บทที่ 1 หนุ่มเสพเสียว
เสียงเคาะแป้นพิมพ์ดังขึ้นในเวลากลางดึก เจ้าของนิ้วมือหนานั้น กำลังตั้งใจทำงานตรงหน้าเป็นอย่างมาก
สักพักเสียงเคาะแป้นพิมพ์ก็หายไป พร้อมกับแววตาที่ดูเคร่งเครียดของเจได หรือนักเขียนนามปากกา ‘หนุ่มเสพเสียว’ ที่ยังไม่พอใจกับงานของตัวเอง
“เขาเลื่อนมือไปกระตุกผ้าขนหนูสีขาวออกจากร่างงาม ก่อนจะใช้นิ้วมือสะกิดยอดปทุมถันของเธอ...ยอดปทุมถัน คำนี้ใช้เกร่อแล้ว ให้ตายสิ ทำไมเดี๋ยวนี้นักเขียนรุ่นใหม่ถึงได้ผุดมาเยอะขนาดนี้วะ” เขาอ่านงานที่ตัวเองพิมพ์ ก่อนที่จะเริ่มหัวเสียกับยอดขายรูปเล่มของตัวเองที่ถูกตลาดออนไลน์มาแย่งส่วนแบ่งไป
เขาคิดพล็อตเรื่องแปลกใหม่ไม่ออกเลย เพราะเมื่อนักเขียนรุ่นใหม่เกิดขึ้น บางพล็อตก็ดันไปซ้ำกันโดยไม่ได้ตั้งใจ บางพล็อตตั้งใจลอก แล้วเอางานคนอื่นๆ มายำใส่งานตัวเองก็เยอะ แล้วนิตยสารแนวปลุกใจเสือป่าที่เขาทำงานให้อยู่ ก็เริ่มกดดันให้เขารีบส่งงาน เพราะว่าเจไดคือนักเขียนหลักที่ช่วยให้นิตยสารขายดี
“ให้ตายสิ กดดันแบบนี้ ใครจะคิดพล็อตออกวะ” เขาบ่นออกมาอย่างหงุดหงิด
ชายหนุ่มวัยสามสิบห้าปีลุกเดินไปเดินมารอบๆ ห้องนอนของเขา แล้วจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูคลิปโป๊สัญชาติญี่ปุ่นเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ แต่ว่ากลับไปเจอคลิปไลฟ์สดที่เล่าประสบการณ์ผีจากทางบ้านก่อน ทำให้เขาปิ๊งไอเดียขึ้นมา
“จริงสิ ถ้าเราเปิดกลุ่มลับเพื่อหาสมาชิกมาเล่าเรื่องเสียว แล้วขอเอางานนั้นมาถ่ายทอดอีกที คราวนี้ล่ะ เรื่องราวไม่ซ้ำกับใครแน่ๆ” เขาพูดออกมาแล้วยิ้มกว้างอย่างพอใจกับทางออกของตนเอง
**********************
เจไดใช้คอนเนกชั่นที่มีสร้างกลุ่มลับขึ้นมาได้สำเร็จ ในตอนนี้มีสมาชิกในกลุ่มอยู่จำนวนสามสิบคน ซึ่งสำหรับเขาแล้ว ก็ถือว่าเริ่มต้นได้ดีในระดับหนึ่ง
ตอนนี้เขาขับรถไปรับหญิงสาวคนหนึ่งมาที่บ้านของเขา ที่จัดห้องเอาไว้เพื่อทำการไลฟ์สด ซึ่งเป็นการไลฟ์แค่เสียง โดยที่ปิดหน้าของเขาและหญิงสาวเอาไว้
“พามาบ้านแบบนี้ ไม่ใช่เอาหนูมารุมนะพี่”
“ไม่ๆ พี่จะพามาพูดเรียกแขกเท่านั้นเอง” เจไดปลอบหญิงสาว เมื่อเธอเริ่มเป็นกังวล เมื่อรู้ว่าเขาพามาที่บ้านของเขาแบบนี้
“พี่จ่ายหนูเท่าเดิมนะ” เธอถามอย่างกังวลใจ กลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่จ่ายถ้าไม่ได้มีความสัมพันธ์กัน
“ครับ จ่ายเต็มแน่ แถมไปส่งถึงที่ด้วย พี่ไม่เบี้ยวหรอก” เขาบอกเมื่อกลัวว่านางกลางคืนที่เป็นตัวเรียกแขกในการเปิดตัวไลฟ์สดในคืนนี้ จะเปลี่ยนใจกลับไปก่อน
