารับ”

“ไม่ต้องบ่นเลย รีบไปขึ้นรถกันได้แล้ว”

“ค่าๆๆ เร่งอยู่นั่นแหละ”

จากนั้นทั้งสองสาวบอกลาเพื่อนๆ เล็กน้อยพอเป็นพิธี แล้วเดินตามเขาเพื่อไปขึ้นรถคันหรูที่จอดอยู่ตรงลานจอดรถหน้าร้าน

คืนนี้เป็นคืนที่ยาวนานแล้วก็แปลกใหม่มากๆ สำหรับฝันหวาน เพราะว่าเธอไม่คิดไม่ฝันว่าจะมีวันที่ตัวเองจะดื่มแอลกอฮอล์ แถมก่อนจะขึ้นรถก็มีผู้ชายหน้าตาดีที่เป็นเพื่อนในคณะวิ่งเอาของขวัญมาให้ แล้วสารภาพรักกับเธอด้วยใบหน้าแดงก่ำ

เธอเองก็ทำตัวไม่ถูก ถึงแม้ว่านี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่ถูกสารภาพรัก แต่เขาทำแบบนี้ต่อหน้าคนอื่นมันก็ดูน่าอายเกินไปหน่อย สุดท้ายเธอก็ได้แต่ปฏิเสธไปอย่างนุ่มนวล เพราะไม่เคยคิดอะไรเกินเลยกับเขาเกินคำว่าเพื่อนจริงๆ

10 : 36 น.

“ฝันหวาน ช่วยเอาแฟ้มรายงานนี่ไปให้พี่เลขาของท่านประธานหน่อยนะ พอท่านประธานเซ็นเสร็จแล้วก็เอากลับมาด้วย” เสียงของ ‘พี่น้ำขิง’ สาวแว่นหน้าตาสวยคมที่เป็น จป. หรือก็คือเจ้าหน้าที่ความปลอยภัยในการวิชาชีพ เอ่ยกับพนักงานหน้าใหม่ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยของเธอ ซึ่งก็คือ ‘ฝันหวาน’ สาวร่างอวบอิ่มผมสั้นที่มีใบหน้าน่ารักราวกับถอดแบบมาจากตุ๊กตานั่นเอง

“ตึก A ใช่ไหมคะพี่ขิง?” ฝันหวานเอ่ยถามให้แน่ใจอีกครั้ง จะได้ไม่เสียเวลากลัวว่าจะหลงไปผิดชั้นผิดอาคาร เนื่องจากเธอเพิ่งมาทำงานวันแรก

ตอนที่รุ่นพี่ในแผนกช่วยแนะนำเธอให้รู้จักกับพนักงานในบริษัทตำแหน่งต่างๆ ที่ต้องร่วมงานด้วย เธอก็หัวหมุนจะแย่อยู่แล้วเพราะมีหลายคนจนจำแทบไม่หมด

ไหนยังจะมาต้องจำตึกและชั้นที่แต่ละคนประจำอยู่อีก

“ใช่จ้ะ...พี่จอห์นที่เป็นเลขา ฝันหวานน่าจะจำได้ใช่ไหม เห็นบอกว่าเป็นพี่ของเพื่อนสนิทนี่?”

“อ๋อ...ใช่ค่ะๆ จำได้แล้ว ขอบคุณนะคะพี่น้ำขิง เดี๋ยวหนูเอาไปให้เดี๋ยวนี้เลยค่ะ” เธอฉีกยิ้มหวานเมื่อจำได้แล้วว่าเลขาท่านประธานบริษัทก็คือพี่จอห์น พี่ชายของยัยวิเวียนนั่นเอง

นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญอะไร เพราะเธอรู้มาก่อนอยู่แล้วจากวิเวียนว่าพี่ชายของเธอทำงานที่นี่ แต่ไม่คิดว่าเขาจะมีตำแหน่งเป็นถึงเลขานุการของท่านประธานบริษัท

สองเท้าเล็กที่อยู่ภายใต้คัดชูสีดำมันเงาเดินเข้าไปในลิฟต์ตึก A กอดแฟ้มที่ต้องนำไปให้ท่านประธานเซ็นอนุมัติ ในใจรู้สึกตื่นเต้นสุดๆ เพราะไม่รู้ว่าหน้าตาของท่านประธานจะหล่อเหลาเหมือนที่พี่ๆ ในแผนกซุบซิบกันหรือเปล่า

แต่เธอคงไม่โชคดีได้เจอท่านประธานหรอกมั้ง...

เขาเป็นถึงประธานบริษัทเชียวนะ...

