คลั่งรักนางบำเรอ

74.0K · จบแล้ว
บุษบาบัณ/นศามณี
48
บท
20.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

‘ลัลนา’ มองใบหน้าของตัวเองผ่านกระจกเงาบานใหญ่หรูหราด้วยสายตาหม่นเศร้า คนที่อยู่ในกระจกเงาบานนั้นไม่เหมือนเธอเลยสักนิด เพราะเส้นผมยาวสลวยที่ปกติจะสยายตรง บัดนี้หยิกเป็นลอนเต็มแผ่นหลัง ที่ศีรษะมีคาดผมหูกระต่ายประดับคริสตัลสวมทับไว้เพื่อให้เป็นบันนี่เกิร์ล รวมทั้งชุดที่สวมใส่อยู่ตอนนี้ เธอก็ไม่อยากใส่มันสักนิด หากแต่ว่าเธอไม่มีทางเลือก “ทำไมต้องใส่ชุดแบบนี้ด้วย” ‘ถ้าเลือกได้คงไม่ยอมใส่มัน’ ลัลนาลอบสะอื้นในอก

นิยายรักโรแมนติกนิยายปัจจุบันประธานคนรับใช้นักวรยุทธดาราแต่งงานสายฟ้าแลบนอกใจหนีแต่งงานรักแรกพบมาเฟียพระเอกเก่งจีบเมียเก่า

บทที่ 1-1 คนนี้เวอร์จิ้น...ของไอ้วิน

‘ลัลนา’ มองใบหน้าของตัวเองผ่านกระจกเงาบานใหญ่หรูหราด้วยสายตาหม่นเศร้า คนที่อยู่ในกระจกเงาบานนั้นไม่เหมือนเธอเลยสักนิด เพราะเส้นผมยาวสลวยที่ปกติจะสยายตรง บัดนี้หยิกเป็นลอนเต็มแผ่นหลัง ที่ศีรษะมีคาดผมหูกระต่ายประดับคริสตัลสวมทับไว้เพื่อให้เป็นบันนี่เกิร์ล รวมทั้งชุดที่สวมใส่อยู่ตอนนี้ เธอก็ไม่อยากใส่มันสักนิด หากแต่ว่าเธอไม่มีทางเลือก

“ทำไมต้องใส่ชุดแบบนี้ด้วย”

‘ถ้าเลือกได้คงไม่ยอมใส่มัน’ ลัลนาลอบสะอื้นในอก

ชุดคอสเพลย์บันนี่เกิร์ลที่ได้มาจากผู้จัดการคลับที่ชื่อคุณแจนแทบจะเรียกว่าเป็นบิกินีเลยก็ว่าได้ ลัลนาคือของขวัญมีชีวิต เป็นกระต่ายน้อยดิ้นได้ที่เขาจ้างมาให้ความสำราญ แม้จะต้องใส่ชุดวาบหวิว แต่หญิงสาวก็หาวิธีปกปิดเนื้อตัว โดยตัวเสื้อนั้น เธอเอาผ้าคลุมไหล่มาผูกกันไว้เป็นโบปกปิดเนินอกอวบอิ่ม ส่วนตรงกระโปรงก็เลือกที่จะใส่ถุงน่องแบบมีสายรัดสีดำอำพรางทำให้ไม่ดูเย้ายวนเกินไป

ในดวงตาคู่สวยที่ถูกแต่งแต้มอายชาโดว์อย่างดี ตอนนี้ร้อนผ่าว ปริ่มด้วยน้ำตา แต่ว่าลัลนาผลักมันให้ไหลกลับลงไป เธอจะอ่อนแอไม่ได้ เพราะชีวิตของมารดาที่รอการผ่าตัดในอีกห้าวันข้างหน้าขึ้นอยู่กับงานวันนี้

ลัลนา สาวน้อยวัยยี่สิบปี กำพร้าบิดา อยู่กับแม่แค่สองคนที่บ้านเช่าหลังเล็กในย่านปทุมธานี เธอต้องทำงานพิเศษเพื่อส่งตัวเองเรียนตั้งแต่มัธยมจนถึงมหาวิทยาลัย ส่วนมารดานั้นทำงานเป็นหัวหน้าแม่บ้าน ชีวิตของเธอกับมารดาสมถะเรียบง่ายเหมือนคนทั่วไปก็จริงอยู่ หากแต่ว่าโชคร้ายที่เมื่อเดือนก่อน มารดาตรวจพบว่ามีเส้นเลือดตีบในสมอง และต้องผ่าตัดอย่างเร่งด่วน