พอถึงห้อง เขาก็เริ่มทำการไลฟ์สดในกลุ่มลับที่สร้างขึ้น ตามเวลาที่เคยแจ้งล่วงหน้าไปแล้วก่อนหน้านี้ รู้สึกใจแป้วมาก เพราะตอนนี้มีคนเข้ามาฟังแค่ไม่กี่คนเท่านั้น
“สวัสดีครับ ขอต้อนรับเข้าสู่รายการ ‘คลับร้อนรัก’ นี่เป็นการไลฟ์สดครั้งแรกของผม หนุ่มเสพเสียว พร้อมกับวิทยากรสาวที่จะมาเป็นกูรูในการถามตอบคำถามเรื่องเซ็กส์” เจไดพูดพลางยื่นไมค์ให้หญิงสาวทักทายคนฟัง
“สวัสดีค่ะ เอมมี่นะคะ ไซด์ไลน์สุดแซ่บ โยกดี ลีลาเด็ดค่ะ” เธอแนะนำตัวด้วยเสียงที่เร่าร้อนชวนให้เจไดนั้นอยากนอกรอบกับเธอเหลือเกิน แต่ว่าเพื่อแสดงถึงความเป็นมืออาชีพ เขาต้องควบคุมตัวเองเอาไว้
“เอาล่ะครับ คลับร้อนรักของเราจะเปิดให้ผู้ฟังโทรเข้ามาเพื่อเล่าประสบการณ์เสียวของตัวเอง แล้วเรื่องที่ท่านเล่า มีโอกาสที่ผมจะนำเรื่องราวของคุณไปลงนิตยสาร ‘รักกลางเมือง’ ที่เป็นนิตยสารแนวปลุกใจเสือป่าที่มีมายาวนานกว่ายี่สิบปี” เจไดพูดเพื่อดึงดูดให้คนที่ฟังอยู่สนใจ
“ใครมีเพื่อหรือคนรู้จักที่มีประสบการณ์เหล่านี้ ดึงเข้ากลุ่มลับของเราได้นะครับ แต่ต้องอายุบรรลุนิติภาวะแล้วนะครับ ใครอยากเล่าเป็นคนแรก โทรมาหลังไมค์ได้เลยครับ ที่เบอร์ 084-XXX-XXXX” เขาพูดเชิญชวนให้มีการเพิ่มสมาชิก และให้มีคนโทรเข้ามาในรายการไลฟ์สดของเขา
“โทรมาได้นะคะ หรืออยากสอบถามอะไรเอมมี่ ก็จะตอบให้หายสงสัยเลยค่ะ” หญิงสาวที่เจไดพามาก็ช่วยเขาพูด เมื่อเห็นว่าเขาพาเธอมาพูดเป็นวิทยากรจริงๆ ไม่ได้หลอกลวงเธอ
“เราจะทำการแปลงเสียงนะครับ ดังนั้นไม่ต้องห่วงว่าจะมีคนรู้ว่าคุณเป็นใคร” เขาบอกเพื่อให้คนที่จะโทรเข้ามาสบายใจ
เจไดเงียบ ลุ้นว่าจะมีคนสนใจโทรเข้ามาเล่าหรือเปล่า แต่รออยู่นานก็ยังไม่มีคนโทรเข้ามา
“ครั้งแรกท่านผู้ฟังอาจไม่เข้าใจกติกาของเรา เอาเป็นว่าครั้งนี้น้องเอมมี่พอจะเปิดประสบการณ์เสียวของตัวเองให้ฟังสักเรื่องได้หรือเปล่าครับ” เจไดหันไปถามเธอ
“ประสบการณ์ของเอมมี่เหรอคะ ตายแล้ว มีเป็นร้อย เอมมี่เลือกไม่ถูกเลย” เธอทำเสียงยั่วยวน
“เอาเรื่องเบาที่สุดก็แล้วกันครับ อย่าพึ่งเน้นหนักมาก เพราะรายการของเรา เน้นเล่าประสบการณ์เสียว ไม่ใช่เซ็กส์โฟน” เจไดพูดเบรกเธอเอาไว้ก่อนเหมือนเล่นมุกทีเล่นทีจริง
“แหม พี่หนุ่มพูดดักทางเอมมี่แบบนี้ งั้นเอมมี่ขอเล่าตอนที่ตัวเองมาทำงานนี้ครั้งแรกดีกว่านะคะ” หญิงสาวกล่าวเสียงใส แล้วเริ่มเล่าเรื่องออกมา