ตึ๊ง!

เสียงลิฟต์เปิดออกเมื่อถึงชั้นที่เธอต้องไปส่งเอกสารให้พี่จอห์น

ร่างอวบอิ่มเย้ายวนในชุดทำงานสุดแสนเรียบร้อยของฝันหวาน เดินผ่านทางเดินไปยังห้องที่อยู่ริมสุด ระหว่างทางก็มีพนักงานจ้องตาแทบถลน เพราะไม่เคยเจอใครทั้งน่ารักแล้วก็เซ็กซี่ขนาดนี้มาก่อน

ซึ่งบางคนที่ได้ทำความรู้จักผ่านพี่น้ำขิง พอเห็นเธอก็ยิ้มทักทายพนักงานสาวคนใหม่อย่างเป็นกันเองเพราะ ฝันหวานเห็นแบบนั้นก็ผงกหัวยิ้มตอบกลับพวกเขาไป ทำเอาหัวใจชายหนุ่มน้อยใหญ่แถวนั้นแทบหยุดเต้น

“พี่น้ำขิงให้เอามาให้ท่านประธานเซ็นอนุมัติค่ะพี่จอห์น” ฝันหวานยิ้มแล้วยื่นแฟ้มเอกสารไปให้จอห์น เลขาหนุ่มที่นั่งทำงานในชุดสูทสีดำหน้าห้อง

“อ๋อ โอเคๆ รอแป๊บนะฝัน ท่านประธานตอนนี้ไป-...อ้าว นั่นท่านประธานมาพอดีเลย” เขากำลังจะบอกว่าท่านประธานไม่อยู่ แต่ร่างสูงกำยำในชุดสูทสีดำสวมเนกไทสีกรมเข้มหรูหราก็ก้าวเท้าเดินมาทางนี้พอดี

“สวัสดีค่ะท่านประธาน” ฝันหวานรีบค้อมหัวทำความเคารพท่านประธานที่เพิ่งเดินมาถึง ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองเขาเลยแม้แต่น้อย

เห็นแค่รองเท้าใจเธอก็เต้นจะแย่แล้ว...

“อืม...”

เสียงของ ‘แดเนียล’ รับคำสั้นๆ สายตาคมลอบมองร่างอวบอิ่มของเด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้มอย่างพิจารณา

ช่วงเวลาเพียงเสี้ยววินาทีนั้นเขากลับรู้สึกถูกชะตากับเธออย่างแปลกประหลาด ทั้งๆ ที่สาวใสหน้าตาน่ารักไม่ใช่สไตล์ผู้หญิงในอุดมคติเขาเลยสักนิด

ร่างสูงเดินผ่านเด็กสาวไป แล้วหยิบแฟ้มเอกสารกองหนึ่งที่เลขาส่วนตัวยื่นให้เข้าไปในห้องทำงานใหญ่ โดยแอบหันกลับมามองร่างอวบอิ่มที่ยังคงก้มหน้างุดก่อนจะยกยิ้มขึ้นเบาๆ

“ฮู่วววว...ท่านประธานของพี่ทำไมดูโหดจัง หนูไม่กล้าหายใจแรงๆ เลยอะ” ฝันหวานเงยหน้าขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงประตูปิดลงแล้ว

ขนาดเขาพูดแค่คำว่า ‘อืม’ เบาๆ เธอยังรู้สึกกลัวจนขาสั่นเพราะเสียงสุดแสนเย็นชานั่น

แม้ไม่ได้จ้องหน้าเขาตรงๆ แต่เธอก็แอบคิดในใจว่าท่านประธานจะต้องเป็นหนุ่มหล่อเยือกเย็น ที่เข้าหายากที่สุดในโลกแน่ๆ

“ก็คงอย่างนั้นล่ะมั้ง...ที่จริงท่านประธานไม่ได้โหดอะไรหรอก แค่ไม่ค่อยคุยกับผู้หญิงยกเว้นเวลาถึงเรื่องงาน...เมื่อกี๊พี่ยังแอบตกใจนิดๆ นะ ที่ท่านประธานพยักหน้าคุยด้วยกับฝันน่ะ”

ปกติมีพนักงานสาวในบริษัทมากมายเอ่ยทักทายเขาเช้าเย็น ก็ไม่เห็นจะคุยด้วยสักคำ ทำหน้านิ่งแล้วเดินผ่านแบบไม่สนใจราวกับเป็นธาตุอากาศเลยด้วยซ้ำ

“งั้นเหรอคะ...”

แปลกจังแฮะ...