ที่ทำงานที่มารดาเธอทำนั้นเป็นรูปแบบเจ้าของคนเดียว อาซ้อเจ้าของกิจการไม่ได้ทำประกันสังคมไว้ให้ ลัลนาจึงไม่สามารถใช้สิทธิ์ขั้นพื้นฐานทั่วไปในการรักษามารดาได้ หนทางรักษามีทางเดียวคือใช้บัตรทอง แต่ว่าต้องรอคิว ซึ่งคิวก่อนหน้าก็เร่งด่วนทุกเคส ทุกชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้ายไม่ต่างกัน แต่ถ้าไม่อยากรอคิวก็ต้องสำรองจ่ายเอง

ในตอนนั้น ลัลนาไม่มีทางเลือก เธอไม่มีเงินจำนวนห้าแสนบาทไปจ่ายให้ทางโรงพยาบาล น้าญาดาเพื่อนของมารดาที่มาเยี่ยมที่โรงพยาบาลบอกว่า คลับที่นางทำงานเป็นแม่บ้านอยู่กำลังรับสมัครพนักงานสาวสวย และยังย้ำอีกว่ารายได้ดี ได้เงินก้อนใหญ่แบบที่ว่าหาไม่ได้ง่ายๆ จากการทำงานเป็นลูกจ้างกินเงินเดือน

“แป้งสนใจไหม ทำงานสบายได้เงินใช้เดือนละห้าหมื่น หกหมื่น สวยๆ แบบแป้งทำได้สบายมาก บางทีถ้าเอาใจดีๆ ได้เดือนละเป็นแสนก็ทำได้”

“แป้งไม่ทำ”

ลัลนาจำได้ว่าตอนนั้นเธอตอบกลับทันที ดวงตาคู่สวยที่หม่น

หมองลงตั้งแต่มารดาป่วยมองไปยังคนพูดด้วยสายตาผิดหวัง

ญาดาทำงานในคลับหรูแห่งหนึ่ง และความหมายที่บอกมาทั้งหมดก็คือให้ขายตัวนั่นเอง ลัลนากัดปากแน่น เธอไม่ได้รังเกียจอาชีพของน้าญาดา แต่ไม่ปรารถนาจะตามรอย หญิงสาวมองญาดาซึ่งเป็นเพื่อนสนิทมารดาด้วยสายตาท้อแท้ ผิดหวัง เสียใจปะปนกันหมด

“ขอบคุณน้าญามากนะคะที่หวังดี แต่แป้งไม่ทำ”

ญาดาถอนใจ เข้าใจดีที่อีกฝ่ายมีปฏิกิริยาต่อต้านแบบนี้เพราะ

ลัลนาเป็นเด็กดี เรียบร้อย อ่อนหวาน ผู้เป็นแม่สอนลูกได้ดีมาก ตั้งแต่นางเห็นลัลนามาสิบกว่าปีก็ไม่เคยทำตัวนอกลู่นอกทาง จึงไม่มีทางทำงานแบบนั้นได้แน่ แต่เมื่อไม่มีทางเลือก นางจึงเสนอทางเลือกนี้ให้ เพราะไม่รู้จะช่วยเหลืออย่างไร

“น้ารู้ว่าแป้งเป็นเด็กดี ไม่อยากทำงานนี้ แต่น้าไม่เห็นทางเลือกอื่นที่จะได้เงินเยอะๆ ถ้าแป้งหาเงินมารักษาแม่ได้ น้าก็ไม่คิดจะให้แป้งมาทำงานนี้แน่”

ญาดาบอกพร้อมถอนใจ นางทำงานในคลับจึงรู้ดีว่าอาชีพที่บอกกับหญิงสาวคราวลูกไปนั้นไม่ใช่อาชีพที่ยอมรับในสังคม ซ้ำยังเป็นที่ดูหมิ่นดูแคลน ไม่ใช่สิ่งที่ควรจะไปชักชวนใครให้ไปทำ โดยเฉพาะเด็กดีอย่างลัลนา

“แป้งเข้าใจแล้วค่ะ”