**********************
หญิงสาววัยยี่สิบสองปีเดินถือเอกสารใบสมัครงานออกมาจากบริษัทแห่งหนึ่งด้วยใบหน้าที่ดูผิดหวัง เนื่องจากเธอสมัครงานไปกี่ที่ก็ถูกปฏิเสธเพียงเพราะเกรดเฉลี่ยของเธอไม่ถึง 3.00
‘คนเรามันวัดความสามารถที่เกรดเฉลี่ยเหรอเนี่ย งั้นคนที่ได้ต่ำกว่าสามก็ตกงานกันหมดสิ’ เอมบ่นในใจถึงความไม่ยุติธรรมของระบบการรับสมัครงาน
เอมเดินไปเรื่อยๆ จนถึงร้านอาหารแห่งหนึ่ง จึงแวะเข้าไปนั่งทานอาหารเพื่อให้หายเครียด ที่นั่นเธอได้เจอกับเจน เพื่อนสมัยเรียนมัธยมปลายที่ไม่ได้เรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยเพราะฐานะทางบ้านยากจน
“ไง เอม” เจนเดินมาทักเธอก่อน แล้วถือวิสาสะนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม
“สบายดี ไปทำอะไรมาสวยขึ้นเยอะเลย” เอมถามเพื่อนเก่าด้วยแววตาที่ชื่นชมจากใจจริง
“พอดีได้ต้องแต่งตัวตามงานที่ทำ เลยต้องสวยไว้ก่อน” เจนตอบแล้วยิ้มเหมือนว่าพอใจกับคำชมนั้น
“ฉันยังหางานไม่ได้เลย เธอพอแนะนำงานให้ฉันบ้างได้ไหม” เอมถามเผื่ออีกฝ่ายมีทางออกให้
“แต่งานที่ฉันทำ มันคงไม่เหมาะกับเธอ”
“เธอทำงานอะไร” เอมถามอย่างสงสัย
“ฉันเป็นไซด์ไลน์ แต่ก่อนทำอีกแบบมีแม่เล้าคุม ตอนนี้รับงานแบบอิสระ รายได้ก็ดีนะ หลายหมื่นต่อเดือนเลยล่ะ” เจนบอกอย่างไม่อาย เพราะเธอเคยอยู่จุดต่ำสุดของชีวิต และไม่คิดจะกลับไปอีกแล้ว
“งั้นฉันขอคิดดูก่อนนะ” เอมบอกตามจริง
เธอลังเลว่างานนี้เธอจะทำมันดีหรือเปล่า เพราะตอนนี้นอกจากจะไม่อยากกลับไปในบ้านที่มีพ่อเลี้ยงคอยจ้องจะฟัน แล้วยังต้องออกมาหางานทำเองและใช้หนี้ที่กู้ยืมมาเรียนที่ต้องเริ่มจ่ายในอีกสองเดือนข้างหน้า เพราะเรียนจบแล้ว
“อย่าคิดนานนะ วงการนี้ไม่ใช่ว่าอยากขายก็ขายได้ง่ายๆ” เจนกระซิบบอกแล้วยกมือสั่งอาหาร
“มื้อนี้ฉันเลี้ยงเอง” เจนบอกแล้วควักแบงก์พันออกจากปึกใหญ่มาอวดเอม ทำให้เธอตาลุกวาว และอยากได้เงินด้วยวิธีนี้บ้าง
“ฉันต้องทำอะไรบ้าง” เอมถามอย่างสนใจเพราะเงินที่เจนเอาขึ้นมาโชว์
“เธอเคยนอนกับใครมาหรือยัง ถ้ายังครั้งแรกฉันต้องหาคนมาซื้อพรหมจรรย์เธอ ราคาดีเชียวแหละ”
“ฉันนอนกับแฟนไปแล้ว แต่เลิกกันได้หลายเดือนแล้วล่ะ” เอมตอบตามตรง
“งั้นฉันต้องหาลูกค้าอีกฐาน ที่ชอบนอนกับเด็กหน้าใหม่ แรกๆ ฉันขอส่วนแบ่งยี่สิบเปอร์เซ็นต์แล้วกัน ถ้าเธอรับงานเองได้เมื่อไหร่ ค่อยออกไปรับงานเอง” เจนบอกแล้วยิ้มร่า
“ตกลง” เอมบอกแล้วใจเต้นแรง ในช่วงนี้คงต้องพึงเจนให้หาลูกค้าให้ก่อนและยอมจ่ายเปอร์เซ็นต์นั้นให้เธอไป
**********************