ลัลนาขบริมฝีปากแน่น มองหน้าญาดาอีกครั้งอย่างเข้าใจในความหวังดีที่ เธอเองก็ไม่มีปัญญาหาเงินมารักษามารดาได้อย่างที่ญาดาพูด เป็นแค่นักศึกษาปีสี่ในมหาวิทยาลัยเปิด ไม่ได้มีเงินเดือนมากมาย ไม่ได้มีต้นทุนชีวิตสูงนัก แต่เธอก็ไม่เคยย่อท้อ ยังดิ้นรนหาโอกาสให้ตัวเองเสมอ รวมทั้งเรื่องเรียนที่ไม่เคยทิ้ง

หญิงสาวไม่ต้องไปเรียนทุกวัน แค่อ่านหนังสือแล้วไปสอบ จึงเลือกที่จะเรียนที่มหาวิทยาลัยนี้ เพราะอย่างไรก็จบปริญญาตรีเหมือนกัน ซ้ำยังมีเวลาเหลือไปทำงานเป็นพนักงานในบริษัทรับทำบัญชีได้ ถึงแม้เงินเดือนที่ได้รับเพียงแค่หมื่นสองพันบาท ทว่าด้วยความประหยัดก็ทำให้พอเป็นค่าเช่าบ้าน ค่ากิน ค่าเทอมได้

“คุณลัลนาคะ” เสียงของพยาบาลเปิดประตูเข้ามาดึงความสนใจของลัลนาให้หันไปมอง

“คุณพยาบาลมีอะไรเหรอคะ”

“ทางโรงพยาบาลต้องการให้วางมัดจำก่อนการผ่าตัดครึ่งหนึ่งค่ะ แต่ถ้าคุณลัลนาไม่มี เราต้องทำการส่งคนไข้ไปยังโรงพยาบาลอื่น คุณลัลนาพร้อมจะชำระเงินก่อนไหมคะ”

ลัลนาหน้าซีดขาว มองมารดาที่นอนหลับบนเตียงแล้วบีบมือบอบบางไว้แน่น

“ถ้าไม่มีเงินชำระล่วงหน้า เราคงต้องขอทำการส่งคนไข้ไปยังโรงพยาบาลอื่นนะคะ” พยาบาลยังย้ำคำเดิม เพิ่มเติมคือบีบคั้นหัวใจคนฟัง

“ไม่นะคะ อย่าเพิ่งย้าย ฉันจะหาเงินมาจ่ายให้ได้เร็วที่สุดค่ะ”

ลัลนาตอบพยาบาลแล้วหันไปทางญาดาด้วยสายตาจำนนต่อโชคชะตา จะปล่อยให้มารดาจากไปทั้งที่เธอไม่ทำอะไรเลยไม่ได้

น้ำตาร้อนๆ หยดลงมาจากเบ้าตาทั้งสอง ลัลนามองมารดาที่หลับสนิทด้วยความรักความเป็นห่วง เธอเหลือมารดาแค่เพียงคนเดียวในชีวิตนี้ เธอจะต้องทำทุกทางให้มารดาได้รับการผ่าตัด

“น้าญา แป้งจะไปทำงานที่คลับ น้าญาติดต่อให้แป้งด้วยนะคะ” นั่นคือประโยคที่บอกกับญาดาในท้ายที่สุด

ลัลนาดึงตัวเองกลับมาสู่ปัจจุบัน สูดลมหายใจเข้าปอดเพื่อเรียกสติ แล้วเดินออกจากห้องแต่งตัวไปคว้าถาดเงินในห้องครัวที่ในนั้นวางแก้วเหล้าไว้สามแก้ว ดวงตาคู่สวยมองอย่างแน่วแน่แล้วยกขึ้นมาแนบอก มือบางประคองออกไปอย่างระมัดระวัง

ในบ้านหลังนี้เป็นบ้านชั้นเดียว มีห้องน้ำใหญ่ที่เธอใช้แต่งตัวเมื่อครู่ และพอเดินออกมาก็มีห้องครัว มีบาร์เครื่องดื่ม ลัลนาไม่สนใจสิ่งต่างๆ รอบตัว เธออยากจะรีบทำงานนี้ให้จบ เท้าเรียวยาวจึงรีบเดินให้เร็วขึ้น